<เมื่อฉันอยากรีวิวนาฬิกา> เรือนที่ 3 Rolex red sea-dweller และ กำไรจากการใส่นาฬิกา rolex ที่ผ่านๆมา แบบคนไม่มีความรู้

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับ เพื่อนๆชาวพันทิบ วันนี้ผมจะมารีวิวนาฬิกาที่เพิ่งได้มาใหม่ ภรรยามอบให้ในโอกาสครบรอบเป็นแฟนกับภรรยาครบ 6 ปี  จะมาเล่าให้ฟังกับการใส่ rolex และ ซื้อขายเรือนที่ผ่านๆมา ในแบบคนไม่มีความรู้ด้านนาฬิกามากเท่าไรครับ
  วันนี้จะมาเล่าเรือนใหม่นี้ก่อนเลย  rolex red sea-dweller  บางรูปอาจขอใช้รูปจาก internet เพื่อเปรียบเทียบนะครับ

    สำหรับเรือนนี้ ต้องบอกที่มาเหตุผล ว่าทำไมถึงเลือกน้องเข้ามาเป็นเป็นเรือนหลักในการใช้งาน

1. ขนาดที่พอเหมาะกับข้อมือของ จขกท.
    อย่างที่ทุกคนทราบกันว่า นาฬิกาตระกูลดำน้ำที่นิยมที่สุดในโลก ของ rolex คือ submariner มีขนาด 40 มม. (รุ่นใหม่ 41 มม.) เหตุผลที่ราคาเค้าสูงกว่ารุ่นอื่นๆเวลาเอามารีเซล คือ เป็นขนาดที่ใส่ง่าย โดยเฉพาะในตลาดเอเชีย ใส่ข้อมือแล้วพอเหมาะสวยมาก  ทำให้ราคาไปไกลมาก เวลาบวกราคาจากป้าย บวกไปแรงมาก เดี๋ยวมีในหัวข้อต่อๆไปครับ
   ส่วนตัวนี้มีขนาด 43 mm  เหมาะกับคนตัวใหญ่ ข้อมือใหญ่ จะใส่สวยมากครับ
   
   อันนี้เทียบขนาดกัน ขออนุญาตใช้รูปจาก youtube นะครับ
อันนี้เทียบกัน red sea 43 mm  กับ submarine 40 mm

  แต่เดิม ผมเคยใส่ deepsea มีขนาด 44mm ซึ่งผมชอบมาก แต่แฟนไม่ชอบครับ T_T

เทียบขนาดกัน (รูปจาก youtube ตปท.)

     ซึ่งจากประสบกรณ์การใส่นะครับ
1. submarine สวย เบาสบาย แต่ผมว่าเล็กไปสำหรับผมนะ
2. deepsea ภรรยาไม่ชอบเลย มันใหญ่แกบอกไม่สวย  และที่สำคัญ หนาไป ซึ่งก็จริง ปัญหาไม่ใช่ขนาดหน้าปัด แต่เป็น ความหนาครับ
   
    พอถึงวันครบรอบ เรือนใหม่ที่คุณภรรยาจะให้ เลยพบกันครึ่งทาง จบที่ตัวนี้ครับ red sea-dweller

 ออก shop มาสดๆเดือนนี้เลยครับ ได้ของใหม่มือ 1  เรียกว่าเป็นมือ 1 เรือนแรกของผมเลย ดีใจมากครับ เหรียญเขียว ประกัน 5 ปียาวๆ
เรามาดูหน้าปัดกัน

วิจารณ์คร่าวๆนะครับ
 
     มันคือ submarine สำหรับคนตัวใหญ่ครับ เรียกว่าแทบจะถอดแบบกันมาเลย
     spec มาครบ หน้าปัด กระจก ขอบเซรามิก และที่สำคัญที่ทำให้ต่างจาก deepsea คือ เค้ามี cyclop ขยายวันที่เหมือน sub ซึ่ง deepsea ไม่มีครับ
 
 ใส่แล้วขึ้นข้อ มีความวิบวับจากตัวขอบเซรามิก  ส่วนตัวสายขัดด้านตามแบบนาฬิกาดำน้ำสายลุย
 ด้านข้างหนาเล็กน้อย ไม่หนามากเหมือน deepsea มี helium valve ใส่แล้วไม่หนักข้อเท่าไรแล้ว

ในรูป valve อย่ด้านข้าง ขนาดก็ไม่หนาแล้ว


เหตุผลสำคัญที่เลือกเรือนนี้ต่อคือ ปัจจัยราคา ในข้อถัดไปครับ

2. ราคา และการลงทุนก่อนหน้านี้

  เริ่มจาก ราคาป้ายก่อนเลยครับ ผมเทียบกับ submarine ทั้ง date และ no date นะครับ


สรุปคร่าวๆ ในกรณีรีเซลมือ1 ราคาปัจจุบัน ปลายปี 2022
                                ราคาป้าย               ราคารีเซล
sub nodate               317000               +/-  450000
sub date                   358100               500000-550000
red sea                     458800                +/- 500000

     อย่างที่ทุกคนทราบ ตั้งแต่ช่วงโควิดเป็นต้นมา rolex ซื้อจาก shop ยากมาก แม้แต่ datejust ที่สมัยก่อน wak in ซื้อได้ ก็ยังต้องจอง
ยิ่ง model sport นี่แทบเลิกหวังได้เลย การตลาดคล้ายๆ hermes ของผู้หญิงเลย

     เวลาซื้อรีเซล คำถามที่ต้องถามตัวเองก่อนเลยคือ คุ้มมั้ย กับเงินที่เราจ่ายส่วนต่างไป  อย่างตัว sub คุ้มมั้ยที่จะจ่ายเพิ่มเป็นแสนๆ เพื่อให้ได้มา  ถ้าคิดว่าคุ้มค่าก็จัดเลยครับ
     ส่วนของผม ดูจากขนาดข้อมือ ความคุ้มค่า everyday use แล้ว ลงตัวที่ red sea ถือว่าโชคดี ได้ความกรุณาจาก seller  ทำให้ได้มาในราคาแทบจะปกติ (เดิมยอดสะสมผมไม่ถึงนะ ไม่สามารถได้มาง่ายๆแน่นอน)

   เท่าที่ใส่มาก็พึงพอใจมากครับ  ส่วนตัวมีความทรงจำที่ค่อนข้างดีกับ rolex  ในแง่การใส่แล้วขายต่อครับ

1. สมัยก่อน มีคำแนะนำเลยว่า อยากใส่แล้วกำไร ให้ใส่ submarine GMT daytona
    แต่สมัยนั้นผมงบน้อย ใส่ yacht master ตามที่รีวิวไปก่อนหน้านี้ครับ  
    สรุป ใส่ไปสองปีครึ่ง ทุน 2 แสน ขายไป 3 แสน 
    เท่ากับใส่ฟรี สองปีครึ่ง แถมเงิน แสนนึง
    ยังคิดถึงอยู่นะ น้องสวยมาก ใส่คู่กับภรรยา

  ตรงนี้ได้ข้อคิดอีกอย่าง คือ lady size ราคาแค่ทรงตัว ใส่แล้วราคาไม่ค่อยขึ้นครับ พยายามขยับมา 40 mm ขึ้น จะขายต่อได้กำไรมากกว่า 

2. ถึงยุคปัจจุบัน แทบจะทุกโมเดล แค่เดินออกจากร้านก็ขายทำกำไรได้เลย แม้แต่ datejust ของภรรยา 31 mm ที่เพิ่งซื้อมา  แค่ ออกจากช้อป ก็กำไร 50k -90k ได้เลยครับ 
   ยิ่งหน้า choc ขายต่อราคาค่อนข้างดี แต่เป็นของขวัญครบรอบ คงไม่ได้ขายไปไหนครับ
    
     
  3. ผมไม่ใช่ collector แต่เป็น user ที่ซื้อมาใช้งาน ไม่เคยคิดเรื่องกำไรขาดทุนเลย
      แต่ได้ข้อคิดมาครับ ว่า ใส่เกิน 2 ปี ขายต่อ กำไรหมดเลยครับ แม้ว่าจะไม่ฮิตก็ตาม มีตั้งแต่กำไร 10% ไปจนถึง 50%
      ยกตัวอย่างตัวไม่ฮิตครับ
      deepsea 2014 ซื้อมา 280000 ขายไป 310000 กำไร 30000 ในช่วงเวลา 1 ปี 10%
      yacht รุ่นเก่าปี 2000 ซื้อมา 200000 ขายไป 300000 นิดๆ กำไรประมาณ 50% ในช่วง  2.5ปี 
      explorer 2  235000 ขายไป 260000 ในช่วง 1.5 ปี

   4. ปกติ เมื่อก่อน ผมชอบซื้อมือสองครับ เพราะ มีคนขาดทุนให้เราแล้ว แต่หลังๆเริ่มไม่ค่อยได้ผลกับ rolex 

   5. ที่เลือกซื้อช่วงนี้ เพราะ ราคาลงมาจากช่วงต้นปีเยอะมากๆ ก่อนหน้านี้แพงจนรู้สึกไม่คุ้มครับ  แต่อันนี้ได้ราคาปกติมา เลยตัดสินใจเอาเลย

      

  สุดท้าย ในมุมของคนไม่ค่อยรู้เรื่องการลงทุนนาฬิกานะครับ มองว่า ใส่ยาวๆ ยังไงก็กำไร ไม่เน้นซื้อมานอนเซฟ เพระาเราไม่มีทางรู้เลยว่า ด้วยความที่ราคามันเฟ้อในปัจจุบัน  ในระยะสั้นๆจะเป็นยังไงต่อ
       
     แต่ถ้าเราเป็น user ใส่แล้วจะรู้สึกเลยว่า 
     - ต่อให้ขาดทุนตัวเงิน ก็ยังกำไรใช้ เพราะเรารักที่จะใส่ เป็น passion
     - ใส่แล้วมั่นใจว่าราคาไม่ตกมากเพราะมีราคาป้ายรองรับเป็นฐานไว้อยู่ ซึ่งราคาขึ้นทุกปีประมาณ 5%
     - ใส่แล้ว เสริมบุคลิก อันนี้ตีเป็นราคาไม่ได้ แต่มีคุณค่าทางใจมาก
     - ที่ rolex นิยม แม้ว่าจะไม่ใช่นาฬิกา ultra luxury  เพราะว่า เค้าเดินตรง และ ทนมากครับ เท่าที่ถามช่างนาฬิกามา หลายๆท่าน ชมเชยเลย ว่านาฬิกาดีจริงๆ พังยากมาก
     - เวลาซื้อเรือนใหม่ ขายเรือนเก่าก่อน มูลค่าที่เพิ่มขึ้นก็แฝงมากับที่เราใส่เดิมนั่นเอง  
     - สำหรับผม rolex คือหุ้นพื้นฐานดี  เป็น growth stock ที่มีแต่ captial gain  ส่วน ปันผลคือความภูมิใจและคุณค่าทางจิตใจ
     - ถ้าชีวิตถึงจุดวิกฤตจริงๆ สามารถขายมาทำทุนเปิดร้านทำธุรกิจได้สบายเลยครับ ตอนโควิดระบาดใหม่ๆสายการบินหยุดบิน เห็นในข่าวมีพี่นักบินบอกว่า โชคดีที่มีนาฬิกา เป็นสินทรัพย์เดียวที่พอเอามาขายแล้วกำไรเยอะมาก หรือ ไม่ขาดทุน

ฝากติดตามเพจเล็กๆ รีวิวนาฬิกา  https://www.facebook.com/profile.php?id=100084980506628  หมีรีวินาฬิกากับหมา ไว้ด้วยนะครับ
ขอให้มีความสุขกับการใส่นาฬิกาครับ

กระทู้เดิม
glycine airman GMT เรือนแรกของโลก  https://ppantip.com/topic/41706638
Rolex yacht master 40 mm ขอบ platinum เก่าแต่สวยข้ามกาลเวลา  https://ppantip.com/topic/41706670
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่