เปอร์โพลเปิดผลงานแกนนำรัฐบาล แก๊งป่วนสำลัก‘ม็อบเอเปค’ปลุกปชช.หนุน‘บิ๊กตู่’วันอาทิตย์ ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 11.39 น.
27 พฤศจิกายน 2565 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง “แกนนำรัฐบาล กับ ผลงานที่พอใจ” กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่านกระบวนการวิจัยเชิงทดลอง(Experimental Survey) เพื่อลดความคลาดเคลื่อนแก้ปัญหาแหล่งความคลาดเคลื่อนจากผู้ถามผู้ตอบและเครื่องมือวัด จำนวน 2,008 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 24-26 พฤศจิกายน 2565 มีค่าความคลาดเคลื่อนจากการกำหนดขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95 พบแกนนำรัฐบาล กับ ผลงานที่พอใจด้านต่าง ๆ
ที่น่าสนใจคือ ด้านแก้ขัดแย้งของคนในชาติ ไม่สูญเสีย ไม่มีการเผาบ้านเผาเมืองเหมือนในอดีต ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร้อยละ 85.0 , ด้านทำตามที่พูด นโยบายกัญชา ช่วยชาวบ้านคนตัวเล็กตัวน้อย ฐานรากสังคม ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 79.0 , ด้านที่โดดเด่น ช่วยเหลือบุคลากรการแพทย์ อสม. แก้วิกฤตโควิด จัดการวัคซีน ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 72.6 , ด้านช่วยเหลือเกษตรกร ประกันรายได้ พืชเศรษฐกิจ ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ยางพารา และปาล์ม ได้แก่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 72.3 , ด้านมุมานะ อดทน ดูแลประชาชน ช่วงฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตชาติ ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 63.7
ด้านแกนนำรัฐบาลเด่น เจรจาเศรษฐกิจสากลกับนานาประเทศ ช่วงประชุมเอเปค ได้แก่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ร้อยละ 62.8 , ด้านจุดยืนมั่นคง จงรักภักดี ปกป้องเสาหลักของชาติ ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 55.1 และด้านผลงานภาพจำ ช่วยที่ดินทำกิน แก้หนี้นอกระบบ บริหารจัดการน้ำ ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 44.1 ตามลำดับ
ที่น่าพิจารณาคือ จุดยืนทางการเมืองของประชาชน พบว่า เกินครึ่งหรือร้อยละ 54.7 สนับสนุนรัฐบาล มากกว่า ไม่สนับสนุนรัฐบาลร้อยละ 13.2 และกลุ่มพลังเงียบ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ร้อยละ 32.1 เหตุผลที่ ฐานสนับสนุนรัฐบาล มากกว่า ไม่สนับสนุน เป็นผลพวงจาก การก่อม็อบช่วงประเทศไทยจัดประชุมเอเปค และเหตุรุนแรงในภาคใต้ ที่ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่า มีกลุ่มการเมือง พรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง และผลงานรัฐบาลที่พอใจของประชาชน
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า แกนนำรัฐบาลกับผลงานที่พอใจ เป็นผลโพลที่สะท้อนให้เห็นอีกมุมหนึ่งของคนทำงานช่วงฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตชาติช่วงโควิดที่ระบาดทั่วโลกให้คนไทยทั้งประเทศได้เห็นถึงเสียงของประชาชนที่พอใจต่อแกนนำรัฐบาลเป็นรายบุคคล หนุนเสริมคนที่ทำงานเด่นสุดในด้านต่าง ๆ เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดดเด่นมากที่สุดแก้ขัดแย้งของคนในชาติไม่ให้เกิดการสูญเสียแตกต่างจากช่วงประมาณสิบปีที่แล้วที่กลุ่มการเมือง พรรคการเมืองหัวหน้าเดียวกันเคยก่อการทั้งที่กรุงเทพมหานคร ห้างสรรพสินค้าถูกเผา และการล้มการประชุมนานาชาติที่พัทยา รวมถึงการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นภาพเหตุการณ์ที่ประชาชนไม่ต้องการ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กล่าวต่อว่า ผลงานที่ประชาชนพอใจและแกนนำรัฐบาลที่โดดเด่นที่สุด ด้านอื่น ๆ เช่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีจุดยืนมั่นคง จงรักภักดีปกป้องเสาหลักของชาติที่โดดเด่นสุด การทำตามที่พูด นโยบายกัญชา ช่วยชาวบ้านคนตัวเล็กตัวน้อย ฐานรากสังคมได้ปลอดภัย นำมาทำวิจัยเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพทางการแพทย์ได้ไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ และอาจจะถูกเรียกรับสินบนเงินใต้ดิน และยังโดดเด่นสุด ช่วยเหลือบุคลากรการแพทย์ กลุ่ม อสม. แก้วิกฤตโควิด จัดการวัคซีน
ในขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ช่วยเหลือเกษตรกร ประกันรายได้ และเป็นแกนนำรัฐบาลเด่นเจรจาเศรษฐกิจการค้ากับนานาประเทศช่วงประชุมเอเปค ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เด่นสุดแก้ปัญหาที่ดินทำกิน หนี้นอกระบบและบริหารจัดการน้ำ
“อารมณ์ความรู้สึกของประชาชนที่เห็นได้ชัดเจนคือการสนับสนุนรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นเพราะความเชื่อว่ากลุ่มการเมืองและพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังการก่อม็อบและเหตุรุนแรงที่ภาคใต้ช่วงประชุมเอเปคในประเทศไทย สร้างความวุ่นวายและก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงในหมู่ประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นปัจจัยสำคัญทำให้กระแสเหวี่ยงมาสนับสนุนรัฐบาลและนึกถึงแกนนำรัฐบาลที่มีความโดดเด่นแต่ละด้าน เพราะคนไทยส่วนใหญ่รักความสงบเรียบร้อยไม่ต้องการเหนื่อยกับความวุ่นวายของบ้านเมืองที่อาจเกิดเหตุลุกลามบานปลายเพิ่มจากที่ต้องเหนื่อยกับการทำมาหากินและปัญหาที่พบประจำวันของประชาชน” ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว
https://www.naewna.com/politic/694643
เอาแล้ว!ผลโพล97.2%ตำหนิ‘ชัชชาติ’ปล่อยม็อบป่วนเอเปก 97.9%พอใจต่อตำรวจ
วันเสาร์ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 10.50 น.
26 พฤศจิกายน 2565 นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง เบื้องหลังม็อบ ช่วงประชุม เอเปก กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่านกระบวนการวิจัยเชิงทดลอง(Experimental Survey) เพื่อลดความคลาดเคลื่อนแก้ปัญหาแหล่งความคลาดเคลื่อนจากผู้ถามผู้ตอบและเครื่องมือวัด จำนวน 1,448 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 23 - 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากการกำหนดขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95
เมื่อถามถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดประชุมเอเปก พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 78.4 ระบุมีประโยชน์มากถึงมากที่สุดต่อประเทศชาติและประชาชน ฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังวิกฤตโควิด ในขณะที่ร้อยละ 17.7 ระบุมีประโยชน์ปานกลาง และร้อยละ 3.9 มีประโยชน์น้อยถึงไม่มีเลย
น่าสนใจคือ ความคิดเห็นของประชาชนต่อเบื้องหลัง ม็อบ ช่วงประชุม เอเปก พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.9 พอใจต่อ ตำรวจ ในการควบคุม การชุมนุม ช่วงประชุม เอเปก ทำดีกว่า หลายประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา และชาติยุโรปตะวันตก ยิงผู้ชุมนุมเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสหลายราย
ในขณะที่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.2 ระบุ ผู้ว่า กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ควรได้รับการตำหนิ จาก ประชาชนในการชุมนุม ช่วงประเทศไทยจัดประชุมเอเปก ที่ละเลยหน้าที่ในการควบคุมห้ามปรามม็อบ
นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.3 ระบุ การชุมนุม ช่วงประชุม เอเปก ครั้งนี้ ผิดกฎหมาย ยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ทำภาพลักษณ์ของประเทศเสียหาย เหมือนเคยเกิดขึ้นในพัทยา เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ในขณะที่ ร้อยละ 94.2 เชื่อว่า มีกลุ่มการเมือง พรรคการเมืองไทย อยู่เบื้องหลัง เหตุรุนแรง ในภาคใต้ ท้าทายอำนาจรัฐ ช่วงประเทศไทยจัดประชุม เอเปก ร้อยละ 93.8 เชื่อว่า มีกลุ่มการเมือง พรรคการเมืองไทย อยู่เบื้องหลัง ม็อบ ช่วงประชุม เอเปก และร้อยละ 93.4 ระบุ การชุมนุม ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนทั่วไป
ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.3 พอใจมากถึงมากที่สุด ต่อ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในการเปิดประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ และจัดประชุมเอเปก เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ในขณะที่ ร้อยละ 9.3 พอใจปานกลาง และร้อยละ 5.4 พอใจน้อยถึงไม่พอใจเลย
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่า การประชุม APEC เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน สามารถฟื้นความเชื่อมั่นและเป็นโอกาสในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด ที่ทุกคนได้รับผลกระทบต่อความยากลำบากต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ การจัดประชุมเอเปกจึงเป็นสัญญาณที่ดีต่อการฟื้นฟูความเชื่อมั่นและการนำเสนอภาพลักษณ์และศักยภาพความพร้อมของประเทศ แต่มีความกังวลทุกครั้งเมื่อประเทศไทยร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่ จากภาพจำในอดีตที่มีการล้มประชุมที่พัทยา
“การประชุมเอเปกครั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่พอใจการทำงานของตำรวจ ที่สามารถจัดการดูแลภาพรวมความมั่นคงปลอดภัยได้เรียบร้อย โดยเฉพาะการควบคุมม็อบที่เกิดขึ้น และตำหนิ กทม.โดยเฉพาะ ผู้ว่า กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ละเลยความรับผิดชอบดูแลควบคุมการชุมนุมของม็อบ จนดูเหมือนการให้ท้าย ให้เกิดการทำผิดกฎหมายและสร้างความเสียหายต่อประเทศชาติและสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนทั่วไป” ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังเชื่อด้วยว่า มีกลุ่มการเมือง มีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังสร้างเหตุรุนแรงในภาคใต้ ท้าทายอำนาจรัฐ สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ขณะเดียวกันก็เชื่ออีกว่า มีกลุ่มการเมืองมีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง ม็อบในกรุงเทพมหานครช่วงประชุมเอเปก สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติและทำให้ประชาชนทั่วไปเดือดร้อน ในทางตรงกันข้าม ประชาชนส่วนใหญ่กลับพอใจรัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการเปิดประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจและร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปกผ่านพ้นไปด้วยดี
https://www.naewna.com/politic/694480
โพลไม่ขัดความรู้สึกประชาชนทั่วไป
เป็นความจริงที่คนไม่เอาม็อบป่วนเอเปก ม็อบทำลายชาติ
ชัชชาติรู้ว่าม็อบเอาไม่อยู่ต้องเกิดเรื่องแน่ แต่ยังอนุญาตม็อบ ชัชชาติเป็นคนที่ไม่เอาไหน ไม่รับผิดชอบ จะเอาหน้าม็อบ แต่ผลักภาระให้รัฐบาล คนเขาเห็นลิ้นไก่ เอาแต่พูดแก้ตัว พูดเอาแต่ได้ พูดเท่ๆเป็นติ๊บไต อยู่กทม.ไม่ทันไร ไม่ทันครบปีความเสื่อมมาเร็วเกินคาด
ส่วนลุงตู่และรัฐบาล ผลงานเอเปก ทำให้ประชาชนเห็นใจในความมุ่งมั่นทำงานเพื่อชาติและประชาชน ได้คะแนนบวกไปเลยค่ะ
คนทำดีย่อมได้ดี คำนี้ยังเป็นจริงพิสูจน์ได้
❤️มาลาริน❤️โพลเปิดผลงานแกนนำรัฐบาล ‘ม็อบป่วนเอเปค’ปลุกปชช.หนุน‘บิ๊กตู่’/ผลโพล97.2% ตำหนิ‘ชัชชาติ’ปล่อยม็อบป่วนเอเปก
27 พฤศจิกายน 2565 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง “แกนนำรัฐบาล กับ ผลงานที่พอใจ” กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่านกระบวนการวิจัยเชิงทดลอง(Experimental Survey) เพื่อลดความคลาดเคลื่อนแก้ปัญหาแหล่งความคลาดเคลื่อนจากผู้ถามผู้ตอบและเครื่องมือวัด จำนวน 2,008 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 24-26 พฤศจิกายน 2565 มีค่าความคลาดเคลื่อนจากการกำหนดขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95 พบแกนนำรัฐบาล กับ ผลงานที่พอใจด้านต่าง ๆ
ที่น่าสนใจคือ ด้านแก้ขัดแย้งของคนในชาติ ไม่สูญเสีย ไม่มีการเผาบ้านเผาเมืองเหมือนในอดีต ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร้อยละ 85.0 , ด้านทำตามที่พูด นโยบายกัญชา ช่วยชาวบ้านคนตัวเล็กตัวน้อย ฐานรากสังคม ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 79.0 , ด้านที่โดดเด่น ช่วยเหลือบุคลากรการแพทย์ อสม. แก้วิกฤตโควิด จัดการวัคซีน ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 72.6 , ด้านช่วยเหลือเกษตรกร ประกันรายได้ พืชเศรษฐกิจ ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ยางพารา และปาล์ม ได้แก่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 72.3 , ด้านมุมานะ อดทน ดูแลประชาชน ช่วงฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตชาติ ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 63.7
ด้านแกนนำรัฐบาลเด่น เจรจาเศรษฐกิจสากลกับนานาประเทศ ช่วงประชุมเอเปค ได้แก่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ร้อยละ 62.8 , ด้านจุดยืนมั่นคง จงรักภักดี ปกป้องเสาหลักของชาติ ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 55.1 และด้านผลงานภาพจำ ช่วยที่ดินทำกิน แก้หนี้นอกระบบ บริหารจัดการน้ำ ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 44.1 ตามลำดับ
ที่น่าพิจารณาคือ จุดยืนทางการเมืองของประชาชน พบว่า เกินครึ่งหรือร้อยละ 54.7 สนับสนุนรัฐบาล มากกว่า ไม่สนับสนุนรัฐบาลร้อยละ 13.2 และกลุ่มพลังเงียบ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ร้อยละ 32.1 เหตุผลที่ ฐานสนับสนุนรัฐบาล มากกว่า ไม่สนับสนุน เป็นผลพวงจาก การก่อม็อบช่วงประเทศไทยจัดประชุมเอเปค และเหตุรุนแรงในภาคใต้ ที่ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่า มีกลุ่มการเมือง พรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง และผลงานรัฐบาลที่พอใจของประชาชน
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า แกนนำรัฐบาลกับผลงานที่พอใจ เป็นผลโพลที่สะท้อนให้เห็นอีกมุมหนึ่งของคนทำงานช่วงฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตชาติช่วงโควิดที่ระบาดทั่วโลกให้คนไทยทั้งประเทศได้เห็นถึงเสียงของประชาชนที่พอใจต่อแกนนำรัฐบาลเป็นรายบุคคล หนุนเสริมคนที่ทำงานเด่นสุดในด้านต่าง ๆ เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดดเด่นมากที่สุดแก้ขัดแย้งของคนในชาติไม่ให้เกิดการสูญเสียแตกต่างจากช่วงประมาณสิบปีที่แล้วที่กลุ่มการเมือง พรรคการเมืองหัวหน้าเดียวกันเคยก่อการทั้งที่กรุงเทพมหานคร ห้างสรรพสินค้าถูกเผา และการล้มการประชุมนานาชาติที่พัทยา รวมถึงการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นภาพเหตุการณ์ที่ประชาชนไม่ต้องการ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กล่าวต่อว่า ผลงานที่ประชาชนพอใจและแกนนำรัฐบาลที่โดดเด่นที่สุด ด้านอื่น ๆ เช่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีจุดยืนมั่นคง จงรักภักดีปกป้องเสาหลักของชาติที่โดดเด่นสุด การทำตามที่พูด นโยบายกัญชา ช่วยชาวบ้านคนตัวเล็กตัวน้อย ฐานรากสังคมได้ปลอดภัย นำมาทำวิจัยเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพทางการแพทย์ได้ไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ และอาจจะถูกเรียกรับสินบนเงินใต้ดิน และยังโดดเด่นสุด ช่วยเหลือบุคลากรการแพทย์ กลุ่ม อสม. แก้วิกฤตโควิด จัดการวัคซีน
ในขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ช่วยเหลือเกษตรกร ประกันรายได้ และเป็นแกนนำรัฐบาลเด่นเจรจาเศรษฐกิจการค้ากับนานาประเทศช่วงประชุมเอเปค ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เด่นสุดแก้ปัญหาที่ดินทำกิน หนี้นอกระบบและบริหารจัดการน้ำ
“อารมณ์ความรู้สึกของประชาชนที่เห็นได้ชัดเจนคือการสนับสนุนรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นเพราะความเชื่อว่ากลุ่มการเมืองและพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังการก่อม็อบและเหตุรุนแรงที่ภาคใต้ช่วงประชุมเอเปคในประเทศไทย สร้างความวุ่นวายและก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงในหมู่ประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นปัจจัยสำคัญทำให้กระแสเหวี่ยงมาสนับสนุนรัฐบาลและนึกถึงแกนนำรัฐบาลที่มีความโดดเด่นแต่ละด้าน เพราะคนไทยส่วนใหญ่รักความสงบเรียบร้อยไม่ต้องการเหนื่อยกับความวุ่นวายของบ้านเมืองที่อาจเกิดเหตุลุกลามบานปลายเพิ่มจากที่ต้องเหนื่อยกับการทำมาหากินและปัญหาที่พบประจำวันของประชาชน” ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว
https://www.naewna.com/politic/694643
เอาแล้ว!ผลโพล97.2%ตำหนิ‘ชัชชาติ’ปล่อยม็อบป่วนเอเปก 97.9%พอใจต่อตำรวจ
วันเสาร์ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 10.50 น.
26 พฤศจิกายน 2565 นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง เบื้องหลังม็อบ ช่วงประชุม เอเปก กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่านกระบวนการวิจัยเชิงทดลอง(Experimental Survey) เพื่อลดความคลาดเคลื่อนแก้ปัญหาแหล่งความคลาดเคลื่อนจากผู้ถามผู้ตอบและเครื่องมือวัด จำนวน 1,448 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 23 - 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากการกำหนดขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95
เมื่อถามถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดประชุมเอเปก พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 78.4 ระบุมีประโยชน์มากถึงมากที่สุดต่อประเทศชาติและประชาชน ฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังวิกฤตโควิด ในขณะที่ร้อยละ 17.7 ระบุมีประโยชน์ปานกลาง และร้อยละ 3.9 มีประโยชน์น้อยถึงไม่มีเลย
น่าสนใจคือ ความคิดเห็นของประชาชนต่อเบื้องหลัง ม็อบ ช่วงประชุม เอเปก พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.9 พอใจต่อ ตำรวจ ในการควบคุม การชุมนุม ช่วงประชุม เอเปก ทำดีกว่า หลายประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา และชาติยุโรปตะวันตก ยิงผู้ชุมนุมเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสหลายราย
ในขณะที่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.2 ระบุ ผู้ว่า กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ควรได้รับการตำหนิ จาก ประชาชนในการชุมนุม ช่วงประเทศไทยจัดประชุมเอเปก ที่ละเลยหน้าที่ในการควบคุมห้ามปรามม็อบ
นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.3 ระบุ การชุมนุม ช่วงประชุม เอเปก ครั้งนี้ ผิดกฎหมาย ยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ทำภาพลักษณ์ของประเทศเสียหาย เหมือนเคยเกิดขึ้นในพัทยา เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ในขณะที่ ร้อยละ 94.2 เชื่อว่า มีกลุ่มการเมือง พรรคการเมืองไทย อยู่เบื้องหลัง เหตุรุนแรง ในภาคใต้ ท้าทายอำนาจรัฐ ช่วงประเทศไทยจัดประชุม เอเปก ร้อยละ 93.8 เชื่อว่า มีกลุ่มการเมือง พรรคการเมืองไทย อยู่เบื้องหลัง ม็อบ ช่วงประชุม เอเปก และร้อยละ 93.4 ระบุ การชุมนุม ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนทั่วไป
ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.3 พอใจมากถึงมากที่สุด ต่อ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในการเปิดประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ และจัดประชุมเอเปก เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ในขณะที่ ร้อยละ 9.3 พอใจปานกลาง และร้อยละ 5.4 พอใจน้อยถึงไม่พอใจเลย
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่า การประชุม APEC เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน สามารถฟื้นความเชื่อมั่นและเป็นโอกาสในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด ที่ทุกคนได้รับผลกระทบต่อความยากลำบากต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ การจัดประชุมเอเปกจึงเป็นสัญญาณที่ดีต่อการฟื้นฟูความเชื่อมั่นและการนำเสนอภาพลักษณ์และศักยภาพความพร้อมของประเทศ แต่มีความกังวลทุกครั้งเมื่อประเทศไทยร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่ จากภาพจำในอดีตที่มีการล้มประชุมที่พัทยา
“การประชุมเอเปกครั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่พอใจการทำงานของตำรวจ ที่สามารถจัดการดูแลภาพรวมความมั่นคงปลอดภัยได้เรียบร้อย โดยเฉพาะการควบคุมม็อบที่เกิดขึ้น และตำหนิ กทม.โดยเฉพาะ ผู้ว่า กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ละเลยความรับผิดชอบดูแลควบคุมการชุมนุมของม็อบ จนดูเหมือนการให้ท้าย ให้เกิดการทำผิดกฎหมายและสร้างความเสียหายต่อประเทศชาติและสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนทั่วไป” ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังเชื่อด้วยว่า มีกลุ่มการเมือง มีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังสร้างเหตุรุนแรงในภาคใต้ ท้าทายอำนาจรัฐ สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ขณะเดียวกันก็เชื่ออีกว่า มีกลุ่มการเมืองมีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง ม็อบในกรุงเทพมหานครช่วงประชุมเอเปก สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติและทำให้ประชาชนทั่วไปเดือดร้อน ในทางตรงกันข้าม ประชาชนส่วนใหญ่กลับพอใจรัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการเปิดประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจและร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปกผ่านพ้นไปด้วยดี
https://www.naewna.com/politic/694480
โพลไม่ขัดความรู้สึกประชาชนทั่วไป
เป็นความจริงที่คนไม่เอาม็อบป่วนเอเปก ม็อบทำลายชาติ
ชัชชาติรู้ว่าม็อบเอาไม่อยู่ต้องเกิดเรื่องแน่ แต่ยังอนุญาตม็อบ ชัชชาติเป็นคนที่ไม่เอาไหน ไม่รับผิดชอบ จะเอาหน้าม็อบ แต่ผลักภาระให้รัฐบาล คนเขาเห็นลิ้นไก่ เอาแต่พูดแก้ตัว พูดเอาแต่ได้ พูดเท่ๆเป็นติ๊บไต อยู่กทม.ไม่ทันไร ไม่ทันครบปีความเสื่อมมาเร็วเกินคาด
ส่วนลุงตู่และรัฐบาล ผลงานเอเปก ทำให้ประชาชนเห็นใจในความมุ่งมั่นทำงานเพื่อชาติและประชาชน ได้คะแนนบวกไปเลยค่ะ
คนทำดีย่อมได้ดี คำนี้ยังเป็นจริงพิสูจน์ได้