คือเราเป็นคนคนนึงที่อยากมีเพื่อนค่ะ อยากคนคุยเล่นเวลาเหงาเวลาร้องไห้เวลาหมดไฟแต่ที่เกิดขึ้นเลยคือเราไม่กล้าทักใครเท่าไหร่เลยค่ะเรารู้สึกกลัวหรือกังวลตลอด ที่โรงเรียนเรามีเพื่อนในห้องแค่4คนส่วนกลุ่มอื่นๆเราแทบไม่สนิทเลยแทบไม่เคยคุยกันเลยก็ว่าได้ค่ะบางคนเรายังไม่รู้ชื่อเลย เราพยายามเข้าหาคนอื่นแล้วแต่สุดท้ายมันจบเหมือนเดิมแทบจะทุกคนคือเงียบและแยกย้ายกันไป เราอยากพูดอยากฟังเรื่องของคนอื่นแต่สุดท้ายเราก็ทำไม่ได้ เราไม่เคยได้ระบายหรือพูดอะไรกับใครตรงๆตามความรู้สึกเลยเรากลัวค่ะเรากลัวที่จะกลับไปอยู่จุดเดิมจุดที่เราไม่มีเพื่อนคบมีแต่คนมารังแกมาบูลลี่คอยล้อชื่อพ่อชื่อแม่ล้อจุดด้อยของเราคอยหัวเราะเยาะเรา เรากลัวที่จะกลับไม่จุดนั้นมากไม่มีใครมาปลอมหรือเข้าใจเราเลยพ่อแม่ก็บอกแค่ให้เราเงียบไว้เดี๋ยวเค้าก็หยุดสุดท้ายมันก็หนักขึ้นหนักขึ้นเราทำอะไรนิดหน่อยก็โดนด่าโดนล้อเรากลัวมาก เรามีเพื่อนได้จริงๆตอนป.6แต่สุดท้ายมันเหมือนวนลูบเดิมเพื่อนคนนึงที่สนิทกับเราพอสมควรเค้าเอาเรื่องที่ทวงเงินจากเค้า(เค้าไม่คืนมาจนจบเทอมแล้วค่ะ)ไปบอกแม่แล้วใส่สีเติมแต่งว่าเราผิดฝ่ายเดียวเราโดนแม่เค้าว่ายับจนแม่เค้าตกท้ายด้วยคำว่าถ้ามีอีกจะบอกพ่อแม่เรา เราอึ้งกับคำคำนั้นมากในหัวเราตอนนั้นคือ เอ้าก็ลูกไม่คืนเงินกุแถมเบี้ยวนัดที่จะคืนเงินมาหลายเดือนละ แต่เราก็ไม่ได้พูดได้แต่เงียบค่ะ แล้วเค้าก็มาพูดใส่เราค่ะว่าต่อให้เราพูดไปขนาดไหนพ่อแม่เค้าก็ไม่เชื่อหรอกเพราะคำพูดเราแทบไม่มีน้ำหนักอะไรเลยแล้วก็บอกว่าแม่เค้าข้างเค้าด้วยความภาคภูมิใจ คือเราในตอนนั้นช็อตฟิลหนักมากค่ะแต่เราก็เงียบเป็นคำตอบเราไม่อยากพูดอะไรมากกว่านั้นเราไม่เลยด้วยซ้ำว่าเราจะระบายเรื่องนี้กับใครเลย เพื่อนอีกคนก็โยนความผิดมาหาเรา อีกคนก็ไม่รู้ว่าจะคุยเรื่องอะไร
พอมาในตอนมัธยมช่วงๆแรกเหมือนจะดีแต่หลังๆมันเริ่มเกิดชนชั้นขึ้นมาค่ะ เราเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับวงในเลยเราไม่สนิทกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งนอกจากกลุ่มตัวเองกะกลุ่มญาติเรา รึไม่ก็ห้องEPค่ะ ชีวิตเราวนเวียนแค่นี้ในช่วงมัธยมแต่มันก็ยังเป็นเหมือนเดิมเราไม่กล้าพูดความรู้สึกจากใจจริงเรายังคงกลัวว่าเราไม่มีเพื่อนคบเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เริ่มเด่นเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆคือกลุ่มผู้ชายกลุ่มเค้าเริ่มละลานไปทั่วค่ะจากที่ตอนแรกแค่กับกลุ่มเพื่อนตัวมันเริ่มรามมาถึงเราและกลุ่มเพื่อนของญาติเราค่ะ มันพูดอะไรหลายอย่างที่ไม่เหมาะสมรึอยู่ก็ด่าเรารึพูดอะไรที่18+กะกลุ่มเราและอาจารย์ค่ะ คือเราโมโหกับอะไรบบนี้มากคือเราไม่รู้จักกันไม่เคยคุยกันแต่ดันมาทำอะไรแบบนี้คือมันเป็นอะไรที่เราไม่ชอบมากแต่ได้แค่อยู่นิ่งค่ะ
อันนี้เราอยากรู้เฉยๆนะคะ คือเราตั้งแต่เด็กเราไม่เคยได้ออกจากบ้านรึไปเที่ยวบ้านเพื่อนเลยค่ะ พ่อแม่เรามักจะหาเรื่องอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้เราออกจากบ้านเลยตั้งแต่เด็กจนตอนนี้เราเรียนพิเศษอย่างเดียวเลยค่ะเราแทบไม่เคยคุยกะใครที่เรียนพิเศษเรามีแค่ไม่กี่คนค่ะเราแค่เงียบไม่พูดเพราะเราไม่รู้ว่าจะเปิดประโยคคุยเรื่องอะไร (จนมาเรื่อยๆสภาพเราเหมือนคนติดเตียงเลยค่ะใช้ชีวิตยุบนเตียงยกเว้นตอนกินข้าวอาบน้ำ ดูยูทูปก็นอนดูขนาดตอนทำงานตอนเรียนออนไลน์ในช่วงโควิดเราถึงขั้นดึงโต๊ะมาติดกับเตียง นั่งบนเตียงแล้วเปิดโน๊ตบุ๊คเรียนออนไลน์เลยค่ะ)
อยากมีเพื่อนแต่ไม่กล้าทักรึคุยกะใครเลย
พอมาในตอนมัธยมช่วงๆแรกเหมือนจะดีแต่หลังๆมันเริ่มเกิดชนชั้นขึ้นมาค่ะ เราเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับวงในเลยเราไม่สนิทกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งนอกจากกลุ่มตัวเองกะกลุ่มญาติเรา รึไม่ก็ห้องEPค่ะ ชีวิตเราวนเวียนแค่นี้ในช่วงมัธยมแต่มันก็ยังเป็นเหมือนเดิมเราไม่กล้าพูดความรู้สึกจากใจจริงเรายังคงกลัวว่าเราไม่มีเพื่อนคบเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เริ่มเด่นเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆคือกลุ่มผู้ชายกลุ่มเค้าเริ่มละลานไปทั่วค่ะจากที่ตอนแรกแค่กับกลุ่มเพื่อนตัวมันเริ่มรามมาถึงเราและกลุ่มเพื่อนของญาติเราค่ะ มันพูดอะไรหลายอย่างที่ไม่เหมาะสมรึอยู่ก็ด่าเรารึพูดอะไรที่18+กะกลุ่มเราและอาจารย์ค่ะ คือเราโมโหกับอะไรบบนี้มากคือเราไม่รู้จักกันไม่เคยคุยกันแต่ดันมาทำอะไรแบบนี้คือมันเป็นอะไรที่เราไม่ชอบมากแต่ได้แค่อยู่นิ่งค่ะ
อันนี้เราอยากรู้เฉยๆนะคะ คือเราตั้งแต่เด็กเราไม่เคยได้ออกจากบ้านรึไปเที่ยวบ้านเพื่อนเลยค่ะ พ่อแม่เรามักจะหาเรื่องอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้เราออกจากบ้านเลยตั้งแต่เด็กจนตอนนี้เราเรียนพิเศษอย่างเดียวเลยค่ะเราแทบไม่เคยคุยกะใครที่เรียนพิเศษเรามีแค่ไม่กี่คนค่ะเราแค่เงียบไม่พูดเพราะเราไม่รู้ว่าจะเปิดประโยคคุยเรื่องอะไร (จนมาเรื่อยๆสภาพเราเหมือนคนติดเตียงเลยค่ะใช้ชีวิตยุบนเตียงยกเว้นตอนกินข้าวอาบน้ำ ดูยูทูปก็นอนดูขนาดตอนทำงานตอนเรียนออนไลน์ในช่วงโควิดเราถึงขั้นดึงโต๊ะมาติดกับเตียง นั่งบนเตียงแล้วเปิดโน๊ตบุ๊คเรียนออนไลน์เลยค่ะ)