Leaves are falling and Autumn is calling. Italy 2022

สวัสดีทุกคนค่ะ ปุ๊กกี้จากอิตาลีนะคะ วันนี้เอารูปใบไม้เปลี่ยนสีบนภูเขาแถวบ้านมาให้ดูกันค่ะ ปีนี้นอกจากหน้าร้อนที่ร้อนผิดปกติแล้ว ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง อากาศก็ไม่ได้เย็นเหมือนทุกๆปี ยังอยู่ที่ 15-20 องศา ถือว่าไม่ปกติจริงๆค่ะ โลกเรานี่เริ่มไม่ไหวแล้วนะคะ อะไรๆก็แปรปรวนไปหมด 

เป็นรูปที่ถ่ายไว้วันที่ 29 ตุลาคม หลังกินมื้อเที่ยงเสร็จ อยากออกไปเดินย่อยสักหน่อย เลยตัดสินใจไปเดินเส้นทางที่คุ้นเคย มีชาวบ้านคนอื่นๆเดินสวนมาบ้าง เลยได้ทักทายกันพองาม ไม่เหงาจนเกินไปเนอะ 

ปล. ดิฉันเป็นสะใภ้ของหมู่บ้านนี้มานาน คนแถวนี้รู้จักดิฉันและครอบครัวเราดี เดินไปไหนมาไหน หน้าดิฉันคือตัวแทนของครอบครัว เห็นดิฉันปุ๊บ ชาวบ้านจะนึกถึงนามสกุลยาวๆของพวกเรา ซึ่งหมู่บ้านเรานี้เป็นหมู่บ้านเล็กๆ นามสกุลดั้งเดิมของคนที่นี่มีไม่เกินสิบนามสกุล แต่งงานโยงใยเป็นญาติกันทั้งหมู่บ้านแล้วค่ะ ^__^

เอาละ ดูรูปยามแดดส่องไปยังต้นไม้ใบหญ้าในตอนบ่ายกันค่ะ





กระท่อมหินนี้ แทบไม่เห็นเจ้าของมาอยู่เลยค่ะ หน้าหนาวดิฉันเคยใส่รองเท้าลุยหิมะเดินย่ำมาถึงตรงนี้ ก็ไม่เห็นมีใครมา หน้าหนาวตรงนี้หิมะท่วม รถมาไม่ถึง ต้องเดินลุยหิมะมา ชอบหลังนี้มากค่ะ วิวดี มองออกไปนอกหน้าต่างคงจะสวยทุกฤดูกาลจริงๆ 


ลานตรงนี้ ฤดูใบไม้ผลิและหน้าร้อน จะมีฝูงวัวมากินหญ้า และมีบ้านผึ้งๆก็บินกันว่อนไปหมด บรรยากาศแบบบ้านๆ บ้านนอกของอิตาลีเค้าแหละค่ะ


รูปข้างล่างนี้ ตรงยอดเขา เห็นเสารับสัญญาณโทรศัพท์นั่นไหมคะ ดิฉันเคยเดินอ้อมเขาลูกนั้น เดินวกไปวนมาตามทางเดินเก่าๆที่ชาวบ้านเค้าเคยใช้ ตอนนี้ทางหมู่บ้านปรับปรุงเป็นทางเดินป่าและปั่นจักรยานวิบาก บางช่วงชันมากค่ะ คือต้องปั่นลงอย่างเดียว ปั่นขึ้นไม่ได้แน่ๆ ส่วนดิฉันก็เดินด้วยสองขาของตัวเองนี่แหละค่ะ เดินไปเรื่อยๆสองชั่วโมงก็ถึงยอดตรงนั้น แล้วเดินกลับ ช่วงหน้าร้อนนี้ ดิฉันเดินจนขาแข็งไปหมดแล้วค่ะ


นี่คือเครื่องเทศชนิดนึง ที่ติต่างว่าเป็นพริกไทยดำของคนบนภูเขาค่ะ ชื่อของมันคือ Ginepro (บนภูเขามักงอกเป็นพุ่มๆ) ใบแหลมคม ตอนเก็บต้องระวังตัว ใส่ถุงมือเก็บ เรามักจะเอามาผสมกับเครื่องเทศอื่นๆหมักเนื้อสัตว์ป่าพวกเนื้อกวางเนื้อหมูป่าอะไรทำนองนั้น เพื่อลดกลิ่นคาว 


และนี่คือป้ายบอกทาง เป็นเส้นทางเดินภูเขาในหน้าหนาวค่ะ ต้องใส่ snow shoes มานะคะ ไม่งั้นเดินไม่ได้ เท้าจะจมลงไปในหิมะ 


ส่วนนี่คือลานจอดรถใกล้ๆกระเช้าไฟฟ้า จอดรถฟรี แต่ค่ากระเช้าต้องจ่ายเงิน ไม่แพงมาก หน้าร้อนไปกลับแค่ 9 euro เท่านั้น มีส่วนลดสำหรับพวกเราที่เป็น residence หน้าหนาวจำราคาไม่ได้ค่ะ อาจจะแพงขึ้นนิดหน่อย ก็พานักท่องเที่ยวขึ้นไปบนเขาสูงที่ความสูง 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล หน้าร้อนนักท่องเที่ยวก็มาเดินป่าเดินเขา เก็บเห็ด(เก็บฟรีอีกต่างหาก เอาใจนักท่องเที่ยวเกินไปแล้ว) หรือเก็บบลูเบอรี่ป่า ปิคนิคก็ได้ มีโต๊ะมีเตาบาร์บีคิวให้อีก ส่วนหน้าหนาวก็มาพานักเล่นสกีขึ้นไปด้านบนสำหรับคนที่ไม่เล่นสกีก็เอารถมาจอดได้ แล้วเดินขึ้นเขาไปเอง เหมือนดิฉันนี่แหละค่ะ คือลานจอดรถกับบ้านก็ไม่ได้ไกลอะไรหรอกค่ะ เดินมาถึง แต่ทางเดินคือไม่มีที่ราบ เดินขึ้นเนินตลอด เลยขับรถมาจอดไว้ดีกว่า เก็บแรงไว้ แล้วเดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆ ส่วนรถขุดดินในรูปนั่น ด้านบนภูเขาโน่น เค้าปรับปรุงลานสกีกันอยู่ค่ะ คงจะเสร็จงานแล้วมั้ง เลยมาจอดกันตรงนี้ 


และนี่คือรถ Fiat รุ่น Panda ของดิฉันเอง ไม่ได้ซื้อเอง พ่อสามีเสียชีวิตไป พ่อบอกไว้ก่อนเสียว่า ถ้าพ่อไม่อยู่แล้ว ปุ๊กกี้เอารถพ่อไปใช้ได้เลยนะ ก็ทำตามที่พ่อบอกเลยค่ะ เพี้ยนขอบคุณที่อิตาลีเนี่ย รถสัญชาติบ้านเค้ารุ่นนี้เป็นที่นิยมกันมาก โดยเฉพาะคนที่มีบ้านอยู่บนเนินบนเขา มีรุ่น 4*4 ด้วยนะคะ ขับกันเกลื่อนเลยค่ะ รถคันเล็ก กะทัดรัด ขึ้นเขาลงห้วย ลุยหิมะสบายมาก 

ปล. หินก้อนใหญ่ๆนั่น ตอนเค้าปรับปรุงลานสกี ขุดๆไปเจอหิน เค้าก็เอามากองๆไว้ กลายเป็นกำแพงหินป้องกันดินถล่มลงมาในลานจอดรถค่ะ




หลังคาสีเขียวเทายาวๆนั่น เป็นสระว่ายน้ำประจำหมู่บ้านค่ะ ช่วงนี้ปิด เปิดเฉพาะหน้าร้อนและหน้าหนาวตอนมีนักท่องเที่ยวมาเยอะๆ หน้าร้อนดิฉันและสามีมาว่ายน้ำกันอย่างน้อยๆอาทิตย์ละวัน ค่าบริการคนละ 15 euro ผู้ใหญ่ แต่ชาวบ้านที่นี่มีส่วนสดให้อีกนิดหน่อย 

ก่อนกลับบ้าน แวะไปดูเห็ดสีเหลือง ที่ไทยเรียกว่า เห็ดมันปูเหลือง มั้งคะ ที่อิตาลีคือ Finferli คืองอกอยู่ริมทางเดินนั่นแหละค่ะ ก็เก็บมาได้นิดนึง หมดฤดูกาลแล้ว นี่คือชุดสุดท้ายที่เจอแล้วค่ะ ปีหน้าฟ้าใหม่ค่อยไปเก็บใหม่เนอะ เห็ดชนิดนี้ อิตาเลียนนิยมเอามาใส่ในข้าวริซอตโต้ หรือใส่ในสปาเก็ตตี้ก็อร่อยดีค่ะ 


รูปหมดแล้วค่ะ แต่มีรูปข่าวสารเรื่องไวรัสตัวร้าย โควิดที่คร่าชีวิตชาวอิตาเลียนไปเยอะมาก ดิฉันถ่ายรูปนี้มาจากหนังสือพิมพ์เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม จำนวน 179,025 คือจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 


และช่วงอายุที่เสียชีวิตจากโควิดมากที่สุดคือ 80-89 ปี 


โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน และต่อไปก็คงจะมีโรคบ้าบอคอแตกนี่ขึ้นมาอีก ดังนั้น มาใช้ชีวิตให้สุขและสนุกตามที่มันควรจะเป็นกันเถอะ

Life is too short.
So
Live in the moment.

เดี๋ยวแวะไปทำงานแป๊บนึง ดึกๆของอิตาลีจะมาเม้าท์มอยเรื่องทำฟันที่นี่ ที่ทำเอาขนหัวลุกกันเลยทีเดียว
แล้วเจอกันใหม่ สวัสดีค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่