สวัสดีครับผม เมื่อปลายเดือนตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ผมได้ไปขอวีซ่าเชงเก้นสำหรับเดินทางไปเยี่ยมญาติ แบบเยี่ยมส่วนตัว (private visit) ณ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งก่อนหน้านี้ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการเตรียมเอกสารจากหลายเว็บไซต์ และได้อานิสงส์ข้อมูลจากกระทู้ pantip ช่วยไว้ได้มากๆ ตั้งแต่ขั้นการลงทะเบียนสมัคร เตรียมเอกสารทั้งหมด (ซึ่งผมเตรียมเอกสารทั้งหมดและยื่นด้วยตนเอง ไม่ได้จ้างหรือผ่านบริษัทไหนครับ) จนกระทั่งเดินทางไปยื่นเอกสารกับ TLS ได้ครบถ้วน และได้วีซ่ามาเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว เลยมาแชร์ให้เพื่อน ๆ ที่มีวัตถุประสงค์จะไปฝรั่งเศสด้วยวีซ่าประเภทนี้มีแนวทางในการเตรียมตัวครับ โดยเคสผมยื่นเอกสารเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 และได้รับเล่ม passport คืนพร้อมวีซ่าเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 นี้เองครับ (ทั้งนี้ระยะเวลาการได้รับเล่มคืนอาจแตกต่างกันไป โดยมีกำหนดทางการที่ 14 วันครับ)
ความลำบากของการเตรียมเอกสารที่ผมสัมผัสได้เลย คือ ข้อมูลเยอะมากกกกกกกกก ซึ่งแต่ละรูปแบบจะมีรายละเอียดปลีกย่อยไม่เหมือนกัน (แต่มีหลักคล้าย ๆ กัน) เลยอยากแชร์เพื่อน ๆ เนื่องจากผมคลำทางเองบ้าง ปะติดปะต่อข้อมูลจากกระทู้ผู้ใจบุญในพันทิปบ้าง จนผ่านมาได้ ดังนี้ครับ
เคสของผมคือการเดินทางไปเยี่ยมญาติ ซึ่งก็คือคุณลุงชาวฝรั่งเศส กับคุณป้าของผมซึ่งเป็นคนไทยที่แต่งงาน ตั้งครอบครัวอยู่ที่ฝรั่งเศสนานแล้ว โดยผมเป็นหลานของคุณป้า (ลูกของน้องสาวคุณป้า) ซึ่งถ้านับตามความเกี่ยวข้องแล้ว ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวพันทางสายเลือด หรือเป็นครอบครัวโดยตรงครับ การไปเยี่ยมของผมจึงต้องใช้วีซ่าประเภทเยี่ยมส่วนตัว (Private visit) หรือประเภทเยี่ยมเพื่อน ซึ่งจะคนละประเภทกับ Family Visit ที่ต้องเป็นครอบครัวที่เกี่ยวพันกันทางสายเลือดและจะต้องการเอกสารแสดงสถานะทางครอบครัวอย่างเป็นทางการที่ออกให้โดยราชการของที่นั่น อาทิ สูติบัตร ต่าง ๆ ครับ
(หลักฐานจะแตกต่างกันครับ) โดยครั้งนี้คุณลุงผมซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสเป็นคนเชิญและเป็นสปอนเซอร์ซัพพอร์ทให้ทุกอย่าง
ผมเตรียมเอกสารเสร็จสิ้นตั้งแต่ประมาณปลายเดือนกันยายน 2565 แต่ได้ยื่นจริงคือ 31 ตุลาคม 2565 เนื่องจาก มีคิวในการจองเพื่อไปยื่นกับ TLS
(ซึ่งเป็นตัวแทนทางการของสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสในการรับยื่นวีซ่า) คิวเต็มยาวๆ ไปจนถึงสิ้นปีเลยครับ ค่อนข้างเครียดเพราะผมจองตั๋วเครื่องบินไว้ต้นเดือนธันวาคม ถ้าเอกสารไม่ครบ หรือไม่ผ่าน ก็เตรียมเทการเดินทางได้เลย โดยขั้นแรกที่ทุกคนต้องทำไม่ว่าจะวีซ่าประเภทไหน คือการ เข้าไปสมัครบัญชีและกรอกข้อมูลผู้สมัครในเว็บไซต์
https://france-visas.gouv.fr ก่อนเป็นอย่างแรกครับ ซึ่งมีรายละเอียดที่ต้องกรอกค่อนข้างละเอียดทีเดียว และเมื่อกรอกข้อมูลไปเรื่อยๆ จนถึงหน้าสุดท้ายจะแสดง List เอกสารแบบคร่าว ๆ ประกอบในการยื่นวีซ่า ซึ่งดูเหมือนมีไม่กี่อย่างนะครับ แต่ในการยื่นจริงนั้น เราต้องมีเอกสารที่จะต้อง support มากกว่านั้น ดังนี้ครับ
เอกสารของผู้เชิญ Sponsor
ซึ่งจะต้องให้ผู้ที่จะเชิญเราเตรียมสิ่งเหล่านี้ โดยบางอย่างต้องไปขอที่หน่วยงานท้องถิ่นและส่งมาให้ มีดังนี้ครับ ซึ่งเอกสารบางอย่างจำเป็นต้อง
"ใช้ตัวจริง" ในขณะที่หลาย ๆ อย่างใช้เป็นสำเนาหรือส่งเมลล์มา print ที่เราเองได้ครับ
เอกสารที่จะต้องเป็นตัวจริง
(ต้องให้คนเชิญส่งมาให้ก่อนที่เราจะไปยื่นเรื่อง) โดยของผมให้คุณลุงส่งมาทางไปรษณีย์ (air mail) ครับ
1. Attestation d'accueil ที่กรอกข้อมูลครบ และติดสแตมป์ 30 euros ก็คือหนังสือให้การรับรองที่พักที่เป็นหลักแหล่งชัดเจน สามารถให้คนเชิญไปขอได้ที่ Mairie (หน่วยราชการท้องถิ่นของฝรั่งเศสในเขตพื้นที่ ๆ อาศัยอยู่) ทำการออกเอกสารนี้ให้ และนายอำเภอจะเซ็นต์และประทับตราให้ครับ ซึ่งในใบนี้จะประกอบด้วยข้อมูล ชื่อ ที่อยู่ ของผู้เชิญ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้เชิญกับคนที่ถูกเชิญ เบอร์โทรศัพท์ และช่วงเวลาที่จะไปพำนักในฝรั่งเศสครับ (ซึ่งวันที่ที่ชัดเจนมีความสำคัญมาก และจะต้องตรงกับวันเดินทางของเราครับ) โดยจะต้องเป็น เอกสารตัวจริง! ครับ ย้ำนะครับ
2. จดหมายแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้เชิญกับเรา ของผมคุณลุงเขียนมาว่าเป็นหลานของภรรยา ซึ่งเป็นเหมือนหนังสือรับรองที่เขียนขึ้นเอง จะพิมพ์หรือเขียนก็ได้ครับ แล้วเซ็นชื่อกำกับ
3. จดหมายแสดงการรับรองค่าใช้จ่าย หรือค่ากินอยู่ จิปาถะ ต่างๆ ระหว่างที่เราไปครับ เนื่องจากผมระบุไปในตอนกรอกข้อมูลใบสมัครว่าคนเชิญออกให้ทั้งหมด เลยต้องมีตัวนี้ยืนยันว่าเค้าจะ sponsor ให้เราจริงครับ เหมือนจดหมายแสดงความสัมพันธ์ซึ่งจะเขียนหรือพิมพ์ก็ได้ครับ แล้วเซ็นชื่อกำกับ
เอกสารที่ scan ส่งมาและ print จากอีเมลล์เราเองได้
หลักฐานต่อไปนี้ ผมให้คุณลุงชาวฝรั่งเศส Scan ส่งมาให้ทางอีเมลครับ โดยเอกสารต้องชัดเจน มีข้อมูลครบ ไม่ขาด ไม่ตกหล่น ซึ่งผมมาปริ้นเองทั้งหมดให้อยู่ในขนาดกระดาษ A4 ครับ มีบางอย่างที่ไม่ชัด ผมนำมาปรับความละเอียดเอาเองด้วยครับ
4. bank guarantee จากผู้เชิญครับ หรือจะเป็น Statement รายการเดินบัญชีของผู้เชิญก็ได้ โดยสามารถให้คนเชิญไปขอได้ที่ธนาคารเลยครับ เค้าจะแนะนำให้ แจ้งว่าขอไปประกอบการทำวีซ่า
5. หลักฐานการจ้างงาน/เงินเดือน
5.1 กรณีที่คนเชิญยังทำงานอยู่
5.2 กรณีที่คนเชิญเกษียณอายุแล้ว ก็เป็นหลักฐานการได้รับเงินบำนาญ (Pension) ครับ ซึ่งคุณลุงผมใช้ตัวนี้ส่งมาให้
6. เอกสารเกี่ยวกับที่พักอาศัยที่น่าเชื่อถือ (จริงๆ จะใช้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ แต่ถ้าไม่ลำบากและเพื่อความชัวร์ๆ เอาทุกอย่างเลยครับ)
6.1 ใบเสียภาษีบ้านประจำปี
6.2 ใบเสียค่าน้ำ
6.3 ใบเสียค่าไฟฟ้า
โดยผมขอให้คุณลุงส่งมาให้ทุกอย่างเลยครับตามข้างต้น สถานทูตจะดูว่าที่ ๆ เราจะไปพักนั้นมีจริงหรือไม่ หรือคนเชิญเป็นเจ้าของจริง มิได้ไปแอบอ้างเอาบ้านใครมาหลอก
7. สำเนาหน้าพาสปอร์ตของคนเชิญ
8. หน้าที่มีตราประทับเข้าประเทศไทย (เพื่อแสดงให้สถานทูตเห็นว่าเรามีการติดต่อไปมาหาสู่กันจริงๆ ไม่ได้โกหก)
เอกสารของผู้สมัครขอวีซ่า ซึ่งก็คือตัวผมเองครับ
1. ใบสมัครขอวีซ่า ปริ้นออกมาจากเว็บ France-visas หลังจากกรอกข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนครับ และ ใบ Receipt ที่ยืนยันการลงทะเบียน (ซึ่งตัวนี้จะอยู่รวมในไฟล์เดียวกันมีบาร์โค้ดบอกหมายเลขครับ)
2. passport ตัวจริงและสำเนา
3. รูปถ่ายสี พื้นหลังขาว 2 ใบ ขนาด 3.5 cm x 4.5 cm เห็นหน้า ใบหู ชัดเจน (โดยให้ง่าย สามารถบอกร้านถ่ายรูปได้เลยครับว่าเราขอไปทำวีซ่าเชงเก้น)
4. เอกสารจองตั๋วเครื่องบินไป - กลับ หรือเรียกว่า Travel Itinerary (print เอาจากเว็บที่เราจองได้เลยครับ)
5. ประกันภัยการเดินทางโดยจะต้องมีวงเงินประกันไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านบาท หรือ 30000 euros และคุ้มครองในเขตเชงเก้น หรือ worldwide โดยเลือกจากบริษัทที่ทาง TLS แนะนำซึ่งมีหลายบริษัทมาก ของผมซื้อกับ Axa ประกันภัย ซึ่งจะมีให้เลือกแผนเลยครับว่าสำหรับนำไปขอวีซ่า ประมาณ 600 กว่าบาท ซื้อผ่านบัตรเครดิต และได้รับกรมธรรม์ใน 5 นาที ปริ้นเอาจากอีเมลล์ได้เลยครับ
6. จดหมายแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ (หาแบบฟอร์มได้จากในเว็บเลยครับ มีเยอะมาก) โดยต้องมีใจความสำคัญระบุว่าเราเป็นใคร ที่อยู่ที่ไหน ประกอบอาชีพอะไร จะไปด้วยวัตถุประสงค์อะไร มีระยะเวลาอยู่กี่วัน แล้วมีความจำเป็นอะไรถึงต้องกลับมาประเทศไทย (เพื่อยืนยันว่าเรามีภาระที่อยู่ทางนี้ กลับมาแน่ๆ ไม่ได้จะไปแอบโดด อยู่เกินแต่อย่างใด) และเซ็นชื่อรับรองว่าข้อความทั้งหมดเป็นเรื่องจริงครับ
7. Statement บัญชีย้อนหลัง 3 เดือน (ฉบับภาษาอังกฤษ) โหลดได้จากในแอปธนาคารครับ ของผมโหลดจากแอพ KrungThai
8. หนังสือรับรองการเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝาก (ฉบับภาษาอังกฤษ) ขอได้ที่ธนาคารทุกแห่งครับ มีค่าธรรมเนียมประมาณ 100 บาท โดยจะยืนยันว่าเราเป็นเจ้าของบัญชีนี้จริง และมีการแปลงเงินฝากทั้งหมดที่เรามีให้อยู่ในหน่วย Euros ด้วย ขอประมาณ 10 นาทีได้ครับ
9. หนังสือรับรองการทำงานที่ระบุว่าเราทำงานอะไร ตำแหน่งอะไร บริษัทหรือหน่วยงานไหน
10. หรือหนังสือรับรองการลาของเราที่ระบุระยะเวลาลา และยืนยันว่าเราได้รับอนุญาตให้ลาเดินทางไปต่างประเทศได้จริง
11. Slip เงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน
*** เอกสาร 9 , 10 , ถ้าท่านใดทำงานเอกชนที่สามารถออกภาษาอังกฤษได้ ก็ขอเป็นภาษาอังกฤษครับ ส่วนของผมนั้นทุกฉบับเป็นภาษาไทยเนื่องจากทำงานราชการ จึงต้องมีการแปลเป็นภาษาอังกฤษครับ ซึ่งผมนั้นแปลเอกสาร 9, 10 , ด้วยตนเอง (สอบถามทาง TLS เอกสารที่แปล ไม่ต้องจ้างแปลนะครับ เราสามารถแปลเองได้ เอาให้ได้สาระสำคัญที่ชัดเจน ไม่ต้องไปเสียเงินจ้างแต่อย่างใด)
*** Slip เงินเดือนถ้าท่านใดเป็นฉบับภาษาอังกฤษก็ใช้อันนั้นเลยครับ แต่ที่ทำงานผมมีแต่ฉบับภาษาไทยและเป็นตารางยุบยิบมาก ผมใช้วิธีเขียนกำกับเป็นภาษาอังกฤษด้วยดินสอลงไปในสลิป ในส่วนเฉพาะของรายรับ รายจ่ายสุทธิ (สามารถทำได้ครับ สอบถาม TLS แล้ว)
เป็นอันเสร็จสิ้นครับ สำหรับการเตรียมเอกสาร ซึ่งเยอะมากมาย (ที่ผมเตรียมนะครับ) โดยเราต้องคำนึงถึงหลักการนี้ครับสำหรับการเยี่ยม private visit คือ "เอกสารคนเชิญต้องแน่น เอกสารตัวเราต้องแน่น" จะทำให้โอกาสผ่าน "สูง" ครับ
วันที่ไปยื่นเอกสารที่ TLS (ซึ่งจะต้องทำการสมัครบัญชีกับ TLS และเลือกวัน เวลา ที่จองก่อนครับ ของผมได้วันที่ 31 ตุลาคม 2565 ช่วงเช้า
1.ไปที่สำนักงาน TLS contact ซึ่งตั้งอยู่ ชั้น 12 ณ อาคารสาทรซิตี้ ทาวเวอร์ครับ นั่ง BTS ลงสถานีช่องนนทรีได้ แต่ผมขับรถไปเอง
2.แลกบัตร ตรงประชาสัมพันธ์ ข้างร้าน starbuck โดยเจ้าหน้าที่จะให้บัตรสำหรับแตะตรงประตูทางเข้าให้
3.เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 3 แล้วเลี้ยวขวา ผ่านประตูโดยใช้บัตรที่แลกแตะผ่าน แล้วขึ้นลิฟต์ไปชั้น 12 ครับ
4.เข้าแถวหน้าทางเข้า TLS ครับ โดยเจ้าหน้าที่จะบอกให้เราเข้าแถวรอ เรียกเป็นรอบๆ ไปฮะ
5.ยื่นพาสปอร์ตที่เราใช้ลงทะเบียนจองคิวมาที่โต๊ะด้านหน้า เจ้าหน้าที่จะสอบถามข้อมูลเบื้องต้น และดูรูปถ่ายที่เราเตรียมมาว่าใช้ได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ จะมีตู้ให้เราถ่าย 4 ใบ 250 บาทครับ ของผมรูปที่ถ่ายมาผ่านครับ เจ้าหน้าที่ก็จะให้เรารับบัตรเพื่อไปจุดต่อไป
6. เข้าไปนั่งรอจุดต่อไป เพื่อรอยื่นเอกสารทั้งหมดที่ครับ ตามช่องๆ คล้ายๆ เคาน์เตอร์ธนาคาร และเจ้าหน้าที่จะเรียกครับ
7. เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกก็เดินเข้าไปเลยครับ และเจ้าหน้าที่จะสอบถามข้อมูลโดยละเอียด ดูเอกสาร (ละเอียดมาก) ซึ่งขั้นนี้ถ้าใครเอกสารครบก็รอดไป ถ้าใครมีปัญหาเค้าจะแจ้งทันทีครับว่าเราขาดอะไรไป ต้องใช้อะไรเพิ่ม (ผมสังเกตจากโต๊ะข้างๆ) ของผมครบถ้วนครับ เจ้าหน้าที่จะสอบถามว่าเราสะดวกมารับเล่ม passport เองหรือจะให้ส่งทางไปรษณีย์ ซึ่งผมสะดวกที่จะมารับเองครับ
8. ไปจ่ายค่าธรรมเนียมที่แคชเชียร์
9. รอบันทึกข้อมูล Biometrics และสแกนนิ้ว (ใครที่เคยผ่านกระบวนการนี้แล้วไม่ต้องครับ)
10. เสร็จสิ้นกระบวนการยื่นเอกสารกับ TLS ทั้งหมดครับ
โดยรวมใช้เวลาไปประมาณ 1 ชม. ได้ครับ ซึ่งไม่นานเลย ถ้าเตรียมทุกอย่างมาครบ
จากนั้นก็รอ รอ รอ อย่างเดียวครับ โดย TLS จะอัพเดทข้อมูลขั้นตอนต่างๆ ผ่านทาง email ที่เราใช้ลงทะเบียน ของผมแจ้งว่า "เอกสารของคุณถูกส่งไปยังสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสแล้ว" และหลังจากนั้นผมได้รับอีเมลล์และทาง SMS ให้ไปรับ passport คืนเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน และผมเดินทางไปรับด้วยตัวเองวันที่ 4 ครับ ซึ่งเมื่อไปรับเจ้าหน้าที่จะให้เราเซ็นชื่อในใบรับ เราจะได้รับซองปิดผนึก ใส่ passport เค้าจะให้เราแกะดูเลยครับว่าได้เล่มที่ถูกต้องคืนหรือเปล่า ซึ่งตอนนั้นก็ลุ้นพอสมควร เพราะเคยอ่านจากผู้ที่ไม่ผ่านว่าจะมีกระดาษบอกเหตุผลแนบมาถ้าไม่ผ่าน ซึ่งของผมผลคือได้วีซ่าครับ เรียบร้อย
ทั้งหมดก็เป็นอันจบขั้นตอนการเตรียมเอกสารและยื่นเอกสารทำวีซ่าประเภท private visit เพื่อเดินทางไปฝรั่งเศสครับ ผมหวังว่าข้อมูลทั้งหมดจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านที่กำลังวางแผนจะเดินทางด้วยวัตถุประสงค์นี้ หากผิดพลาด บกพร่องแต่ประการใด ผมยินดีน้อมรับครับ
ขอให้ทุกท่านที่ยื่นวีซ่า ผ่านตามที่ตั้งใจนะครับผม ^^
ประสบการณ์ยื่นวีซ่า Schengen ฝรั่งเศสเยี่ยมส่วนตัว (Private Visit) 2022
ความลำบากของการเตรียมเอกสารที่ผมสัมผัสได้เลย คือ ข้อมูลเยอะมากกกกกกกกก ซึ่งแต่ละรูปแบบจะมีรายละเอียดปลีกย่อยไม่เหมือนกัน (แต่มีหลักคล้าย ๆ กัน) เลยอยากแชร์เพื่อน ๆ เนื่องจากผมคลำทางเองบ้าง ปะติดปะต่อข้อมูลจากกระทู้ผู้ใจบุญในพันทิปบ้าง จนผ่านมาได้ ดังนี้ครับ
เคสของผมคือการเดินทางไปเยี่ยมญาติ ซึ่งก็คือคุณลุงชาวฝรั่งเศส กับคุณป้าของผมซึ่งเป็นคนไทยที่แต่งงาน ตั้งครอบครัวอยู่ที่ฝรั่งเศสนานแล้ว โดยผมเป็นหลานของคุณป้า (ลูกของน้องสาวคุณป้า) ซึ่งถ้านับตามความเกี่ยวข้องแล้ว ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวพันทางสายเลือด หรือเป็นครอบครัวโดยตรงครับ การไปเยี่ยมของผมจึงต้องใช้วีซ่าประเภทเยี่ยมส่วนตัว (Private visit) หรือประเภทเยี่ยมเพื่อน ซึ่งจะคนละประเภทกับ Family Visit ที่ต้องเป็นครอบครัวที่เกี่ยวพันกันทางสายเลือดและจะต้องการเอกสารแสดงสถานะทางครอบครัวอย่างเป็นทางการที่ออกให้โดยราชการของที่นั่น อาทิ สูติบัตร ต่าง ๆ ครับ
(หลักฐานจะแตกต่างกันครับ) โดยครั้งนี้คุณลุงผมซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสเป็นคนเชิญและเป็นสปอนเซอร์ซัพพอร์ทให้ทุกอย่าง
ผมเตรียมเอกสารเสร็จสิ้นตั้งแต่ประมาณปลายเดือนกันยายน 2565 แต่ได้ยื่นจริงคือ 31 ตุลาคม 2565 เนื่องจาก มีคิวในการจองเพื่อไปยื่นกับ TLS
(ซึ่งเป็นตัวแทนทางการของสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสในการรับยื่นวีซ่า) คิวเต็มยาวๆ ไปจนถึงสิ้นปีเลยครับ ค่อนข้างเครียดเพราะผมจองตั๋วเครื่องบินไว้ต้นเดือนธันวาคม ถ้าเอกสารไม่ครบ หรือไม่ผ่าน ก็เตรียมเทการเดินทางได้เลย โดยขั้นแรกที่ทุกคนต้องทำไม่ว่าจะวีซ่าประเภทไหน คือการ เข้าไปสมัครบัญชีและกรอกข้อมูลผู้สมัครในเว็บไซต์ https://france-visas.gouv.fr ก่อนเป็นอย่างแรกครับ ซึ่งมีรายละเอียดที่ต้องกรอกค่อนข้างละเอียดทีเดียว และเมื่อกรอกข้อมูลไปเรื่อยๆ จนถึงหน้าสุดท้ายจะแสดง List เอกสารแบบคร่าว ๆ ประกอบในการยื่นวีซ่า ซึ่งดูเหมือนมีไม่กี่อย่างนะครับ แต่ในการยื่นจริงนั้น เราต้องมีเอกสารที่จะต้อง support มากกว่านั้น ดังนี้ครับ
เอกสารของผู้เชิญ Sponsor
ซึ่งจะต้องให้ผู้ที่จะเชิญเราเตรียมสิ่งเหล่านี้ โดยบางอย่างต้องไปขอที่หน่วยงานท้องถิ่นและส่งมาให้ มีดังนี้ครับ ซึ่งเอกสารบางอย่างจำเป็นต้อง
"ใช้ตัวจริง" ในขณะที่หลาย ๆ อย่างใช้เป็นสำเนาหรือส่งเมลล์มา print ที่เราเองได้ครับ
เอกสารที่จะต้องเป็นตัวจริง
(ต้องให้คนเชิญส่งมาให้ก่อนที่เราจะไปยื่นเรื่อง) โดยของผมให้คุณลุงส่งมาทางไปรษณีย์ (air mail) ครับ
1. Attestation d'accueil ที่กรอกข้อมูลครบ และติดสแตมป์ 30 euros ก็คือหนังสือให้การรับรองที่พักที่เป็นหลักแหล่งชัดเจน สามารถให้คนเชิญไปขอได้ที่ Mairie (หน่วยราชการท้องถิ่นของฝรั่งเศสในเขตพื้นที่ ๆ อาศัยอยู่) ทำการออกเอกสารนี้ให้ และนายอำเภอจะเซ็นต์และประทับตราให้ครับ ซึ่งในใบนี้จะประกอบด้วยข้อมูล ชื่อ ที่อยู่ ของผู้เชิญ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้เชิญกับคนที่ถูกเชิญ เบอร์โทรศัพท์ และช่วงเวลาที่จะไปพำนักในฝรั่งเศสครับ (ซึ่งวันที่ที่ชัดเจนมีความสำคัญมาก และจะต้องตรงกับวันเดินทางของเราครับ) โดยจะต้องเป็น เอกสารตัวจริง! ครับ ย้ำนะครับ
2. จดหมายแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้เชิญกับเรา ของผมคุณลุงเขียนมาว่าเป็นหลานของภรรยา ซึ่งเป็นเหมือนหนังสือรับรองที่เขียนขึ้นเอง จะพิมพ์หรือเขียนก็ได้ครับ แล้วเซ็นชื่อกำกับ
3. จดหมายแสดงการรับรองค่าใช้จ่าย หรือค่ากินอยู่ จิปาถะ ต่างๆ ระหว่างที่เราไปครับ เนื่องจากผมระบุไปในตอนกรอกข้อมูลใบสมัครว่าคนเชิญออกให้ทั้งหมด เลยต้องมีตัวนี้ยืนยันว่าเค้าจะ sponsor ให้เราจริงครับ เหมือนจดหมายแสดงความสัมพันธ์ซึ่งจะเขียนหรือพิมพ์ก็ได้ครับ แล้วเซ็นชื่อกำกับ
เอกสารที่ scan ส่งมาและ print จากอีเมลล์เราเองได้
หลักฐานต่อไปนี้ ผมให้คุณลุงชาวฝรั่งเศส Scan ส่งมาให้ทางอีเมลครับ โดยเอกสารต้องชัดเจน มีข้อมูลครบ ไม่ขาด ไม่ตกหล่น ซึ่งผมมาปริ้นเองทั้งหมดให้อยู่ในขนาดกระดาษ A4 ครับ มีบางอย่างที่ไม่ชัด ผมนำมาปรับความละเอียดเอาเองด้วยครับ
4. bank guarantee จากผู้เชิญครับ หรือจะเป็น Statement รายการเดินบัญชีของผู้เชิญก็ได้ โดยสามารถให้คนเชิญไปขอได้ที่ธนาคารเลยครับ เค้าจะแนะนำให้ แจ้งว่าขอไปประกอบการทำวีซ่า
5. หลักฐานการจ้างงาน/เงินเดือน
5.1 กรณีที่คนเชิญยังทำงานอยู่
5.2 กรณีที่คนเชิญเกษียณอายุแล้ว ก็เป็นหลักฐานการได้รับเงินบำนาญ (Pension) ครับ ซึ่งคุณลุงผมใช้ตัวนี้ส่งมาให้
6. เอกสารเกี่ยวกับที่พักอาศัยที่น่าเชื่อถือ (จริงๆ จะใช้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ แต่ถ้าไม่ลำบากและเพื่อความชัวร์ๆ เอาทุกอย่างเลยครับ)
6.1 ใบเสียภาษีบ้านประจำปี
6.2 ใบเสียค่าน้ำ
6.3 ใบเสียค่าไฟฟ้า
โดยผมขอให้คุณลุงส่งมาให้ทุกอย่างเลยครับตามข้างต้น สถานทูตจะดูว่าที่ ๆ เราจะไปพักนั้นมีจริงหรือไม่ หรือคนเชิญเป็นเจ้าของจริง มิได้ไปแอบอ้างเอาบ้านใครมาหลอก
7. สำเนาหน้าพาสปอร์ตของคนเชิญ
8. หน้าที่มีตราประทับเข้าประเทศไทย (เพื่อแสดงให้สถานทูตเห็นว่าเรามีการติดต่อไปมาหาสู่กันจริงๆ ไม่ได้โกหก)
เอกสารของผู้สมัครขอวีซ่า ซึ่งก็คือตัวผมเองครับ
1. ใบสมัครขอวีซ่า ปริ้นออกมาจากเว็บ France-visas หลังจากกรอกข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนครับ และ ใบ Receipt ที่ยืนยันการลงทะเบียน (ซึ่งตัวนี้จะอยู่รวมในไฟล์เดียวกันมีบาร์โค้ดบอกหมายเลขครับ)
2. passport ตัวจริงและสำเนา
3. รูปถ่ายสี พื้นหลังขาว 2 ใบ ขนาด 3.5 cm x 4.5 cm เห็นหน้า ใบหู ชัดเจน (โดยให้ง่าย สามารถบอกร้านถ่ายรูปได้เลยครับว่าเราขอไปทำวีซ่าเชงเก้น)
4. เอกสารจองตั๋วเครื่องบินไป - กลับ หรือเรียกว่า Travel Itinerary (print เอาจากเว็บที่เราจองได้เลยครับ)
5. ประกันภัยการเดินทางโดยจะต้องมีวงเงินประกันไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านบาท หรือ 30000 euros และคุ้มครองในเขตเชงเก้น หรือ worldwide โดยเลือกจากบริษัทที่ทาง TLS แนะนำซึ่งมีหลายบริษัทมาก ของผมซื้อกับ Axa ประกันภัย ซึ่งจะมีให้เลือกแผนเลยครับว่าสำหรับนำไปขอวีซ่า ประมาณ 600 กว่าบาท ซื้อผ่านบัตรเครดิต และได้รับกรมธรรม์ใน 5 นาที ปริ้นเอาจากอีเมลล์ได้เลยครับ
6. จดหมายแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ (หาแบบฟอร์มได้จากในเว็บเลยครับ มีเยอะมาก) โดยต้องมีใจความสำคัญระบุว่าเราเป็นใคร ที่อยู่ที่ไหน ประกอบอาชีพอะไร จะไปด้วยวัตถุประสงค์อะไร มีระยะเวลาอยู่กี่วัน แล้วมีความจำเป็นอะไรถึงต้องกลับมาประเทศไทย (เพื่อยืนยันว่าเรามีภาระที่อยู่ทางนี้ กลับมาแน่ๆ ไม่ได้จะไปแอบโดด อยู่เกินแต่อย่างใด) และเซ็นชื่อรับรองว่าข้อความทั้งหมดเป็นเรื่องจริงครับ
7. Statement บัญชีย้อนหลัง 3 เดือน (ฉบับภาษาอังกฤษ) โหลดได้จากในแอปธนาคารครับ ของผมโหลดจากแอพ KrungThai
8. หนังสือรับรองการเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝาก (ฉบับภาษาอังกฤษ) ขอได้ที่ธนาคารทุกแห่งครับ มีค่าธรรมเนียมประมาณ 100 บาท โดยจะยืนยันว่าเราเป็นเจ้าของบัญชีนี้จริง และมีการแปลงเงินฝากทั้งหมดที่เรามีให้อยู่ในหน่วย Euros ด้วย ขอประมาณ 10 นาทีได้ครับ
9. หนังสือรับรองการทำงานที่ระบุว่าเราทำงานอะไร ตำแหน่งอะไร บริษัทหรือหน่วยงานไหน
10. หรือหนังสือรับรองการลาของเราที่ระบุระยะเวลาลา และยืนยันว่าเราได้รับอนุญาตให้ลาเดินทางไปต่างประเทศได้จริง
11. Slip เงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน
*** เอกสาร 9 , 10 , ถ้าท่านใดทำงานเอกชนที่สามารถออกภาษาอังกฤษได้ ก็ขอเป็นภาษาอังกฤษครับ ส่วนของผมนั้นทุกฉบับเป็นภาษาไทยเนื่องจากทำงานราชการ จึงต้องมีการแปลเป็นภาษาอังกฤษครับ ซึ่งผมนั้นแปลเอกสาร 9, 10 , ด้วยตนเอง (สอบถามทาง TLS เอกสารที่แปล ไม่ต้องจ้างแปลนะครับ เราสามารถแปลเองได้ เอาให้ได้สาระสำคัญที่ชัดเจน ไม่ต้องไปเสียเงินจ้างแต่อย่างใด)
*** Slip เงินเดือนถ้าท่านใดเป็นฉบับภาษาอังกฤษก็ใช้อันนั้นเลยครับ แต่ที่ทำงานผมมีแต่ฉบับภาษาไทยและเป็นตารางยุบยิบมาก ผมใช้วิธีเขียนกำกับเป็นภาษาอังกฤษด้วยดินสอลงไปในสลิป ในส่วนเฉพาะของรายรับ รายจ่ายสุทธิ (สามารถทำได้ครับ สอบถาม TLS แล้ว)
เป็นอันเสร็จสิ้นครับ สำหรับการเตรียมเอกสาร ซึ่งเยอะมากมาย (ที่ผมเตรียมนะครับ) โดยเราต้องคำนึงถึงหลักการนี้ครับสำหรับการเยี่ยม private visit คือ "เอกสารคนเชิญต้องแน่น เอกสารตัวเราต้องแน่น" จะทำให้โอกาสผ่าน "สูง" ครับ
วันที่ไปยื่นเอกสารที่ TLS (ซึ่งจะต้องทำการสมัครบัญชีกับ TLS และเลือกวัน เวลา ที่จองก่อนครับ ของผมได้วันที่ 31 ตุลาคม 2565 ช่วงเช้า
1.ไปที่สำนักงาน TLS contact ซึ่งตั้งอยู่ ชั้น 12 ณ อาคารสาทรซิตี้ ทาวเวอร์ครับ นั่ง BTS ลงสถานีช่องนนทรีได้ แต่ผมขับรถไปเอง
2.แลกบัตร ตรงประชาสัมพันธ์ ข้างร้าน starbuck โดยเจ้าหน้าที่จะให้บัตรสำหรับแตะตรงประตูทางเข้าให้
3.เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 3 แล้วเลี้ยวขวา ผ่านประตูโดยใช้บัตรที่แลกแตะผ่าน แล้วขึ้นลิฟต์ไปชั้น 12 ครับ
4.เข้าแถวหน้าทางเข้า TLS ครับ โดยเจ้าหน้าที่จะบอกให้เราเข้าแถวรอ เรียกเป็นรอบๆ ไปฮะ
5.ยื่นพาสปอร์ตที่เราใช้ลงทะเบียนจองคิวมาที่โต๊ะด้านหน้า เจ้าหน้าที่จะสอบถามข้อมูลเบื้องต้น และดูรูปถ่ายที่เราเตรียมมาว่าใช้ได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ จะมีตู้ให้เราถ่าย 4 ใบ 250 บาทครับ ของผมรูปที่ถ่ายมาผ่านครับ เจ้าหน้าที่ก็จะให้เรารับบัตรเพื่อไปจุดต่อไป
6. เข้าไปนั่งรอจุดต่อไป เพื่อรอยื่นเอกสารทั้งหมดที่ครับ ตามช่องๆ คล้ายๆ เคาน์เตอร์ธนาคาร และเจ้าหน้าที่จะเรียกครับ
7. เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกก็เดินเข้าไปเลยครับ และเจ้าหน้าที่จะสอบถามข้อมูลโดยละเอียด ดูเอกสาร (ละเอียดมาก) ซึ่งขั้นนี้ถ้าใครเอกสารครบก็รอดไป ถ้าใครมีปัญหาเค้าจะแจ้งทันทีครับว่าเราขาดอะไรไป ต้องใช้อะไรเพิ่ม (ผมสังเกตจากโต๊ะข้างๆ) ของผมครบถ้วนครับ เจ้าหน้าที่จะสอบถามว่าเราสะดวกมารับเล่ม passport เองหรือจะให้ส่งทางไปรษณีย์ ซึ่งผมสะดวกที่จะมารับเองครับ
8. ไปจ่ายค่าธรรมเนียมที่แคชเชียร์
9. รอบันทึกข้อมูล Biometrics และสแกนนิ้ว (ใครที่เคยผ่านกระบวนการนี้แล้วไม่ต้องครับ)
10. เสร็จสิ้นกระบวนการยื่นเอกสารกับ TLS ทั้งหมดครับ
โดยรวมใช้เวลาไปประมาณ 1 ชม. ได้ครับ ซึ่งไม่นานเลย ถ้าเตรียมทุกอย่างมาครบ
จากนั้นก็รอ รอ รอ อย่างเดียวครับ โดย TLS จะอัพเดทข้อมูลขั้นตอนต่างๆ ผ่านทาง email ที่เราใช้ลงทะเบียน ของผมแจ้งว่า "เอกสารของคุณถูกส่งไปยังสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสแล้ว" และหลังจากนั้นผมได้รับอีเมลล์และทาง SMS ให้ไปรับ passport คืนเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน และผมเดินทางไปรับด้วยตัวเองวันที่ 4 ครับ ซึ่งเมื่อไปรับเจ้าหน้าที่จะให้เราเซ็นชื่อในใบรับ เราจะได้รับซองปิดผนึก ใส่ passport เค้าจะให้เราแกะดูเลยครับว่าได้เล่มที่ถูกต้องคืนหรือเปล่า ซึ่งตอนนั้นก็ลุ้นพอสมควร เพราะเคยอ่านจากผู้ที่ไม่ผ่านว่าจะมีกระดาษบอกเหตุผลแนบมาถ้าไม่ผ่าน ซึ่งของผมผลคือได้วีซ่าครับ เรียบร้อย
ทั้งหมดก็เป็นอันจบขั้นตอนการเตรียมเอกสารและยื่นเอกสารทำวีซ่าประเภท private visit เพื่อเดินทางไปฝรั่งเศสครับ ผมหวังว่าข้อมูลทั้งหมดจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านที่กำลังวางแผนจะเดินทางด้วยวัตถุประสงค์นี้ หากผิดพลาด บกพร่องแต่ประการใด ผมยินดีน้อมรับครับ
ขอให้ทุกท่านที่ยื่นวีซ่า ผ่านตามที่ตั้งใจนะครับผม ^^