พ่อแม่ชอบขอเงิน ทั้งๆที่ให้เป็นรายอาทิตย์แล้ว

สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา เราอยากมีเรื่องปรึกษาค่ะ ก่อนอื่นเลยเราทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน อายุ 26 ปี อยู่ต่างจังหวัด มีพี่น้อง 3 คน เราเป็นคนสุดท้อง เราส่งตัวเองเรียนเองจนจบ ป.ตรี เราทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เราทำงานตั้งแต่อายุ 19 ปี ทำงานตั้งแต่เงินเดือน 8,000 บาท  ตอนนี้เงินเดือนของเรา 13,000 บาท เราต้องรับผิดชอบภาระมากมาย ที่แม่เราสร้างไว้ แม่เราเป็นคนติดสังคม ชอบเล่นการพนัน ชอบเล่นหวย กู้เงินนอกระบบ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เราจำความได้ ที่บ้านเราเมื่อก่อนมีที่ทางหลายแปลง หลายไร่ แต่ตอนนี้ขายหมดแล้ว เหลือแต่ที่บ้าน เพราะพ่อต้องขายที่เอาเงินไปช่วยปิดหนี้นอกระบบให้แม่ (หลายล้าน) จนพ่อไม่มีแรงที่จะสร้างอะไรทั้งสิ้นเพราะเป็นแบบนี้หลายรอบมากที่ต้องคอยปิดหนี้สินให้แม่ จนมาถึงเรา เงินที่เราเก็บ ทองที่เราสร้างก็ค่อยๆหมดไป  เพราะต้องคอยปิดหนี้สินที่แม่สร้าง ความคิด ณ ตอนนั้น เป็นความคิดที่ว่าเราค่อยสร้างใหม่ นับหนึ่งใหม่ได้ ถ้าเรายังมีชีวิต ยังมีงานทำอยู่ จนความคิดนั้นค่อยๆเริ่มหมดไป ถึงต้องเอาที่บ้านไปไว้ที่ธนาคาร เกือบล้าน ผ่อนเดือนละ 6,000 บาท โชคดีที่พี่สาวช่วยผ่อนคนละครึ่ง ความคิดก็เริ่มที่จะนับหนึ่งใหม่ สร้างใหม่ ต้องรักษาที่บ้านให้ได้ ผ่านไประยะเวลาไม่ถึงปี แม่สร้างหนี้ใหม่ เราปิด เราผ่อน ซึ่งต้องหาผ่อนเป็นวันๆละ 1,900 บาท ลดลงมาเรื่อยๆจนหมด ภายในระยะเวลาไม่ถึงเดือน ตอนนั้นเราต้องหารายได้พิเศษหลังเลิกงาน เราร้องต่อหน้าแม่เรา ว่าเราไม่ไหวแล้ว เราอยากฆ่าตัวตาย เราขู่แม่เราว่าหมดรอบนี้ต้องไม่สร้างหนี้ใหม่อีกนะ ไม่งั้นเราจะไม่อยู่จะตายให้ดู ความคิดที่จะนับหนึ่งใหม่สร้างใหม่ค่อยๆหมดไป หมดความเชื่อใจแม่ ระแวงไปหมด แต่สุดท้ายหนี้สินที่แม่บอกว่าต้องผ่อนก็หมดไป ตอนนั้นเรายังอยู่กับพ่อกับแม่เรา พี่สาวช่วยอาหารการกินเดือนละ 2,000 บาท เพื่อเบ่งเบาภาระเรา เพราะเราก็มีหนี้สินส่วนตัวพวกบัตรเครดิต ค่าโทรศัพท์ ที่ต้องผ่อน ตกเดือน 3,000 บาท ยังไม่รวมของใช้ส่วนตัวอีก ประมาณ 1,000 บาท ค่าอาหารการกิน ที่บ้าน ซึ่งอาศัยอยู่ 5 คน พ่อ แม่ เรา ลูกของพี่สาวอีก 2 คน ประมาณ 2,000 บาท และรวมของพี่สาวที่ส่งมาให้ อีก 2,000 รวมเงินค่าอาหาร ประมาณ 4,000 บาท ยังไม่รวมภาษีสังคม งานแต่ง งานบวช งานศพ นะค่ะ (ค่าไฟ ค่าน้ำพี่สาวจ่ายค่ะ) รวมค่าใช่จ่ายของเราทั้งหมด ใช้หนี้ที่เอาที่ไปไว้ที่ ธนาคาร 3000 บาท + หนึ้ส่วนตัว ค่าโทรศัพท์ 3000 บาท +ค่าของใช้ส่วนตัว 1000 บาท + ค่ากินในบ้าน 2000 บาท รวมเป็นเงิน 9000 บาท เหลือเงิน 4000 บาท แต่ที่จริงเหลือน้อยกว่านี้นะค่ะ เพราะยังมีภาษีสังคม ค่าสมัครงาน ลงทุนติวต่างๆนาๆ เพื่อต้องทำงานราชการ เพื่อสวัสดิการต่างๆ เพื่อเงินเดือนที่เพิ่มมากขึ้น แต่เราก็พยามเก็บเงินโดยการออมทอง สุดท้ายก็หายไป เพราะต้องช่วยแม่ปิดเล็กๆน้อยๆ
          จนกระทั้งเราแต่งงานมีครอบครัว เราอาศัยบ้านแฟน เราก็บอกแม่ว่าจะลงทุนขายแซนวิชไหม หรือให้เราส่งให่รายอาทิตย์ แต่ทั้ง 2 อย่าง เราจะซึ้อขาวสารให้ แม่เราเลือกขายแซนวิช เราลงทุนให้ ครั้งแรกเราลงทุนให้ทุกอย่าง ครั้งต่อไปเราลงทุนให้แค่น้ำแซนวิช ซึ่งน้ำแซนวิช ลงทุนประมาณ 3000 บาท/เดือน ส่วนพวกนมปัง และอื่นๆ ให้แม่หมุนเวียนจากที่ขายได้ แกขายได้วันละ ประมาณ 400-500 บาท ซึ่งก็พอที่หมุนซื้อของและค่ากินในครอบครัวได้ มีอยู่วันนึงเรากลับบ้าน เราแอบดูไลน์แม่ เราเห็นแม่เราซื้อหวย ครั้งละ 700 - 1000 บาท ซึ่งเดือนนึงมี 2 ครั้ง ค่าหวยที่แกต้องจ่าย ประมาณ 1400 - 2000 บาท/เดือน และมีคนโทรมาทวงเงิน เราก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไร จนกระทั้งแกให่พ่อเราเอาสร้อยลูกปัดไปจำนอง แล้วพ่อโทรมาหาเรา แล้วพ่อไม่ได้วางโทรศัพท์ เราได้ยินที่แม่เราพูดว่า เราไม่ให้ตัง ซึ่งเรากับแม่ก็ทำข้อตกลงกันแล้วว่าจะลงทุนซื้อน้ำแซนวิชให้ ตกเดือนละ 3000 บาท ช่วงไหนที่แกไม่ได้ขายก็จะให้เงินแก เพื่อซื้อกับข้าว แต่สิ่งที่เราได้ยินคือเราไม่ให้ ให้เดือนละเท่าไหร่เอง เราร้องให้และทำอะไรไม่ถูกเลย จนเราบอกแกว่าไม่ต้องขายแซนวิช เราจะให้รายอาทิตย์ๆละ 1000 บาท ให้ทุกวันจันทร์ และซื้อขาวสารให้กระสอบใหญื กลัสอบละ 40 กิโล ตกเดือนละ 5000 - 6000 บาท ที่พี่สาวกับเราคอยช่วยกัน แต่พอหลังๆแม่เราอ้างซื้อของเข้าบ้านบ้าง ตังไม่พอ แต่เราว่า 1000 บาท ที่ไม่ต้องซื้อข้าวสาร น่าจะพอ แต่ก็โอนเพิ่มให่แก 500 บาท เราก้ปรึกษาพี่สาวว่าถ้าเป็นแบบนี้ไม่ไหวนะ เราโทรไปหาแม่ว่าของใช้ในบ้าน กับค่ากับข้าวให้หมุนใน 1000 นั้น เราจะไม่โอนเพิ่มอีก เพราะเราวางแผนที่จะมีลูก และต้องเก็บเงินเดินทางไปสอบราชการ และค่าใช่จ่ายที่บ้านเราอีกที่แยกบ้าน มันก็จะหนักหน่อย แม่เราก้ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ (แม่ อายุ 60 ปี พ่อ อายุ 62 ปี ซึ่งทั้ง 2 ก็มีเงินผู้สูงอายุ และแม่เราเป็น อสม. ก็มีเงิน อสม.อีก ) เงินเก็นไม่มี แต่ก็ไม่ถึงกับอด อยู่แบบเดือนชนเดือน เพราะแฟนเราก็รับผิดชอบผ่อนรถไป
          เราอยากรู้ว่าเราให้อาทิตย์ละ 1000 น้อยไปไหม ข้าวสารซื้อให้
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ใจไม่แข็ง    มีเท่าไหร่ก็หมด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่