เหตุผลอะไรที่คุณเลือกที่จะไม่คุยกับคนๆนึง ที่เคยสนิทกันมาก(รัก/ชอบ) แต่ยังต้องเจอหน้ากันทุกวัน?

สวัสดีครับ
คือเราอยากจะรู้เหตุผลของหลายๆคนที่มีความรู้สึกแบบนี้ ถึงแม้จะมีอีกหลายๆคนอาจจะไม่ได้รู้สึกแบบนี้ก็ตาม (ขอคนที่มีประสบการณ์ตรงนี้ช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยครับ)
      สำหรับตัวผมที่กำลังเป็นอยู่ คือเขาเป็นอดีตคนที่รักครับ เป็นรุ่นพี่ที่ปัจจุบันยังคงทำงานที่เดียวกันทุกวัน เจอหน้ากันทุกวัน แม้จะอยู่กันคนละแผนก ครั้งนึงเรากับเขาเคยรักกันมากครับถึงขนาดที่คนในออฟฟิศคุยกันถึงแต่เรื่องแต่งงานอย่างงู้นอย่างงี้ พออยู่มาวันนึงสถานะเราก็เปลี่ยนไป เขามีคนใหม่ คนที่เพรียบพร้อมกว่า ดูเป็นผู้ใหญ่กว่า ก็เคยถามเขานะ ถ้าสักวันนึงเราเลิกกัน เราจะยังคุยกันได้ปรกติไหม.. ทั้งๆที่ตัวเองเป็นฝ่ายตั้งคำถามนี้กับเขา แล้วก็เคยบอกเขาว่าทุกอย่างจะเป็นเหมือนเดิมแหละ คุยกันปรึกษากันได้ แต่สุดท้ายมันตรงกันข้ามเลย ผมกลับมองหน้าเขาไม่ติด แม้แต่จะพูดกับเขาเรายังไม่อยากทำเลยด้วยซ้ำ คิดแค่ว่า..ยิ้มเอ้ย !! ทำไมยิ้มต้องเป็นแบบนี้วะ !! คือใจจริงก็โคตรเข้าใจเลยนะ ความรักอย่างเดียวมันไม่พอจริงๆ แม้เราจะทุ่มเทเท่าไหร่ แต่ทุกๆอย่างมันตรงกันข้าม มันแย่ลง มันทำให้เราดาวน์ลงไปอยู่ในจุดที่มีแต่ความคิดติดลบ ..กูจะประจาน กูจะปล่อยคลิป.. นู่นนี่นั่น คืออยากจะทำทุกๆอย่างที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขาต้องกลับมาขอร้องเรา เรามาหาเรา.. สุดท้ายทุกๆอย่างมันเป็นแค่ "ความคิดของคนขี้แพ้" ใช่ครับ.. พอเราย้อนดูเรื่องราวต่างๆเข้ามา สาเหตุที่เราต้องเลิกกันมันก็เกิดขึ้นจากเรา เรางี่เง่า เราพยายามแสดงความเป็นเจ้าของเขาในทุกๆสถานที่ รู้ทั้งรู้ว่าเขาต้องอึดอัด แต่คนมันรักมากอ่ะนะ มันหน้ามืดตามัวไปหมดเลย สุดท้ายเรื่องมันก็กลายเป็นแบบนี้ มองหน้าเขาไม่ได้ คุยกับเขาไม่ได้ โชคดีที่อยู่กันคนละแผนก ไม่มีความเกี่ยวข้องกับงานโดยตรง มันเป็นความคิดติดลบถึงขั้นสูงสุด เราภาวนาให้ยิ้มเลิกกัน ความคิดติดลบพวกนี้ พอผ่านไปสักพักเราเห็นว่าเขามีความสุขกับคนใหม่ เข้ากันได้ดี ใจเรามันจึงคิดได้ครับว่าเรามองโลกแคบไปไหมวะ ? คำถามที่อยู่ในใจเป็นล้านคำว่า ทำไมๆๆๆๆ มันค่อยๆจางหายไป เกิดเป็นความรู้สึกส่งต่อที่อยากให้เขามีความสุขอยู่กับคนที่เขารัก ไม่ใช่ว่าเราเป็นพระเอกหรืออะไร เราแค่รู้สึกว่าเรากับเขาไม่ได้เกิดมาคู่กัน ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่คุยกับเขานะ ถึงแม้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาจะมีมาคุยกับผมบ้าง แต่ส่วนมากก็เป็นแค่พวกงานที่มันส่งต่อไปแล้วย้อนกลับมาแก้ไข ซึ่งมันไม่ได้มีบ่อย ไม่เคยพูดถึงเรื่องอดีตหรือเรื่องส่วนตัวกัน ทุกๆครั้งที่เจอหน้ากันหรือเดินสวนกัน ใจผมมันมักจะมีคำถามเสมอ..เป็นยังบ้าง ? สบายดีไหม ? ไปเที่ยวมาสนุกป่าว ? กินข้าวรึยัง ?... ครับ..มันเป็นแค่ความคิดที่พูดออกมาไม่ได้เลย เราบอกรุ่นพี่ในแผนกเราเสมอนะ ว่าเราไม่ได้คิดอะไรกับเขาแล้ว แค่เราอยากให้เขาเจอคนที่ดีจริงๆ คนที่ดูแลเขาได้มากกว่าเรา แต่เราคงไม่คิดหันหลังกับไปหาเขาได้อีกแล้ว...ตอนนี้ก็ผ่านมา 3 ปีแล้วครับตั้งแต่ที่เราเลิกรากันไป เรายังทำงานอยู่ด้วยกันที่เดิม และผมก็ยังไม่คุยกับเขาเหมือนเดิมครับ แต่เชื่อเถอะครับว่าความรู้สึกในใจที่อยากให้เขามีความสุขมันยังคงมีอยู่เสมอ แต่...ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เลิกกันกับคนที่เขาคบอยู่ครับ และผมคือคนสุดท้ายในแผนกที่รู้เรื่องนี้ครับ >..< ผมไม่เคยคิดหวังที่จะรีเทิร์นกลับไปหาเขาครับ แค่ความรู้สึกที่มีต่อเขามันก็พอที่จะทำลายความรู้สึกของคนใหม่ของผมแล้ว แค่เธอยังไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง มันเป็นความรู้สึกเหมือนเพลง สลักจิต คือตอนเพลงนี้ออกมาผมได้แค่ฟังตามร้านอาอาร ตามบาร์ที่ผมไปดื่มประจำ แต่ผมเปล่งเสียงร้องไม่ได้นะครับ แต่มันโดนใจมากเลยจริงๆ

และนี่คือความรู้สึกทั้งหมดของผมครับ ผมแค่อยากจะบอกผู้หญิงคนนั้นครับว่า.. ขอให้โชคดี เจอคนดี คนที่รักเธอได้มากกว่าที่ฉันเคยรักเธอนะ..
เอ้าาาาาาาา.. เพลงมา.... "จากวันนั้นก็นาน.. มันนานแสนนานที่เราได้แยกทาง..."

ขอขอบคุณในทุกๆความเห็นมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่