สวัสดีครับ วันนี้แวะมาชี้เป้าสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่ยังไม่แพร่หลายสำหรับคนไทย (แต่ฮิตสำหรับ Locals) และเอารูปมาแบ่งปัน
หลังจากที่ พ.ค. ที่ผ่านมามีโอกาสไปเยี่ยม Albanian Alps มาแล้ว https://ppantip.com/topic/41556865
ครั้งนี้เป็น Alps ทางฝั่งฝรั่งเศสติดกับอิตาลี ไปมาเมื่อปลายตุลาคมที่ผ่านมาครับ

 1. Glacier Blanc, Écrins National Park, France
 2. Vallée de la Clarée, France
 3. Aiguilles d'Arves, France
 4. Marguareis Natural Park, Italy

เป้าหมายในการไปครั้งนี้ ต้องการไป Hiking ดูใบไม้เปลี่ยนสีและไปในที่ที่ไม่เคยไป แผนที่วางไว้แต่แรกจะมีการเดิน Hiking หลายที่ แต่เอาเข้าจริงไม่เป็นไปตามแผน เพราะได้รับบาดเจ็บจากการเดินตั้งแต่ 2 วันแรก จึงกลายเป็นทริปขับรถถ่ายรูปแบบชะโงกทัวร์แทน แต่ละภาพที่ถ่ายเดินจากจุดจอดรถไม่เกิน 40 นาที อย่างที่บอกครับ บาดเจ็บ น่วม เลยไม่ได้เดินมาก
ภาพอาจจะมีชัดบ้าง ไม่ชัดบ้าง เนื่องจากใช้กล้องใหญ่และมือถือสลับกันถ่าย ต้องขออภัยด้วยนะครับ

1. Glacier Blanc
พิกัด Google Map : Pré de Madame Carle
หลังจากเช่ารถจาก Milan และไป Hiking ที่ Marguareis Natural Park, Italy 2 คืนแรกมาเรียบร้อยแล้ว เปลี่ยนแนวเป็นขับรถเที่ยว
ออกเดินทางจาก Certosa, Cuneo ขับข้ามพรมแดนไปฝรั่งเศสเพื่อไปชม Glacier Blanc ใน Écrins National Park โดยใช้เส้นทาง Maddalena Pass หรือเรียกอีกชื่อว่า Col de l'Argentiere ไม่มีด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆที่คล้ายด่านเลย ขับรถบนภูเขาอยู่ดีๆก็เจอป้ายเขียนว่า France เป็นอันรู้กันว่าข้ามฝั่งมาแล้ว
Glacier Blanc เป็นที่ที่เกือบถูกตัดออกจากแผนเพราะหารูปสวยๆใน Google แทบจะไม่พบ อย่างไรก็ตาม รู้สึกว่ามันต้องสวยและมันก็สวยจริงๆ ถึงจะไม่ได้เดินไปถึงจุดชม Glacier ที่ต้องใช้เวลาเดินเกือบครึ่งวัน แค่ขับรถผ่านทางเข้าก็สามารถสัมผัสความยิ่งใหญ่ของ Glacier Blanc ได้ เมื่อเข้าไปถึงจุดจอดรถ Pré de Madame Carle แล้วแหงนหน้าขึ้นไปมอง จะพบกับภูเขาสูงล้อมรอบเกือบ 360 องศา ด้านล่างเป็นทางน้ำกว้างและป่าสนสีเหลือง
เป็นอีกหนึ่งที่ที่ของจริงสวยกว่าในรูป (มันจะมีที่บางประเภทที่ในรูปสวยกว่าของจริง)
พักที่ B&B La Borella Casa Conti
https://rando.ecrins-parcnational.fr/en/trek/903307-The-White-Glacier

ระหว่างทางไป Glacier Blanc


Glacier Blanc 



 

2. Vallée de la Clarée
พิกัด Google Map : Refuge Laval, Névache
หลังจากเยี่ยมชม Glacier Blanc อันยิ่งใหญ่แล้ว วันรุ่งขึ้นขับรถผ่านเมือง Briançon ผ่านหมู่บ้านในหุบเขา Val-des-Prés เข้าสู่เส้นทางชนบทที่เงียบสงบ มีลำธารเล็กๆไหลขนานไปกับถนน นำไปสู่หมู่บ้าน Névache แห่งหุบเขา Vallée de la Clarée ถิ่นของสนเปลี่ยนสีที่ทั้งหุบเขาจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองช่วงปลายเดือนตุลาคม เส้นทางจาก Névache ถึง Refuge Laval จุดในสุดของหุบเขาที่รถยนต์สามารถเข้าถึง มีระยะทางประมาณ 10 km เป็นช่วงที่มีความสวยงามเป็นพิเศษ ภูเขาสองข้างทางเต็มไปด้วยสนสีเหลือง มีลำธารไหลทอดยาวไปกับภูเขา เดินฟังเสียงน้ำพร้อมกับมองสนสีเหลืองให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ไม่แห้งแล้ง ให้อารมณ์คล้าย Kamikochi ที่ Nagano ประเทศญี่ปุ่น เด่นในเรื่องน้ำ หากมีโอกาสอยากกลับมาใช้เวลาในจุดนี้ให้นานขึ้น (2-3 คืน) มองว่าเป็นจุดที่เหมาะกับการพักผ่อน สามารถทำกิจกรรมได้หลากหลาย เช่น Picnic, เดินเลียบลำธารชมธรรมชาติ, นั่งริมน้ำเฉยๆไม่ทำอะไร หรือถ้ามีแรงก็สามารถเลือกเส้นทาง Hiking ที่ยากขึ้น ไปดูบ่อน้ำบนภูเขา มีหลายบ่อ เช่น Lac de la Cula, Lac de la Clarée ที่พักสามารถเลือกพักในเมืองใหญ่อย่าง Briançon หรือพักในหมู่บ้านเล็กๆที่ปากทาง เช่น Val-des-Prés หรือ Névache ก็ได้ 
https://www.claree-tourisme.fr/la-claree/val-des-pres


ไม่ใช่รถผมนะครับคันนี้


3. Aiguilles d'Arves ขออนุญาตเรียกว่า French Tre Cime เพราะหน้าตาคล้ายกับ Tre Cime di Lavaredo ที่ Italy แต่ French Tre Cime ไม่ต้องเดินเพื่อจะได้เห็นยอดเขา สามารถขับรถไปชมวิวได้เลยในขณะที่ Tre Cime di Lavaredo ต้องเดินประมาณ 10 km ถึงจะได้เห็น 3 ยอดในตำนาน 
French Tre Cime ยอดด้านซ้ายมีชื่อว่า Tête de Chat หรือ the Cat เพราะมีลักษณะเหมือนหัวแมว
หากต้องการ Hiking มีเส้นทางเดินหลายเส้น เช่นจาก Le Chalmieu ไป Basse du Gerbier ระยะทางไปกลับประมาณ 15 km 
พิกัด Google Map :  Le Chalmieu, Albiez-Montrond,
Lac Guichard, Saint-Sorlin-d'Arves (ส่วนที่เป็นบ่อน้ำบนเขา) ส่วนโบสถ์คือ Eglise Saint-Nicolas, Albiez-Montrond ถ่ายจากถนนฝั่งตรงข้าม
พักที่ Apartment ใน Saint-Sorlin-d'Arves



4. Marguareis Natural Park, Italy (แถม)
พิกัด Google Map : Rifugio Pian Delle Gorre, Cuneo, Italy
อันนี้เป็นอันแรกที่ไป เป็นตัวที่ทำให้บาดเจ็บ สำหรับผมภูเขา Marguareis มีหน้าตาคล้ายกับ Dolomites แถบ Val Gardena มีกระท่อมบนเขาชื่อ Rifugio Garelli ที่ยังเปิดให้นักเดินเขาพักค้างคืนได้ถึงปลาย ต.ค. ในขณะที่เวลานี้กระท่อมบนเขาอื่นๆทางเหนือปิดหมดแล้ว ข้อมูลในเว็บบอกว่าเป็น Easy Hike ใช้เวลาเดิน 2.5 ชั่วโมง จึงตัดสินใจจองเพื่อเดินขึ้นไปนอนอย่างไม่ลังเล แต่เมื่อเดินจริงกลับใช้เวลาถึง 5 ชั่วโมง 
ขาลงวันรุ่งขึ้นอีก 4 ชั่วโมง สำหรับมือใหม่อย่างผมถือว่ายากมาก ทางชันและไกลมาก รู้สึกว่าเดินเท่าไหร่ก็ไม่ถึงสักที เป็นการเดินเกิน Limit ตัวเอง ทำให้ขาและเข่าบาดเจ็บ มองย้อนกลับไปรู้สึกเข็ดแต่ก็ภูมิใจ
https://www.rifugiogarelli.com/

ขาขึ้น ชัน ยาว

จุดแสงไฟในภาพคือที่พัก กว่าจะถึงก็มืด ต้องเปิดไฟฉายเดิน


Rifugio Garelli ยามเช้า



ขาลงเลือกลงอีกทาง ผ่าน Laghetto Del Marguareis บ่อน้ำเล็กๆบนเขา ชันน้อยกว่า สวยกว่า แต่ไกลกว่า



 

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณครูบาอาจารย์ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ดลบันดาลให้ผมได้มีโอกาสไปสัมผัสสถานที่ที่สวยงามและคุ้มครองผมให้ปลอดภัยครับ