ดูแล้วมาพูดคุยกัน The Cheese Sister [!!! อาจมีสปอยล์ !!!]

รีวิว 
อบอุ่น รอยยิ้ม คราบน้ำตา เป็นสิ่งที่ผมจะให้ไว้กับหนังเรื่องนี้ 
ตอนแรกคิดว่าเป็นหนังที่เล่นกับมู้ดดราม่า แล้วจะมีช่วงน่าเบื่อ 
แต่ไม่เลย หนังพาเราไปตามเนื้อเรื่องของมัน และช่วงเปลี่ยนผ่าน ก็ไม่ทำให้รู้สึกติดขัด ภาพและซาวด์ประกอบ 
น่าจะเป็นจุดเด่นอีกอย่างของหนังเรื่องนี้ 
และ ost ก็ขึ้นได้ถูกช่วงมาก ยิ่งทำให้เพลงนั้นๆยิ่งเพราะขึ้นไปอีก จากที่เราว่าเพราะอยู่แล้ว 

สุดท้ายไม่รู้จะนับเป็นข้อเสียไหม  แต่ขอแซวหน่อยเถอะ
สรุปนี่คือ documentary ทำชีสสินะ 555 
ปรางคือ MVP ของเรื่องนี้เลย (ปราง แชมป์ซิ่งร้อยหลา ) 
Easter egg เพียบ จุใจแฟนคลับแน่นอน 
[ปล ไม่ใช่นักรีวิว หรือวิจารณ์หนังนะครับ
แค่แฟนคลับ BNK48&CGM48 คนหนึ่ง 
ที่ชอบดูหนังดูเท่านั้น ]

จบรีวิวแค่นี้ ที่เหลือมีส่วนสปอย์แล้วนะครับ 
ใครยังไม่ได้ดู หรือไม่อยากรู้ ข้ามไปก่อน 
ใครที่ดูแล้ว อยากพูดคุย มาลุยกัน 

-----------------------------------------------------------------

Daily Farmer 
เป็นพาร์ทแห่งมิตรภาพ ดูไม่ออกเลยว่าจริงๆแล้ว
สองคนนี้สถานะไหนกันแน่ แต่รู้แค่ว่าความ
รู้สึกที่ทั้งสองคนมีให้กัน มันคือความรู้สึกที่ดีแน่นอน 
มีช่วงที่ทำให้รู้สึกกดดัน และแอบหนักใจแทนตัวละคร ในเรื่อง
และผู้ใหญ่ในเรื่องนี้ ก็ผู้ใหญ่ๆๆจริง (ไอ้ลุงสองคนนั้นก็พูดซะดังเชียว สมจริงดี 555) 
[เปิดตัวละครลับตัวที่ 1 ที่แย่งซีนได้ดีและตัวเชื่อมMVP ประจำเรื่องที่โผล่มาให้เรา เฮ้ย ในช็อตแรก ] 

อีกอย่างคือเป็นบุญหูมากที่ได้เห็นนน.พูดเหนือ คนทุกภาคจริงๆเธอ 
เพลง" ข้างๆ " เพิ่มดาเมจ 300% เมื่อมาอยู่ในพาร์ทนี้ 
ก็สมกับเป็นเพลง OST ประจำตอนละนะ  //น้องวัวน่ารัก 🐮

Cheese Maker
จริงๆ ก็มองว่าพาร์ทเรื่องนี้แอบใส่ บริบทการเมือง 
และการใช้ชีวิตของคนในสังคมลงไปด้วย  
เราอาจจะมองว่าสิ่งที่ไอรินทำ ดูแย่ และไร้ความผิดชอบ
แต่เชื่อว่าสักครั้งในชีวิต เราคงต้องมีความรู้สึก 
หรือตัดสินใจแบบไอรินสักครั้งแน่นอน

ไม่แน่ใจว่าในเรื่องผ่านไปนานแค่ไหน ทำให้คนอาจจะข้องใจในความสัมพันธ์ของทั้งสองคนว่าทำไมสนิทกันไวจัง 
แต่พอมาคิดถึงคาแรคเตอร์คนอย่างนาว +บวกกันที่ไอรินเหมือนมีปมในใจอยู่แล้ว 
ก็เลยพอทำให้เข้าใจได้ [ครอบครัวนาว น่ารักมาก ]

ตอนจบมีแอบให้ดาวน์นิดๆ
+ แอบลุ้นหน่อย (ถึงจะโดน Ost สปอยล์มาแล้วก็ตาม แต่ก็ยังแอบลุ้น ) 
และสุดท้ายทำให้เห็นความรักของคนเป็นแม่นะ
ว่าแค่อยากเห็นลูกมีความสุข แค่นั้นจริงๆ 
ฉากสุดท้ายคือ " ยิ้มอย่างกว้าง " 
และคำพูดโดนใจของตัวละคร MVP ประจำเรื่องนี้สำหรับผม 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

อันนี้แอบถามหน่อยสิครับ 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

Deliver 
" จริงๆตอนนั้น มันก็ดีนะ " 
คงเป็นคำนิยาม ประจำตอนนี้สำหรับผม 
เราคงเคยมีความสัมพันธ์แบบนี้ สักช่วงในชีวิต 

เป็นพาร์ทที่ทำให้เรารู้สึกกดดันที่สุดแล้วมั้งจากทั้งสี่พาร์ทนี้ 
แม้เราจะพอเดาตอนจบได้ แต่ก็ยังแอบหวังให้ตัวเองเดาผิด 
ความรู้สึกของปรางต่อมิวน่าจะชัดเจนอยู่แล้ว 
แต่ของมิว เป็นสิ่งที่ผมยังตีความไม่ออกเลย 
ซีนสุดท้ายที่ชานลา เป็นซีนที่บีบคั้นมาก เลยเอาน้ำตาซึมไปช่วงหนึ่ง
แต่ก็สมชื่อเพลงประกอบละนะ ถือว่าจบลงอย่างแฮปปี้แล้วละมั้ง 
(ใครบอกผม ไม่ขมนะ ) 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ฉากสมัยอดีตคืออีกหนึ่งความดีงามของพาร์ทนี้
และพาร์ทนี้ก็สมชื่อ Deliver จริงๆ

Baker
พาร์ทที่ดูไป อมยิ้มไปอีกพาร์ท และก็แอบมีมุมตลก
โบ๊ะบร๊ะ ที่ทำให้เราอดไม่ได้ที่จะเผลอยิ้มมุมปาก
เริ่มสปอย์ตั้งแต่ต้นเลยนะ
คือพี่มิ้งค์ เธอไม่รู้เหรอว่าน้องนิ้งจีบเธอ คนเขารู้กันทั้งโรงแล้ว 
(และก็คุยคนเดียวเก่งนะเธอ) 

เป็นอีกพาร์ทที่ตัวละครลับโผล่กันกระจุย กระจาย 
ซีนอารมณ์ก็ไม่ธรรมดานะ เล่นซะสงสารเจ้าเมจิเลย
สุดท้ายต้องได้ตัวละคร MVP ประจำเรื่องของผม 
มาเล่า documentary ให้ฟัง ถึงค่อยกล้าที่จะปรับความเข้าใจกันได้ 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

อ้อ มีอีกฉากหนึ่ง เล่นเอาตกใจเลย ไม่คิดว่าจะมีฉากแบบนี้ในเรื่อง 

โดยรวม happy กับทุกพาร์ท ให้รสชาติที่ไม่ซ้ำกัน
ตัวละครสมมติขึ้นก็จริง แต่ก็ทำให้เรารู้สึกคิดถึงเมมเบอร์คนนั้นๆแวบขึ้นมาบ้าง ในบางสถานะการณ์ 

ถ้าใครหวัง การชิบที่ดุเดือด จัดเต็ม เรื่องนี้อาจยังไม่ตอบโจทย์ 
แต่ผมโอเคกับแบบนี้นะ โมเม้นต์มันดูไม่ยัดเยียดดี 
ดูเพลินได้เรื่อยๆ
ในฐานะแฟนหนังทั่วไป หนังไม่ทำให้เรารู้สึกขัด (เรียลจริง )
ในฐานะแฟนคลับ BNK48 ภูมิใจกับน้องๆทุกคน และขอบคุณผกก. ที่ไม่ทำเรารู้สึกผิดหวังกับหนังเรื่องสุดท้ายในฐานะ BNK48 ของน้องๆ (บางคน) สักนิดเลย 

CHEESE/10



แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่