นี้เป็นเรื่องของน้องสาวเรานะค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า น้องเราเป็นซิงเกอร์มัม ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว เลยกลับไปอยู่บ้านเกิด ตั้งใจจะขายของหน้าบ้าน เลี้ยงลูกไปด้วย
และบ้านก็อยู่หน้าประตู รร. เลยเอาเงินก้อนมาเปิดร้านขายของ ขนม น้ำ ของเล่น ให้เด็กนักเรียน
อุปสรรคก็มีมากมาย ไม่ว่าจะโควิด เด็กหยุดบ่อย มาไปเต็มชั้น เสาร์อาทิตย์ รร. หยุด เด็กปิดเทอม ก็จะขายได้น้อยหน่อย
วันไหนเด็กมาเรียนก็จะขายดี ขายดีมาก ใน ช่วงเช้า พักเที่ยงร้านแทบพัง
ขายตั้งแต่ท้องจนใกล้คลอด ทั้งปวด เหนื่อยก็ต้องทน เพราะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายคนเดียว ไหนจะค่าน้ำไฟ ค่าสาธารณูปโภค ของบ้าน งานศพ งานบวช เตรียมคลอดอีก พ่อก็ไม่ช่วย เพราะแกทำไม่เป็น แกเพิ่งหัดตอนน้อง เข้า รพ. คลอดลูก
เลี้ยงลูกคนเดียวเหนื่อยมาก แต่ก็ขาดรายได้ไม่ได้ ช่วงหลัง เด็กมาเรียนทุกวัน ก็จะขายดีทุกวัน
พ่อก็ช่วยขาย แต่ก็มีอุปสรรคที่ใหญ่มากอีก จนท้อกับชีวิต คือ ครู และ ผอ. รร. พยามกีดกันไม่ให้เด็กมาซื้อของร้านน้อง
เริ่มจาก ห้ามเด็กออกจาก รร. ในเวลาพักเที่ยง ซึ่งส่วนมากเด็กมาแค่ประตู รร. ร้านเรา มันเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ไม่ค่อยมีรถสัญจร แต่คนในหมู่บ้านจะไปทำงานเมืองนอก เด็กก็จะได้เงินมา รร. เยอะ บางคนวันละ 100
ขายของเริ่มน้อยลง มีเด็กบางคน แอบมาซื้อ ก็โดนครูมาด่า บางคน ร้องสั่ง แต่ก็ยังขายได้ตอนเช้ากับตอนค่ำอยู่
ต่อมา ครูเปิดสหกรณ์ ครูประกาศให้เด็กซื้อของในสหกรณ์ ลค. ก็น้อยลง ขายของได้น้อยลง น้องเราเลย ทำกล้วยทอด น้ำปั่น ขาย เด็กก็ซื้อดี
ต่อมาครูปิดประตูหน้า รร. ล็อค ไว้ เข้า ออกแค่ เช้าเย็น ยอดขายก็น้อยลงไปอีก
น้องเราก็ทำซาลาเปาขาย ขายดีมาก เช้า เย็น (เที่ยง เด็กจะร้องสั่ง)
จนตอนนี้ ครูเขาปิดตายประตูหน้า รร. ไปเปิด ประตูหลัง รร. ซึ่ง มันเปรี่ยว ติดสระน้ำ ติดกำแพงวัด ให้เข้าออกทางนั้นทางเดียว
แต่ยังมีเด็กมาร้องเรียกซื้อของอยู่บ้าง ครูก็มาด่าเด็กอีก ขายของแทบไม่ได้เลย ร้านก็เสียภาษีร้านค้าอีก
#คือมันต้องทำกันขนาดนี้เลยหรอ ชีวิตทำไมมันมืดมนขนาดนี้
เพื่อนๆ ว่าควรทำอย่างไรดี
เราควรทำอย่าง เมื่อโดนกีดกัน ขายของ จาก คุณครู โรงเรียน
เรื่องมีอยู่ว่า น้องเราเป็นซิงเกอร์มัม ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว เลยกลับไปอยู่บ้านเกิด ตั้งใจจะขายของหน้าบ้าน เลี้ยงลูกไปด้วย
และบ้านก็อยู่หน้าประตู รร. เลยเอาเงินก้อนมาเปิดร้านขายของ ขนม น้ำ ของเล่น ให้เด็กนักเรียน
อุปสรรคก็มีมากมาย ไม่ว่าจะโควิด เด็กหยุดบ่อย มาไปเต็มชั้น เสาร์อาทิตย์ รร. หยุด เด็กปิดเทอม ก็จะขายได้น้อยหน่อย
วันไหนเด็กมาเรียนก็จะขายดี ขายดีมาก ใน ช่วงเช้า พักเที่ยงร้านแทบพัง
ขายตั้งแต่ท้องจนใกล้คลอด ทั้งปวด เหนื่อยก็ต้องทน เพราะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายคนเดียว ไหนจะค่าน้ำไฟ ค่าสาธารณูปโภค ของบ้าน งานศพ งานบวช เตรียมคลอดอีก พ่อก็ไม่ช่วย เพราะแกทำไม่เป็น แกเพิ่งหัดตอนน้อง เข้า รพ. คลอดลูก
เลี้ยงลูกคนเดียวเหนื่อยมาก แต่ก็ขาดรายได้ไม่ได้ ช่วงหลัง เด็กมาเรียนทุกวัน ก็จะขายดีทุกวัน
พ่อก็ช่วยขาย แต่ก็มีอุปสรรคที่ใหญ่มากอีก จนท้อกับชีวิต คือ ครู และ ผอ. รร. พยามกีดกันไม่ให้เด็กมาซื้อของร้านน้อง
เริ่มจาก ห้ามเด็กออกจาก รร. ในเวลาพักเที่ยง ซึ่งส่วนมากเด็กมาแค่ประตู รร. ร้านเรา มันเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ไม่ค่อยมีรถสัญจร แต่คนในหมู่บ้านจะไปทำงานเมืองนอก เด็กก็จะได้เงินมา รร. เยอะ บางคนวันละ 100
ขายของเริ่มน้อยลง มีเด็กบางคน แอบมาซื้อ ก็โดนครูมาด่า บางคน ร้องสั่ง แต่ก็ยังขายได้ตอนเช้ากับตอนค่ำอยู่
ต่อมา ครูเปิดสหกรณ์ ครูประกาศให้เด็กซื้อของในสหกรณ์ ลค. ก็น้อยลง ขายของได้น้อยลง น้องเราเลย ทำกล้วยทอด น้ำปั่น ขาย เด็กก็ซื้อดี
ต่อมาครูปิดประตูหน้า รร. ล็อค ไว้ เข้า ออกแค่ เช้าเย็น ยอดขายก็น้อยลงไปอีก
น้องเราก็ทำซาลาเปาขาย ขายดีมาก เช้า เย็น (เที่ยง เด็กจะร้องสั่ง)
จนตอนนี้ ครูเขาปิดตายประตูหน้า รร. ไปเปิด ประตูหลัง รร. ซึ่ง มันเปรี่ยว ติดสระน้ำ ติดกำแพงวัด ให้เข้าออกทางนั้นทางเดียว
แต่ยังมีเด็กมาร้องเรียกซื้อของอยู่บ้าง ครูก็มาด่าเด็กอีก ขายของแทบไม่ได้เลย ร้านก็เสียภาษีร้านค้าอีก
#คือมันต้องทำกันขนาดนี้เลยหรอ ชีวิตทำไมมันมืดมนขนาดนี้
เพื่อนๆ ว่าควรทำอย่างไรดี