... ถึงเรือนชาน (ห้อง)กานท์กลอน แต่ก่อนเก่า ...
๏ คลับคล้ายฝน กล่นกร่ำ สาดทำนบ
เทียวกระทบ ไถ่ถาม ทวงความไข
อักษรศิลป์ สิ้นสาง ฤ อย่างไร
จึ่งพาให้ ห่างหาย กลิ่นอายซา
๏ เพียรจดจาร กานท์กลอน กลับกร่อนรส
เพราะเพียงบท บาทเดียว ยังเทียวหา
ร้อยแก้วกรอง ผ่องกวิน คุ้นชินตา
สิเน่หา เหือดแห้ง มิแว้งคืน
๏ ค่อยค่อยเรียง เคียงคำ ลำนำศิลป์
กอบเก็บกลิ่น กรุ่นเก่า คลุกเคล้าขืน
เลาะเลียบเล็ม เอมเอื้อ เติมเชื้อฟืน
ระเริงรื่น เริ่มคล้าย กลิ่นอายโลม
๏ ถึงเรือนชาน กานท์กลอน แต่ก่อนเก่า
พักความเศร้า โศกศัลย์ ที่บั่นโถม
จมจ่อมจรด รสกวี อัคคีโคม
เปลวแปลบโหม ห้อมไสว ติดไฟครัน
๏ คล้ายคล้ายตื่น ฝืนขยับ ซึมซับใหม่
เปี่ยมด้วยใจ .. จินตภาพ .. ฉายฉาบฝัน
ละเลียดร้อย ถ้อยคำ เจียมจำนรรจ์
ค่อยค่อยสรร สรรพศิลป์ ด้วยวิญญา ๛
(กลบทมธุรสวาที & บังคับคำซ้อนทุกบาท)
กลับมาสวัสดีเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกท่านด้วยความคิดถึงขอรับ
** เปลวอัคคี **
๏๏ .. ถึงเรือนชาน (ห้อง)กานท์กลอน แต่ก่อนเก่า .. ๏๏
เทียวกระทบ ไถ่ถาม ทวงความไข
อักษรศิลป์ สิ้นสาง ฤ อย่างไร
จึ่งพาให้ ห่างหาย กลิ่นอายซา
เพราะเพียงบท บาทเดียว ยังเทียวหา
ร้อยแก้วกรอง ผ่องกวิน คุ้นชินตา
สิเน่หา เหือดแห้ง มิแว้งคืน
กอบเก็บกลิ่น กรุ่นเก่า คลุกเคล้าขืน
เลาะเลียบเล็ม เอมเอื้อ เติมเชื้อฟืน
ระเริงรื่น เริ่มคล้าย กลิ่นอายโลม
พักความเศร้า โศกศัลย์ ที่บั่นโถม
จมจ่อมจรด รสกวี อัคคีโคม
เปลวแปลบโหม ห้อมไสว ติดไฟครัน
เปี่ยมด้วยใจ .. จินตภาพ .. ฉายฉาบฝัน
ละเลียดร้อย ถ้อยคำ เจียมจำนรรจ์
ค่อยค่อยสรร สรรพศิลป์ ด้วยวิญญา ๛