สิ่งที่เห็นระหว่างเกมส์อังกฤษพบเวลส์

เข้ารอบไปอีกหนึ่งทีมสำหรับทีมชาติอังกฤษหลังจากเอาชนะทีมชาติเวลส์ไปได้ด้วยสกอร์3-0 โดยได้ประตูขึ้นนำจากมาร์คัส แรชฟอร์ดในนาทีที่50 และตามด้วยลูกที่2ติดๆจากฟิล โฟเด้น นาทีที่51 และประตูปิดท้ายจากมาร์คัส แรชฟอร์ด คนเดิมในนาทีที่68 โดยอังกฤษจะเข้าไปพบกับเซเนกัลในรอบ16ทีมต่อไป ซึ่งสิ่งที่จะเขียนต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ผมได้เห็นในเกมส์คู่นี้ครับ 
1.การจัดตัวของทีมชาติอังกฤษ 
อังกฤษเปลี่ยนผู้เล่นจากเกมส์พบสหรัฐ 4 ตำแหน่ง คาดว่าเป็นการพักตัวผู้เล่น แต่ถึงอย่างนั้นการกระทำของอังกฤษถือว่าเป็นอะไรที่เสี่ยงพอสมควร เนื่องจากอังกฤษยังไม่การันตีการเข้ารอบ แต่เลือกดรอปผู้เล่นที่ลงเล่นเป็นตัวหลักในทัวร์นาเมนต์นี้ ถือว่าเซาธ์เกตใจกล้าทีเดียว โดยผู้เล่นที่เปลี่ยนลงมาในเกมส์นี้ได้แก่ ไคล์ วอล์คเกอร์ แทน คีแรน ทริปเปียร์ , จอร์แดน เฮ็นเดอร์สัน แทน เมสัน เมาท์ , ฟิลโฟเด้น แทน บูกาโย ซาก้า และ มาร์คัส แรชฟอร์ด แทน ราฮีม สเตอร์ลิง 
2.การจัดตัวของทีมชาติเวลส์ 
เวลส์เลือกเปลี่ยนระบบการเล่นมาเป็น 4-2-3-1 ในเกมส์นี้หลังจาก 2 เกมส์ที่ผ่านมาเลือกใช้ระบบ 3-5-2 โดยผู้เล่นที่ถูกเปลี่ยนลงมาได้แก่  แดเนียล เจมส์ แทนที่ คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์ และโจ อัลเลน แทนที่ แฮร์รี่ วิลสัน รวมถึง แดนนี่ วอร์ด ที่ได้ลงเฝ้าเสาแทน เวย์น เฮนเนสซีย์ หลังจากโดนใบแดงในเกมส์พบอิหร่าน 
3.รูปแบบการเล่น
เกมส์นี้อังกฤษตั้งใจวางหมากรัดกุมเพื่อดึงให้ทีมชาติเวลส์เปิดเกมส์รุก จากนั้นจะอาศัยตัวรุกริมเส้นทั้งสองข้างเป็นอาวุธหลักในการสวนกลับ โดยมีแฮร์รี่ เคน เป็นศุนย์กลางในการสร้างเกมส์ขึ้นไป แต่ดันผิดแผนสำหรับอังกฤษ เนื่องจากทางเซาธ์เกตคงคิดว่าสถานการณ์แบบนี้เวลส์ต้องตั้งใจเปิดเกมส์แลกแน่ๆ แต่เวลส์ดันเลือกตั้งรับรอสวนเช่นกันและวางแผนมาในลักษณะเดียวกับอังกฤษแบบเป๊ะๆ จึงเป็นสาเหตุของการเล่นที่ง่วงนอนของทั้งสองทีมในครึ่งแรก 
ครึ่งหลังอังกฤษปรับแผนด้วยการเปิดเกมส์รุกมากขึ้น เนื่องจากทางเซาธ์เกตคงประเมินสถานการณ์จากครึ่งแรกแล้วว่า ด้วยศักยภาพของเวลส์ไม่มีทางทำอันตรายอังกฤษได้แน่ๆ และสลับตำแหน่งให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ไปอยู่ด้านขวา และ ฟิล โฟเด้น ไปอยู่ด้านซ้าย เนื่องจากครึ่งแรกโฟเด้นที่อยู่ด้านขวาเงียบมากจึงต้องทำการสลับตำแหน่ง จุดนี้มีสาเหตุ 2 ตำแหน่ง คือ มิดฟิลด์ตัวรุก และ แบ็คขวา ( อีกแล้ว ) ซึ่งจุดนี้เดียวผมจะมาขยายอีกทีว่า2 ตำแหน่งนี้มีจุดสำคัญยังไงถึงส่งผลต่อโฟเด้น 
โดยครึ่งหลังเมื่อเปลี่ยนโฟเด้นมาทางด้านซ้าย ทำให้เจ้าตัวมีอิทธิพลกับเกมส์รุกมากขึ้น เนื่องจากโฟเด้นเป็นนักเตะที่ประสานงานแดนบนได้ดี พาส แอน มูฟ ได้ดี  และหาพื้นที่ในกรอบเขตโทษเก่ง ซึ่งเมื่ออยู่ฝั่งขวาไม่มีใครซัพพอร์ตในจุดแข็งของเจ้าตัวได้เลย นอกจากแฮร์รี่ เคน และ แรชฟอร์ดหุบเข้าในมาร่วมวงด้วยในบางครั้ง แต่เมื่อสลับตำแหน่งทำให้มีความลงตัวเกิดขึ้น เนื่องจากมาร์คัส แรชฟอร์ดที่สลับไปอยู่ด้านขวา ถึงแม้จะเล่นด้านขวาได้ไม่ค่อยดี แต่โดยจุดแข็งของแรชฟอร์ดคือ มีความเร็วและลากเลื้อยเก่ง ทำให้เมื่ออยู่ด้านขวาถึงแม้ไม่มีคนซัพพอร์ต เจ้าตัวก็ยังพอที่จะเอาตัวรอดเองได้ ดูได้จากการได้ประตูทั้ง 3 ลูก ต้นเหตุมาจากการสลับตำแหน่งริมเส้นทั้งหมด 
ส่วนทางเวลส์ ถึงแม้ครึ่งแรกถือว่าป้องกันได้ดีและวินัยเกมส์รับถือว่าดีมาก แต่ถ้ายังตั้งรับอยู่ก็มีโอกาสตกรอบสูง จึงเริ่มเปิดเกมส์รุกสู้ และด้วยความที่ศักยภาพค่อนข้างเป็นรองจึงตกเป็นฝ่ายตามหลังอย่างรวดเร็ว และพอโดนประตูแรกแล้ว เกิดอาการเมาหมัดยังมึนกับประตูแรกอยู่ ประตูที่สองจึงตามมาติดๆ ซึ่งลูกที่สองต้องบอกว่าระเบียบเกมส์รับแย่สุดๆ เหมือนยังช็อคกับการเสียประตูแรกและปรับสภาพจิตใจไม่ทัน โดยคอนเนอร์ โรเบิร์ตส์ ที่ถูกเปลี่ยนลงมาแทน เนโก วิลเลี่ยมส์ ในครึ่งแรก ทำดีมาตลอดทั้งเกมส์แต่ดันเสียสมาธิโดนฉกง่ายๆจากจังหวะนี้ และจากการเปิดเกมส์รุกเต็มที่ของเวลส์ทำให้สุดท้ายหลังลอย โดนวางยาวถึงแรชฟอร์ดทีเดียวเป็นประตูทันที ซึ่งคนพลาดจังหวะนี้คือ  โจ โรดอน ที่เช็คล้ำหน้าพลาด จากนั้นเป็นคนเดิมอย่างคอนเนอร์ โรเบิร์ตส์ ที่อ่านทางบอลพลาดจากการตัดเข้าในมาของแรชฟอร์ด 
4.นักเตะที่ต่ำกว่ามาตรฐาน 
- เนโก วิลเลียมส์ ถือว่าเวลส์โชคดีที่วิลเลียมส์เกิดอาการบาดเจ็บและถูกเปลี่ยนตัวออกไปก่อน ไม่อย่างนั้นอาจเสียประตูแรกตั้งแต่ครึ่งแรก เนื่องจากเจ้าตัวตามแรชฟอร์ดไม่ทันแทบทุกจังหวะ และยืนตำแหน่งผิดพลาดตลอด30นาที ที่เจ้าตัวได้อยู่ในสนาม 
- คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์ ครึ่งแรกถือว่าเจ้าตัวรักษาวินัยเกมส์รับได้ดีกับตำแหน่งฟูลแบ็กด้านขวา แต่เมื่อครึ่งหลังเปลี่ยนตำแหน่งมาเป็นด้านซ้าย ก็มีอาการเดียวกับเนโก วิลเลียมส์ในครึ่งแรก และมีส่วนกับการเสีย 2 ประตู ในเกมส์นี้ 
- อีธาน อัมปาดู ไม่มีประโยชน์ใดๆเลยในแดนกลาง หลายครั้งๆปล่อยให้โจอันเลนต้องเล่นคนเดียว เกมส์รุกก็ไม่เติม เกมส์รับก็ไม่เอา ด้วยการเล่นแบบนี้ทำให้ชูความโดดเด่นของอัลเลนออกมาชัดมาก ถือว่าวันนี้เล่นได้ดีจริงๆสำหรับอัลเลนเนื่องจากต้องทำทุกอย่างทดแทนการขาดหายไปของอัมปาดู เป็นหนึ่งในบุคคลหายตัวในเกมส์นี้ 
- แกเร็ธ เบล และ อารอน แรมซีย์ มัดรวมกันเนื่องจากมีอะไรหลายอย่างเหมือนกันทั้งคู่ โดยสิ่งที่ทั้งสองคนนี้มีเหมือนกันคือ หมดสภาพแล้วจริงๆ เป็นสองบุคคลที่โดนลักพาตัวออกไปจากเกมส์วันนี้ 
- ไคล์ วอล์กเกอร์ เกมส์นี้วินัยในเกมส์รับถือว่าใช้ได้ไม่น่าเกลียด แต่เกมส์รุกที่เป็นจุดเด่นของเจ้าตัวทำได้แย่ๆ มากๆ ที่โฟเด้นอยู่ด้านขวาเกมส์นี้แล้วบอด เจ้าตัวมีส่วนสำคัญสุดๆ เนื่องจากเจ้าตัวยืนคาเส้นมากเกินไป และไม่ซัพพอร์ตโฟเด้นเลยในครึ่งแรก ทำให้เกมส์รุกฝั่งขวาเกิดปัญหา  
- จู๊ด เบลลิงแฮม ตรงนี้ไม่ค่อยอยากโทษเจ้าตัวมากเนื่องจากเซาธ์เกต ปรับเจ้าตัวไปเล่นเบอร์10 ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งถนัด ทำให้เกมส์นี้เบลลิงแฮมเป็นอีก 1 คน ที่ถูกลักพาตัวไป โดยเหตุผลที่เจ้าตัวไม่สามารถเล่นเบอร์10ได้ เนื่องจากปกติแล้ว เบลลิงแฮมจะเคลื่อนที่ขึ้นลงตรงกลางเป็นหลัก ไม่ส่ายออกซ้าย ออกขวามากนัก แตกต่างตรงที่เบอร์10 ต้องทำหน้าที่นี้แต่เบลลิงแฮมทำไม่ได้ คาตำแหน่งตัวเองไว้ตรงกลางทั้งเกมส์ และในส่วนของการจ่ายบอล เจ้าตัวไม่ใช่คนที่จ่ายบอลแดนสุดท้ายได้คม แต่ลักษณะเด่นในการจ่ายของเบลลิงแฮมคือ วิชั่นในการออกบอล เจ้าตัวสามารถเลือกออกบอลให้ตัวรุกที่ได้เปรียบที่สุดได้ดี  กล่าวคือ การรับบอลมาจากเบลลิงแฮมสามารถสร้างเกมส์รุกต่อได้ทันที ไม่ต้องแต่งจังหวะเพิ่มเติม และอีกจุดเด่นหนึ่งของเบลลิงแฮมคือการสอดเข้ามาในกรอบเขตโทษ ซึ่งวันนี้ไม่มีให้เห็นเลย อาจจะพะวงกับการสร้างเกมส์จากแดนกลางมากไป เกมส์นี้สำหรับผมถือว่าเล่นแย่ที่สุดของอังกฤษรองจาก จอร์แดน เฮ็นเดอร์สันเลย 
- จอร์แดน เฮ็นเดอร์สัน แย่ที่สุดของฝั่งอังกฤษ กรณีคล้ายๆกับ อัลเลน และ อัมปาดู ของเวลส์ ความผิดพลาดของเฮ็นเดอร์สัน ทำให้ ดีแคลน ไรซ์ โดนเด่นๆมากๆ ในเกมส์นี้ และยิ่งโดดเด่นมากเข้าไปอีกเมื่อหลายๆจังหวะ ต้องสร้างสรรค์เกมส์ เชื่อมเกมส์ แทน เบลลิงแฮมอีกต่างหาก สำหรับผมวันนี้ไรซ์ เป็นนักเตะที่เล่นได้ดีที่สุดของฝั่งอังกฤษเลย เห็นการเล่นวันนี้แล้วไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทีมใหญ่ถึงได้เล็งเขาขนาดนี้
โดยรวมอังกฤษก็ถือว่าเข้ารอบไปแบบสบายๆ ไม่พลิกความคาดหมายใดๆ นัดหน้าจะเข้าไปพบกับเซเนกัล ซึ่งถ้าไม่มีเหตุการณ์พิเศษ เช่น ใบแดง หรือ กรรมการมึน น่าจะเข้ารอบ 8 ทีมไปได้ จริงๆถือว่าอังกฤษนี่มากับดวงเลยสำหรับการแข่งทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ เพราะมักจะได้อยู่ในกลุ่มหรืออยู่ในสายที่ไม่แข็งแกร่งมาก รอบนี้ถ้าเน้นๆหน่อย อังกฤษมีโอกาสหวังได้ยาวๆถึงรอบ 8 ทีมทีเดียว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่