จากยูโร 2012 ถึงบอลโลก 2022 เมื่อเทคโนโลยีการรับชมโทรทัศน์ไปคนละทางกับกฎหมาย

ยูโร 2012 ตอนโน้นทีวีพื้นฐานของประเทศยังเป็นอนาล็อก 6 ช่องตามกฎหมาย อะไรใดๆ ออกกฎควบคุมแค่อนาล็อก แต่คนทั่วบ้านทั่วเมืองติดดาวเทียมกันว่ากันว่า 60-70% ของหลังคาเรือนแล้ว เจ้าของลิขสิทธิ์ตอนนั้น ให้ดูทางทีวีอนาล็อกฟรีทุกคู่ ฟรีจริงๆ ไม่มีเงื่อนไขอื่น แต่ถ้าจะดูผ่านดาวเทียม ต้องใช้กล่องของเขาเท่านั้น แต่ไม่ต้องเสียค่าแพ็กเกจเพิ่มนะ กล่องอื่นจอดำทุกกรณี สู้รบกันหนักมาก สุดท้ายได้ Must Have Must Carry มา เจ้าของกล่องตอนนั้นว่ากันว่าขายกล่องได้หลักล้านกล่อง 

ฟุตบอลโลก 2022 ตอนนี้ ทีวีพื้นฐานของประเทศ กลายเป็นทีวีดิจิตอลภาคพื้น + ดาวเทียม กฎ Must Have Must Carry ครอบคลุมเท่านี้ แต่คนทั่วบ้านทั่วเมืองติดทีวีผ่านอินเตอร์เน็ตไปแล้ว จะกล่องหรือแอพก็ตามแต่ เจ้าของลิขสิทธิ์ตอนนี้ ก็ให้ดูผ่านทีวีดิจิตอลภาคพื้น + ดาวเทียม ฟรีทุกคู่จริงๆ เช่นกัน ไม่มีเงื่อนไขอื่นใดด้วย กล่องดาวเทียมทุกยี่ห้อ ทีวีทุกยี่ห้อ ดูได้หมด แต่ถ้าจะดูผ่านอินเตอร์เน็ต ต้องเอาตัวไปอยู่ในสภาพแวดล้อมของเขาเท่านั้น แต่ถ้าคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมของเขาแล้ว ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มจากที่เดิมเคยจ่ายนะ ดูได้เลยไม่ต้องซื้อแพ็กเกจเพิ่ม แต่ถ้าไม่อยู่ในสภาพแวดล้อมของเขา ก็ต้องเสียเงินเพิ่มตามสมควร ไม่รู้ว่าหลังจบบอลโลกคราวนี้จะได้กฎหมายอะไรใหม่ๆ มาอีกมั้ย (แต่เจ้าที่สู้หนักมากตอนปี 2012 มาเป็นเจ้าที่โดนโวยเสียเองเมื่อปี 2022 ก็ว่ากันไป 555+)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่