คือต้องเท้าความอย่างนี้ครอบครัวของฉันเป็นครอบครัวแยก มีพ่อ แม่ พี่ แล้วก็ฉัน ช่วงม.ปลาย พ่อเกิดป่วยเป็นอัมพาต (ตามสูตรที่ว่าทำงานหนัก กินของไม่รักษาสุขภาพ ไม่ออกกำลังกาย สูบบุหรี่จัด ดื่มกาแฟจัด และก็อดนอน) เลยเป็นช่วงที่ต้องจ้างคนมาดูแล 2-3ปีแรก พอแม่ทำPassive incomeจนเข้าที่ ก็เลิกจ้างคนดูแลหันมาดูแลเองเพราะจะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย เมื่อพี่เรียนจบก็กลับบ้านมาช่วยดูแล สิ่งที่ต้องทำหลักๆ คือพาไปอาบน้ำเปลี่ยนถุงปัสสาวะ ส่วนเรื่องกินข้าวกินได้ตามปกติ กินเป๊ปซี่ กินกาแฟ กินของทอด ของมันได้เหมือนคนทั่วๆไป นี่ก็ผ่านมา10กว่าปีแล้วที่ป่วย ส่วนพี่ที่อยู่บ้านช่วยแม่ดูแลก็ไม่ได้ออกไปทำงาน เพราะอยากช่วยแบ่งเบาภาระแม่รึเปล่า อยากถาม mindsetของทุกคนว่า พี่ควรออกไปใช้ชีวิตไปทำงาน หรือควรกตัญญูแบบนี้ต่อไป ผมก็เพิ่งเรียนจบได้ 1 ปีช่วงโควิด กำลังหางานทำ เลยมีความคิดที่ว่า ถ้าเราออกไปทำงานทั้งผมและพี่ แล้วจ้างคนมาช่วยดูแลในวันธรรมดา ตอนวันหยุดก็กลับมาช่วยดูแล เพราะสักวันหนึ่งในอนาคต พ่อแม่ก็ต้องตายจากก่อนเรา ไม่รู้ว่าคนป่วย หรือคนปกติจะไปก่อน และพี่ก็อายุจะ30แล้ว อนาคตการทำงานจะยากขึ้นเรื่อยๆไหมถ้าต้องอยู่ด้วยความเคยชินแบบนี้ต่อไป หรือผมควรจะยกPassive incomeของพ่อแม่ให้พี่ไปเลย แล้วผมออกไปทำงานคนเดียว อารมณ์ประมาณว่าถ้าพี่ตายก่อนผมในอนาคตก็ค่อยให้ผมครอบครองต่อ ถ้ามันยังมั่นคงและยั่งยืนอยู่ได้ในเวลานั้น หรือผมควรแข่งกตัญญูแบบพี่อยู่บ้านไปเรื่อยๆ อัดยายซื้อขนมยายจากpassive income ของแม่แบบพี่ด้วยกันดี ขอคำแนะนำที่มีคุณภาพด้วยครับ ยิ่งถ้าเป็นคนที่เคยมีประสบการณ์โดยตรง หรือใกล้เคียงกันยิ่งดีเลย
กตัญญูต่อไป หรือออกไปใช้ชีวิต?