ผู้สูงอายุที่บ้านคุณๆ ตกอยู่ในสภาพนี้ไหมคะ

กระทู้สนทนา
1.ท่านต้องทนอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่ลูกหลาน
ที่ไม่มีความรักไม่มีความห่วงใยให้ เช่น มาส่งมื้อเช้าให้แล้วก็หายไปทั้งวัน
มาอีกทีก็มื้อเที่ยง เสริฟมื้อเที่ยงแล้วหายไปอีก
และมาเสริฟมื้อเย็นพร้อมกับพาอาบน้ำ 
แต่แทนที่จะอาบให้ท่าน ก็แค่พาเข้าไปในห้องน้ำ แล้วปล่อยให้อาบเอง 
เช็ดตัวเสร็จ ใส่เสื้อผ้าให้ แล้วทิ้งไว้ทั้งคืนถึงเช้าค่อยย่องเข้าบ้าน หลอกนายจ้างว่าอยู่กับคุณยายทั้งคืน
2.เค้าพูดอะไรก็ต้องเชื่อฟัง เช่น หลอกคุณยายว่า กินขนมและผักผลไม้ไม่ได้นะ เดี๋ยวท้องเสีย
และคุณยายก็ไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากข้าว 3 มื้อ นมและยาบำรุงที่ลูกหลานให้ไว้
อยากกินขนมและผลไม้อะไรก็ไม่ได้กิน เหตุผลคือเดี๋ยวท้องเสีย
3.เค้าขอเงิน(แนวรีดไถ) ก็ต้องให้ นอกจากเงินเดือน เดือนละ 15,000 บาท แล้ว ผู้ดูแลก็รีดไถจากคุณยายอีกด้วย
4.ปล่อยให้นอนอย่างเดียว จนเป็นแผลกดทับ และไม่บอกลูกของคุณยาย(นายจ้าง)
ซึ่งควรจะบอก เพราะจะได้หายามาทาและหากปล่อยไว้นาน อาจเกิดการติดเชื้อเป็นแผลลุกลามจนต้องทานยาแก้อักเสบ
5.แต่ละวันผ่านไปอย่างเดียวดาย นอนเหงาอยู่บนเตียงที่มีโปรแกรมอัจฉริยะ ตั้งเวลาพลิกตัวได้ ปรับเอนนั่งได้ มีช่องสำหรับขับถ่ายบนเตียงได้ และนี่จึงทำให้ผู้ดูแลไม่สนใจคุณยาย
ปล่อยไว้ทั้งวันทั้งคืน ขับถ่ายบนเตียงเอง ว่างๆค่อยมาเก็บ 

ข้างต้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ของพี่ชายท่านหนึ่ง
เมื่อทราบปัญหา บัวจึงช่วยหาแม่บ้านคนใหม่ไปดูแลคุณยาย 
แต่บัวก็ถามพี่ชายว่า คุณยายตกใจหรือเสียใจไหมที่ต้องเปลี่ยนคนดูแล
ก็ได้คำตอบว่า ไม่เลย
เมื่อถึงวันที่พาพี่เรไร(แม่บ้าน) เข้าไปสวัสดีคุณยาย 
คุณยายยิ้มรับเราสองคนเป็นอย่างดี
"สวัสดีจ้ะ จะมาอยู่กับชั้นทั้งสองคนเลยเหรอ" ท่าทางคุณยายดีใจ
บัวตอบว่า "หนูมาส่งพี่คนนี้นะคะ หนูชื่อบัว คนที่จะดูแลคุณยายชื่อเรไรนะคะ เค้าเป็นคนใจดีนะคะ"
บัวก็ขอดูแผลกดทับที่ก้นและหลังของคุณยาย ท่านก็เปิดให้ดูด้วยความเต็มใจ
แผลยังสดๆเป็นวงรีขนาดนิ้วโป้ง และที่ก้นเริ่มเป็นรอยสีน้ำตาล
ที่เรารู้ว่าคุณยายมีแผลกดทับเพราะมีอยู่วันหนึ่งผู้ดูแลคนเก่าไม่มา พี่ชายจึงจ้างน้องอ้อม(สาวชาวบ้านแถวนั้น) มาอาบน้ำให้คุณยาย
น้องอ้อมถ่ายรูปแผลกดทับของคุณยายมาให้พี่ชายดู
ถ้าไม่ได้น้องอ้อม เราก็ไม่รู้ว่าคุณยายกำลังเข้าสู่ภาวะอันตราย 
พี่เรไรเริ่มการดูแลคุณยายอย่างจริงจังแบบมืออาชีพ
(เราหวังว่าพี่เรไรจะรักษาคุณภาพตลอดไป) 
คุณยายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เกรดเอลบ (แอบดื้อเล็กน้อย) 
บัวจับมือคุณยายแล้วพูดว่า
"ต่อไปนี้ เราจะดูแลคุณยายอย่างใกล้ชิดนะคะ จะไม่ปล่อยให้อยู่คนเดียวแล้วนะคะ
แผลกดทับจะต้องดีขึ้นและไม่กลับมาเป็นอีกแต่คุณยายต้องให้ความร่วมมือนะคะ
ลุกมานั่งบ่อยๆ กลางวันปวดฉี่ปวดอึ ต้องบอกนะจ๊ะ พี่เรไรจะพาเข้าไปนั่งในห้องน้ำ
ฉี่เสร็จอึเสร็จก็ชำระล้างทันที ไม่ต้องหมักหมม จะเกิดเชื้อโรคได้
อยากกินอะไรบอกได้เลย ไม่ต้องกลัวท้องเสีย จานชามช้อนแก้วน้ำอาหารสะอาด คนดูแลก็รักษาความสะอาด เชื่อหนูนะคะ"
คุณยายยิ้มแป้น บัวส่งขนมถ้วยและช้อนให้คุณยาย
พอรู้ว่าเป็นขนมถ้วย คุณยายลุกขึ้นมานั่งและตักกินเอง มือไม่สั่น ตักกินได้ปกติ
ขนมถ้วยของร้านนี้เป็นถ้วยใหญ่ ไม่ใช่ถ้วยตะไล 

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ถ้วยนี้ เทียบเท่าถ้วยตะไล 3 ถ้วยค่ะ คุณยายใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ทุกอย่างก็เรียบร้อย ^ ^ บัวปลื้มใจมาก
ขนมแบบในรูปนี้ บัวจะทยอยเสริฟคุณยายในโอกาสต่อไป อิอิ
บัวแนะนำกล้วยน้ำว้าวันละลูก น้ำส้มคั้นสดวันละลูก ให้คุณยายรับประทาน ฝรั่งกิมจูปั่นแยกกากครึ่งลูก เป็นเมนูแนะนำไว้ 
และบอกคุณยายว่า "หนูจะมาเยี่ยมคุณยายบ่อยๆนะคะ จะมาดูแผลกดทับว่าดีขึ้นบ้างไหม ต้องดีขึ้นนะคะคุณยาย"
จากบางคนที บัวขับรถกลับกทม.ด้วยความอิ่มเอมใจ

คิดถึงคุณตาคุณยายบ้านอื่นๆที่ลูกหลานให้ความไว้วางใจแก่คนดูแลมากเกินไป
จนอาจเกิดโรคภัยไข้เจ็บที่ไม่คาดคิดกับผู้สูงอายุที่เรารักได้ 
กระทู้นี้ ก็ขอตั้งเพื่อเป็นอุทาหรณ์นะคะ สวัสดีค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่