เรื่องตบที่เป็นข่าวในตอนนี้ ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นกับดารารุ่นใหญ่คนนี้ แต่เคยเกิดมาแล้วเมื่อ 25 ปีที่ผ่านมา โดยผมเป็นฝ่ายถูกกระทำ…จริงๆว่าจะไม่พูดแล้ว เพราะมันผ่านมานานมากทีกับเหตุการณ์นั้น แต่พอวันนี้ได้ติดตามข่าว เลยต้องออกมาพูดบ้างเพื่อให้คนได้รู้ว่าดาราท่านนี้มีพฤติกรรมชอบตบ แต่ครั้งนั้นเธอ ตบเคาน์เตอร์ขายนาฬิกา
…..ประมาณปี 2540 ผมเป็นเด็กบ้านนอกที่พี่ชายพามาเรียนมหาวิทยาลัยเปิดด้วยฐานะทางบ้านที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเรียนมหาวิทยาลัยปิดที่ต้องสอบเอนทรานซ์ เลยตัดสินใจเลือกมาทำงานและเรียนไปด้วย
…..เข้าเรื่องเลยดีกว่า ผมทำงานอยู่ที่โชว์รูมนาฬิกาสวิสยี่ห้อดังที่ห้างเก่าแก่ ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของห้างสรรพสินค้าและจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า มีลูกค้าทั้งคนทั่วไป รวมถึงดาราศิลปินอีกมากมายที่เป็นลูกค้าของร้าน รวมถึงดารารุ่นใหญ่ท่านนี้
…….วันหนึ่ง ดาราท่านนี้มากับเพื่อน เอานาฬิกามาซ่อม วันส่งซ่อมดาราท่านนี้ก็ทำตัวน่ารักยิ้มแย้ม อัธยาศัยดี ไม่มีอะไร แต่สิ่งที่ทำให้ผมฝังใจคือ วันที่เธอมารับนาฬิกา
…..หลังจากที่ซ่อมเสร็จเรียบร้อย ร้านก็จะโทรนัดให้ลูกค้ามารับนาฬิกาคืน แล้วดาราท่านนี้ก็มารับคืนพร้อมเพื่อนเหมือนวันแรก ตรวจเช็คความเรียบร้อยเสร็จ ถึงขั้นตอนชำระเงิน ที่นี้นโยบายของร้านคือ ขอรับชำระเป็นเงินสด เพราะบัตรเครดิตร้านต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้ทางธนาคารเพิ่มอีกประมาณ 2.5-3% (ในยุคนั้น) จึงไม่สะดวก ดาราท่านนี้ก็ยืนกรานที่จะชำระด้วยบัตรเครดิตท่าเดียว และเป็นบัตรที่ค่าธรรมเนียมมหาโหด ผมก็ขอร้องให้จ่ายด้วยเงินสด ด้วยเราเป็นเด็กบ้านนอกที่เพิ่งเข้ามาเรียนรู้ชีวิตเมืองกรุง ยังใหม่ ยังอ่อนต่อโลกก็ว่าได้ จึงขอร้องให้ดาราท่านนี้จ่ายด้วยเงินสด แต่เธอไม่ยอม ดึงดันจะจ่ายด้วยบัตร ผมก็ไม่ยอมเพราะกลัวเจ้านายตำหนิ
…….แล้วดาราท่านนี้ก็โมโหขั้นสุด เธอใช้มือตบลงไปที่เคาน์เตอร์โชว์นาฬิกาดัง ปังงงงงง สีหน้าฉุนเฉียว แล้วโวยวายขึ้นมาว่า โอ๊ยยยย เรื่องมาก!!!! จนเพื่อนของนางหันมามองด้วยอาการตกใจ ตอนนั้น ผมยืนสั่นด้วยความตกใจและกลัว จนทำอะไรไม่ถูก
…….โชคดีพี่ที่ร่วมงานเข้ามา ช่วยแก้ไขสถานการณ์ และบอกว่าผมเพิ่งมาทำงาน ต้องขอโทษแทน จนเธอลดความโกรธลงและก็ยอมจ่ายด้วยเงินสดแต่โดยดี….
…….ครั้งนั้นเป็นอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกแย่มาก เด็กบ้านนอกต้องมาเจออะไรแบบนี้ ทำไมดาราถึงทำกับเราขนาดนี้ ฯลฯ สาระพัดคำถามผุดขึ้นมา ผมกลัวมากวันนั้น แต่ถ้าเทียบกับดาราท่านอื่นที่มาใช้บริการ ทุกคนน่ารัก ยิ้มแย้ม บางคนแวะเข้ามาทักทายบ่อยๆ บางคนยกมือไหว้ บางคนยิ้มแทบละลาย แต่ไม่ใช่ดาราที่กำลังพูดถึง….
เรื่องดาราท่านหนึ่งชอบตบ ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก
…..ประมาณปี 2540 ผมเป็นเด็กบ้านนอกที่พี่ชายพามาเรียนมหาวิทยาลัยเปิดด้วยฐานะทางบ้านที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเรียนมหาวิทยาลัยปิดที่ต้องสอบเอนทรานซ์ เลยตัดสินใจเลือกมาทำงานและเรียนไปด้วย
…..เข้าเรื่องเลยดีกว่า ผมทำงานอยู่ที่โชว์รูมนาฬิกาสวิสยี่ห้อดังที่ห้างเก่าแก่ ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของห้างสรรพสินค้าและจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า มีลูกค้าทั้งคนทั่วไป รวมถึงดาราศิลปินอีกมากมายที่เป็นลูกค้าของร้าน รวมถึงดารารุ่นใหญ่ท่านนี้
…….วันหนึ่ง ดาราท่านนี้มากับเพื่อน เอานาฬิกามาซ่อม วันส่งซ่อมดาราท่านนี้ก็ทำตัวน่ารักยิ้มแย้ม อัธยาศัยดี ไม่มีอะไร แต่สิ่งที่ทำให้ผมฝังใจคือ วันที่เธอมารับนาฬิกา
…..หลังจากที่ซ่อมเสร็จเรียบร้อย ร้านก็จะโทรนัดให้ลูกค้ามารับนาฬิกาคืน แล้วดาราท่านนี้ก็มารับคืนพร้อมเพื่อนเหมือนวันแรก ตรวจเช็คความเรียบร้อยเสร็จ ถึงขั้นตอนชำระเงิน ที่นี้นโยบายของร้านคือ ขอรับชำระเป็นเงินสด เพราะบัตรเครดิตร้านต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้ทางธนาคารเพิ่มอีกประมาณ 2.5-3% (ในยุคนั้น) จึงไม่สะดวก ดาราท่านนี้ก็ยืนกรานที่จะชำระด้วยบัตรเครดิตท่าเดียว และเป็นบัตรที่ค่าธรรมเนียมมหาโหด ผมก็ขอร้องให้จ่ายด้วยเงินสด ด้วยเราเป็นเด็กบ้านนอกที่เพิ่งเข้ามาเรียนรู้ชีวิตเมืองกรุง ยังใหม่ ยังอ่อนต่อโลกก็ว่าได้ จึงขอร้องให้ดาราท่านนี้จ่ายด้วยเงินสด แต่เธอไม่ยอม ดึงดันจะจ่ายด้วยบัตร ผมก็ไม่ยอมเพราะกลัวเจ้านายตำหนิ
…….แล้วดาราท่านนี้ก็โมโหขั้นสุด เธอใช้มือตบลงไปที่เคาน์เตอร์โชว์นาฬิกาดัง ปังงงงงง สีหน้าฉุนเฉียว แล้วโวยวายขึ้นมาว่า โอ๊ยยยย เรื่องมาก!!!! จนเพื่อนของนางหันมามองด้วยอาการตกใจ ตอนนั้น ผมยืนสั่นด้วยความตกใจและกลัว จนทำอะไรไม่ถูก
…….โชคดีพี่ที่ร่วมงานเข้ามา ช่วยแก้ไขสถานการณ์ และบอกว่าผมเพิ่งมาทำงาน ต้องขอโทษแทน จนเธอลดความโกรธลงและก็ยอมจ่ายด้วยเงินสดแต่โดยดี….
…….ครั้งนั้นเป็นอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกแย่มาก เด็กบ้านนอกต้องมาเจออะไรแบบนี้ ทำไมดาราถึงทำกับเราขนาดนี้ ฯลฯ สาระพัดคำถามผุดขึ้นมา ผมกลัวมากวันนั้น แต่ถ้าเทียบกับดาราท่านอื่นที่มาใช้บริการ ทุกคนน่ารัก ยิ้มแย้ม บางคนแวะเข้ามาทักทายบ่อยๆ บางคนยกมือไหว้ บางคนยิ้มแทบละลาย แต่ไม่ใช่ดาราที่กำลังพูดถึง….