เที่ยวฮอกไกโด 2 วัน 1 คืน พร้อมกิจกรรมสุดมันส์ที่เมืองน้ำพุร้อน Jozankei เดินทางง่ายนิดเดียว

ชีวิตแฮปปี้ 2 วัน 1 คืนที่ Jozankei เมืองน้ำพุร้อนแห่งเกาะฮอกไกโด ที่ใกล้ซัปโปโรมาก แค่ 40 นาที

เมืองโจซังเค เป็นเมืองๆหนึ่ง ที่อยู่ห่างจากซัปโปโรเพียงนั่งรถบัสแค่ประมาณ 40 นาที ก็ถึงแล้ว
น้ำพุร้อนของ Jozankei ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในแหล่งน้ำพุร้อนจากป่าไม้ที่ดีที่สุด
โดยเต็มไปด้วยคุณภาพน้ำที่ดีและปริมาณที่มากมาย ถึงขนาดว่าในสมัยก่อนเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว
แหล่งน้ำพุร้อนของที่นี่เคยใช้เป็นสถานที่บำบัดผู้คนที่เจ็บไข้ได้ป่วยด้วยนะ





แผนที่ของ Jozankei ทั้งหมด เห็นได้ว่ามีที่เที่ยวมากมายทั้งสี่ฤดูกาลเลย อยู่ที่ว่าเราจะสะดวกในเวลาไหน เพราะที่นี่มีสถานที่เที่ยวเพียบ


“โจซังเค” เมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องบ่อน้ำร้อนออนเซ็น และตรง Nishikibashi ก็เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมแห่งหนึ่งของฮอกไกโด ช่วงที่เริ่มเปลี่ยนสีจะเป็นกลางเดือนตุลาคมเป็นต้นไป โดยสามารถชมวิวสวยๆแบบนี้ได้แทบทุกมุมของ Jozankei



ดูวิวเมืองจากมุมสูงกันบ้างนะ...ที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา บ่อน้ำพุร้อนโจซังเค  ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya ซึ่งสวนนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฮอกไกโด ซึ่งถือเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมากๆของที่นี่


ในอุทยานมีเส้นทางเดินป่าด้วย ซึ่งถ้าใครชอบการเดินขึ้นเขาชมวิวทิวทัศน์ นี่ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สามารถทำได้ก่อนที่เราจะไปแช่น้ำพุร้อนโจซันเคกัน


บ่อน้ำพุร้อนในโจซันเคเป็นบ่อน้ำพุโซเดียมคลอไรด์ที่ไม่มีสีแต่รสชาติค่อนข้างออกเค็ม เมื่อนักท่องเที่ยวแช่ในบ่อน้ำ เกลือจะซึมเข้าผิวหนังช่วยให้ผิวของเราเก็บความชุ่มชื่นได้ดี และสุขภาพดี 


ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ในช่วง ต้น-กลาง ตุลาคม ถือเป็นช่วงที่สวยมากและยิ่งทำให้ที่บ่อน้ำพุร้อนโจซันเคยิ่งสวยสะกดตามากขึ้นไปอีก มีคอร์สเดินป่าด้วยนะ ทำให้เรายิ่งเห็นความงามของธรรมชาติได้มากขึ้น
แต่นอกจากคุณภาพน้ำที่ดีแล้ว ภาพวิวดาวล้านดวงของที่นี่ก็ยิ่งสะกดใจให้อยากมาเห็นกับตาตัวเอง


เพราะสีสันของใบไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง แดง ส้ม ตัดกับน้ำสีฟ้า ไม่ต้องบอกเลยใช่ไหมคะว่าภาพตรงหน้าสวยสะกดตามากขนาดไหน เหมือนถูกมนต์สะกดให้ยืนอยู่ในภวังค์ 


พอถึงช่วงกลางคืน ในฤดูหนาว แม้จะเป็นช่วงอากาศหนาวหิมะตก และอุณหภูมิติดลบก็ตาม แต่บรรยากาศแบบนี้จะเห็นได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น ยิ่งทำให้เราต้องมาชมให้ได้ 


ภาพมุมสูงของโซนที่พักและแหล่งน้ำพุแช่เท้าที่มีอยู่มากมายตามถนน กลางคืนจะเป็นไฟสีส้มสว่างไสวแบบนี้ ส่วนกลางวันเดินเล่นได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ 


พอเข้าช่วงฤดูหนาว ในหนึ่งวันนั้นเรามีกิจกรรมที่นิยมทำกันได้ในตั้งแต่ช่วงเช้าคือ เล่นสกี ที่ลานสกี Sapporo Kokusai Skiing resort  หากใครจะเดินทางด้วยรถบัส สามารถไปรอขึ้นรถบัสได้ที่ป้าย "Jozankei Jinja Mae" หรือ "Yunomachi" แต่ถ้าไปด้วยรถยนต์ สามารถจอดชมวิวข้างทางแบบนี้ได้เลย ว้าว สวยมากๆ 
สวยจนต้องหยุดจอดและลงไปถ่ายรูป ตรงนี้เราเรียกว่าบริเวณด้านสันเขื่อน Jozankei ซึ่งเป็นวิวที่สวยประทับใจที่สุด


จริงๆด้านบนเป็นสันเขื่อนนะคะ  แต่เพราะหน้าหนาวจะหนาวมาก น้ำเลยเป็นน้ำแข็งแบบนี้ เป็นความงามอีกแบบเหมือนกัน


สำหรับคนที่นี่ นิยมไปลานสกี Sapporo Kokusai Skiing resort ซึ่งเป็นลานสกีที่อยู่ใกล้ Jozankei มากที่สุด และมีทั้งสกี สโนว์บอร์ด และกอนโดล่าที่นั่งชมวิวไปถึงด้านบนยอดเขาได้ 


แม้ว่าคุณจะมามือเปล่า คุณก็สามารถมาเช่าอุปกรณ์ที่นี่ได้อย่างง่ายดาย ที่นี่เหมาะสำหรับผู้เล่นทุกระดับเพราะมีทั้งคอร์สตั้งแต่ผู้ฝึกเล่นไปจนถึงพวกมืออาชีพ แต่ถ้ามาเล่นหิมะเฉยๆก็มีโซน สโนว์พาร์ค 


ขั้นตอนการเช่าชุดและอุปกรณ์สกีและสโนว์บอร์ดก็ง่ายมาก แค่กรอกรายละเอียดลงในแบบฟอร์ม เจ้าหน้าที่จะจัดการให้หมดเลย เช่าได้ทุกอย่างตั้งแต่ถุงมือ แว่นตา หมวก ไปจนถึงอุปกรณ์ชิ้นใหญ่


ใครที่ไม่เล่นสกี สามารถขึ้นนั่งกอนโดล่าเพื่อชมวิวสูงด้านบนได้เช่นกัน น่าสนุกมากๆเลย


ใครจะมาชมวิวสวยๆ เล่นสกีมันส์ๆ แบบว่าหิมะแป้ง แนะนำมาช่วงเช้า เพราะว่าลานสกีที่นี่เส้นทางยาวจริงๆ แล้วด้านบนก็วิวสวยมากๆ เห็นแค่ลิฟต์ขึ้นก็รู้สึกตื่นเต้นอยากนั่งแล้ว ที่นี่ยังมีโรงเรียนสอนสกีด้วย สอนตั้งแต่เดี่ยว คู่ แบบเป็นกรุ๊ป  ที่นี่มีสอนการเล่นสกีด้วยภาษาอังกฤษด้วย 


ห้องพักรับประทานอาหาร  ที่นั่งพักเหนื่อยระหว่างเล่นสกี หรือสโนว์บอร์ด ถึงคนจะเยอะก็ไม่ต้องกังวลเรื่องหาที่นั่ง ที่นี่มีห้องอาหารให้บริการจำนวนมาก  


วิวจากห้องอาหารก็จะเป็นลานสกีทั้งหมด  พักเหนื่อยแล้วยังได้ชมวิวสวยๆอีก 


ฮอกไกโดมีหิมะที่ขาวสวยจริงๆ ลานสกีที่นี่เค้าบอกเลยนะว่าหิมะละเอียดเป็นแบบธรรมชาติแท้ๆ ซึ่งผู้หัดเล่นใหม่ควรมาเล่นเลยล่ะ เพราะความละเอียดนุ่มของหิมะ ทำให้เบรคง่ายขึ้น 


รายละเอียด Sapporo Kokusai Skiing Resort 
ที่อยู่ Jozankei 937,Minami-ku,Sapporo,Hokkaido,Japan
เวบไซต์ https://www.sapporo-kokusai.jp/en/
เวลาทำการ  9:00 น. - 17:00 น. ( เสาร์ อาทิตย์ เปิดตั้งแต่ 8:30 น.)

สำหรับทริปวันนี้ของเรา เริ่มต้นกันด้วย การได้ทานร้านอาหารอร่อยๆ กัน 
เนื่องจากเราเดินทางมาจากซัปโปโร มาถึงนี่เกือบเที่ยง ค่อนข้างจะหิวแล้ว เราก็ไปร้านสวยๆที่ดังของเมืองนี้กันดีกว่า ชื่อร้าน Amenohi to Fuyunohi ( อาเมะโนะฮี โตะ ฟุยุโนะฮี)  วิธีเดินทางสามารถสอบถามจากเจ้าหน้าที่ที่ลงรถบัสตะกี้ได้นะ ส่วนใครที่ขับรถมาก็สะดวกเลย


บรรยากาศในร้าน ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ดูโมเดิร์น เน้นความโล่งสบายเพราะใช้กระจกเป็นฝาผนังเกือบจะรอบทิศเลย 


ด้านในมีการตกแต่งน่ารักๆ ใช้ร่มคันเล็กๆ เพราะชื่อร้านนั้นคำว่า อาเมะโนะฮี จะหมายถึง ในวันฝนตก ส่วนคำว่า ยูกิโนะฮี คือ ในวันหิมะตก น่ารักเนอะ 


ของขึ้นชื่อของที่นี่ นอกจากจะเป็นเมนูพิซซ่าแล้ว ยังมีเจลาโต้หลากหลายรสชาติ รวมแล้ว 16 รสเลยนะ เช่น เบลูเบอร์รี่ กาแฟนม พรุน รสนมเข้มข้น ช็อกโกแลต


ซุปสามชนิด เป็นซุปสูตรพิเศษเฉพาะของร้าน ราคาประมาณ 400 เยน ในช่วงอากาศหนาวๆ สั่งมาทานสักถ้วย ชื่นใจเลย 


รายละเอียด Amenoto to Yukinohi
ที่อยู่   Jozankei Onsen West 2-41, Minami-ku, Sapporo, Hokkaido 061-2303
เวบไซต์ https://www.amenohitoyukinohi.com/
พิกัด https://goo.gl/maps/D8xXYjYEVD3BKZMV7
เวลาทำการ  10.00 น. - 17.30 น.
วันหยุด  วันพฤหัสบดี
เบอร์โทร 011-598-2141

ทานอิ่มแล้ว เราไปเที่ยวกันดีกว่า ตอนนี้เราจะไปกันที่ Jozankei Farm เป็นแหล่งอิ่มอร่อยและกิจกรรมโลดโผนอย่าง Forest advenger ปีนป่ายโหนสลิงให้มันส์ไปเลย


วิวจากระเบียง ด้านล่างเป็นต้นเชอร์รี่เป็นร้อยต้นเลยนะ แต่ตอนนี้หน้าหนาวเลยยังไม่มีกิจกรรมเก็บผลไม้ หรือทำอาหาร ที่นี่มีผลไม้ตามฤดูกาล เช่น เชอร์รี่ องุ่น


ด้านในมีเตาให้ความอบอุ่น นั่งชมวิวกันไป ด้านบนนี้ไม่ใช่ร้านอาหารนะแต่เป็นห้องให้นั่งเล่น ชมวิวมุมสูงได้ 


กระโจมกลางป่า ที่ด้านในมีอุปกรณ์สำหรับกิจกรรมปีนป่ายเพียบ เลือกได้ตามความเหมาะสมของเรา


ปีนไปให้สุด แม้จะหนาวแต่ความท้าทายข้างหน้าก็รอเราอยู่เช่นกัน อุปกรณ์มาครบ ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยเลย 


กระโดดลงมาเล้ยยยย พร้อมร้องโห่ฮิ้วว ความมันส์แบบนี้เกิดขึ้นได้ในฤดูหนาว พร้อมวิวสวยๆ ที่นี่เท่านั้น


จากนั้น ก็ให้เจ้าหน้าที่มาดึงกลับให้ ฮ่าๆ ดูความหนาฟูของหิมะ วิ่งเล่นแบบทุ่งลาเวนเดอร์ได้เลย เด็กๆมาเห็นต้องอยากกระโดดเล่นแน่นอน จัดไปเลยจ้า เล่นได้อิสระ


แผนผังของฤดูกาลผลไม้ที่นี่ ดินแดนแห่งผลไม้อย่างแท้จริงเลยนะคะ มาเดือนไหน เก็บผลไม้ไหนได้บ้าง ลองเช็คดู ความที่เป็นฮอกไกโด อะไรก็อร่อยที่ซู๊ดดด 
เชอร์รี่ - กรกฎาคม ถึง สิงหาคม
พลัม - สิงหาคม ถึง ต้นกันยายน 
พรุน - กันยายน ถึง ตุลาคม
แอปเปิ้ล - กันยายน ถึง ตุลาคม
สตรอว์เบอร์รี่ - มิถุนายน ถึง กรกฎาคม
** ทั้งนี้ตรวจสอบเวบไซต์ล่วงหน้า เพราะสภาพอากาศมีเปลี่ยนแปลงตลอดทุกปี


รายละเอียด Jozankei Farm 
ที่อยู่     832 Jozankei, Minami-ku, Sapporo, Hokkaido 061-2301
เวบไซต์ https://jozankei-farm.com/
การเก็บผลไม้  https://jozankei-farm.com/areaguide/fruit
พิกัด   https://g.page/jozankeifarm?share
เวลาทำการ 9.00 น. - 17.00 น.
การจอง  011-598-4050 หรือ https://jozankei-farm.com/reservation/
รับเฉพาะเงินสด
มีที่จอดรถ 
การเดินทาง ด้วยรถยนต์ หรือ สอบถามเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวโจซังเค ที่ป้ายรถบัสตรง Jozankei jinja mae ได้เลย โดยสามารถมาส่งได้ถึงฟาร์มเลย

ที่เมืองนี้ มีบ่อน้ำพุร้อนตามริมถนนมากมาย เดินไปเมื่อยก็หยุดแช่ สบายตัวก็เดินต่อ ดังนั้นมาที่นี่แล้วต้องพกผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดเท้าด้วย 


เดินเล่นไปมา มืดค่ำแล้วก็ยังมาแช่ได้เพราะที่นี่เปิด 7.00 น. - 21.00 น. ให้บริการฟรีด้วย ดีงามมากๆ กลางคืนนี่บรรยากาศด้านนอก  ปลอดภัย เดินง่าย 


เผลอแป๊บเดียวค่ำแล้ว ค่อยเข้าโรงแรมละกัน นี่รู้ไหมว่า ที่นี่มีศาลเจ้าที่มีห้องลึกลับด้วยนะ เรียกว่า Iwato kannondo เป็นจุดรับพลังบวกด้วยนะ


** อ่านต่อในคอมเมนท์นะคะ
#hokkaido #jozankei #sapporo #japan
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่