มีเรื่องหลอนๆมาแบ่งปันครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รุ่นพี่ผมประสบณ์พบเจอมาแล้วนำมาเล่าให้ผมฟังนะครับ คือต้องบอกก่อนว่าผมรับราชการทหารและปฎิบัติหน้าที่อยู่จังหวัด นราธิวาส แต่เรื่องที่จะเล่าเนี้ย เกิดขึ้นก่อนผมจะเป็นทหาร ต้องบอกก่อนนะครับว่าผมจำปีที่แน่นอนไม่ได้เพราะได้รับฟังมาแค่ครั้งเดียวและชื่อตัวละครผมจะใช้นามสมมุตินะครับและ คนที่เล่าใฟ้ผมฟังเนี้ย ผมจะให้ชื่อว่าพี่เอนะครับ เข้าเรื่องเลยนะครับ.......
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว ในจังหวัดนราธิวาส เรื่องมีอยู่ว่า พี่เอเนี้ยเป็นทหารรับราชการอยู่ที่นราธิวาส แต่เดิมจะรับผิดชอบในพื้นที่นึงของอำเภอ รือเสาะ แต่ทางหน่วยต้องย้ายมารับงานในพื้นที่ใหม่เป็นพื้นที่อำเภอ สุไหงโก-ลก เพราะหน่วยที่ที่รับผิดชอบอยู่ก่อนนั้นต้องถอนตัวกลับ เพราะเป็นหน่วยที่ต้นสังกัดอยู่ทางภาคกลาง แค่มาช่วยราชการ และการทำงานในแต่ละวันก็จะมีการตั้งด่าน ลาดตระเวร อะไรประมาณนี้ครับ และพี่เอเนี้ย ก็มีหน้าตั้งด่าน คือด่านจะอยู่ห่างจากฐานประฎิบัติการประมาณ 1 กม. และการเดินทางไปที่ด่านจะเป็นการเดินเท้า พี่เอเนี้ยแกก็ไปตั้งด่านตามปกติทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลากลางวัน 1 ครั้งและกลางคืน 1 ครั้ง แบ่งเวลาเป็นครั้งละ 2 ชม.และในชุดจะมี 8 คน เป็นนายสิบ 2 คนเป็นหัวหน้าชุดและรองหัวหน้าชุด และมีลูกชุดเป็นพลทหารอีก 6 คนเวลาขึ้นด่านจะขึ้น 2 ชม.และจะแบ่งเป็น 2 ห้วง ห้วงละ 1 ชม.และจะสลับกัน ชม.ละ 4 คน ช่วงที่ 4 คนแรกขึ้น อีก 4 คนจะพัก จะมีที่พักเป็นน็อคดาวน์ทหารขนาดไม่ใหญ่มากครับ พอวางเตียงนอนได้ 4 เตียงพอดี และเวลาก็ผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ครับ วันนั้นพี่เอเล่าว่า ตอนนั้นเป็นเวลากลางคืนและพี่เอพักอยู่และกำลังนอนพักในที่พักพร้อมกับลูกน้องอีก 3 คนแล้วในจังหวะกำลังจะหลับ พี่เอก็รู้สึกเหมือนมีใครบางคนมางดึงขาและเขย่าๆ แกก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับพูดว่า "เรียกทำไม มีอะไร" เพราะคิดว่าเป็นลูกน้องมาปลุก แต่พอลืมตาขึ้นมาดูก็ไม่มีใครอยู่ หันไปข้างๆก็เห็นลูกน้องตัวเองนอนหลับอยู่บนเตียงทั้ง 3 คน ด้วยความสงสัยแกก็เดินออกไปดูด้านหน้าเพราะคิดว่าอาจจะเป็นชุดที่ทำงานอยู่มาเรียก แต่พอเดินออกไปก็ไม่มีใคร ต้องบอกก่อนนะครับว่าด่านจะอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 100 เมตร แต่พี่เอก็ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าอาจจะฝันไปหรือคิดไปเอง แล้วพี่เอก็ลงนอนต่อ แล้ววันนั้นก็ผ่านไป วันต่อไปก็ไปทำงานตอนดึกอีก และคืนนั้นในขณะที่ตั้งด่านอยู่นั้น พี่เอก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเรียกมาจากทางที่เดินไปที่พักว่า "หมู่ครับ หมู่" แล้วพี่เอก็หันไปดูแต่ก็ไม่เจอใคร พอหันกลับมาทำงานก็ได้ยินเสียงเรียกแบบนั้นอีก 2-3 ครั้ง แกเลยตัดสินใจเปิดไฟฉายดู เพราะคิดว่าคนที่เรียกอาขจะเป็นอีกชุดและมันอาจจะมืดเลยมองไม่เห็นคนที่เรียก แต่ก็ไม่มีอะไรครับ แล้วลูกน้องที่เห็นอาการพี่เอแปลกๆก็เลยถามว่า "หมู่มีอะไรไหมครับ" แต่พี่เอก็ตอบไปว่า "ไม่มีอะไร แค่ดูรอบๆเฉยๆ" แล้วเวลาก็ผ่านไปจนชุดพี่เอลงไปพักแล้ว หลังจากพี่เอก็เข้าไปนอนพักก็เจอเหตุการณ์แบบเดิมครับ คือเหมือนมีคนมาสกิดปลุก แต่ครั้งนี้พี่เอไม่ลืมตาดูเพราะรู้สึกว่าตัวเองต้องโดนแล้วแน่ๆ แล้วก็ฝืนนอนแต่พยายามนอนยังไงก็ไม่หลับ สักพักก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเดินไปเดินมาข้างๆเตียงที่พี่เอนอน พี่เอพยายามจะลืมตามาดูแต่ทำยังไงก็ลืมตาไม่ได้ รู้สึกเหมือนตัวจะชาไม่มีแรง พยายามยังไงก็ไม่สามารถขยับตัวและลืมตาได้ และเสียงของคนที่เดินอยู่ข้างๆนั้นก็หยุดข้างๆเตียง แล้วก็รู้สึกเหมือนคนหรืออะไรสักอย่างนั่งลงที่ขอบเตียง ตอนนั้นพี่เอแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่ตนเจอนั้นต้องไม่ใช่คนแน่นอน เวลาผ่านไปไม่นานพ่เอก็เริ่มขยับตัวได้ แล้วเมื่อลุกขึ้นได้พี่เอก็ได้วิ่งออกมาโดยไม่หันไปมองเลยว่ามีใครอยู่ในห้องนั้นรึป่าว และเมื่อวิ่งไปถึงด่านก็เห็นลูกน้อง 3 คนที่พักพร้อมกันยืนเกาะกลุ่มอยู่ด้วย นั้นแสดงว่าในห้องมีพี่เอแค่คนเดียว แล้วพี่บี (รองหัวหน้าชุด) ก็ถามพี่เอว่า "เป็นอะไร ทำไมถึงวิ่งออกมาหน้าตาแตกตื่น" แล้วพี่เอก็เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้ฟัง หลังจากทุกคนฟังจบ ลูกน้องพี่เอก็พูดมาว่า "หมู่ก็โดนเหมือนกันหร่อครับ" พี่เอได้ยินอย่างนั้นเลยถามกลับไปว่า "พวกเอ็งเจออะไร ทำไมถึงออกมาอยู่นี่" และลูกน้องคนนึงก็เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่พี่เอจะวิ่งออกมาสักประมาณ 20 นาที ตอนนั้นเขานอนเล่นโทรศัพย์อยู่บนที่นอน และเพื่อนอีก 2 คนได้หลับไปแล้ว ในห้องนั้นมืดแต่พอเห็นได้ลางๆจากแสงที่ลอดเข้ามาจากด้านนอก แต่ด้วยแสงของโทรศัพย์ทำให้เขามองเห็นได้แค่ใกล้ๆตัวเท่านั้น ในขณะเขานอนอยู่ก็ได้ยินเสียงคนลุกจากที่นอนแล้วเดินไปเดินทางที่ปลายเท่า ตอนนั้นเขาคิดว่าคงเป็นเพื่อนลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่เสียงเดินนั้นก็มาหยุดอยู่ข้างๆเตียงบริเวณขา และมีมือยื่นมาจับขาและเขย่าๆ ด้วยความที่เขาคิดว่าเป็นเพื่อนก็เลยถามไปว่า "จะเขย่าทำไมเนี้ย" แล้วได้เอาไฟจากโทรศัพย์ส่องไปที่เท้า แต่ไม่เห็นใครที่ข้างเตียง ก็เลยเอาแสงจากหน้าจอโทรศัพย์ส่องกวาดไปดูเพื่อนที่นอนอยู่ทางด้ายซ้ายก็เห็นเพื่อนนอนอยู่บนเตียงทั้ง 2 คน ก็ส่องกลับมาทางขวาก็เห็นพี่เอนอนอยู่ แต่ที่แปลกก็คือ มีเงารูปร่างคนใส่ชุดทหารยืนอยู่ข้างเตียงพี่เออีกด้าน ด้วยความสงสัยและคิดว่าเงานั้นจะต้องเป็นเพื่อนที่ตั้งด่านเข้ามาในห้องแน่นอน เขาจึงถามออกไปว่า "เข้ามาเอาอะไร" แต่ร่างเงานั้นก็ไม่ตอบได้แต่ยืนนิ่ง แต่อยู่ดีๆไอเพื่อน 2 คนที่นอนอยู่ข้างๆก็ลุกขึ้นแล้วเปิดประตูวิ่งออกไปด้านนอก เขาตกใจก็เลยวิ่งตามไปด้วย พอไปถึงด่านก็เห็นชุดที่ทำงานอยู่ครบ 4 คน เขารู้ได้ทันทีว่าเงาที่เห็นต้องไม่ใช้คนแน่นอน แล้วเขาก็ถามเพื่อนอีก 2 คนว่าวิ่งออกมาทำไมเพื่อนก็บอกเขาว่า "พวกกูเห็นมันเดินไปเดินมาตั้งนานแล้ว แต่กูข่มตาอยากให้หลับ" "แต่อยู่ดีๆก็พูดออกมา พวกกูตกใจเลยวิ่งออกมา" หลังจากเล่าให้ฟังกันเสร็จ อีก 3 คนที่เป็นชุดทำงานนั้นก็บอกว่าพวกเขาก็เจอแบบนั้นเหมือนกัน แต่มีคนเดียวที่ไม่เจออะไรเลยคือพี่บี พอคุยกันเสร็จพี่เอก็วิ่งออกมา แล้วพี่บีก็เล่าเรื่องที่ได้ยินมาให้ฟังว่า พี่บีไปซื้อของร้านขายของก่อนถึงด่าน แล้วป้าเจ้าของร้านก็ถามว่า "หนุ่ม พลทหารที่ยิงตัวตายในห้องพักนั้นเป็นคนที่ไหนหร่อ " พี่บีได้ยินแบบนั้นก็งงกับคำถาม เลยตอบไปว่า "อะไรนะครับ ผมไม่รู้เรื่อง พวกผมพึ่งมาอยู่ได้ 2 อาทิตย์" ป้าได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าตกใจ แล้วก็ยอมเล่าเรื่องให้ฟังว่า ก่อนที่ทหารชุดเก่าจะถอดตัวไม่นาน มีพลทหารคนนึงยิงตัวเองตายด้วยปืน M16 ด้วยการนั่งยองๆแล้วเอาปลายกระบอกปืนจ่อที่ปลายคางแล้วเอานิ้งเอื้อมไปลั่นไก กระสุนทะลผ่านจากคางขึ้นกลางหัว ทั้งเลือดและเศษสมองกระจายติดเพดาน เหตุที่ฆ่าตัวตายนั้นได้รู้มาคร่าวๆว่า เครียดเพราะตัวเองไม่ได้ลาพัก จึงกลับบ้านมา 7 เดือนแล้วเมียก็ไปมีแฟนใหม่แล้วพาลูกของตัวเองย้ายไปอยู่บ้านแฟนใหม่ด้วย พอพี่บีได้ยินอย่างนั้นก็เดินกลับไปที่ด่าน และพี่บีบอกว่า "ที่ผมไม่ได้เล่าเพราะคิดว่าน่าจะไม่มีอะไร" เพราะพี่บีก็ไม่เคยเจอหรือได้ยินเสียงอะไร ก็เลยคิดว่าคนอื่นก็คงไม่เจอ หลังจากนั้นทุกคนก็ยืนอยู่ที่ด่านจนถึงตอนเช้าและได้เข้าไปดูในห้องพัก ก็เห็นมีรอยกระสุนและคราบสีน้ำตาลอยู่บริเวณฝาผนังและเพดานที่เตียงที่พี่เอนอน หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าไปนอนในห้องนั้นในเวลากลางคืน
เรื่องก็มีประมาณนี้ครับ นี่คือการเรียบเรียงและถ่ายทอดออกมาครั้งแรกของผม ใครอ่านแล้วรบกวนคอมเมนท์ติชมแนะนำได้ครับ ผิดพลาดตกหล่นตรงไหนขออภัยด้วยครับ ขอบคุณครับ🙏 FourNoi
มีเรื่องหลอนๆมาแบ่งบันครับ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว ในจังหวัดนราธิวาส เรื่องมีอยู่ว่า พี่เอเนี้ยเป็นทหารรับราชการอยู่ที่นราธิวาส แต่เดิมจะรับผิดชอบในพื้นที่นึงของอำเภอ รือเสาะ แต่ทางหน่วยต้องย้ายมารับงานในพื้นที่ใหม่เป็นพื้นที่อำเภอ สุไหงโก-ลก เพราะหน่วยที่ที่รับผิดชอบอยู่ก่อนนั้นต้องถอนตัวกลับ เพราะเป็นหน่วยที่ต้นสังกัดอยู่ทางภาคกลาง แค่มาช่วยราชการ และการทำงานในแต่ละวันก็จะมีการตั้งด่าน ลาดตระเวร อะไรประมาณนี้ครับ และพี่เอเนี้ย ก็มีหน้าตั้งด่าน คือด่านจะอยู่ห่างจากฐานประฎิบัติการประมาณ 1 กม. และการเดินทางไปที่ด่านจะเป็นการเดินเท้า พี่เอเนี้ยแกก็ไปตั้งด่านตามปกติทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลากลางวัน 1 ครั้งและกลางคืน 1 ครั้ง แบ่งเวลาเป็นครั้งละ 2 ชม.และในชุดจะมี 8 คน เป็นนายสิบ 2 คนเป็นหัวหน้าชุดและรองหัวหน้าชุด และมีลูกชุดเป็นพลทหารอีก 6 คนเวลาขึ้นด่านจะขึ้น 2 ชม.และจะแบ่งเป็น 2 ห้วง ห้วงละ 1 ชม.และจะสลับกัน ชม.ละ 4 คน ช่วงที่ 4 คนแรกขึ้น อีก 4 คนจะพัก จะมีที่พักเป็นน็อคดาวน์ทหารขนาดไม่ใหญ่มากครับ พอวางเตียงนอนได้ 4 เตียงพอดี และเวลาก็ผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ครับ วันนั้นพี่เอเล่าว่า ตอนนั้นเป็นเวลากลางคืนและพี่เอพักอยู่และกำลังนอนพักในที่พักพร้อมกับลูกน้องอีก 3 คนแล้วในจังหวะกำลังจะหลับ พี่เอก็รู้สึกเหมือนมีใครบางคนมางดึงขาและเขย่าๆ แกก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับพูดว่า "เรียกทำไม มีอะไร" เพราะคิดว่าเป็นลูกน้องมาปลุก แต่พอลืมตาขึ้นมาดูก็ไม่มีใครอยู่ หันไปข้างๆก็เห็นลูกน้องตัวเองนอนหลับอยู่บนเตียงทั้ง 3 คน ด้วยความสงสัยแกก็เดินออกไปดูด้านหน้าเพราะคิดว่าอาจจะเป็นชุดที่ทำงานอยู่มาเรียก แต่พอเดินออกไปก็ไม่มีใคร ต้องบอกก่อนนะครับว่าด่านจะอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 100 เมตร แต่พี่เอก็ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าอาจจะฝันไปหรือคิดไปเอง แล้วพี่เอก็ลงนอนต่อ แล้ววันนั้นก็ผ่านไป วันต่อไปก็ไปทำงานตอนดึกอีก และคืนนั้นในขณะที่ตั้งด่านอยู่นั้น พี่เอก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเรียกมาจากทางที่เดินไปที่พักว่า "หมู่ครับ หมู่" แล้วพี่เอก็หันไปดูแต่ก็ไม่เจอใคร พอหันกลับมาทำงานก็ได้ยินเสียงเรียกแบบนั้นอีก 2-3 ครั้ง แกเลยตัดสินใจเปิดไฟฉายดู เพราะคิดว่าคนที่เรียกอาขจะเป็นอีกชุดและมันอาจจะมืดเลยมองไม่เห็นคนที่เรียก แต่ก็ไม่มีอะไรครับ แล้วลูกน้องที่เห็นอาการพี่เอแปลกๆก็เลยถามว่า "หมู่มีอะไรไหมครับ" แต่พี่เอก็ตอบไปว่า "ไม่มีอะไร แค่ดูรอบๆเฉยๆ" แล้วเวลาก็ผ่านไปจนชุดพี่เอลงไปพักแล้ว หลังจากพี่เอก็เข้าไปนอนพักก็เจอเหตุการณ์แบบเดิมครับ คือเหมือนมีคนมาสกิดปลุก แต่ครั้งนี้พี่เอไม่ลืมตาดูเพราะรู้สึกว่าตัวเองต้องโดนแล้วแน่ๆ แล้วก็ฝืนนอนแต่พยายามนอนยังไงก็ไม่หลับ สักพักก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเดินไปเดินมาข้างๆเตียงที่พี่เอนอน พี่เอพยายามจะลืมตามาดูแต่ทำยังไงก็ลืมตาไม่ได้ รู้สึกเหมือนตัวจะชาไม่มีแรง พยายามยังไงก็ไม่สามารถขยับตัวและลืมตาได้ และเสียงของคนที่เดินอยู่ข้างๆนั้นก็หยุดข้างๆเตียง แล้วก็รู้สึกเหมือนคนหรืออะไรสักอย่างนั่งลงที่ขอบเตียง ตอนนั้นพี่เอแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่ตนเจอนั้นต้องไม่ใช่คนแน่นอน เวลาผ่านไปไม่นานพ่เอก็เริ่มขยับตัวได้ แล้วเมื่อลุกขึ้นได้พี่เอก็ได้วิ่งออกมาโดยไม่หันไปมองเลยว่ามีใครอยู่ในห้องนั้นรึป่าว และเมื่อวิ่งไปถึงด่านก็เห็นลูกน้อง 3 คนที่พักพร้อมกันยืนเกาะกลุ่มอยู่ด้วย นั้นแสดงว่าในห้องมีพี่เอแค่คนเดียว แล้วพี่บี (รองหัวหน้าชุด) ก็ถามพี่เอว่า "เป็นอะไร ทำไมถึงวิ่งออกมาหน้าตาแตกตื่น" แล้วพี่เอก็เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้ฟัง หลังจากทุกคนฟังจบ ลูกน้องพี่เอก็พูดมาว่า "หมู่ก็โดนเหมือนกันหร่อครับ" พี่เอได้ยินอย่างนั้นเลยถามกลับไปว่า "พวกเอ็งเจออะไร ทำไมถึงออกมาอยู่นี่" และลูกน้องคนนึงก็เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่พี่เอจะวิ่งออกมาสักประมาณ 20 นาที ตอนนั้นเขานอนเล่นโทรศัพย์อยู่บนที่นอน และเพื่อนอีก 2 คนได้หลับไปแล้ว ในห้องนั้นมืดแต่พอเห็นได้ลางๆจากแสงที่ลอดเข้ามาจากด้านนอก แต่ด้วยแสงของโทรศัพย์ทำให้เขามองเห็นได้แค่ใกล้ๆตัวเท่านั้น ในขณะเขานอนอยู่ก็ได้ยินเสียงคนลุกจากที่นอนแล้วเดินไปเดินทางที่ปลายเท่า ตอนนั้นเขาคิดว่าคงเป็นเพื่อนลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่เสียงเดินนั้นก็มาหยุดอยู่ข้างๆเตียงบริเวณขา และมีมือยื่นมาจับขาและเขย่าๆ ด้วยความที่เขาคิดว่าเป็นเพื่อนก็เลยถามไปว่า "จะเขย่าทำไมเนี้ย" แล้วได้เอาไฟจากโทรศัพย์ส่องไปที่เท้า แต่ไม่เห็นใครที่ข้างเตียง ก็เลยเอาแสงจากหน้าจอโทรศัพย์ส่องกวาดไปดูเพื่อนที่นอนอยู่ทางด้ายซ้ายก็เห็นเพื่อนนอนอยู่บนเตียงทั้ง 2 คน ก็ส่องกลับมาทางขวาก็เห็นพี่เอนอนอยู่ แต่ที่แปลกก็คือ มีเงารูปร่างคนใส่ชุดทหารยืนอยู่ข้างเตียงพี่เออีกด้าน ด้วยความสงสัยและคิดว่าเงานั้นจะต้องเป็นเพื่อนที่ตั้งด่านเข้ามาในห้องแน่นอน เขาจึงถามออกไปว่า "เข้ามาเอาอะไร" แต่ร่างเงานั้นก็ไม่ตอบได้แต่ยืนนิ่ง แต่อยู่ดีๆไอเพื่อน 2 คนที่นอนอยู่ข้างๆก็ลุกขึ้นแล้วเปิดประตูวิ่งออกไปด้านนอก เขาตกใจก็เลยวิ่งตามไปด้วย พอไปถึงด่านก็เห็นชุดที่ทำงานอยู่ครบ 4 คน เขารู้ได้ทันทีว่าเงาที่เห็นต้องไม่ใช้คนแน่นอน แล้วเขาก็ถามเพื่อนอีก 2 คนว่าวิ่งออกมาทำไมเพื่อนก็บอกเขาว่า "พวกกูเห็นมันเดินไปเดินมาตั้งนานแล้ว แต่กูข่มตาอยากให้หลับ" "แต่อยู่ดีๆก็พูดออกมา พวกกูตกใจเลยวิ่งออกมา" หลังจากเล่าให้ฟังกันเสร็จ อีก 3 คนที่เป็นชุดทำงานนั้นก็บอกว่าพวกเขาก็เจอแบบนั้นเหมือนกัน แต่มีคนเดียวที่ไม่เจออะไรเลยคือพี่บี พอคุยกันเสร็จพี่เอก็วิ่งออกมา แล้วพี่บีก็เล่าเรื่องที่ได้ยินมาให้ฟังว่า พี่บีไปซื้อของร้านขายของก่อนถึงด่าน แล้วป้าเจ้าของร้านก็ถามว่า "หนุ่ม พลทหารที่ยิงตัวตายในห้องพักนั้นเป็นคนที่ไหนหร่อ " พี่บีได้ยินแบบนั้นก็งงกับคำถาม เลยตอบไปว่า "อะไรนะครับ ผมไม่รู้เรื่อง พวกผมพึ่งมาอยู่ได้ 2 อาทิตย์" ป้าได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าตกใจ แล้วก็ยอมเล่าเรื่องให้ฟังว่า ก่อนที่ทหารชุดเก่าจะถอดตัวไม่นาน มีพลทหารคนนึงยิงตัวเองตายด้วยปืน M16 ด้วยการนั่งยองๆแล้วเอาปลายกระบอกปืนจ่อที่ปลายคางแล้วเอานิ้งเอื้อมไปลั่นไก กระสุนทะลผ่านจากคางขึ้นกลางหัว ทั้งเลือดและเศษสมองกระจายติดเพดาน เหตุที่ฆ่าตัวตายนั้นได้รู้มาคร่าวๆว่า เครียดเพราะตัวเองไม่ได้ลาพัก จึงกลับบ้านมา 7 เดือนแล้วเมียก็ไปมีแฟนใหม่แล้วพาลูกของตัวเองย้ายไปอยู่บ้านแฟนใหม่ด้วย พอพี่บีได้ยินอย่างนั้นก็เดินกลับไปที่ด่าน และพี่บีบอกว่า "ที่ผมไม่ได้เล่าเพราะคิดว่าน่าจะไม่มีอะไร" เพราะพี่บีก็ไม่เคยเจอหรือได้ยินเสียงอะไร ก็เลยคิดว่าคนอื่นก็คงไม่เจอ หลังจากนั้นทุกคนก็ยืนอยู่ที่ด่านจนถึงตอนเช้าและได้เข้าไปดูในห้องพัก ก็เห็นมีรอยกระสุนและคราบสีน้ำตาลอยู่บริเวณฝาผนังและเพดานที่เตียงที่พี่เอนอน หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าไปนอนในห้องนั้นในเวลากลางคืน
เรื่องก็มีประมาณนี้ครับ นี่คือการเรียบเรียงและถ่ายทอดออกมาครั้งแรกของผม ใครอ่านแล้วรบกวนคอมเมนท์ติชมแนะนำได้ครับ ผิดพลาดตกหล่นตรงไหนขออภัยด้วยครับ ขอบคุณครับ🙏 FourNoi