หลังจากรับราชการมาสิบเอ็ดปีก็อยากจะแชร์ประสบการณ์ ไว้ให้กับคนรุ่นใหม่ที่อยากรับราชการหน่อย
ข้อดีของการรับราชการคือรักษาพยาบาลฟรี รวมถึงพ่อแม่ เบิกค่าเล่าเรียนได้บางส่วน
ยาที่ผมทานอยู่ก็เบิกฟรีเป็นยานอกบัญชี ถ้าไม่มีสิทธิก็ค่ายาน่าจะร่วมสองพันต่อเดือน
งานก็มั่นคงพูดถึงตัวงานนะไม่ได้โดนไล่ออกง่าย ๆ บางคนไม่ได้ทำอะไรทำตัวเหมือนบรุษไปรษณีย์
ส่งผ่านข้อความอย่างเดียวไม่ต้องคิดหรือแก้ไขอะไรก็อยู่ได้ อาศัยทำไม่ได้ไว้ก่อน
ทีนี้ผมจะเล่าปัญหาเป็นข้อ ๆ ไปเพื่อให้มองเห็นภาพ
- ตัวองค์กรไม่มีเป้าหมาย ที่มีคือเป้าหลอก ๆ ที่ทำกันทุกปี วัดผลกันแบบไปเรื่อย ไม่ได้มีผลิตผลอะไรต่อสังคมจริง ๆ จัง
- ตัวคนในองค์กรไม่แก้ไขปัญหา สิ่งที่ทำคือให้คนที่ตำแหน่งสูงกว่าแก้ไข ตัวเองไม่เคยคิดด้วยตัวเองว่าจะแก้อย่างไร
ตรงนี้เป็นปัญหามาก คนด้านบนไม่มีความรู้ปัญหาดีเท่าผู้ปฏิบัติ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทุกองค์กรอยู่แล้ว
แต่วัฒนธรรมที่ต้องให้นายสั่งทำให้องค์กรไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร ปัญหาบางอย่างมีมาเป็นสิบ ๆ ปี
แต่ถ้าไม่พูดถึงก็ไม่มีปัญหา รอวันฝีแตกแล้วแก้ตัวกันอย่างเดียว
- การขาดความรู้ในงานที่ทำ การโยกย้ายคือจุดหลัก ทำให้คนที่ทำงานในตำแหน่งขาดความรู้
จุดนี้ทำให้งานไม่พัฒนาเท่าที่ควร โดยปกติก็ไม่ได้คิดจะหาความรู้อยู่แล้ว พอมีการย้ายอีกยิ่งไปใหญ่
- การขาดความรู้ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น การตีความกฎหมายอาญาอย่างขยายซึ่งผิดหลักกฎหมาย
- คนไม่ได้มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาสังคม หรือทำงานให้ดีจริง ๆ จัง ๆ แค่อยากทำงานเช้าชามเย็นชามไปวัน ๆ
- การพัฒนาระบบซอร์ฟแวร์นิยมจ้างคนนอก ซึ่งขาดความรู้ความเข้าใจทั้งในงานที่ทำและบางทีในเรื่องเกี่ยวกับ cybersecurity ด้วย
เป็นเหตุผลที่ให้ข้อมูลฝ่ายรัฐหลุดออกไปทั่วโลกอยู่เป็นประจำ
- เมื่อเกิดปัญหาไม่เคยคิดว่าจะแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมอย่างไร detect กอนปัญหาจะเกิดอย่างไร
เลยเสียเวลากับการแก้ไขปัญหาซ้ำ ๆ
- เวลาที่คุณแก้ปัญหา หาความรู้แบบจริง ๆ จัง ๆ แล้วพบว่าผิดไปจากแนวปฏิบัติที่เคยทำ คุณคือปัญหานะ
ปกติเค้ามั่วกันมาโดยไม่มองว่าเป็นปัญหา
- เสียทรัพยากรไปกับการโชว์ ซึ่งไม่ได้มีประโยชน์ในระยะยาวจริง ๆ
โดยสรุปแล้วปัญหาในระบบราชการพูดข้ามวันข้ามคืนก็ไม่หมด ใครอยากเข้ามาก็คิดให้ดี ถ้าคุณเข้ามาด้วย
ความคิดที่อยากพัฒนาแก้ไข คุณเจอแต่ปัญหาแน่ ๆ ทั้งระบบ ทั้งคน ทำไปแบบไม่มีความหวังว่ามันจะดีขึ้นไหม
แลกมาด้วยสิทธินิด ๆ หน่อยก็ลองมองว่ามันคุ้มมั้ย
อยากให้คิดดี ๆ ก่อนรับราชการ
ข้อดีของการรับราชการคือรักษาพยาบาลฟรี รวมถึงพ่อแม่ เบิกค่าเล่าเรียนได้บางส่วน
ยาที่ผมทานอยู่ก็เบิกฟรีเป็นยานอกบัญชี ถ้าไม่มีสิทธิก็ค่ายาน่าจะร่วมสองพันต่อเดือน
งานก็มั่นคงพูดถึงตัวงานนะไม่ได้โดนไล่ออกง่าย ๆ บางคนไม่ได้ทำอะไรทำตัวเหมือนบรุษไปรษณีย์
ส่งผ่านข้อความอย่างเดียวไม่ต้องคิดหรือแก้ไขอะไรก็อยู่ได้ อาศัยทำไม่ได้ไว้ก่อน
ทีนี้ผมจะเล่าปัญหาเป็นข้อ ๆ ไปเพื่อให้มองเห็นภาพ
- ตัวองค์กรไม่มีเป้าหมาย ที่มีคือเป้าหลอก ๆ ที่ทำกันทุกปี วัดผลกันแบบไปเรื่อย ไม่ได้มีผลิตผลอะไรต่อสังคมจริง ๆ จัง
- ตัวคนในองค์กรไม่แก้ไขปัญหา สิ่งที่ทำคือให้คนที่ตำแหน่งสูงกว่าแก้ไข ตัวเองไม่เคยคิดด้วยตัวเองว่าจะแก้อย่างไร
ตรงนี้เป็นปัญหามาก คนด้านบนไม่มีความรู้ปัญหาดีเท่าผู้ปฏิบัติ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทุกองค์กรอยู่แล้ว
แต่วัฒนธรรมที่ต้องให้นายสั่งทำให้องค์กรไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร ปัญหาบางอย่างมีมาเป็นสิบ ๆ ปี
แต่ถ้าไม่พูดถึงก็ไม่มีปัญหา รอวันฝีแตกแล้วแก้ตัวกันอย่างเดียว
- การขาดความรู้ในงานที่ทำ การโยกย้ายคือจุดหลัก ทำให้คนที่ทำงานในตำแหน่งขาดความรู้
จุดนี้ทำให้งานไม่พัฒนาเท่าที่ควร โดยปกติก็ไม่ได้คิดจะหาความรู้อยู่แล้ว พอมีการย้ายอีกยิ่งไปใหญ่
- การขาดความรู้ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น การตีความกฎหมายอาญาอย่างขยายซึ่งผิดหลักกฎหมาย
- คนไม่ได้มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาสังคม หรือทำงานให้ดีจริง ๆ จัง ๆ แค่อยากทำงานเช้าชามเย็นชามไปวัน ๆ
- การพัฒนาระบบซอร์ฟแวร์นิยมจ้างคนนอก ซึ่งขาดความรู้ความเข้าใจทั้งในงานที่ทำและบางทีในเรื่องเกี่ยวกับ cybersecurity ด้วย
เป็นเหตุผลที่ให้ข้อมูลฝ่ายรัฐหลุดออกไปทั่วโลกอยู่เป็นประจำ
- เมื่อเกิดปัญหาไม่เคยคิดว่าจะแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมอย่างไร detect กอนปัญหาจะเกิดอย่างไร
เลยเสียเวลากับการแก้ไขปัญหาซ้ำ ๆ
- เวลาที่คุณแก้ปัญหา หาความรู้แบบจริง ๆ จัง ๆ แล้วพบว่าผิดไปจากแนวปฏิบัติที่เคยทำ คุณคือปัญหานะ
ปกติเค้ามั่วกันมาโดยไม่มองว่าเป็นปัญหา
- เสียทรัพยากรไปกับการโชว์ ซึ่งไม่ได้มีประโยชน์ในระยะยาวจริง ๆ
โดยสรุปแล้วปัญหาในระบบราชการพูดข้ามวันข้ามคืนก็ไม่หมด ใครอยากเข้ามาก็คิดให้ดี ถ้าคุณเข้ามาด้วย
ความคิดที่อยากพัฒนาแก้ไข คุณเจอแต่ปัญหาแน่ ๆ ทั้งระบบ ทั้งคน ทำไปแบบไม่มีความหวังว่ามันจะดีขึ้นไหม
แลกมาด้วยสิทธินิด ๆ หน่อยก็ลองมองว่ามันคุ้มมั้ย