สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นเราขอเกริ่นก่อนนะ เราอายุกำลังจะ 30 ส่วนแฟนอายุ 26 เราคบกันมากำลังจะ2ปีแล้วค่ะ เราราศีเดียวกัน ความใจร้อนต่างๆจะคล้ายกัน เรื่องราวเราเล่าภาพรวม ซึ่งมันจะมีเหตุการณ์มาเกี่ยวด้วยนะ
เรื่องราวมันค่อยๆเกิดเนื่องจาก หนึ่งเลยนิสัยเราด้วย เป็นคนชอบให้คนเอาใจ ขี้น้อยใจ พอแฟนเราก็เป็นสายที่พอเห็นเราหน้าบึ้งก็จะตามใจจนเราเหลิง (อันนี้เราเพิ่งมาเห็นตัวเองปัจจุบัน ซึ่งไม่ชอบตัวเองเวอร์ชั่นนั้นเลย) เช่น วันวาเลนไทน์ปีที่ผ่านมา แฟนสั่งดอกไม้มาเซอไพรส์ถึงห้อง เราก็รับดอกไม้มา มีถ่ายคลิปวีดีโอตอนเรารับมา แล้วนั่งทำงานต่อ เย็นก็ออกข้างนอกกัน แฟนเราก็ทักตอนดึกที่กลับมาคอนโดกันว่าไม่ดีใจที่ได้ดอกไม้หรอ ไม่เห็นเซลฟี่ หรือถ่ายคู่เลย ซึ่งเราก็ด้วยนิสัย อ่ะเนี่ยจะถ่ายแล้ว แล้วหยิบมาถ่ายแบบหน้าหงิกๆ วันที่พี่ที่ทำงานเก่าไปเลี้ยงอำลาซึ่งเรานัดกะแฟนไปกินบุฟเฟต์ พี่คนที่พาเราไปเลี้ยงอยากกินมาก เราพยายามบอกเค้าว่าขอไม่บุฟเฟต์นะ จนแบบทะเลาะกับแฟนในแชท เพราะถ้ากลางวันเรากินบุฟเฟต์กับพี่คนนี้ แล้วเราจะนัดกันกินทำไม สุดท้ายเราไม่ได้กินบุฟเฟต์กลางวันกะพี่คนนี้นะ และมีอะไรหลายอย่างที่เราละเลยไปเพิ่งมามองเห็นตอนนี้
ลืมบอกไปว่าเราเองจะฟิกเวลาไปคอนโดแฟน ด้วยความที่อยู่บ้านกับพ่อแม่ จะเลือกไปวันพฤหัส กลับเสาร์ประมาณนี้ ซึ่งแฟนเราเคยชวนเรามาอยู่ทั้งเดือนช่วงไม่มีงานทำ แต่เราด้วยความที่แบบมุมเราอ่ะ อยู่บ้านเราก็ไม่ได้เสียเงินนะ อยู่กะแฟนกินกันเก่งมาก เปลืองมาก เลยบอกไปว่าไม่เอาอ่ะ ทั้งเดือนมันมากไป มาแบบเดิมแหละ แฟนก็เงียบไป ไม่ได้พูดอะไรต่อ
จุดต่างๆมันเริ่มเกิดมากขึ้นจากการที่เราทำงานที่นึง หลังจากเปลี่ยนงานที่ทำมานาน เป็นงานโรงงาน พี่ที่สอนเราเค้าทักมา ซึ่งเราอ่ะ จะว่าอินโนเซนส์ก็ได้ ไม่รู้หรอกเค้าทักจีบหรืออะไร ไม่ได้คุยบ่อยนะ แต่แบบหลังเลิกงานเรากลับบ้านอยู่ดีๆพิมมากลับดีๆนะคะ อะไรแบบนี้ จนวันนึงส่งสติ๊กเกอร์จุ๊บมา เราเลยงงให้แฟนดู แฟนอ่านประโยคสนทนาแล้วบอกไม่รู้หรอว่ามันมาจีบ ซึ่งนี่ไม่รู้จริงๆ ก็ทะเลาะไปตามระเบียบ
แล้วพอย้ายมาที่เกือบล่าสุด ซึ่งที่ก่อนหน้าเราจะทำที่ปัจจุบัน เราเป็นประสานงานโปรเจค แน่นอนมันมีออกไปเจอลูกค้า แล้วเราไม่มีรถ ขากลับติดรถพี่คนไหนก็ได้ลงสักที่ ในความแฟนเรา ไม่อยากให้เราติดรถไปกับใครเลยเพราะอันตราย ไม่รู้จักดีพอ แต่เราคือเป็นคนไว้ใจคนมากๆ
- เคสเเรกของทำงานที่นี่คือ ไปออกหาลูกค้าครั้งแรก เราติดรถพี่คนนึงกลับ แล้วให้เค้ามาส่งบ้าน พอมาบอกแฟนตอนถึงบ้านแล้ว เพราะตอนนั้นแฟนทำงาน นางก็โกดมาก เราทะเลาะกัน และเราบอกจะพยายามไม่ให้เกิดอีก แต่เราไม่มีรถจะให้ทำไง คือถ้าพ่อเราอยู่บ้าน ให้พ่อรับปากซอยได้ นางก็อนุโลมว่างั้นปากซอย
- เคสสอง พี่อีกคนเค้ามาส่งเราแล้วคือพ่ออ่ะติดต่อไม่ได้ เราก็คิดว่าแบบไม่เป็นไรมั้ง เค้าก็มาส่งถึงบ้าน บอกตรงๆตอนนั้นลืมทักบอกแฟน ว่าขึ้นรถแล้ว ต่างๆ เพราะพอขึ้นรถก็ถามคำถามให้คำนวนลูกค้าจนไม่กล้ากดมือถือ พอแฟนมารู้ตอนถึงบ้านอีกแล้ว ทะเลาะอีกรอบ บอกอย่าให้เกิดอีก ไม่งั้นจะไม่ไหวไปจริงๆนะ เราก็สัญญาว่าจะไม่มีอีกแล้ว
- เคสสุดท้ายที่มันแย่มากสุด จะบอกก่อนว่าตอนเราเข้าไปทำงานที่นี่เดือนแรก ด้วยความเป็นโปรเจคแบบขอไม่เอ่ยถึง พี่หัวหน้าโปรเจคเค้าบอกว่าเนี่ย มันจะมีไปกินเลี้ยงกะลูกค้า ไปพูลวิลล่าบลาๆ แล้วพวกนั้นมันจะเห็นผู้หญิงไม่ได้ ถ้าเรามีอะไรมาแลกก็พร้อมจะปกป้อง แล้วคือกรณีอื่นเค้าไม่เอาเลย เค้าจ้องให้เราแลกเรื่องเดียวเลย แล้วบอกว่าให้กลับไปคิดว่ายังอยากเข้าโปรเจคด้วยไหม คือทางเลือกเราตอนนั้นมีสองทาง คือโดนไล่ออกทันทีเพราะไม่เข้าโปรเจคด้วย กะตามน้ำ (แต่ใจนี่คือมองว่า
อะไรมันจะน่าเกลียดขนาดนั้น เค้าแค่เอามาขู่ ไม่เกิดขึ้น100%) กลับไปคิดเรายอมรับว่าไม่กล้าบอกใครหมดเลย เพราะรู้ว่าคนรอบข้างไม่ให้ทำต่อแน่เลย ถ้าเราโดนเค้าพูดงี้ บอกทุกคนว่ามันมีกินเลี้ยงหลังเลิกงานนะ อาจจะมีไปค้างคืนบ้าง เราบอกแค่นี้
จนปัญหามันเกิดตอนเข้าเดือนที่4 เข้าโปรเจคจริงๆ ประชุมลูกค้าเสร็จ ติดรถกลับลง Mrt ต้องบอกว่าพี่คนนี้คนเดียวกะเคส2 นะ หัวหน้าใหญ่สุดของทีม บนรถเค้าพูดถึงงานที่เค้าทำแทน ซึ่งเราจะบอกว่า มันมีเอกสาร4ตัว ซึ่งเราไม่เคยทำด้านนี้เลย เค้าบอกลองหาในเน็ตวางโครงเองนะ พอเราส่งไปครบส่งแค่สติกเกอร์กลับมา แล้วพอวันเสาร์ นี่ก็ไปหาหลานไม่ได้อยู่บ้าน โน่นกว่าจะถึงบ้านค่ำๆ เห็นทักมาให้แก้เอกสารตอนสายแก่ๆ แล้วคือนี่แบบคอมไม่อยู่ดะตัวอยู่แล้ว แทนที่จะบอกให้ทำวันธรรมดา นี่ก็ไม่ได้ตอบเพราะวุ่นเลี้ยงหลาน มาตอบอีกวันว่าเมื่อวานเลี้ยงหลานทั้งวันค่ะ เค้าเลยใช้การอ้างว่าเค้านั่งทำเอกสารให้ เนี่ยจริงๆวันเกิดเค้านะบลาๆเรามีอะไรให้พี่แลกได้บ้าง นี่ตอบอย่างไวว่าเลี้ยงข้าวไง มันก็อ่ะมีไรอีก เลี้ยงเหล้าก็ได้อ่ะ นี่คือคำตอบเรา แต่ไม่ใช่ที่มันต้องการ มันบอกว่าเคยจะให้อะไรพี่นะ นี่บอกตรงๆว่าลืมจากสมองนานแล้ว เพราะคิดว่าเรื่องตลกอ่ะ บ้าป่ะ พอ
มาถามแล้วไม่ให้เราลงรถทั้งๆที่ถึง Mrt จนนี่พยักหน้าแล้วตอบแค่ว่าพอจำได้ ก็ถามต่อว่าเมื่อไหร่ แต่คือหน้าเราเซงแบบ เ_ี้ยไรเนี่ย แล้วคือด้วยความเรากลัว อยากลงจากรถทำไงดีอ่ะ เหมือนต้องตามน้ำไปก่อนเพื่อให้มันปล่อยลง เพราะเราไม่รู้ถ้าเค้ามีเชือกมารัดคอก็ตายในรถ เหมือนเล่นตามเกม มันขอให้เรามัดจำซึ่งเราก็แบบบอกว่าไม่หนี ไม่ต้องมัดจำ มันก็บังคับจูบ เราแบบทั้งๆที่เห็นอยู่ว่าเราไม่ยอม แต่ก็ไม่ได้สนใจ จนเราลงจากรถได้ ร้องไห้ตลอดทาง มันมืดไปหมดว่าทำไงดี กลับมาถึงบ้านเราจะโทรหาเพื่อนสนิทก่อนว่าทำไงดีอย่างแรก เพื่อนบอกที่ควรทำตอนนี้คือบอกพ่อ แม่ แฟน คนรอบตัว นี่ก็กล้าๆกลัวๆว่าแฟนเราจะว่าไง ยอมโทรไปเล่า แล้วเหมือนว่าแฟนเราช็อคไป ต้องบอกต่อว่าจากนั้นเราไม่ได้ไปออฟฟิศ ตัดสินใจบอกหัวหน้ารองคือผู้ชายเคสเเรก เพราะนางเหมือนพี่ชาย นางบอกเดี๋ยวหาข้ออ้างให้ ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ ด้วยความที่บอเรามันสลับทำที่บ้านอยู่แล้ว แต่อีพี่คนที่ทำเราคอนโดมันติดที่ทำงานเลย เค้าช่วยกันให้เราอาทิตย์นึง จนเรารู้สึกแบบมันค้างๆหน่วงๆ ร้องไห้ทุกวัน ขอลาออกเลย เค้าเลยเคารพการตัดสินใจเรา
ตัดภาพมาที่เราเอาแต่ช็อคที่ตัวเองโดนด้วย กลัวแฟนจะมีฟีดแบคอะไรยังไงด้วย เอาแต่ร้องไห้ แฟนเราก็เริ่มนิ่งมากขึ้น เหมือนแบบต่างรักษาใจตัวเอง รักษาแผลก่อน เราฮีลใจด้วยหลาน แฟนเราหลักๆก็เกม
แล้วขอบอกตรงๆว่าที่ผ่านมามันจะแบบเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ฟีลแบบตอนนึงแฟนเราคนเดิม พอมีอะไรสะกิดใจ หรือเครียด เป็นอีกคน ไม่อ่อนโยนน่ารักเหมือนก่อน ตอนนั้นแฟนเราบอกเหมือนจะกลับมาเป็นซึมเศร้า (ที่เคยเป็นตอนไปคลุกคลีกับแฟนเก่าที่เป็น) มันเป็นแบบนี้มาตลอดระยะเวลา
ครั้งแรกแฟนเราตัดสินใจว่าขอไม่ไปต่อ มันเหมือนใจมันร้าวไป แต่เรายื้อไว้บอกว่าขอโอกาสนะ จะไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นอีกแน่ๆ ก็เลยยังปกติกัน เราได้ไปเที่ยวหัวหินกันเดือนที่แล้ว เรารู้สึกว่าแฟนเราแฮปปี้มาก เหมือนคนเดิมเลย แต่พอกลับมามีเรื่องทะเลาะ เค้ากลับบอกอันนั้นฝืน ซึ่งเราตอบแบบไม่เข้าข้างตัวเองนะ ความสุขมันมองได้จากการมองตาคนๆนั้น ซึ่งขณะนั้นเราได้ใช้เวลาแบบ2คนจริงๆ ไม่มีเกม ไม่มีใดๆ
หลายครั้งที่ทะเลาะกันมันกลายเป็นอะไรๆเราผิดหมด แค่เราถามคำถามที่เราเคยถาม มันกลับกลายเป็นเค้าขี้เกียจตอบ พอเราหายใจไม่ออกไม่สบาย แฟนเราไม่สบายเหมือนกัน เค้ากลับอยากให้เราถามไถ่ ว่าเป็นอะไรทำไมเสียงเปลี่ยนบลาๆ กลายเป็นเราผิด คือจะขยับไปทางไหนตอนนี้ผิดหมด เค้าบอกอยากอยู่คนเดียว ที่ผ่านมาไม่ได้อยู่เลย ไม่ได้รู้สึกกับเราแบบเดิมแล้ว ซึ่งเราแบบมันช็อค ต้องบอกเราโทรคุยกันทุกคืนสัก 19.30-20.00 จะคอลสายไว้ แล้วก่อนนอนเปิดกล้อง แบบนี้ตลอดเวลาตั้งแต่คบ
อันนี้คือเหตุการณ์ปัจจุบันแล้วนะ เมื่อวานยังคุยกันเปิดกล้องคุยได้ พอมาอีกวันมีเรื่องขัดใจ บอกไม่ไหวแล้ว ไม่อยากฝืนตัวเอง ไม่มีความรู้สึกแล้วจริงๆ พอพูดจบอยากนอนแล้ว เพราะป่วย อ่ะเราก็ให้ไปนอน ทั้งวันนี้เราจากที่แชทมาตอบเลย เราเว้นระยะ เราดูวีดีโอที่กฏของแรงดึงดูด ว่าให้ลองไม่ติดต่อไป เค้าจะรู้ว่าต้องการเราจริงๆไหม แต่เราไม่กล้าเพราะกลัวเค้าจะไปจริงๆ ถามว่าเราพิมตอบไปมากันอยู่นะวันนี้ เราลองถามเค้าว่าวันนี้คอลได้ไหม เค้าบอกขออยู่คนเดียวก่อนนะ
เราเองดูดวงจากหมอดู เค้าบอกช่วงนี้แฟนจะแบบอารมณ์เหวี่ยง แต่รักกันได้ยาวๆแน่นอน เราคนนึงที่เชื่อดวงมาก เราแคปที่คุยส่งให้เค้าดู แต่เค้าไม่พูดถึง
เราเองบอกขอโทษแฟนไปเป็นร้อยรอบ เพราะรู้ตัวเองผิดมาก จะไม่เป็นคนนั้นอีก แต่เหมือนช่วงนี้พูดอะไรเค้ามองแค่มุมเค้า
เพื่อนเราบอกช่วงนี้ดวงเรามันเละเทะมาก ดีขึ้นอีกทีต้นปีหน้า ให้อดทนก่อนเรื่องต่างๆ
อ้อ แฟนเราขอบพูดตัดพ้อตั้งแต่คบกัน ว่ารู้สึกตัวเองดูแลเราได้ไม่ดีพอ ด้วยความที่นางมีบัตรเครดิต ช้อปต่างๆ แล้วบางทีปลายเดือนต้องประหยัด แต่เราไม่เคยมองมุมนั้นเลย คือขอแค่อยู่ด้วยกัน ซัพพอร์ตกัน ไม่ได้อยากใช้ชีวิตหรูหรานี่
สุดท้ายนี้เราอยากจะได้คำในมุมของหลายๆคนที่มองมา ความรู้สึกเราลึกๆเค้ายังมีเราเหมือนเดิม แต่แค่เค้าสับสนตัวเองอยู่ หรือมันอาจจะเป็นแค่เราเข้าข้างตัวเอง เราจะลองให้เค้าได้อยู่กับตัวเองไปก่อนดีไหม ให้เค้าได้มีเวลาคิด แล้วเค้ายังจะกลับมาหาเราไหมเรายืนยันไม่ได้เลย
ปล.
ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน คือจะมองว่าเราหาข้ออ้างได้ตลอด ก็ว่างั้นก็ได้ มันกลายเป็นแฟนเรายอมรับผิดบ่อยมากเพื่อให้เรื่องจบ เราต้องบอกก่อนว่าช่วงนั้นเราเป็นคนที่ไม่ชอบพูด ขอโทษ ขอบคุณ มันเขินเลยไม่พูด
- เวลาทะเลาะกันเราชอบเงียบ อันนี้รู้ตัวเอง คือเราเป็นคนแบบ พอโดนว่าอ่ะจะโกดๆ หน้าบูดๆ ถ้าอ้าปากจะกลายเป็นน้ำมัน กับน้ำมัน เลยกลายเป็นเงียบ แฟนเราไม่ชอบให้เงียบ เพราะปัญหามันต้องเคลีย
ขอคำแนะนำว่าควรทำยังไง ถ้าแฟนขออยู่คนเดียวค่ะ
เรื่องราวมันค่อยๆเกิดเนื่องจาก หนึ่งเลยนิสัยเราด้วย เป็นคนชอบให้คนเอาใจ ขี้น้อยใจ พอแฟนเราก็เป็นสายที่พอเห็นเราหน้าบึ้งก็จะตามใจจนเราเหลิง (อันนี้เราเพิ่งมาเห็นตัวเองปัจจุบัน ซึ่งไม่ชอบตัวเองเวอร์ชั่นนั้นเลย) เช่น วันวาเลนไทน์ปีที่ผ่านมา แฟนสั่งดอกไม้มาเซอไพรส์ถึงห้อง เราก็รับดอกไม้มา มีถ่ายคลิปวีดีโอตอนเรารับมา แล้วนั่งทำงานต่อ เย็นก็ออกข้างนอกกัน แฟนเราก็ทักตอนดึกที่กลับมาคอนโดกันว่าไม่ดีใจที่ได้ดอกไม้หรอ ไม่เห็นเซลฟี่ หรือถ่ายคู่เลย ซึ่งเราก็ด้วยนิสัย อ่ะเนี่ยจะถ่ายแล้ว แล้วหยิบมาถ่ายแบบหน้าหงิกๆ วันที่พี่ที่ทำงานเก่าไปเลี้ยงอำลาซึ่งเรานัดกะแฟนไปกินบุฟเฟต์ พี่คนที่พาเราไปเลี้ยงอยากกินมาก เราพยายามบอกเค้าว่าขอไม่บุฟเฟต์นะ จนแบบทะเลาะกับแฟนในแชท เพราะถ้ากลางวันเรากินบุฟเฟต์กับพี่คนนี้ แล้วเราจะนัดกันกินทำไม สุดท้ายเราไม่ได้กินบุฟเฟต์กลางวันกะพี่คนนี้นะ และมีอะไรหลายอย่างที่เราละเลยไปเพิ่งมามองเห็นตอนนี้
ลืมบอกไปว่าเราเองจะฟิกเวลาไปคอนโดแฟน ด้วยความที่อยู่บ้านกับพ่อแม่ จะเลือกไปวันพฤหัส กลับเสาร์ประมาณนี้ ซึ่งแฟนเราเคยชวนเรามาอยู่ทั้งเดือนช่วงไม่มีงานทำ แต่เราด้วยความที่แบบมุมเราอ่ะ อยู่บ้านเราก็ไม่ได้เสียเงินนะ อยู่กะแฟนกินกันเก่งมาก เปลืองมาก เลยบอกไปว่าไม่เอาอ่ะ ทั้งเดือนมันมากไป มาแบบเดิมแหละ แฟนก็เงียบไป ไม่ได้พูดอะไรต่อ
จุดต่างๆมันเริ่มเกิดมากขึ้นจากการที่เราทำงานที่นึง หลังจากเปลี่ยนงานที่ทำมานาน เป็นงานโรงงาน พี่ที่สอนเราเค้าทักมา ซึ่งเราอ่ะ จะว่าอินโนเซนส์ก็ได้ ไม่รู้หรอกเค้าทักจีบหรืออะไร ไม่ได้คุยบ่อยนะ แต่แบบหลังเลิกงานเรากลับบ้านอยู่ดีๆพิมมากลับดีๆนะคะ อะไรแบบนี้ จนวันนึงส่งสติ๊กเกอร์จุ๊บมา เราเลยงงให้แฟนดู แฟนอ่านประโยคสนทนาแล้วบอกไม่รู้หรอว่ามันมาจีบ ซึ่งนี่ไม่รู้จริงๆ ก็ทะเลาะไปตามระเบียบ
แล้วพอย้ายมาที่เกือบล่าสุด ซึ่งที่ก่อนหน้าเราจะทำที่ปัจจุบัน เราเป็นประสานงานโปรเจค แน่นอนมันมีออกไปเจอลูกค้า แล้วเราไม่มีรถ ขากลับติดรถพี่คนไหนก็ได้ลงสักที่ ในความแฟนเรา ไม่อยากให้เราติดรถไปกับใครเลยเพราะอันตราย ไม่รู้จักดีพอ แต่เราคือเป็นคนไว้ใจคนมากๆ
- เคสเเรกของทำงานที่นี่คือ ไปออกหาลูกค้าครั้งแรก เราติดรถพี่คนนึงกลับ แล้วให้เค้ามาส่งบ้าน พอมาบอกแฟนตอนถึงบ้านแล้ว เพราะตอนนั้นแฟนทำงาน นางก็โกดมาก เราทะเลาะกัน และเราบอกจะพยายามไม่ให้เกิดอีก แต่เราไม่มีรถจะให้ทำไง คือถ้าพ่อเราอยู่บ้าน ให้พ่อรับปากซอยได้ นางก็อนุโลมว่างั้นปากซอย
- เคสสอง พี่อีกคนเค้ามาส่งเราแล้วคือพ่ออ่ะติดต่อไม่ได้ เราก็คิดว่าแบบไม่เป็นไรมั้ง เค้าก็มาส่งถึงบ้าน บอกตรงๆตอนนั้นลืมทักบอกแฟน ว่าขึ้นรถแล้ว ต่างๆ เพราะพอขึ้นรถก็ถามคำถามให้คำนวนลูกค้าจนไม่กล้ากดมือถือ พอแฟนมารู้ตอนถึงบ้านอีกแล้ว ทะเลาะอีกรอบ บอกอย่าให้เกิดอีก ไม่งั้นจะไม่ไหวไปจริงๆนะ เราก็สัญญาว่าจะไม่มีอีกแล้ว
- เคสสุดท้ายที่มันแย่มากสุด จะบอกก่อนว่าตอนเราเข้าไปทำงานที่นี่เดือนแรก ด้วยความเป็นโปรเจคแบบขอไม่เอ่ยถึง พี่หัวหน้าโปรเจคเค้าบอกว่าเนี่ย มันจะมีไปกินเลี้ยงกะลูกค้า ไปพูลวิลล่าบลาๆ แล้วพวกนั้นมันจะเห็นผู้หญิงไม่ได้ ถ้าเรามีอะไรมาแลกก็พร้อมจะปกป้อง แล้วคือกรณีอื่นเค้าไม่เอาเลย เค้าจ้องให้เราแลกเรื่องเดียวเลย แล้วบอกว่าให้กลับไปคิดว่ายังอยากเข้าโปรเจคด้วยไหม คือทางเลือกเราตอนนั้นมีสองทาง คือโดนไล่ออกทันทีเพราะไม่เข้าโปรเจคด้วย กะตามน้ำ (แต่ใจนี่คือมองว่า อะไรมันจะน่าเกลียดขนาดนั้น เค้าแค่เอามาขู่ ไม่เกิดขึ้น100%) กลับไปคิดเรายอมรับว่าไม่กล้าบอกใครหมดเลย เพราะรู้ว่าคนรอบข้างไม่ให้ทำต่อแน่เลย ถ้าเราโดนเค้าพูดงี้ บอกทุกคนว่ามันมีกินเลี้ยงหลังเลิกงานนะ อาจจะมีไปค้างคืนบ้าง เราบอกแค่นี้
จนปัญหามันเกิดตอนเข้าเดือนที่4 เข้าโปรเจคจริงๆ ประชุมลูกค้าเสร็จ ติดรถกลับลง Mrt ต้องบอกว่าพี่คนนี้คนเดียวกะเคส2 นะ หัวหน้าใหญ่สุดของทีม บนรถเค้าพูดถึงงานที่เค้าทำแทน ซึ่งเราจะบอกว่า มันมีเอกสาร4ตัว ซึ่งเราไม่เคยทำด้านนี้เลย เค้าบอกลองหาในเน็ตวางโครงเองนะ พอเราส่งไปครบส่งแค่สติกเกอร์กลับมา แล้วพอวันเสาร์ นี่ก็ไปหาหลานไม่ได้อยู่บ้าน โน่นกว่าจะถึงบ้านค่ำๆ เห็นทักมาให้แก้เอกสารตอนสายแก่ๆ แล้วคือนี่แบบคอมไม่อยู่ดะตัวอยู่แล้ว แทนที่จะบอกให้ทำวันธรรมดา นี่ก็ไม่ได้ตอบเพราะวุ่นเลี้ยงหลาน มาตอบอีกวันว่าเมื่อวานเลี้ยงหลานทั้งวันค่ะ เค้าเลยใช้การอ้างว่าเค้านั่งทำเอกสารให้ เนี่ยจริงๆวันเกิดเค้านะบลาๆเรามีอะไรให้พี่แลกได้บ้าง นี่ตอบอย่างไวว่าเลี้ยงข้าวไง มันก็อ่ะมีไรอีก เลี้ยงเหล้าก็ได้อ่ะ นี่คือคำตอบเรา แต่ไม่ใช่ที่มันต้องการ มันบอกว่าเคยจะให้อะไรพี่นะ นี่บอกตรงๆว่าลืมจากสมองนานแล้ว เพราะคิดว่าเรื่องตลกอ่ะ บ้าป่ะ พอมาถามแล้วไม่ให้เราลงรถทั้งๆที่ถึง Mrt จนนี่พยักหน้าแล้วตอบแค่ว่าพอจำได้ ก็ถามต่อว่าเมื่อไหร่ แต่คือหน้าเราเซงแบบ เ_ี้ยไรเนี่ย แล้วคือด้วยความเรากลัว อยากลงจากรถทำไงดีอ่ะ เหมือนต้องตามน้ำไปก่อนเพื่อให้มันปล่อยลง เพราะเราไม่รู้ถ้าเค้ามีเชือกมารัดคอก็ตายในรถ เหมือนเล่นตามเกม มันขอให้เรามัดจำซึ่งเราก็แบบบอกว่าไม่หนี ไม่ต้องมัดจำ มันก็บังคับจูบ เราแบบทั้งๆที่เห็นอยู่ว่าเราไม่ยอม แต่ก็ไม่ได้สนใจ จนเราลงจากรถได้ ร้องไห้ตลอดทาง มันมืดไปหมดว่าทำไงดี กลับมาถึงบ้านเราจะโทรหาเพื่อนสนิทก่อนว่าทำไงดีอย่างแรก เพื่อนบอกที่ควรทำตอนนี้คือบอกพ่อ แม่ แฟน คนรอบตัว นี่ก็กล้าๆกลัวๆว่าแฟนเราจะว่าไง ยอมโทรไปเล่า แล้วเหมือนว่าแฟนเราช็อคไป ต้องบอกต่อว่าจากนั้นเราไม่ได้ไปออฟฟิศ ตัดสินใจบอกหัวหน้ารองคือผู้ชายเคสเเรก เพราะนางเหมือนพี่ชาย นางบอกเดี๋ยวหาข้ออ้างให้ ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ ด้วยความที่บอเรามันสลับทำที่บ้านอยู่แล้ว แต่อีพี่คนที่ทำเราคอนโดมันติดที่ทำงานเลย เค้าช่วยกันให้เราอาทิตย์นึง จนเรารู้สึกแบบมันค้างๆหน่วงๆ ร้องไห้ทุกวัน ขอลาออกเลย เค้าเลยเคารพการตัดสินใจเรา
ตัดภาพมาที่เราเอาแต่ช็อคที่ตัวเองโดนด้วย กลัวแฟนจะมีฟีดแบคอะไรยังไงด้วย เอาแต่ร้องไห้ แฟนเราก็เริ่มนิ่งมากขึ้น เหมือนแบบต่างรักษาใจตัวเอง รักษาแผลก่อน เราฮีลใจด้วยหลาน แฟนเราหลักๆก็เกม
แล้วขอบอกตรงๆว่าที่ผ่านมามันจะแบบเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ฟีลแบบตอนนึงแฟนเราคนเดิม พอมีอะไรสะกิดใจ หรือเครียด เป็นอีกคน ไม่อ่อนโยนน่ารักเหมือนก่อน ตอนนั้นแฟนเราบอกเหมือนจะกลับมาเป็นซึมเศร้า (ที่เคยเป็นตอนไปคลุกคลีกับแฟนเก่าที่เป็น) มันเป็นแบบนี้มาตลอดระยะเวลา
ครั้งแรกแฟนเราตัดสินใจว่าขอไม่ไปต่อ มันเหมือนใจมันร้าวไป แต่เรายื้อไว้บอกว่าขอโอกาสนะ จะไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นอีกแน่ๆ ก็เลยยังปกติกัน เราได้ไปเที่ยวหัวหินกันเดือนที่แล้ว เรารู้สึกว่าแฟนเราแฮปปี้มาก เหมือนคนเดิมเลย แต่พอกลับมามีเรื่องทะเลาะ เค้ากลับบอกอันนั้นฝืน ซึ่งเราตอบแบบไม่เข้าข้างตัวเองนะ ความสุขมันมองได้จากการมองตาคนๆนั้น ซึ่งขณะนั้นเราได้ใช้เวลาแบบ2คนจริงๆ ไม่มีเกม ไม่มีใดๆ
หลายครั้งที่ทะเลาะกันมันกลายเป็นอะไรๆเราผิดหมด แค่เราถามคำถามที่เราเคยถาม มันกลับกลายเป็นเค้าขี้เกียจตอบ พอเราหายใจไม่ออกไม่สบาย แฟนเราไม่สบายเหมือนกัน เค้ากลับอยากให้เราถามไถ่ ว่าเป็นอะไรทำไมเสียงเปลี่ยนบลาๆ กลายเป็นเราผิด คือจะขยับไปทางไหนตอนนี้ผิดหมด เค้าบอกอยากอยู่คนเดียว ที่ผ่านมาไม่ได้อยู่เลย ไม่ได้รู้สึกกับเราแบบเดิมแล้ว ซึ่งเราแบบมันช็อค ต้องบอกเราโทรคุยกันทุกคืนสัก 19.30-20.00 จะคอลสายไว้ แล้วก่อนนอนเปิดกล้อง แบบนี้ตลอดเวลาตั้งแต่คบ
อันนี้คือเหตุการณ์ปัจจุบันแล้วนะ เมื่อวานยังคุยกันเปิดกล้องคุยได้ พอมาอีกวันมีเรื่องขัดใจ บอกไม่ไหวแล้ว ไม่อยากฝืนตัวเอง ไม่มีความรู้สึกแล้วจริงๆ พอพูดจบอยากนอนแล้ว เพราะป่วย อ่ะเราก็ให้ไปนอน ทั้งวันนี้เราจากที่แชทมาตอบเลย เราเว้นระยะ เราดูวีดีโอที่กฏของแรงดึงดูด ว่าให้ลองไม่ติดต่อไป เค้าจะรู้ว่าต้องการเราจริงๆไหม แต่เราไม่กล้าเพราะกลัวเค้าจะไปจริงๆ ถามว่าเราพิมตอบไปมากันอยู่นะวันนี้ เราลองถามเค้าว่าวันนี้คอลได้ไหม เค้าบอกขออยู่คนเดียวก่อนนะ
เราเองดูดวงจากหมอดู เค้าบอกช่วงนี้แฟนจะแบบอารมณ์เหวี่ยง แต่รักกันได้ยาวๆแน่นอน เราคนนึงที่เชื่อดวงมาก เราแคปที่คุยส่งให้เค้าดู แต่เค้าไม่พูดถึง
เราเองบอกขอโทษแฟนไปเป็นร้อยรอบ เพราะรู้ตัวเองผิดมาก จะไม่เป็นคนนั้นอีก แต่เหมือนช่วงนี้พูดอะไรเค้ามองแค่มุมเค้า
เพื่อนเราบอกช่วงนี้ดวงเรามันเละเทะมาก ดีขึ้นอีกทีต้นปีหน้า ให้อดทนก่อนเรื่องต่างๆ
อ้อ แฟนเราขอบพูดตัดพ้อตั้งแต่คบกัน ว่ารู้สึกตัวเองดูแลเราได้ไม่ดีพอ ด้วยความที่นางมีบัตรเครดิต ช้อปต่างๆ แล้วบางทีปลายเดือนต้องประหยัด แต่เราไม่เคยมองมุมนั้นเลย คือขอแค่อยู่ด้วยกัน ซัพพอร์ตกัน ไม่ได้อยากใช้ชีวิตหรูหรานี่
สุดท้ายนี้เราอยากจะได้คำในมุมของหลายๆคนที่มองมา ความรู้สึกเราลึกๆเค้ายังมีเราเหมือนเดิม แต่แค่เค้าสับสนตัวเองอยู่ หรือมันอาจจะเป็นแค่เราเข้าข้างตัวเอง เราจะลองให้เค้าได้อยู่กับตัวเองไปก่อนดีไหม ให้เค้าได้มีเวลาคิด แล้วเค้ายังจะกลับมาหาเราไหมเรายืนยันไม่ได้เลย
ปล.
ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน คือจะมองว่าเราหาข้ออ้างได้ตลอด ก็ว่างั้นก็ได้ มันกลายเป็นแฟนเรายอมรับผิดบ่อยมากเพื่อให้เรื่องจบ เราต้องบอกก่อนว่าช่วงนั้นเราเป็นคนที่ไม่ชอบพูด ขอโทษ ขอบคุณ มันเขินเลยไม่พูด
- เวลาทะเลาะกันเราชอบเงียบ อันนี้รู้ตัวเอง คือเราเป็นคนแบบ พอโดนว่าอ่ะจะโกดๆ หน้าบูดๆ ถ้าอ้าปากจะกลายเป็นน้ำมัน กับน้ำมัน เลยกลายเป็นเงียบ แฟนเราไม่ชอบให้เงียบ เพราะปัญหามันต้องเคลีย