....อาแปะว่า พรรคการเมือง นี้บางมุมมีสถานะคล้ายวัดนะ..
การจะรับบริจาคเงินจากใคร ต้องพิจารณาให้มากๆ ..
หากเป็นยอดบริจาคต่ำๆ หลักร้อยหลักพัน อันนี้บางทีก็ปล่อยๆผ่านตาไปได้..
แต่ยอดบริจาคสูงๆอย่างหลักล้านหลักสามล้านอย่างนี้ ควรพิจารณาให้มากว่าใครบริจาคมา ..
หากให้ดีควรสืบสาวประวัติผู้บริจาคเป็นเบื้องต้น  จะรับเงินบริจาคแบบวัดคงไม่เหมาะ..
เพราะพรรคการเมืองยังเกี่ยวเนื่องผูกพันกับผลประโยชน์มากมายหลายภาคส่วน..
ดังนี้เจตนาของผู้บริจาคย่อมหาบริสุทธิได้น้อยกว่าเงินบริจาคเข้าวัด..
เมื่อผู้บริจาคเงินเข้าพรรคการเมืองหาที่มีเจตนาบริสุทธิได้น้อย พรรคการเมืองก็ควรเพิ่มความละเอียดในการคัดกรองให้มากๆ..
จะรับบริจาคมั่วๆ เอาทุกคนทุกบาทเท่าที่จะเอาได้  มันก็เสี่ยงที่จะได้เงินบาป... ดังที่เป็นข่าว....นั่นแล..

อาแปะว่าการสร้างพรรคการเมืองให้ มั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืน นั้นต้องใช้เวลานะ ..
ถึงจะมีเงินทุนมาก ก็ต้องใช้เวลาในการสะสมความน่าเชื่อถือ ซึ่งก็จะเปลี่ยนเป็นความศรัทธาในที่สุด..
พรรคที่อยากโตเร็วๆ ด้วยการเร่งเวลา เร่งซื้อความศรัทธาด้วยเงิน ยากที่จะโตอย่างยั่งยืนได้..นะครับ..
ก็จะเหมือนบ้านที่เร่งสร้าง โดยไม่สนใจฐานรากจะแน่นหนาหรือไม่  สุดท้ายก็จะแพ้พ่ายไปเอง(พปชร.)
แต่บ้าน(พรรค) ที่สร้างฐานรากไว้ดี แม้เครื่องบนจะผุพัง ก็ยังสามารถรีโนเวทให้กลับมาเป็นบ้านที่สวยได้(ปชป.)

อาแปะ  มองเรื่องของทุนจีนเทากับพรรคการเมืองแล้วก็อยากฝากไว้ให้คิด
อมิตพุทธ..