คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ขนาดการบ้านบัญชีเขาอยากให้ผมสอนผมยังอุส่าสอนให้ แต่คือเขาไม่เข้าใจจริงๆผมพยายามอธิบายให้ฟังแล้วทั้งวาดทั้งเขียน ก็ไม่เข้าใจ ผมก็เลยส่งคลิปสอนเลขเด็กปฐมในยูทูปให้ดูเผื่อจะเข้าใจง่าย เขายังมาหาว่าผมดูถูกเขาอีกทำไมต้องเอาเลขปฐมมาให้ดูคือก็มันเรื่องเดียวกัน แค่ คูณหาร เศษส่วน มัธยมมันก็ไม่มีแล้วอะแล้วจะให้ผมเอาที่ไหนให้ดู ผมกลับสงสัยมากกว่าว่าอาจารย์มหาลัยยังสอนเรื่องที่ไว้สอนให้เด็กปฐมให้เข้าใจกันไม่ได้อีกหรอ สรุปก็บ่นผมแล้วบอกเพื่อนสอนเข้าใจกว่าเยอะ ผมก็เลยบอกก็ไม่ต้องให้มาสอนอีก ยังจะมาเอาผมเปรียบเทียบกับเพื่อนให้ฟังอีก
ตั้งแต่คบมาไม่เคยพูดหยาบใส่จนมีครั้งนี้แหละแทบจะเลิกกัน ขึ้นกูจึ้นเลย แต่สุดท้ายไม่เลิก ขนาดข่าวบางทีผมบอกว่าอย่าไปด่าเขาเลยไม่ต้องโพส ไม่ต้องทวีตหรอก ถ้ารู้ว่าเขาเป็คนไม่ดีเขาทำไรไม่ดีเราก็รู้ไว้แค่นั้นไม่ต้องไปนั่งด่าเขาหรือเอาเขาไปด่าให้คนอื่นฟัง การด่าคนที่เราคิดว่าไม่ดี ก็ไม่ได้แปลว่าตัวเราจะดีขึ้นนะ คนดีเขาไม่มานั่งด่าคนไม่ดีกันหรอก นั่นหละทะเลาะกันตามเคย ก็ปล่อยเลยตามเลยครับ(แต่ผมไม่ชอบที่วันๆต้องนั่งฟังเเต่เรื่อง ลบๆ จริงนะครับคุยกันจะมานั่งด่าคนอื่นให้ฟังทำไม)
-ช่วงท้าย(5ปี)
เป็นช่วงที่แทบจะไม่คุยกันคุยกันแค่วันละ5-6ประโยค วันครบรอบ เทศกาล ไม่เจอไม่เที่ยวกันชวนคุยเขาก็เหมือนไม่อยากคุย ถามไถ่อะไรก็ดูเหมือนไม่อยากจะตอบ สุดท้ายผมก็เลยขอเลิกเขาก็ขู่จะฆ่าตัวตาย ผมเลยจำใจไม่เลิกทนต่อไป สุดท้ายเขาก็มาขอเลิกกับผมเอง โดยบอกว่าเขาไม่อยากให้ผมมาทรมาณกับเขาต่อไป แล้วเขาก็ลบช่องทางการติดต่อทั้งหมดกับผม ผมก็รู้สึกเป็นห่วงช่วงเดือนแรกผมก็แอบถามเพื่อนๆว่าเขาเป็นไงมั่งแต่พอเห็นเขาสบายดีเลย เลิกติดตามไป
หลังจากนั้นเวลาล่วงเลยมาประมาณ1ปี ผมได้คบกับผู้หญิงคนอื่น(สมมุติว่าชื่อ A)แล้วก็เลิกกันไป(เลิกด้วยดีเธอจะไปทำงานต่างประเทศ) หลังจากเลิกซักพักได้ซักแฟนเก่าที่คบกัน5ปีทักมาขอคืนดี ซึ่งผมนึกถึงอดีตแล้วผมไม่ไหวจริงๆผมบอกแล้วว่าเราไปกันไม่รอดหาผู้ชายคนอื่นเถอะเขาบอกขอโอกาสจีบได้ไหม ขอเวลาซักพักลองไปเที่ยวด้วยกัน บ้างเจอกันบ้างคุยกันบ้างให้รู้ว่าตัวเขาเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่หลังจากได้ลองไปเที่ยวด้วยกันคุยด้วยกัน ผมรู้สึกว่ายังไงก็ไปไม่รอดครับ สไตล์การใช้ขีวิตผมเปลี่ยนไปแล้วตอนคบกับผู้หญิงA เพราะชอบอะไรเหมือนๆกันรู้สึกเข้ากันดีมาก ไม่ได้ชอบที่จะมานั่งคุยโทรศัพท์2-3ชม. เหมือนกัน ชอบเจอกันมีสกินชิพกันมากกว่าเหมือนกัน ชอบเรื่องกิจกรรมทางเพศเหมือนกันด้วย ซึ่งกับแฟนเก่านี่แค่จะพูดแหย่ๆเรื่องอย่างว่ายังโดนบ่น อายุ20กลางค่อนปลายแค่จะทำเรื่องอย่างว่ากันยังไม่ได้ ผมว่ายังไงก็เข้ากันไม่ได้จริงๆผมกลายเป็นผู้ชายที่ในสมองมีแต่เรื่อง18+แล้ว
ปัจจุบันผมบอกว่าไม่ต้องมาตื้อแล้ว แต่เขาคิดว่าผมยังมีใจอยู่จริงๆ ผมแค่ไม่กล้าพูดแรงๆกลัวคนอื่นจะเสียใจกับคำพูดผมจริงๆ ไม่เคยด่าผู้หญิงในชีวิตยกเว้นตอนช่วงปฐมเลยตอนนั้นคึกคะนองจริงๆครับ ตอนนี้ก็พยายามบอกตลอดว่าไม่ต้องหวัง แต่เขาคิดจริงๆครับว่าน้ำหยดลงหินทุกวันหินจะพัง
แต่ผมพูดจริงนะครับ น้ำหยดลงหินทุกวันหินก็รำคาญครับไม่แตก
เพื่อนๆคิดว่าผมควรจะทำยังไงดีครับ
ถ้าผมพิมพ์ตกหรือพิมพ์ผิดยังไงขอโทษด้วยครับ
ฟังหูไว้หูนะครับยังไงก็เป็นเรื่องจากแค่ฝั่งเดียว
ตั้งแต่คบมาไม่เคยพูดหยาบใส่จนมีครั้งนี้แหละแทบจะเลิกกัน ขึ้นกูจึ้นเลย แต่สุดท้ายไม่เลิก ขนาดข่าวบางทีผมบอกว่าอย่าไปด่าเขาเลยไม่ต้องโพส ไม่ต้องทวีตหรอก ถ้ารู้ว่าเขาเป็คนไม่ดีเขาทำไรไม่ดีเราก็รู้ไว้แค่นั้นไม่ต้องไปนั่งด่าเขาหรือเอาเขาไปด่าให้คนอื่นฟัง การด่าคนที่เราคิดว่าไม่ดี ก็ไม่ได้แปลว่าตัวเราจะดีขึ้นนะ คนดีเขาไม่มานั่งด่าคนไม่ดีกันหรอก นั่นหละทะเลาะกันตามเคย ก็ปล่อยเลยตามเลยครับ(แต่ผมไม่ชอบที่วันๆต้องนั่งฟังเเต่เรื่อง ลบๆ จริงนะครับคุยกันจะมานั่งด่าคนอื่นให้ฟังทำไม)
-ช่วงท้าย(5ปี)
เป็นช่วงที่แทบจะไม่คุยกันคุยกันแค่วันละ5-6ประโยค วันครบรอบ เทศกาล ไม่เจอไม่เที่ยวกันชวนคุยเขาก็เหมือนไม่อยากคุย ถามไถ่อะไรก็ดูเหมือนไม่อยากจะตอบ สุดท้ายผมก็เลยขอเลิกเขาก็ขู่จะฆ่าตัวตาย ผมเลยจำใจไม่เลิกทนต่อไป สุดท้ายเขาก็มาขอเลิกกับผมเอง โดยบอกว่าเขาไม่อยากให้ผมมาทรมาณกับเขาต่อไป แล้วเขาก็ลบช่องทางการติดต่อทั้งหมดกับผม ผมก็รู้สึกเป็นห่วงช่วงเดือนแรกผมก็แอบถามเพื่อนๆว่าเขาเป็นไงมั่งแต่พอเห็นเขาสบายดีเลย เลิกติดตามไป
หลังจากนั้นเวลาล่วงเลยมาประมาณ1ปี ผมได้คบกับผู้หญิงคนอื่น(สมมุติว่าชื่อ A)แล้วก็เลิกกันไป(เลิกด้วยดีเธอจะไปทำงานต่างประเทศ) หลังจากเลิกซักพักได้ซักแฟนเก่าที่คบกัน5ปีทักมาขอคืนดี ซึ่งผมนึกถึงอดีตแล้วผมไม่ไหวจริงๆผมบอกแล้วว่าเราไปกันไม่รอดหาผู้ชายคนอื่นเถอะเขาบอกขอโอกาสจีบได้ไหม ขอเวลาซักพักลองไปเที่ยวด้วยกัน บ้างเจอกันบ้างคุยกันบ้างให้รู้ว่าตัวเขาเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่หลังจากได้ลองไปเที่ยวด้วยกันคุยด้วยกัน ผมรู้สึกว่ายังไงก็ไปไม่รอดครับ สไตล์การใช้ขีวิตผมเปลี่ยนไปแล้วตอนคบกับผู้หญิงA เพราะชอบอะไรเหมือนๆกันรู้สึกเข้ากันดีมาก ไม่ได้ชอบที่จะมานั่งคุยโทรศัพท์2-3ชม. เหมือนกัน ชอบเจอกันมีสกินชิพกันมากกว่าเหมือนกัน ชอบเรื่องกิจกรรมทางเพศเหมือนกันด้วย ซึ่งกับแฟนเก่านี่แค่จะพูดแหย่ๆเรื่องอย่างว่ายังโดนบ่น อายุ20กลางค่อนปลายแค่จะทำเรื่องอย่างว่ากันยังไม่ได้ ผมว่ายังไงก็เข้ากันไม่ได้จริงๆผมกลายเป็นผู้ชายที่ในสมองมีแต่เรื่อง18+แล้ว
ปัจจุบันผมบอกว่าไม่ต้องมาตื้อแล้ว แต่เขาคิดว่าผมยังมีใจอยู่จริงๆ ผมแค่ไม่กล้าพูดแรงๆกลัวคนอื่นจะเสียใจกับคำพูดผมจริงๆ ไม่เคยด่าผู้หญิงในชีวิตยกเว้นตอนช่วงปฐมเลยตอนนั้นคึกคะนองจริงๆครับ ตอนนี้ก็พยายามบอกตลอดว่าไม่ต้องหวัง แต่เขาคิดจริงๆครับว่าน้ำหยดลงหินทุกวันหินจะพัง
แต่ผมพูดจริงนะครับ น้ำหยดลงหินทุกวันหินก็รำคาญครับไม่แตก
เพื่อนๆคิดว่าผมควรจะทำยังไงดีครับ
ถ้าผมพิมพ์ตกหรือพิมพ์ผิดยังไงขอโทษด้วยครับ
ฟังหูไว้หูนะครับยังไงก็เป็นเรื่องจากแค่ฝั่งเดียว
แสดงความคิดเห็น
เมื่อรักไม่ใช่เซฟโซนควรไปต่อหรือหยุดครับ
เรื่มกันเลยครับ
ผมมีแฟนคนนึงคบกันมาน่าจะ 5 เข้า 6 ปีแล้วครับ ตอนช่วงคบกันใหม่ๆ ผมเป็นคนจีบเองครับ แต่เขาก็แอบชอบผมมานานแล้วเลยได้ตกลงคบกัน
-ช่วงใหม่ๆ(0-2ปี)
ผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะชอบให้เราทำกิจกรรมร่วมกันมากกว่าคุยกันเฉยๆ เช่นไปดูหนัง ไปห้าง ไปเดินเล่น ไปเที่ยว แต่แฟนผมไม่มีความมั่นใจในตัวเองครับ เพราะผมเคยคบกันคนที่หน้าตาค่อนข้างดีครับเขากลัวผมที่จะอายว่าเขาน่าตาไม่ดีสู้คนเก่าไม่ได้ ผมก็บอกไปแล้วว่าผมไม่ได้เลือกคนจากหน้าตาแต่เลือกคนที่ถูกใจ เพราะผมก็หน้าตาบ้านๆ(ผมไม่คิดเลยว่าแค่ประโยคนี้มันจะทำให้เป็นแผลใจเขาจริงๆครับ ผมคิดน้อยไปเอง) ผมไม่นิ่งนอนใจผมเลยลบ FB เพื่อที่แฟนจะได้สบายใจว่าผมไม่ได้มีอะไรค้างคากับคนเก่าทั้งนั้น แต่แฟนผมก็ยังไม่ชอบเวลาไปไหนมาไหนเจอคนอื่นแล้วให้คนอื่นรู้ว่าเป็นแฟนผมครับ ช่วงเวลา2ปีแรกส่วนใหญ่เลยใช้ไปกับการคุยแชทมากกว่าครับ ไปไหนมาไหนด้วยกันไม่น่าเกิน 3 รอบ ตอนช่วงใหม่ๆนั้นผมก็สามารถนอนคุยกับเธอ 2-3 ชม ต่อวันได้จริงๆนะ ทิ้งเพื่อนทิ้งทุกอย่าง แต่ก็เริ่มมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น เริ่มแรกก็แค่โทรมาตี2-3 ว่าอยากคุยด้วยไม่คุยก็โกรธมากครับ คือมันเวลานอนครับก่อนนอนก็คุยแล้วจะโทรมาทำไมก็รู้ว่านอนอยู่พอคุยด้วยผมเผลอหลับก็โกรธ บางทีเธอโทรมาบอกว่าอยากฆ่าตัวตาย บางทีก็บอกมีคนเดินตาม แล้วบุกเข้ามาในบ้านไอผมบ้านไกลแต่ก็ขับรถไปแจ้งตำรวจไปด้วย พอไปถึงเขาบอกว่าหลอกเล่น ผมรู้สึกว่ามันใช่เรื่องต้องหลอกกันด้วยหรอทำเพื่ออะไรเธอก็ไม่บอกครับ ยิ่งนานวันอะไรแบบนี้ก็เกิดขึ้นเรื่อยๆครับ ผมก็เริ่มเซ็งต้องการอะไรจากผมเวลาให้ก็ให้เสมอ หรือคือการลองใจอะไรอีก ก็เริ่มคุยกันน้อยลง แล้วหลังจากนั้นผมก็ได้รู้ว่าเธอเป็นโรคซึมเศร้า
-ช่วงกลาง(3-4ปี)
เริ่มต้นวัยทำงานครับ ช่วงนี้คือช่วงที่เรียกว่าห่างกันที่สุดครับ ผมทำงานอยู่ไกลจากที่เขาเรียนเขาดรอปเรียนตอนปี2 ไปเรียนอีกที่ใหม่ เจอกัน2ครั้งใน2ปี แต่ไม่ใช่เพราะห่างกันแต่เพราะเธอบอกไม่อยากเจอ ช่วงนี้ช่วงเริ่มต้นทำงานผมค่อนข้างจะเหนื่อยมากเพราะงาน OTค่อนข้างเยอะ เขาก่อนฟ้าสว่างกลับตอนมืด แล้วกลับมาต้องมาคุยกับแฟน2-3 ชม. มันไม่ไหว ผมเลยคุยแค่ประมาณครึ่ง ชม. ก็จะขอตัวไปอาบน้ำพักผ่อนแล้ว เธอก็จะเริ่มโมโหเอาผมไปบ่นลง FB ให้เพื่อนเธอเห็นเพื่อเธอก็มาบ่นผมต่อสิครับ(เพื่อนเดียวกัน) พอผมถามว่าจะเอาไปโพสทำไมก็จะลบทิ้งแล้วก็มาบ่นมางอน และหลังจากผมรู้ว่าแฟนเป็นโรคทางจิตผมก็จะถามทุกเดือนครับว่า เออเป็นไงไปหาหมอวันนี้ หมอบอกว่าไงให้ยามารึเปล่า เขาก็จะอ้ำๆอึ้งๆ แบบเหมือนไม่อยากตอบแล้วก็ตอบว่าไปมาแล้วปกติไม่มีอะไรตลอด
จนอยู่มาวันหนึ่งผมก็รู้ว่าเธอไม่ไปหาหมอเลยเพราะคิดว่าตัวเองหายแล้ว แต่ผมพูดจริงๆครับยังไงก็ไม่หาย ความคิดเธอเป็นเด็กมากๆ ตอนนี้อยู่มหาลัยแล้วมันควรจะมีการสร้างกระบวนการคิดวิเคราะห์บ้างแต่นี่ไม่มีเลย ช่วงนั้นประเด็นทางการเมืองมามากๆ แฟนบอกให้ผมลางานไปเข้าม๊อป ไปร่วมประท้วง โพสลง FB ทำอะไรก็ตามที่เธอบอกซึ่งผมไม่อยากมากจริงๆใช่ว่าที่ทำงานทุกที่จะมีความเห็นทางการเมืองตรงกันนะบอกแฟนก็ไม่ฟัง ยังมาห้ามผมเข้าเซเว่นด้วย เวลาผมซื้อของเซเว่นนี่ด่าผมเลยว่าทำไมต้องสนับสนุนคนรวย ผมก็พยายามบอกละว่าไม่ซื้อเซเว่นจะให้ไปซื้อไหน แต่เธอชอบยกตัวอย่างแบบไปห้างอื่นก็มีตลาดก็มี แต่คือมันใช่เรื่องที่ผมต้องเอาตัวเองไปลำบากรึเปล่า ยังมีตรรกะที่ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ความคิดของคนอายุ20++เลย เช่นเรื่องที่ผมเล่นหุ้นผมก็เล่นมาตลอดได้บ้างเสียบ้างผมก็ลองๆอยู่เงินก็เงินผม แต่เธอเรียนบัญชีเธอก็เอาตัวเองมาข่มว่าเรียนมาแล้วเนี่ยเดี๋ยวเล่นให้ดูเอง ผมก็แค่คิดในใจผมก็ศึกษามาหลายปีเล่นมาตลอดผมดูโง่มากหรอถ้ามันเสียตลอดก็คงไม่เอาเงินไปลงหรอก ข่มไปทุกเรื่องเหมือนผมโง่มากจริงๆ
เดี๋ยวมาต่อครับ