สวัสดีครับ ขอเริ่มที่ผมกับแฟนอายุห่างกัน7ปีครับ(แฟนอายุมากกว่า) ผมอายุ 31 แฟนอายุ 38 คบกันมาได้2ปีกว่าๆ ระหว่างสองปีที่ผ่านมาทุกอย่างดีหมดครับ ทะเลาะกันแค่สองครั้ง
ผมทำอาชีพ ทนายความอิสระครับ
แฟนเป็นแอร์โฮสเตส (แต่หยุดงานมา 2-3ปี เนื่องจากสถานะการโควิท)
(ข้อดีและข้อเสียระหว่างคบกัน)
ข้อดีครับ แฟนเข้ากับที่บ้านผมได้ทุกคนทั้งพ่อแม่ญาติพี่น้อง ถึงขนาดแม่จะไปขอให้เลย คบกันไม่เคยมีคำหยาบสักคำไม่เคยมีเรื่องมือที่สาม
ข้อเสียคือ ทางบ้านเค้าไม่ชอบผมถึงขนาดเกรียดเลยในระหว่าง2ปี แฟนจะเป็นฝ่ายมาหาผมตลอด เนื่องจากผมไม่สามารถไปหาเค้าได้ และก็ไม่สามารถค้างคืนหรือกลับช้าได้
ในระหว่างสองปีที่แฟนผมพักงานผมค่อยหางานและชวนทำงานเสริม และฝากให้แฟนเข้าทำงานกับบริษัทคนรู้จัก เนื่องจากแฟนมีภาระหนี้สินในครอบครัว 500,000 บาท ผมเลยพยายามช่วยทุกอย่างที่พอจะทำได้ ค่ากิน ค่าของใช้ ค่าใช้จ่ายต่างๆเวลาที่แฟนมาอยู่กับผม และแม่แฟนพี่สาวแฟนก็เคยมายืมเงิน (แต่ผมให้แต่ในส่วนที่แม่เค้ายืม) ทางบ้านผมค่อยให้ความช่วยเหลือมาตลอดในระยะเวลา2ปี ไม่ว่าเรื่องอะไรส่วนตัวผมเป็นทนายอิสระ รายได้ก็ประมาน3-5หมื่นแล้วแต่เดือน
พูดมาถึงตรงนี้แล้วทุกคนคงจะสงสัยว่าทำไมทางบ้านแฟนถึงเกรียดผม จะขออธิบายเป็นลำดับนะครับ
-แม่แฟนเป็นคนไม่เอาใครไม่ต้องการให้ใครเข้ามาวุ่นวายกับครอบครัวเค้า (ไม่มีเพื่อนเลย) และมัดจะด่าและดูถูกผมเสมอ
-พี่สาวแฟน ไม่มีแฟนเป็นคนที่จะคอยบงการแฟนในทุกๆเรื่อง เฟสบุ๊คแฟนและของผมก็ไม่สามารถโพสหรือแชร์อะไรหน้าเฟสได้อิสระ แฟนจะไปไหนมาไหนกับผมก็มีประเด็นเสมอเวลากลับบ้านเวลานอน และพี่สาวแฟนก็มักจะด่าและดูถูกผมเสมอ
-แฟนมีแฟนมาแล้ว 4-5คน ไม่มีใครสามารถคบแล้วไปรอดสักคนเนื่องจากทางบ้านแฟนก็ไม่เอาใครเลย ทั้งคนจนและคนรวย ถึงขนาดมีแฟนคนนึงทนไม่ไหว ด่าคำหยาบคายกับแม่แฟนออกไปทำนองว่า แม่กับพี่สาวเป็น......อะไรแม่อยากได้ผัวรวยๆขนาดนั้นเลยหรอ บลาๆๆ ซึ่งโดยปกตืแม่กับพี่สาวแฟนจะไม่ชอบขี้หน้าคนไปทั่วครับ แฟนผมจะขอโทษผมเสมอ กับสิ่งต่างๆที่แม่กับพี่สาวทำกับผม แต่แฟนผมไม่สามารถขัดใจหรือขัดคำสั่งได้ เพราะเมื่อขัดจะมีแต่คำด่าหยาบๆแล้วก็การตัดแม่ตัดลูก
จบการแนะนำตัวละคร คราวๆครับ555 เข้าประเด็นหลักเลย
เมื่อถึงเวลาที่แฟนผมต้องไปทำงานที่อเมริกา ในวันที่จะขึ้นเครื่องผมก็อยากจะไปส่งแฟนเป็นครั้งสุดท้าย แต่มันทำให้ผมได้เจอความจริงหลายๆอย่าง ตอนแรกแฟนผมก็อีดออดไม่ให้ผมไปส่ง จนผมเซ้าซี้จะไปให้ได้แฟนจึงบอกว่าแม่ไม่ชอบผม แต่ผมก็ยังรั้นที่จะไป เพื่อหวังว่าจะเครียร์ใจว่าท่านไม่ชอบอะไรผม และหวังว่าจะดูแลแม่แฟนระหว่างที่แฟนไม่อยู่เมืองไทย สุดท้ายก็ไปหาแฟนที่บ้าน แต่แม่แฟนก็ไม่ให้เข้าบ้านครับ ก็เลยได้เจอกันข้างนอกแค่ชั่วโมงเศษๆ แล้วก่อนกลับด้วยอาการของผมเองที่หวงแฟน จึงให้ขึ้นสถานะในเฟสว่าคบกับผมและให้ขึ้นรูปคู่เป็นโปรไฟล์ เท่านั้นแหละหายนะมาเยือน พี่สาวมาคอมเม้นด่าเป็นชุดๆ บลาๆ กลัวว่าผมกับแฟนจะพากันหนี แฟนผมมีอาการหวาดกลัวตัวสั้นต้องรีบกลับเข้าบ้านอย่างเห็นได้ชัด พอผมกลับบ้านแฟนก็ส่งแชทที่แม่กับพี่สาวพิมพ์มาด่าแฟนให้ผมดูผมจึงได้รู้ความจริงว่าพวกเค้าเกรียดผมขนาดไหน คำด่าเป็นทำนองเหยียดหยาม ว่าถ้าคบคนที่ศีลเสมอกับไม่ได้ก็ไม่ควรใฝ่ต่ำ ไปบอกมันทำไมว่าจะไปอเมริกา ไม่ต้องไปสงสารมัน และคำด่าต่างๆนาๆ ทั้งที่ฐานนะที่ผม ผมดีกว่าเค้าและให้ความช่วยเหลือและความปรารถนาดีเสมอมา ครอบครัวผมเปิดบริษัทส่วนตัวบัญชีและกฎหมาย พ่อเป็นผู้สอบบัญชี แม่เป็นนักบัญชี ผมเป็นทนายความ มีบ้านสองหลังมีที่ดินเปล่า ส่วนตัวผมเริ่มเปิดบริษัทส่วนตัวกำลังวิ่งหาลูกค้า ที่ผมอธิบายฐานะครอบครัวไม่ได้มีเจตนาที่จะอวดเพียงแค่ให้ทุกคนเข้าใจว่าผมไม่ใช่คนที่ไม่มีหน้าที่การงานหรือเป็นคนที่ไม่เอาการเอางาน ไม่ใช่แค่ผม แฟนผมก็โดนด่าว่าติด.....มันหรอไอ้ลูก.....และให่เลือกว่าจะเลิกกับผมหรือว่าจะตัดแม่ตัดลูกกันแต่แฟนผมไม่เลือกใช่การเงียบเอาอย่างเดียว แฟนผมโดนด่าตั้งแต่บ่ายสามยัน5 ทุ่มก่อนขึ้นเครื่อง
หลังจากแฟนผมไปอยู่ที่อเมริการผมกับแฟนก็เปิดใจคุยกันว่าจะทำยังไงกันต่อไปในเรื่องระหว่างเรา โดยแฟนติดสัญญาทำงานที่อเมริกา2 ปีครับ ลืมบอก แต่ประเด็นคือคำตอบที่ผมได้คือทำให้ผมกลืนไม่เข้าคายไม่ออก โดนแฟนผมให้เหตุผลดังนี้ครับ
1.ขั้นต่ำคือสองปี แต่ถ้าไปได้ดีก็จะอยู่ต่อยาวๆ(อันนี้ผมเข้าใจความจำเป็นครับครอบครัวเค้ามีหนีสินแต่มันไม่ควรที่จะไม่มีกำหนดระยะเวลาแบบนี้)
2.ถ้ารอไม่ได้เค้าก็ไม่ว่าอะไร (อันนี้เหมือนดีแต่ก็เจ็บจี๊ดๆ)
3.โดนแฟนจะจัดลำดับความสำคัญดังนี้ครับ ครอบครัว งาน คนรัก ซึ่งในจุดนี้เข้าใจได้ครับแต่มันจุกจริงๆที่เราอยู่ในตัวเลือกสุดท้าย
4.ผมถามว่าถ้ากลับมาแล้วแม่ยังไม่ให้คบหรือแต่งงานกันจะทำยังไง แฟนก็ตอบว่าแล้วจะให้ทิ้งแม่แล้วเลือกแฟนหรอ สุดท้ายก็ตอบแบบไม่ชัดเจนขอไปที ผมเข้าใจนะว่าครอบครัวต้องมาก่อน แต่ปกติก็ควรแยกแยะผิดถุกหรือเปล่าครับเรื่องความรัก กว่าแฟนผมจะกลับมาก็ อายุ41-42 แล้ว มันก็ควรตัดสินใจด้วยตัวเองได้ ผมบอกเราก็แยกออกไปอยู่ข้างนอกไม แล้วก็เข้าไปเยี่ยมท่านเป็นระยะๆ อยากให้เดินสายกลางแต่แฟนผมก็ไม่ให้คำตอบเรื่องนี้ ผมกับแฟนคบกันก็ชวนทำกันแต่สิ่งดี ชวนกันทำมาหากิน เที่ยวกลางคืนกันยังไม่เคยเลยครับ
เรื่องจริงๆมียาวกว่านี้ครับ แต่ผมคงเล่าให้ละเอียดได้ยาก
สรุปคือ
1.ครอบครัวเค้าไม่โอเคกับผมโดนไม่มีสาเหตุหรืออีกอย่างที่ผมคิดได้คือต้องการให้ลูกสาวได้กับคนรวยๆ
2.แฟนผมไม่มีความคิดเป็นของตัวเองไม่สามารถตัดสินใจเรื่องส่วนตัวต่างๆได้ และก็ไม่ได้แคร์ว่าผมจะอยู่หรือจะไป(เปลี้ยนไปตั้งแต่เกิดปัญหาโดนด่าหนักๆ)
3.แฟนและครอบครัวเค้าไม่ได้เห็นค่ากับสิ่งที่ครอบครัวและผมทำหรือยิบยื่นให้ มองว่าเป็นเรื่องปกติ (เราไม่เคยไปทวงบุญคุณนะครับแค่ตกใจที่พวกเค้าทำไมคิดกับแบบนี้)
ผมเลยอยากจะขอความเห็นจากพี่ๆน้องๆทุกท่านแนะนำว่าผมควรจะรอต่อไปหรือไม่ ถ้าการรอเป็นการรอที่ไม่มีกำหนดเวลา และก็ไม่รุ้กลับมาแม่เค้าจะใจอ่อนให้เราหรือเปล่า แฟนคนนี้เป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมมีความคิดอยากจะแต่งงานด้วย รบกวนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
ควรจะรอต่อไปหรือว่าควรหยุดดีครับแฟนไปทำงานต่างประเทศขั้นต่ำ 2 ปี
ผมทำอาชีพ ทนายความอิสระครับ
แฟนเป็นแอร์โฮสเตส (แต่หยุดงานมา 2-3ปี เนื่องจากสถานะการโควิท)
(ข้อดีและข้อเสียระหว่างคบกัน)
ข้อดีครับ แฟนเข้ากับที่บ้านผมได้ทุกคนทั้งพ่อแม่ญาติพี่น้อง ถึงขนาดแม่จะไปขอให้เลย คบกันไม่เคยมีคำหยาบสักคำไม่เคยมีเรื่องมือที่สาม
ข้อเสียคือ ทางบ้านเค้าไม่ชอบผมถึงขนาดเกรียดเลยในระหว่าง2ปี แฟนจะเป็นฝ่ายมาหาผมตลอด เนื่องจากผมไม่สามารถไปหาเค้าได้ และก็ไม่สามารถค้างคืนหรือกลับช้าได้
ในระหว่างสองปีที่แฟนผมพักงานผมค่อยหางานและชวนทำงานเสริม และฝากให้แฟนเข้าทำงานกับบริษัทคนรู้จัก เนื่องจากแฟนมีภาระหนี้สินในครอบครัว 500,000 บาท ผมเลยพยายามช่วยทุกอย่างที่พอจะทำได้ ค่ากิน ค่าของใช้ ค่าใช้จ่ายต่างๆเวลาที่แฟนมาอยู่กับผม และแม่แฟนพี่สาวแฟนก็เคยมายืมเงิน (แต่ผมให้แต่ในส่วนที่แม่เค้ายืม) ทางบ้านผมค่อยให้ความช่วยเหลือมาตลอดในระยะเวลา2ปี ไม่ว่าเรื่องอะไรส่วนตัวผมเป็นทนายอิสระ รายได้ก็ประมาน3-5หมื่นแล้วแต่เดือน
พูดมาถึงตรงนี้แล้วทุกคนคงจะสงสัยว่าทำไมทางบ้านแฟนถึงเกรียดผม จะขออธิบายเป็นลำดับนะครับ
-แม่แฟนเป็นคนไม่เอาใครไม่ต้องการให้ใครเข้ามาวุ่นวายกับครอบครัวเค้า (ไม่มีเพื่อนเลย) และมัดจะด่าและดูถูกผมเสมอ
-พี่สาวแฟน ไม่มีแฟนเป็นคนที่จะคอยบงการแฟนในทุกๆเรื่อง เฟสบุ๊คแฟนและของผมก็ไม่สามารถโพสหรือแชร์อะไรหน้าเฟสได้อิสระ แฟนจะไปไหนมาไหนกับผมก็มีประเด็นเสมอเวลากลับบ้านเวลานอน และพี่สาวแฟนก็มักจะด่าและดูถูกผมเสมอ
-แฟนมีแฟนมาแล้ว 4-5คน ไม่มีใครสามารถคบแล้วไปรอดสักคนเนื่องจากทางบ้านแฟนก็ไม่เอาใครเลย ทั้งคนจนและคนรวย ถึงขนาดมีแฟนคนนึงทนไม่ไหว ด่าคำหยาบคายกับแม่แฟนออกไปทำนองว่า แม่กับพี่สาวเป็น......อะไรแม่อยากได้ผัวรวยๆขนาดนั้นเลยหรอ บลาๆๆ ซึ่งโดยปกตืแม่กับพี่สาวแฟนจะไม่ชอบขี้หน้าคนไปทั่วครับ แฟนผมจะขอโทษผมเสมอ กับสิ่งต่างๆที่แม่กับพี่สาวทำกับผม แต่แฟนผมไม่สามารถขัดใจหรือขัดคำสั่งได้ เพราะเมื่อขัดจะมีแต่คำด่าหยาบๆแล้วก็การตัดแม่ตัดลูก
จบการแนะนำตัวละคร คราวๆครับ555 เข้าประเด็นหลักเลย
เมื่อถึงเวลาที่แฟนผมต้องไปทำงานที่อเมริกา ในวันที่จะขึ้นเครื่องผมก็อยากจะไปส่งแฟนเป็นครั้งสุดท้าย แต่มันทำให้ผมได้เจอความจริงหลายๆอย่าง ตอนแรกแฟนผมก็อีดออดไม่ให้ผมไปส่ง จนผมเซ้าซี้จะไปให้ได้แฟนจึงบอกว่าแม่ไม่ชอบผม แต่ผมก็ยังรั้นที่จะไป เพื่อหวังว่าจะเครียร์ใจว่าท่านไม่ชอบอะไรผม และหวังว่าจะดูแลแม่แฟนระหว่างที่แฟนไม่อยู่เมืองไทย สุดท้ายก็ไปหาแฟนที่บ้าน แต่แม่แฟนก็ไม่ให้เข้าบ้านครับ ก็เลยได้เจอกันข้างนอกแค่ชั่วโมงเศษๆ แล้วก่อนกลับด้วยอาการของผมเองที่หวงแฟน จึงให้ขึ้นสถานะในเฟสว่าคบกับผมและให้ขึ้นรูปคู่เป็นโปรไฟล์ เท่านั้นแหละหายนะมาเยือน พี่สาวมาคอมเม้นด่าเป็นชุดๆ บลาๆ กลัวว่าผมกับแฟนจะพากันหนี แฟนผมมีอาการหวาดกลัวตัวสั้นต้องรีบกลับเข้าบ้านอย่างเห็นได้ชัด พอผมกลับบ้านแฟนก็ส่งแชทที่แม่กับพี่สาวพิมพ์มาด่าแฟนให้ผมดูผมจึงได้รู้ความจริงว่าพวกเค้าเกรียดผมขนาดไหน คำด่าเป็นทำนองเหยียดหยาม ว่าถ้าคบคนที่ศีลเสมอกับไม่ได้ก็ไม่ควรใฝ่ต่ำ ไปบอกมันทำไมว่าจะไปอเมริกา ไม่ต้องไปสงสารมัน และคำด่าต่างๆนาๆ ทั้งที่ฐานนะที่ผม ผมดีกว่าเค้าและให้ความช่วยเหลือและความปรารถนาดีเสมอมา ครอบครัวผมเปิดบริษัทส่วนตัวบัญชีและกฎหมาย พ่อเป็นผู้สอบบัญชี แม่เป็นนักบัญชี ผมเป็นทนายความ มีบ้านสองหลังมีที่ดินเปล่า ส่วนตัวผมเริ่มเปิดบริษัทส่วนตัวกำลังวิ่งหาลูกค้า ที่ผมอธิบายฐานะครอบครัวไม่ได้มีเจตนาที่จะอวดเพียงแค่ให้ทุกคนเข้าใจว่าผมไม่ใช่คนที่ไม่มีหน้าที่การงานหรือเป็นคนที่ไม่เอาการเอางาน ไม่ใช่แค่ผม แฟนผมก็โดนด่าว่าติด.....มันหรอไอ้ลูก.....และให่เลือกว่าจะเลิกกับผมหรือว่าจะตัดแม่ตัดลูกกันแต่แฟนผมไม่เลือกใช่การเงียบเอาอย่างเดียว แฟนผมโดนด่าตั้งแต่บ่ายสามยัน5 ทุ่มก่อนขึ้นเครื่อง
หลังจากแฟนผมไปอยู่ที่อเมริการผมกับแฟนก็เปิดใจคุยกันว่าจะทำยังไงกันต่อไปในเรื่องระหว่างเรา โดยแฟนติดสัญญาทำงานที่อเมริกา2 ปีครับ ลืมบอก แต่ประเด็นคือคำตอบที่ผมได้คือทำให้ผมกลืนไม่เข้าคายไม่ออก โดนแฟนผมให้เหตุผลดังนี้ครับ
1.ขั้นต่ำคือสองปี แต่ถ้าไปได้ดีก็จะอยู่ต่อยาวๆ(อันนี้ผมเข้าใจความจำเป็นครับครอบครัวเค้ามีหนีสินแต่มันไม่ควรที่จะไม่มีกำหนดระยะเวลาแบบนี้)
2.ถ้ารอไม่ได้เค้าก็ไม่ว่าอะไร (อันนี้เหมือนดีแต่ก็เจ็บจี๊ดๆ)
3.โดนแฟนจะจัดลำดับความสำคัญดังนี้ครับ ครอบครัว งาน คนรัก ซึ่งในจุดนี้เข้าใจได้ครับแต่มันจุกจริงๆที่เราอยู่ในตัวเลือกสุดท้าย
4.ผมถามว่าถ้ากลับมาแล้วแม่ยังไม่ให้คบหรือแต่งงานกันจะทำยังไง แฟนก็ตอบว่าแล้วจะให้ทิ้งแม่แล้วเลือกแฟนหรอ สุดท้ายก็ตอบแบบไม่ชัดเจนขอไปที ผมเข้าใจนะว่าครอบครัวต้องมาก่อน แต่ปกติก็ควรแยกแยะผิดถุกหรือเปล่าครับเรื่องความรัก กว่าแฟนผมจะกลับมาก็ อายุ41-42 แล้ว มันก็ควรตัดสินใจด้วยตัวเองได้ ผมบอกเราก็แยกออกไปอยู่ข้างนอกไม แล้วก็เข้าไปเยี่ยมท่านเป็นระยะๆ อยากให้เดินสายกลางแต่แฟนผมก็ไม่ให้คำตอบเรื่องนี้ ผมกับแฟนคบกันก็ชวนทำกันแต่สิ่งดี ชวนกันทำมาหากิน เที่ยวกลางคืนกันยังไม่เคยเลยครับ
เรื่องจริงๆมียาวกว่านี้ครับ แต่ผมคงเล่าให้ละเอียดได้ยาก
สรุปคือ
1.ครอบครัวเค้าไม่โอเคกับผมโดนไม่มีสาเหตุหรืออีกอย่างที่ผมคิดได้คือต้องการให้ลูกสาวได้กับคนรวยๆ
2.แฟนผมไม่มีความคิดเป็นของตัวเองไม่สามารถตัดสินใจเรื่องส่วนตัวต่างๆได้ และก็ไม่ได้แคร์ว่าผมจะอยู่หรือจะไป(เปลี้ยนไปตั้งแต่เกิดปัญหาโดนด่าหนักๆ)
3.แฟนและครอบครัวเค้าไม่ได้เห็นค่ากับสิ่งที่ครอบครัวและผมทำหรือยิบยื่นให้ มองว่าเป็นเรื่องปกติ (เราไม่เคยไปทวงบุญคุณนะครับแค่ตกใจที่พวกเค้าทำไมคิดกับแบบนี้)
ผมเลยอยากจะขอความเห็นจากพี่ๆน้องๆทุกท่านแนะนำว่าผมควรจะรอต่อไปหรือไม่ ถ้าการรอเป็นการรอที่ไม่มีกำหนดเวลา และก็ไม่รุ้กลับมาแม่เค้าจะใจอ่อนให้เราหรือเปล่า แฟนคนนี้เป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมมีความคิดอยากจะแต่งงานด้วย รบกวนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ