1. การเติบโตของการพนันออนไลน์

ถ้าใครสังเกต ข่าวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จะมีกรณีการฉ้อโกงเกิดขึ้นจำนวนมาก
ที่เป็นลูกจ้างของหน่วยงานต่าง ๆ โกงเงินหลักแสนจนถึงหลายล้าน
ซึ่งผู้ต้องหาสารภาพว่านำไปเล่นการพนันออนไลน์
คือถ้าคนที่ติดการพนันออนไลน์ จะยอมเสี่ยงติดคุก เพื่อเอาเงินไปเล่นการพนันออนไลน์แล้วละก็
เค้าก็คงสามารถที่จะโกหกคุณ อ้างเรื่องเดือดร้อนต่าง ๆ นา ๆ เพื่อยืมเงินคุณได้เช่นกัน

อย่าคิดว่าใครไว้ใจได้
ใครๆ ก็สามารถติดการพนันได้ ถ้าสมองของเค้าถูกสร้างให้ติดการพนัน
หรือต่อให้เค้าไม่ติดการพนัน อาจจะโดนคนที่ติดการพนันมาหลอกยืมเงินอีกทีก็ได้

2. กฏหมายปกป้องลูกหนี้

ตามกฏหมายคือ
- เจ้าหนี้ไม่สามารถไปบอกคนอื่นได้นะ ว่าลูกหนี้ไปยืมเงินเค้ามา
- ต่อให้ลูกหนี้ไม่คืนเงินก็เอาไปบอกคนอื่นไม่ได้ ผิดกฎหมายหมิ่นประมาท มีโทษทางอาญา มีติดคุก
- แต่ลูกหนี้ไม่คืนเงิน ไม่มีโทษทางอาญานะ เป็นคดีทางแพ่ง ไม่มีติดคุก

หมายความว่า คนที่อยากจะโกงเงินคนอื่น สามารถไปไล่ยืมเงินคนอื่นมาหลายสิบคน
แล้วก็ไม่จ่ายเงินใครสักคนเลยก็ได้ แล้วไม่มีใครสามารถเตือนภัยกับคนอื่น ๆ ได้
เพราะจะมีความผิดทางกฎหมายฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

3. คดีแพ่ง ไม่มีทรัพย์สินให้ยืด ทำอะไรไม่ได้
หากไปฟ้องคดีแพ่ง ชนะ ได้คำพิพากษามา ต้องเข้าสู่ขั้นตอนสืบทรัพย์
ถ้าลูกหนี้ ไม่มีบ้าน, รถ, ที่ดิน ในชื่อตัวเอง ไม่มีเงินเดือน คือจะยึดอะไรไม่ได้เลย

ต่อให้ลูกหนี้มีเงินเดือนสูง ถ้าใช้ความที่เงินเดือนสูงสร้างความน่าเชื่อถือ
ไปไล่ยืมคนมาหลายล้าน เสร็จแล้วไม่คืนเงิน ปล่อยให้โดนฟ้องแพ่ง
ลูกหนี้สามารถออาจากงานที่ได้เงินเดือน มาทำงานรับเงินสด
หรือไปทำงานต่างประเทศเลย
ลูกหนี้ก็สามารถที่จะมีรายได้ ที่คนอื่นไม่สามารถยึดอะไรได้เลย

4. การที่คนอื่นโกหกเพื่อยืมเงินคุณ อาจจะไม่เข้าข่ายการฉ้อโกง อาจจะไม่เป็นดดีอาญา

คนอื่นอาจจะโกหกเพื่อยืมเงินคุณ ติดหนี้นอกระบบ มันขู่ฆ่า ขู่ทำร้าย
แม่ป่วย ต้องเอาเงินไปรักษาแม่
นี่เป็นการโกหกเพื่อยืมเงิน ซึ่งอาจจะไม่เข้าข่ายคดีอาญา
อาจจะเป็นแค่คดีแพ่ง ไปแจ้งตำรวจไม่ได้ 

มีกรณีไหนที่ควรให้ยืมเงินบ้าง ?

5. แม้จะมีของแพง ๆ ค้ำประกัน  เช่น มายืมเงินแบบมีของค้ำประกันเป็นกระเป๋าแบรนด์เนม กล้องถ่ายรูป ก็ไม่ควรให้ยืม

เค้าอาจจะมีของแพง ๆ มาค้ำประกัน
เช่น เป็นกระเป๋าแบรนด์เนมส์ กล้องถ่ายรูป
ก็ไม่ควรวางใจให้ยืม
เเค้าอาจจะไปเช่า ไปยืม ของพวกนั้นมา
แล้วเอามาค้ำประกันกับเราก็ได้
เราจะมีความผิดข้อหารับของโจร

6. ต่อให้ทำการหลอกยืมเงิน หลอกลงทุน
แล้วเข้าการฉ้อโกง มีโทษติดคุก ก็ไม่สามารถเอาผิดได้ง่าย ๆ
เมื่อคุณไปแจ้งตำรวจ ตำรวจจะออกหมายเรียกผู้ต้องหามาคุย
ระหว่างนั้นจะไม่มีคำสั่งห้ามออกนอกประเทศ
ผู้ต้องหาสามารถบินหนีออกนอกประเทศได้ง่าย ๆ
บางประเทศสามารถหนีไปได้ง่าย ๆ
เช่นประเทศจอร์เจียร์ มีฟรีวีซ่า 365 วัน
พออยู่ใกล้จะครับ 365 วัน แล้วบินไปประเทศตุรกี
เสร็จแล้วบินกลับบมาประเทศจอร์เจียร์ต่อ อยู่ได้อีก 365 วัน
ต่อให้พาสปอร์สหมดอายุแล้ว ก็ลักลอบอยู่เกินได้จนกว่าคดีจะหมดอายุความ
ซึ่งถ้าคนร้ายใช้ความน่าเชื่อถือ ไปหลอกยืมเงินมาได้หลายๆ คน ได้หลายสิบล้าน
ก็คุ้มค่าที่จะหนี อย่าคิดว่าตัวอย่างนี้เป็นเรื่องสมมุติ
มีเรื่องที่เกิดขึ้นจริงมาแล้ว

7. เทคนิคการโกงขั้นสูง หลอกลงทุน หลอกยืมเงินทำให้เป็นคดีแพ่ง
แล้วเอามาจ่ายคดีอาญา

พวกคดีฉ้อโกง มันเป็นคดีอาญาก็จริง
แต่เป็นความผิดต่อบุคคล สามารถยอมความได้ถ้าเอาเงินมาคืน
มันจะมีพวกทำแบบนี้คือ
หลอกคนอื่นยืมเงิน หลอกลงทุนไปทั่ว
แล้วการหลอกยืมเงืน หลอกลงทุน บางครั้นมันทำเป็นคดีแพ่งได้
บางอันมันเป็นอาญา
ถ้าทำให้เป็นคดีแพ่งได้ 5 ล้านบาท
แล้วเป็นคดีอาญาแค่ 1 ล้านบาท
ก็คืนส่วนของคดีอาญา 1 ล้านบาทไป พอคืนเงินส่วนนี้ไป เอาผิดไม่ได้แล้ว ถือว่าไม่มีความเสียหาย
แล้วคดีแพ่ง 5 ล้านบาท ก็ไม่ต้องสนใจ

8. Cryptocurrency
ระบบของ Cryptocurrency ทำให้การเก็บเงินที่ยืมแบบตั้งใจโกงมา แบบไม่มีใครยึดได้ ทำได้ง่าย ๆ
เช่นเปิดบัญชี Binance แล้วซื้อพวก Stable Coin ก็ได้ง่าย ๆ
การสืบทรัพย์คือทำไม่ได้แน่นอน Exchange พวกนี้อยู่ต่างประเทศ และไม่เปิดเผยข้อมูลลูกค้า

ให้คิดเสมอว่า
การให้ยืมเงิน = บริจาค
ถ้าให้ใครยืมเงิน ให้คิดว่าเงินก้อนนั้นจะหายไปหมดทั้งก้อน และไม่ได้คืน

แบบฝีกหัดท้ายกระทู้

1. เพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ขอยืมเงิน 20,000 บาท
บอกว่ามีเรื่องเดือดร้อน และจะคืนเงินพรุ่งนี้
เพื่อนคนนี้ประวัติดีมาตลอด ไม่เคยโกงใคร
แต่ถ้าพรุ่งนี้เพื่อนคนนี้ไม่คืนเงิน คุณจะลำบาก คุณควรให้ยืมเงินหรือไม่

คำตอบ : ไม่ควรให้ยืม เพื่อนสนิทของคุณ อาจจะติดพนันออนไลน์
และโกหกคุณเพื่อยืมเงินคุณไปแทงบอลในคู่ที่มั่นใจมาก ๆ แล้วจะได้เงินมาคืนคุณพรุ่งนี้
หรือเพื่อนคุณ​อาจจะโดนคนอื่นอ้างความเดือดร้อน หลอกยืมเงินมาอีกที

2. คุณมีคนคุย ที่คุยมาด้วย 3 เดือน เค้าเป็นสเปคที่คุณชอบทุกอย่าง
เค้าน่ารัก นิสัยดี เอาใจใส่คุณตลอด วันนึงเค้าโทรมาบอกคุณว่า ขอยืมเงิน
เพราะว่าแม่ต้องผ่าตัดด่วน ถ้าไม่ได้ผ่าตัด แม่จะแย่
ตอนนี้ขาดเงินค่าผ่าตัดอยู่ 150,000 บาท
ภาพลักษณ์ของคนคุยคนนี้คือ มีธุรกิจหลายอย่าง มีคนติดตามใน IG หลายหมื่น
แต่ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเงินบางอย่าง ทำให้ต้องยืมก่อน
อีก 1 อาทิตย์จะโอนคืนให้ได้ แต่ถ้าเค้าไม่โอนให้คุณจะลำบาก คุณควรให้ยืมเงินหรือไม่

คำตอบ : ไม่ควรให้ยืม คยคุยคุณคนนี้อาจจะเป็นมิจฉาชีพที่เป็นไฮโซกำมะลอ สร้างโปรไฟล์เพื่อหลอกยืมเงินคุณ

3. มีคนมาชวนคุณลงทุน บอกว่าเค้าทำธุรกิจรับจำนำกระเป๋าแบรนด์เนม
พร้อมทั้งให้ดู Screenshot ว่ามีลูกค้าเอากระเป๋าแบรนด์เนมมาจำนำกับเค้า
คิดดอกเบี้ยสูง แบบปล่อยกู้นอกระบบ
แต่ตอนนี้ขาดเงินทุนไปปล่อยให้ลูกค้า จะขอยืมเงินคุณไปปล่อยให้ลูกค้า
แล้วได้กำไรมาแบ่งกัน ยินดีเซ็นเอกสารทางธุรกิจ คุณควรที่จะลงทุนหรือไม่

คำตอบ : ไม่ควรให้ยืม ทั้งหมดอาจจะเป็นเรื่องโกหก
Screenshot อาจจะถูกตัดต่อมา ต่อให้เค้าให้กระเป๋าแบรนด์เนมไปค้ำประกันกับคุณ
กระเป๋าแบรนด์เนมอันนั้น อาจจะไม่ได้มาจากลูกค้า แต่เค้าไปเช่ามา เพื่อมาหลอกจำนำกับคุณ
และตัวคนที่ยืมเงินคือตัวเค้าเอง
 
4. คุณอยากเรียนร้องเพลง มี 2 ทางเลือกดังนี้

a) เรียนกับสถาบันที่เชื่อถือได้ มีสถานที่ชัดเจน ชั่วโมงละ 1,200 บาท จ่ายเป็นคอร์สล่วงหน้า 12 ครั้ง รวม 14,400 บาท
b) เรียกกับครูที่สอนตามบ้าน โปรไฟล์ดี เคยทำงานเป็นเบื้องพลังรายการร้องเพลงชื่อดังในตำแหน่งคนออกแบบการร้อง มีคลิปออกรายการร้องเพลงใน Youtube ยอดวิวหลักล้าน คิดค่าสอนชั่วโมงละ 840 บาท จ่ายเป็นคอร์สล่วงหน้า 26 ครั้ง รวม 21,840 บาท

คุณอย่างร้องเพลงเก่ง ๆ มีเงินมากพอที่จะเรียนทั้งสองตัวเลือกแบบไม่ลำบาก คุณควรเลือกตัวเลือกไหน

คำตอบ : เรียนกับสถาบันที่เชื่อถือได้ ถ้ามีปัญหาครูไม่มาสอน จะสามารถเรียกเงินคืนได้ง่ายกว่า ถ้าเรียนกับครูสอนตามบ้าน ถ้าเค้าไม่มาสอน อ้างความเดือดร้อนส่วนตัวต่าง ๆ การที่จะเรียกร้องเอาเงินคืน ทำได้ยากมาก และต่อให้ไปฟ้องศาลคดีแพ่งชนะ อาจจะไม่มีทรัพย์สินอะไรให้ยึดเลย

ส่งท้าย
แม้เวลาผ่านไป เทคโนโลยีของมนุษย์จะก้าวหน้าขึ้น
แต่ธรรมชาติจิตใจมนุษย์ก็ยังเป็นรูปแบบเดิม ๆ
จะมีคนจิตใจดี อยากช่วยเหลือคนเดือดร้อน ด้วยการให้ยืมเงินเสมอ
และก็จะมีคนยืมเงิน แบบตั้งใจมาโกง ไม่จ่ายคืนเสมอ
และก็จะมีคนเดือดร้อนจากรูปแบบนี้อยู่ร่ำไป