ใครที่ยังไม่เข้าใจกฎ-กติกา และรายละเอียดปลีกย่อย แนะนำให้ทำความเข้าใจก่อน เพราะรายละเอียดมันเยอะ รู้ไม่ครอบคลุม รับรองว่าเสียเปรียบแน่นอน โดยผมมีทำรายละเอียดไว้ครบถ้วน 2 แหล่ง ตามนี้เลย

>> 17 พ.ย. / How to Play ละเอียดตามที่กฎเวอร์ชันแรกเขียน : >> คลิกที่นี่ <<

>> 19 พ.ย. / คำอธิบายเพิ่มเติมแบบละเอียด เมื่อมีการเพิ่มรายละเอียดกฎอีกรอบ : >> คลิกที่นี่ <<

เมื่อเข้าใจกันถ่องแท้แล้ว (มันยิบย่อยหน่อยนะ..) EP นี้ เราจะมาพูดถึงการวางแผนสำคัญของแฟนตาซีฟุตบอลโลก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ควรย้ำเตือนห้ามลืม และการวางแผนใช้ตัวช่วย รวมถึง Transfer ซึ่งตอนนี้มีความสำคัญกว่ากลยุทธ์การ Sub หรือเปลี่ยนกัปตันไปแล้ว

(1) ทำความเข้าใจกับนักเตะ Locked และ Unlocked ให้ดี โดยเฉพาะการเปลี่ยนกัปตันทีมระหว่าง MD และการ Transfer

(2) เข้าใจขั้นตอนการใช้ตัวช่วย (Boosters) ให้ดี เพราะสำคัญมาก

(3) ถ้าจะใช้ตัวช่วยใน MD ไหน ต้องคอนเฟิร์มใช้ก่อนนัดแรกของ MD เริ่ม

(4) จำนวน Free Transfer และการจำกัดนักเตะแต่ละชาติในทีม จะแตกต่างกันในแต่ละรอบการแข่งขัน

(5) ถึงจะสามารถ Transfer แก้ตัวที่ไม่ได้ลงได้ (เปลี่ยน Unlocked กับ Unlocked) แต่การเลือกตัวที่ลงเล่นแน่นอน ยังมีความสำคัญ เพราะไม่เปลือง Transfer และกฎการคิดคะแนนเอง ก็ไม่เอื้อต่อการลงมาสำรองเท่าไหร่

(6) ไม่สามารถปรับเปลี่ยน MD ถัดไปได้ จนกว่า MD ก่อนหน้าจะสิ้นสุดการประมวลผล (ประมาณ 11.00 น. ของวันถัดมาจากคืนที่มีเกมสุดท้ายของ MD ก่อนหน้าเตะ)

(7) เมื่อเปลี่ยนกัปตันจากนักเตะ Locked ไปเป็นอีกคน จะไม่สามารถเปลี่ยนกัปตันได้อีกใน MD นั้น

(8) ด้วยกติกาที่เปิดให้ดำเนินการระหว่าง MD รัน แล้วมีผลต่อ MD ถัดไปได้ ทำให้ Wildcard มีประสิทธิภาพโหดจัด นอกจากเตรียมตัว MD นั้น ยังปรับทีมสำหรับ MD หน้าได้อีกต่างหาก

(9) การคิดคะแนนแตกต่างจาก FPL บางส่วน เช่น กองกลางมีคะแนน Tackle และ Key Pass ส่วนกองหน้ามีคะแนนยิงตรงกรอบ (เช็คดูให้เข้าใจ)

สิ่งสำคัญคือต้องวางแผนการเล่นทั้ง 7 Matchday ให้ชัดเจนเลย โดยผมแนะนำให้คุณต้องรู้อยู่ 2 อย่าง คือ

(1) จำนวน Free Transfer ที่ใช้ได้ - นอกจากจะทำให้เราวางแผนใน MD นั้น ยังมีประโยชน์ในการเตรียม MD หน้าด้วย เพราะเกมเปิดช่องให้ใช้ FT ใน MD นี้ เพื่อให้ผลนักเตะมาคิดคะแนนใน MD หน้า

(2) แผนการใช้ตัวช่วยแต่ละอัน – เพราะเกมเป็นเกมระยะสั้น และมันจะทำให้เราเลือกตัว MD1 ได้ดีขึ้นมากด้วย

หลังมีการปรับกฎเพื่อลดข้อครหาที่ถามกันเข้ามาเยอะแยะ สุดท้ายแล้วจำนวน Free Transfer แต่ละ MD เป็นตามตารางนี้

เริ่มจากรอบแบ่งกลุ่ม MD1-3 สังเกตว่าหลังจากเริ่ม MD1 เราจะมี 2FT ให้ปรับทีม ซึ่งอาจจะใช้ปรับแก้ปัญหาตัวไม่ได้ลงเล่น (เช่น เจ็บก่อนเกม, มีชื่อแค่สำรอง) ได้เลย โดยใช้กฎเปลี่ยนตัว Unlocked กับ Unlocked 

หรือถ้าทีมดีแล้ว ก็อาจจะเลือกเปลี่ยนตัว Locked เป็นตัวอื่นใน MD2 แล้ว roll 1 FT ไปยัง MD2 ตามกฎ ทำให้มีถึง 3FT ในการจัดแจง MD2 ก่อนจะ Wildcard MD3 หรือจะใช้วิธีเดิมบริหาร MD2-3 แล้วเก็บ Wildcard ไว้ใช้รอบน็อคเอาท์ ก็ทำได้หมด

ในทางกลับกัน หากใช้ Wildcard ใน MD2 นอกจากจะสามารถใช้ FT จัดการ MD1 เพียวๆ แล้ว การเปลี่ยนไม่จำกัดตลอด MD2 ยังช่วยให้เรามีทีมพร้อมลงเล่น MD2 เต็มพิกัด แถมยังเลือกเปลี่ยนตัว Locked ออก เพื่อเตรียมตัว MD3 ได้อีกต่างหาก และถ้า MD3 มีการโรเตชันเยอะ เราก็ยังมี 2FT รองรับให้แก้อีก (เพราะจบ MD3 ก็ Unlimited Transfer)

ส่วนรอบน็อคเอาท์ MD4-5 ก็ดูจะจัดการได้ง่ายขึ้น แม้ตัวที่เรา Unlimited Transfer เข้ามาเพื่อรอบ 16 ทีม (MD4) จะร่วงตกรอบไปเยอะ เพราะเรามี 4FT ใน MD4 ทำลักษณะเดิมเพื่อเตรียมทีม MD5 ซึ่งมีอีกถึง 5FT ที่ใช้แก้ปัญหา และเตรียมเผื่อ MD6 ได้อีก

ดังนั้นหาก คำนวณ FT แบบเชื่อมต่อกันได้ลงตัว ก็ส่งผลต่อการเลือกใช้ตัวช่วยของเราไปด้วย

ต่อเนื่องจากจำนวน FT มันทำให้เรามองเห็น MD ที่ใช้ตัวช่วยได้ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะ Wildcard ที่ใช้งานใน MD1 และ MD4 ไม่ได้ ก็เหลือแค่ MD2, MD3, MD5, MD6, MD7 ให้ใช้ และเมื่อตัดสินใจใช้ WC ใน MD ไหน ก็เท่ากับต้องโยก 12TH Man กับ Power Captain ไป MD อื่น เรียกว่าแทบจะใช้ตัวช่วยกันครึ่งนึงของ MD ที่มีให้แข่งขัน

ปกติถ้าเป็นแฟนตาซี UCL หรือ EURO ถ้าไม่ใช้ WC ในรอบแรก (MD2 หรือ 3) ก็ต้องเก็บไว้ใช้รอบน็อคเอาท์ โดยเฉพาะรอบ 16 ทีม -> 8 ทีม เพราะอาจมีนักเตะที่เราเลือกไว้ ร่วงตกรอบกันเยอะกว่าที่คาด

แต่พอเป็นแฟนตาซี WC หนนี้ จำนวน FT ใน MD4-5-6 มันใช้บริหารได้ค่อนข้างคล่องตัว ถึงจะมีความเสี่ยงหากตัวตกรอบจำนวนมาก แต่ก็เสี่ยงน้อยลงเยอะ ทำให้การใช้ WC ในรอบแรก ดูมีน้ำหนักมากขึ้นกว่ารอบน็อคเอาท์ ชัดเจน

และเมื่อมาเทียบ MD2 กับ MD3 ซึ่งแต่ละ MD ก็มีเหตุผลสมควรใช้ เช่น ใช้ใน MD2 เพื่อปรับทีมให้เข้ารูปเข้ารอย หลังเห็นทุกชาติเตะนัดแรกไปแล้ว รู้ตัวจริง รู้ตัวเล่นดี ส่วนการใช้ใน MD3 ก็ไว้รับมือการโรเตชัน ที่ทีมใหญ่อาจจะชนะรวด 2 นัด และผ่านเข้ารอบไปแล้ว

แต่เพราะ WC มันมีพลังจัดทีมเผื่อไป MD ถัดไปได้ ตามกฎการ Transfer ทำให้การใช้ WC ใน MD2 มีพลังสูงสุด เพราะเราสามารถโฟกัสกับ MD1 ได้เต็มที่ (อาจใช้ตัวช่วยอื่นเช่น 12th Man ด้วย) ก่อนจะมีจัดทีมด้วย WC สำหรับ MD2 และเผื่อจัดไปยัง MD3 ล่วงหน้า ถึงจะไม่ทราบว่าจะโดนโรเตชันมั้ย แต่ก็มีอีก 2FT ใน MD3 รองรับการแก้ไขอีกอยู่ดี

คุณสมบัติตัวมันเพียวๆ คือการเลือกนักเตะลุ้นเพดานสูงเข้าทีมมา โดยไม่ต้องสนใจราคา และข้อจำกัดด้านจำนวนนักเตะต่อทีมชาติ ถ้าคอนเซปท์เท่านี้ ก็คงต้องคิดถึง MD ที่มีทีมใหญ่ชนทีมเล็กเยอะๆ แล้วมีตัวพรีเมียมแบบไม่รู้จะเลือกใครดี

แต่ก็เช่นเคย เนื่องจากกฎเขาเขียนมาให้จัดแจงข้ามช็อตไปยัง MD ถัดไปได้ (การบริหาร FT) บวกกับการใช้ Wildcard จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า MD1 น่าใช้ 12th Man เพราะมีโปรแกรมดีๆ เพียบ อังกฤษ-อิหร่าน, อาร์เจนตินา-ซาอุฯ, ฝรั่งเศส-ออสเตรเลีย, สเปน-คอสตาริกา หรือพวกบราซิล, ฮอลแลนด์, เบลเยี่ยม ก็โปรแกรมน่าลุ้น ยิ่งถ้าเราจะ WC MD2 ตามที่บอกไปด้านบน การโฟกัสเลือกเนื้อๆ เน้นๆ เพื่อ MD1 + ใช้ 12th Man เติมพรีเมียมเข้ามาโกยคะแนน เลยยิ่งสมเหตุสมผล

อย่างไรก็ดี หากคุณมองว่า Unlimited Transfer ในการจัดแจงทีมสำหรับรอบ 16 ทีม มันน่าลุ้นกว่า จะวางไว้ใช้ตรงนั้นได้เช่นกัน แต่ก็ต้องชั่งใจว่ารอบน็อคเอาท์ มันจะยิงดุดันเท่ารอบแรกหรือไม่ และทีมที่เจอกัน ก็อาจจะใกล้เคียงกันกว่ารอบแรก

ความจริงแล้ว Power Captain คล้ายกับการใช้ 12th Man นั่นคือ MD ที่เราได้ใช้ Unlimited Transfer ควรจะเป็น MD ที่เหมาะที่สุด ในการใช้ตัวช่วยนี้ เพื่อเพิ่มการลุ้นคะแนน เพราะเราเลือกทีมสำหรับ MD นั้นได้เต็มที่

อย่างไรก็ดี Power Captain ยังอาจจะไว้ช่วยใน MD ที่ไม่แน่นอนอย่าง MD3 ได้ เพราะมีโอกาสโรเตชันกันสูง การที่ทีมเราอาจไม่พร้อมลงเล่นตัวจริงครบ การใช้ Power Captain ก็ช่วย auto ให้เลือกตัวที่ทำคะแนนดีที่สุดในทีม (11 ตัวจริง) ป้องกันการเลือกกัปตัน blank ได้มากขึ้น