สวัสดีคะทุกคน 

เหมียวคนเดิมมาอีกแล้ว ช่วงนี้เข้ามาวนๆเวียนๆในพันทิปเพราะอยากเขียนเรื่องราวประสบการณ์ชีวิตด้านการทำงานที่ออสเตรเลีย ให้หลายท่านได้อ่านดูนะคะ
ตามได้ใน 2 ลิงค์นี้นะคะ เพิ่งเขียนลงไปไม่นานคะ

https://m.ppantip.com/topic/41699119/comment24-2

https://m.ppantip.com/topic/41712150?

แต่วันนี้จะมาเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางกลับไทยในรอบ 3 ปีของเหมียวและน้องโซเฟียแต่พี่เอลล่ากับพ่อไม่ได้กลับมา 4 ปีแล้ว

ไปติดตามเรื่องราว โหด มันส์ ฮา ของเรา 4 คนกันคะ  



ฤกษ์งามยามดีเจอตั๋วลดราคาจาก Gold Coast ออสเตรเลียไปกรุงเทพ โดยสายการบิน Scoot ลดราคาเหมียวซื้อตั๋วทีละเที่ยวคะ เพราะทำงานไปเก็บไปเก็บตังค์ได้ก็ซื้อขาไปก่อน แล้วค่อยซื้อขากลับทีหลัง  

พอได้ตั๋วก็จัดการเขียนโปรแกรมคร่าวๆในการเดินทางของเหมียวและเด็กๆจะไปกัน 3 อาทิตย์เด็กๆปิดเทอม 2 อาทิตย์แล้วลาเพิ่มอีก  1 อาทิตย์เพราะไม่ได้กลับไทยนานมากๆๆ ส่วนคุณสามีจะไป 2 อาทิตย์เพราะต้องกลับมาทำงานคะ

โปรแกรมที่เหมียวเขียนจะเน้นเดินทางพบครอบครัวและญาติและเที่ยวตามเส้นทาง ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาผจญภัยด้วยกันคะ เที่ยวไทยหน้าฝนตั๋วถูกสุดแล้ว  



กระเป๋าพร้อมคนพร้อม พาสปอร์ตพร้อม ออกจากออสเตรเลียช่วงเช้าบินไปสิงคโปร์ ถึงช่วง 15.30 น.คะ



ต่อเครื่องอีก 17 ชม. เหมียวเลยตัดสินใจพาเด็กๆออกไปนอนในสิงคโปร์ 1 คืนเหมือนพาเที่ยวทริปเล็กๆในเมื่อต้องรอเครื่องนานดีกว่านอนรอในสนามบินจ้า  

เหมียวและครอบครัวแพคกระเป๋าเป้คนละใบมีของสำคัญที่จะใช้ 1 คืนถือขึ้นเครื่องมาด้วยเลยนะคะเพราะกระเป๋าใบใหญ่ส่งตรงจากออสไปกทม.เลยจ้า

ผ่านตม.สิงคโปร์เราก็นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปสถานี Chinatown




ออกมาจากสถานีรถไฟที่  Chinatown ก็เดินไปที่พักไม่ถึง 5 นาทีแต่เพราะหาไม่เจอหลงวนไปๆมาๆเกือบ 20 นาทีกว่าจะถึงที่พักคะ 



 แล้วตรงเข้าที่พักเป็นแบบ Hostel ชื่อว่า  Cube Boutique Capsule hotel 

จองรร.ไว้ที่ Chinatown เพราะที่พักไม่แพงและหาของกินง่ายคะ ที่นอนเป็นสองชั้นนอนสบายมากแต่ห้องเล็กมากเดินสวนกันไม่ได้เลย เน้นนอนและมีที่อาบน้ำพอคะ ขอบอกว่า ราคาที่พักสิงคโปร์ราคาแอบแรงจริงๆ สูงปี๊ด พักแบบนี้ไปก่อนนะลูก เป็นลูกแม่เหมียวต้องอดทน



เก็บของแล้วก็พาเด็กๆไปหาอะไรทาน ง่ายสุด ถูกสุดก็..ข้าวมันไก่สิงค์โปร.. อร่อยมากๆๆ เด็กๆชอบมาก โดยเฉพาะพี่เอลล่า



จากนั้นก็พาเด็กๆเดินไปชม สิงโตพ่นน้ำเมอร์ไลอ้อน เดินเที่ยวริมน้ำ สิงโตเปลี่ยนสีสวยมากๆๆ 



แล้วก็พากันเดินกลับ ระหว่างทางก็หาผลไม้ทานที่  Chinatown ได้กินมะพร้าวสดๆ เหมียวเห็นทุเรียนยังคิดว่า เดี๋ยวค่อยมาหาทานที่ไทยน่าจะอร่อยกว่า (( สุดท้ายจบทริปกลับออสก็ยังไม่ได้ทานเลย ฮื้อๆๆเศร้า))



ดูสภาพเด็กๆขอกินผลไม้ในห้อง ที่นั่งแทบจะไม่มีก็กินตามสภาพเลยจ้า  



เด็กๆอิ่มแล้วแต่พ่อกับแม่ไม่อิ่มจ้า เลยชวนกันลงมาทานร้านข้างๆที่พัก จัดไปเมนูที่อยากทาน ราคาถูกและได้เยอะมากๆ .. ปลาทอด หอยจ๊อทอด ไก่ทอด อร่อยๆ



ตื่นกันตั้งแต่ตี 5 เพื่อจะได้ทันรถไฟเที่ยวแรก 5.30 จ้า สุดท้ายรอๆๆ 6 โมงรถไฟก็ยังไม่มา เลยรีบวิ่งมาเรียก Taxi เพื่อไปสนามบินแทน เลยพอมีเวลาทานข้าวเช้าที่สนามบินสิงคโปร์ ถ้ามารถไฟใต้ดินคงฉิวเฉียดมากๆกับเวลาขึ้นเครื่อง ดีที่ไม่ต้อง Check in เพราะมีตั๋วแล้ว ขึ้นเครื่องกันจ้า



รอๆๆๆๆรถไฟก็ไม่มาสักที


รีบวิ่งมาขึ้น Taxi แทนคะ


พร้อมเดินทางสู่ประเทศไทย คิดถึงเมืองไทยที่สุด 

ถึงแล้วประเทศไทย ทุกอย่างเปลี่ยนไปที่รู้แน่ๆว่าเดี๋ยวนี้ต้องสแกนจ่ายเงินเกือบทุกอย่าง  ไปไทยก็ใช้พาสไทยนะคะเด็กๆ



จัดการซื้อซิมเปลี่ยนก่อนเลยจ้าที่สนามบินจ่ายแพงกว่าแต่สะดวก  เปลี่ยนของเหมียวและสามีก่อนเลย



น้องสาวมารับวันนี้พาไปเซอร์ไพร์พ่อ คิดถึงพ่อมากอยากเจออยากกอดที่สุด สามีขับรถลุยฝนเลยจ้า มาถึงไทยฝนตกกระหน่ำ พายุโนรูกำลังเข้าไทยเลยจ้า  

เจอพ่อแล้ว คิดถึงสุดๆๆ มากอดหน่อยไม่ได้กอดมา 3 ปี ลูกคนนี้คิดถึงพ่อมาก พ่อแก่ไปเยอะมากๆแล้ว



มื้อกลางวันประเดิม พริกแกงหน่อไม้เผ็ดๆ ข้าวไก่กระเทียมของเด็กๆ และไก่ผัดขิง อร่อยทุกอย่างที่ออสเตรเลียผัดยังไงก็ไม่เคยได้รสชาติแบบนี้ ลำแต้ลำว่า บ่ได้กิ๋นมาเมินแล้วเจ้า

เพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้ราคาอาหารตามสั่งขั้นต่ำ  50 60 บาทกันแล้ว เมื่อก่อนยัง 30 40 บาทอยู่เลย



พอเสร็จช่วงบ่ายๆพาเด็กๆไปปล่อยพลังที่ Habour Land แฟชั่นไอซ์แลนด์ และเจอเพื่อนๆจากห้องชานเรือนที่คบกันตั้งแต่ตั้งท้องจนตอนนี้เด็กๆก็ 12 ขวบกันแล้ว โหเหมียวอยู่พันทิปมา จะ 13 ปึแล้วหรือนี่ คงอยู่ต่อไปอีกยาวๆๆๆ ..  



พี่เอลล่าจะสูงไปไหนลูก


มีเด็กโข่งด้วยมาแอบเล่น



พรุ่งนี้พาทุกคนไปลุยต่อกันที่ทริปกาญจนบุรี ทริปนี้ 3 วัน 2 คืน สามีบอกไม่ให้ฉันพักเลยเหรอ ..
มีเวลาน้อยต้องใช้สอยให้คุ้มค่า ป่ะเดินทางกันต่อ 
อ่านต่อ EP 2 กันต่อนะคะ