ผมเคยลงทุนในตราสารหนี้มือหนึ่งและมีโอกาสได้ขายไปในราคาที่สูงกว่าราคาหน้าตั๋วก่อนหมดอายุ ค่อนข้างนานมาแล้วนะครับ แต่จำได้ว่าเสียภาษี 15% โดยตลอดทั้งดอกเบี้ยและส่วนต่างที่เพิ่มขึ้น (capital gain) ตอนนี

มีธนาคารเสนอ ขาย กองทุน พันธบัตร ตราสารหนี้ ดอกเบี้ย 1.7 - 1.8% ระยะ 3 ,6 12 เดือน หรือ เข้าหุ้นกู้ ดอกเบี้ย3-5% ระยะ 5ปี ในหุ้นบริษัทใหญ่ๆ แบบไหนน่าลงทุนกว่ากันครับ

ปีก่อนเคยยื่นแบบภงด.ทางออนไลน์เพื่อขอเครดิตภาษีเงินปันผลหุ้นมาแล้ว ปีนี้มีดอกเบี้ยหุ้นกู้ด้วย จะขอภาษีคืน ต้องติ๊กหรือกรอกตรงไหนอีกบ้างครับ ขอบคุณครับ

ปีนี้ เรายื่นภาษี โดยยื่นข้อมูลดอกเบี้ยรับจากหุ้นกู้ และปันผลจากหุ้นในตลาด  ได้คืนเรียบร้อย ปีหน้า เราจะไม่ยื่นข้อมูล ดอกเบี้ยหุ้นกู้ และ ปันผลจากหุ้นในตลาด  ได้ไหม (พอดีฐานภาษีปรับขึ้นมาที

ผมมีหุ้นกู้ที่ซื้อแบบรับใบหุ้นกู้ ไม่ได้เอาเข้าพอร์ท ถ้าอยากขายตลาดรอง ต้องทำอย่างไรครับ

หุ้นกู้แสนสิริกับcpfตัวไหนน่าสนมาช่วยกันวิจารณ์กันหน่อยออก มค.นี้แล้ว

เวลายื่นขอคืนภาษี ต้องรวมดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารกับดอกเบี้ยจากหุ้นกู้และพันธบัตรรัฐบาลเป็นรายการเดียวกันไหน ถ้ายื่นอย่างใดอย่างหนึ่งได้ไหมครับ

มีรายได้จากการเทรดหุ้น และ หุ้นกู้ อยากจะขอคืนภาษีหุ้นปันผล และ ดอกเบี้ยหุ้นกู้ จะต้องทำไงบ้างครับ เริ่มต้นอย่างไร  มีใครให้คำแนะนำได้บ้างไหมครับ ทั้งยื่นแบบออนไลน์ และ ยี่นที่กรมสรรพากรเลย

“ปัจจุบันถ้าหากดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ที่เราได้รับ เกิน 20,000 บาท ธนาคารจะหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ 15% ของดอกเบี้ยที่ได้ทันที โดยสามารถยื่นเรื่องยินยอมให้ธนาคารส่งข้อมูลให้สรรพากร ซึ่งถ้าดอกเบี้ยไ

ถ้ามีรายได้9แสนต่อปีจากดอกเบี้ยเงินฝาก หุ้นกู้และปันผลและยอมให้หักภาษี 15% ,10% ไม่ขอคืน ไม่มีรายได้อื่น จำเป็นต้อง ยื่นภาษีหรือไม่ เรียนผู้รู้ช่วยตอบ หน่อย ขอบคุณครับ