โค้ชหนุ่มไฟแรง "สึเนะยาสุ มิยาโมโตะ"  (Tsuneyasu Miyamoto 宮本 恒靖) วัย 45 ปี ขุนศึกสะท้านปฐพี อดีตปราการหลัง กัปตันทีมชาติญี่ปุ่น ชุดแชมป์เอเชียนคัพ ปี 2004 , ชุดฟุตบอลโลก ปี 2002 และ 2006  ผลงานระดับสโมสร คว้าแชมป์เจลีกกับทีมกัมบะ โอซาก้า ปี 2005 , คว้ารองแชมป์ บุนเดสลีกา ออสเตรีย กับทีมเร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ปี 2007 และ ได้รับรางวัล เอเอฟซี เอเชียนคัพ เบสท์ อีเลฟเว่น ปี 2004

ผลงานการคุมทีมระดับสโมสร สำเร็จการศึกษาจาก FIFA Master รุ่น ที่ 13 (2012/2013)
คุมทีมกัมบะ โอซาก้า
ปี 2018 จบลำดับ 9 
ปี 2019 จบลำดับ 7 
ปี 2020 จบลำดับ 2 ได้รับรางวัล โค้ชยอดเยี่ยมแห่งเจลีก J.League Manager of the Year : 2020
ปี 2021 จบลำดับ 13
โดนปลดจากทีมกัมบะ โอซาก้า ด้วยการทำผลงานรายการAFC Champions League 2021 ตกรอบแรก จบอันดับ 2 ของกลุ่ม แต่คะแนนไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบอันดับ 2 ที่ดีที่สุด ปัจจุบันว่างงาน

"สึเนะยาสุ มิยาโมโตะ" ทำทีมด้วยฟุตบอลสมัยใหม่ ด้วยระบบ 4-4-2 (Double six) เคาน์เตอร์ เพลสซิ่ง โดยเน้นไปที่สปีดบอลและการเคลื่อนที่ที่ต้องรวดเร็ว-แม่นยำ เปลี่ยนจังหวะทรานซิชั่นจากรับเป็นรุกอย่างรวดเร็ว 
ระบบการเล่น “4-4-2 Double six” ก่อน(เผื่อท่านผู้อ่านอาจไม่เห็นภาพ)ว่ามันก็คือระบบที่ยึดโยงการยืนตำแหน่งด้วยแผงแบ็คโฟร์พ่วงสองกองกลางตัวรับแบบที่ยืนกันหกตัวในแดนตัวเอง ซึ่งด้วยระบบนี้มันเน้นให้แพ็คแดนกลางให้แน่นและอาศัยการจู่โจมคู่แข่งด้วยปีกทั้งสองข้างหรือฟูลแบ็ค ซึ่งหากใครจะยังพอจำกันได้ในยุคทองของทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด(ช่วงปลายยุค90ของท่านเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันนั่นแหละ) แมนยูฯในยุคนั้นจัดการกำราบยอดทีมด้วยแผนนี้ทั้งนั้น  ซ้ายมีไรอัน กิ๊กส์ ขวามีแบ็คแฮม ส่วนกองกลางตัวรับก็มีทั้งนิคกี้ บัตต์และรอย คีนเป็นตัวคอยปัดกวาด ในขณะที่ตัวเข้าฮ๊อตมีทั้งดไวท์ ยอร์ค และแอนดี้ โคลคอยสอดประสานกันเข้าทำ พูดง่ายๆ “เกมรุกและรับมีครบสมบูรณ์แบบอย่างน่ากลัวเป็นไหนๆ”

ทีมชาติไทยจะสนใจหรือป่าว ปราการหลังขุนศึกสะท้านปฐพีในตำนาน กัปตันทีมชาติญี่ปุ่น โค้ชหนุ่มไฟแรง โปรไฟล์ดี ผลงานดี ทำทีมด้วยฟุตบอลสมัยใหม่อย่างแท้จริง

แก้ไขเพิ่มคลิป