เรามาขอคำปรึกษาเรื่องความรักหน่อยคะ
ตลอดระยะที่ผ่านมาเราเป็นนายตัวเองมาตลอด จนกิจการของเราติดขัดหมุนเงินไม่ทันต้องหางานทำพักกิจการที่บ้านไว้ชั่วคราว
เรารู้จักกับรุ่นพี่ที่เขาทำงานอยู่โกดังสินค้า เขาชวนเราไปทำเพราะเงินดี โอทีเยอะ งานสบายไม่ได้ทำตลอดวัน ก็รอรถเข้าโกดังสินค้า รอรถโฟคลิฟต์ตักงานออกจากตู้ และเรามีหน้าที่คอยสแกนงานส่ง เช็คสต็อกงาน แต่งานค่อนข้างเดินบ่อยถ้ารถพ่วงเข้าเรื่อยๆ ด้วยความที่โกดังนี้เพิ่งเปิดได้ไม่นาน คนทำงานมีน้อยการเปิดกะดึกไม่มี การทำงานจึงไม่เป็นเวลา อยู่ที่วันนั้นรถเข้ามาส่งงานกี่คัน ติดขัดอะไรตรงไหน ถ้าไม่ติดขัดอะไร เข้าเช้าสองทุ่มก็เลิก ถ้าวันไหนงานติดขัด มีเลยเวลาสองทุ่มหรือไม่ก็เลิกกงานหลักตี สูงสุดที่เราเคยทำเข้าแปดโมงเช้าเลิกตีสาม (งานไม่ได้ทำตลอดเวลา รถเข้าถึงได้ทำ ส่วนใหญ่ระหว่างวันจะเป็นการนั่งรอตู้เข้าส่งงาน) ด้วยความที่หน้างานเป็นแบบนี้ ทำให้เรามีเวลาให้แฟนน้อยลงจากแต่ก่อน เรากลัวแฟนจะน้อยใจที่เราไม่มีเวลาให้ ด้วยความที่แฟนเราเป็นคนที่เวลามีปัญหาหรือตัวเองเป็นอะไรจะไม่พูดไม่แสดงออก ทำให้เราเดาใจได้ยากว่าเขาโอเคมั้ยที่เรามาทำงานตรงนี้ พรุ่งนี้เป็นวันหยุดของบริษัทแต่เปิดให้ทำโอที(ไม่ใช่โอทีบังคับ) แฟนเราชวนไปนั่งเล่นทะเลเพราะระแวกหมู่บ้านจะมีการตัดไฟเพื่อซ่อมบำรุง เลยหาโอกาศพาเราไปพักผ่อน เราบอกแฟนไปว่าพรุ่งนี้ไปทำโอทีนะ เขาตอบเรา"โอเค" แต่ในใจเราเองรู้สึกผิดที่ไม่มีเวลาพักผ่อนเพื่ออยู่กับเขา แต่ที่เรางกโอทีคือสิ้นเดือนค่าใช้จ่ายเราเยอะหวังว่าแฟนเราจะเข้าใจ แฟนเราเลยบอกว่า"เดี๋ยวไปคนเดียวก็ได้ไม่เป็นไร" เราถามเขาว่าไว้ไปพร้อมกันวันหลังก็ได้ เขาบอกเราว่า "อย่าเลยอนาคตไม่แน่นอน เดี๋ยวพอถึงวันนั้น มีโอทีขึ้นมาตัวไปทำอยู่ดี ตัดปัญหาเดี๋ยวไปเองคนเดียวนี่แหละ" หลังจากจบประโยคนั้นเรารู้สึกหน้าชาทันทีด้วยน้ำเสียงของเขาแล้วพูดประโยคแบบนี้ยิ่งตรอกย้ำทำให้เรารู้สึกผิดขึ้นมาทันทีแต่ลงชื่อไว้ แล้วทางบริษัทล็อกชื่อไว้แล้ว จึงยากที่จะปฎิเสธ เราทำการขอโทษที่ไม่สามารถหาเวลาให้กับเขาได้ เพราะบางวันเราเลิกตี3 ให้แฟนมารับกลับบ้าน ถึงบ้านก็ไม่ได้คุยอะไรกัน เขาก็นอนพักผ่อน เพราะต้องตื่นเช้าไปวิ่งงาน(แฟนเราเป็นไรเดอร์ส่งอาหารมีเวลามากกว่าเรา เขาเป็นทั้งคนหาเงินและพ่อบ้านไปในตัว ) กิจกรรมบางอย่างที่เคยทำกันประจำก็ลดถอยลง เช่นการทำกับข้าวให้แฟนกิน การออกไปหาของอร่อยๆกินด้วยกัน การไปนั่งเล่นทะเล รวมถึงกิจกรรมบนเตียงคือหายไปเลย ยิ่งทำให้เรารู้สึกนอยๆตัวเองเหมือนกันเหมือนทำหน้าที่แฟนได้ไม่เต็มที่ มีเวลาให้เขาน้อยลงทุกวัน วันก่อนเราเลิกงาน5ทุ่ม แฟนรับกลับบ้าน ถึงบ้านประมาณเกือบเที่ยงคืน เขาเข้านอนตามปกติ ส่วนเราอาบน้ำ ระหว่างนั้นเราถามเขาว่า " กินนอนคนเดียวตัวเหงาไหม ขอโทษนะที่ไม่มีเวลาให้ " สิ่งที่เขาตอบเรากลับมา
ไม่ตัองขอโทษหรอก ขอโทษไปไม่มีประโยชน์หรอก เธอทำหน้าที่ของเธอไป เราทำหน้าที่ของเราไป
ทุกวันนี้เรามีละครเป็นต่อเป็นเพื่อน ทั้งตอนนอน ตอนกินข้าว ออกไปข้างนอกหรือตอนวิ่งงานมีเพลงในJOOX อยู่เป็นเพื่อน ของแค่นี้สบายมาก วันไหนรู้สึกเหงาๆก็นอนกอดหมอนข้าง สบายมากไม่ถึงกับทำให้พ่อใครตายหรอกแค่นี้
หลังจบประโยคเราน้ำตาไหลเลย เราไม่ได้โกรธเขา แต่มันมีนัยยะแฝงง่ายๆคือ ไม่มีเราเขาก็อยู่ได้
แล้วตอนนี้ความสัมพันธ์เริ่มไม่ค่อยสู้ดี เราควรทำอย่างไรดี ใครมีเคล็ดลับอะไรแนะนำบ้างมั้ย เพราะถือว่าครั้งแรกในชีวิตที่ต้องมาทำงานแบบนี้ ที่ใช้ชีวิตอยู่โกดังสินค้ามากกว่าบ้านตัวเองและแฟน เรารักแฟนแต่แอบกลัวความสัมพันธ์มันห่างเหินและพัง
ปล.ที่เรายอมมาทำตรงนี้ เพราะโอทีเยอะ สวัสดิการดี เข้าทำงานไม่ผ่านซับเป็นพนักงานรายเดือนทันที หลังเที่ยงคืนโอทีคูณ3 วันนึงค่าแรงตกอยู่เกือบ1500 ต่อเดือน เดือนนึงมีรับ2-3หมื่น(ฟังจากรุ่นพี่บอกมา)เรารักแฟนรักครอบครัวจึงตัดสินใจมาทำ ส่วนแฟนเราวิ่งงานส่งอาหารเขาก็ได้เยอะ เพราะทุกวันนี้เงินกินค่าข้าวค่าน้ำเขาเป็นคนหาข้าบ้าน และช่วยซัพพอร์ตอีกหลายอย่าง
ทำงานหนัก มีเวลาให้แฟนน้อย อยากขอเคล็ดลับทำอย่างไรให้ความสัมพันธ์ยังไปต่อได้คะ??
ตลอดระยะที่ผ่านมาเราเป็นนายตัวเองมาตลอด จนกิจการของเราติดขัดหมุนเงินไม่ทันต้องหางานทำพักกิจการที่บ้านไว้ชั่วคราว
เรารู้จักกับรุ่นพี่ที่เขาทำงานอยู่โกดังสินค้า เขาชวนเราไปทำเพราะเงินดี โอทีเยอะ งานสบายไม่ได้ทำตลอดวัน ก็รอรถเข้าโกดังสินค้า รอรถโฟคลิฟต์ตักงานออกจากตู้ และเรามีหน้าที่คอยสแกนงานส่ง เช็คสต็อกงาน แต่งานค่อนข้างเดินบ่อยถ้ารถพ่วงเข้าเรื่อยๆ ด้วยความที่โกดังนี้เพิ่งเปิดได้ไม่นาน คนทำงานมีน้อยการเปิดกะดึกไม่มี การทำงานจึงไม่เป็นเวลา อยู่ที่วันนั้นรถเข้ามาส่งงานกี่คัน ติดขัดอะไรตรงไหน ถ้าไม่ติดขัดอะไร เข้าเช้าสองทุ่มก็เลิก ถ้าวันไหนงานติดขัด มีเลยเวลาสองทุ่มหรือไม่ก็เลิกกงานหลักตี สูงสุดที่เราเคยทำเข้าแปดโมงเช้าเลิกตีสาม (งานไม่ได้ทำตลอดเวลา รถเข้าถึงได้ทำ ส่วนใหญ่ระหว่างวันจะเป็นการนั่งรอตู้เข้าส่งงาน) ด้วยความที่หน้างานเป็นแบบนี้ ทำให้เรามีเวลาให้แฟนน้อยลงจากแต่ก่อน เรากลัวแฟนจะน้อยใจที่เราไม่มีเวลาให้ ด้วยความที่แฟนเราเป็นคนที่เวลามีปัญหาหรือตัวเองเป็นอะไรจะไม่พูดไม่แสดงออก ทำให้เราเดาใจได้ยากว่าเขาโอเคมั้ยที่เรามาทำงานตรงนี้ พรุ่งนี้เป็นวันหยุดของบริษัทแต่เปิดให้ทำโอที(ไม่ใช่โอทีบังคับ) แฟนเราชวนไปนั่งเล่นทะเลเพราะระแวกหมู่บ้านจะมีการตัดไฟเพื่อซ่อมบำรุง เลยหาโอกาศพาเราไปพักผ่อน เราบอกแฟนไปว่าพรุ่งนี้ไปทำโอทีนะ เขาตอบเรา"โอเค" แต่ในใจเราเองรู้สึกผิดที่ไม่มีเวลาพักผ่อนเพื่ออยู่กับเขา แต่ที่เรางกโอทีคือสิ้นเดือนค่าใช้จ่ายเราเยอะหวังว่าแฟนเราจะเข้าใจ แฟนเราเลยบอกว่า"เดี๋ยวไปคนเดียวก็ได้ไม่เป็นไร" เราถามเขาว่าไว้ไปพร้อมกันวันหลังก็ได้ เขาบอกเราว่า "อย่าเลยอนาคตไม่แน่นอน เดี๋ยวพอถึงวันนั้น มีโอทีขึ้นมาตัวไปทำอยู่ดี ตัดปัญหาเดี๋ยวไปเองคนเดียวนี่แหละ" หลังจากจบประโยคนั้นเรารู้สึกหน้าชาทันทีด้วยน้ำเสียงของเขาแล้วพูดประโยคแบบนี้ยิ่งตรอกย้ำทำให้เรารู้สึกผิดขึ้นมาทันทีแต่ลงชื่อไว้ แล้วทางบริษัทล็อกชื่อไว้แล้ว จึงยากที่จะปฎิเสธ เราทำการขอโทษที่ไม่สามารถหาเวลาให้กับเขาได้ เพราะบางวันเราเลิกตี3 ให้แฟนมารับกลับบ้าน ถึงบ้านก็ไม่ได้คุยอะไรกัน เขาก็นอนพักผ่อน เพราะต้องตื่นเช้าไปวิ่งงาน(แฟนเราเป็นไรเดอร์ส่งอาหารมีเวลามากกว่าเรา เขาเป็นทั้งคนหาเงินและพ่อบ้านไปในตัว ) กิจกรรมบางอย่างที่เคยทำกันประจำก็ลดถอยลง เช่นการทำกับข้าวให้แฟนกิน การออกไปหาของอร่อยๆกินด้วยกัน การไปนั่งเล่นทะเล รวมถึงกิจกรรมบนเตียงคือหายไปเลย ยิ่งทำให้เรารู้สึกนอยๆตัวเองเหมือนกันเหมือนทำหน้าที่แฟนได้ไม่เต็มที่ มีเวลาให้เขาน้อยลงทุกวัน วันก่อนเราเลิกงาน5ทุ่ม แฟนรับกลับบ้าน ถึงบ้านประมาณเกือบเที่ยงคืน เขาเข้านอนตามปกติ ส่วนเราอาบน้ำ ระหว่างนั้นเราถามเขาว่า " กินนอนคนเดียวตัวเหงาไหม ขอโทษนะที่ไม่มีเวลาให้ " สิ่งที่เขาตอบเรากลับมา
ไม่ตัองขอโทษหรอก ขอโทษไปไม่มีประโยชน์หรอก เธอทำหน้าที่ของเธอไป เราทำหน้าที่ของเราไป
ทุกวันนี้เรามีละครเป็นต่อเป็นเพื่อน ทั้งตอนนอน ตอนกินข้าว ออกไปข้างนอกหรือตอนวิ่งงานมีเพลงในJOOX อยู่เป็นเพื่อน ของแค่นี้สบายมาก วันไหนรู้สึกเหงาๆก็นอนกอดหมอนข้าง สบายมากไม่ถึงกับทำให้พ่อใครตายหรอกแค่นี้
หลังจบประโยคเราน้ำตาไหลเลย เราไม่ได้โกรธเขา แต่มันมีนัยยะแฝงง่ายๆคือ ไม่มีเราเขาก็อยู่ได้
แล้วตอนนี้ความสัมพันธ์เริ่มไม่ค่อยสู้ดี เราควรทำอย่างไรดี ใครมีเคล็ดลับอะไรแนะนำบ้างมั้ย เพราะถือว่าครั้งแรกในชีวิตที่ต้องมาทำงานแบบนี้ ที่ใช้ชีวิตอยู่โกดังสินค้ามากกว่าบ้านตัวเองและแฟน เรารักแฟนแต่แอบกลัวความสัมพันธ์มันห่างเหินและพัง
ปล.ที่เรายอมมาทำตรงนี้ เพราะโอทีเยอะ สวัสดิการดี เข้าทำงานไม่ผ่านซับเป็นพนักงานรายเดือนทันที หลังเที่ยงคืนโอทีคูณ3 วันนึงค่าแรงตกอยู่เกือบ1500 ต่อเดือน เดือนนึงมีรับ2-3หมื่น(ฟังจากรุ่นพี่บอกมา)เรารักแฟนรักครอบครัวจึงตัดสินใจมาทำ ส่วนแฟนเราวิ่งงานส่งอาหารเขาก็ได้เยอะ เพราะทุกวันนี้เงินกินค่าข้าวค่าน้ำเขาเป็นคนหาข้าบ้าน และช่วยซัพพอร์ตอีกหลายอย่าง