อยู่ตัวคนเดียวเสียยังดีกว่า

สวัสดีค่ะ หนูเป็นแค่เด็กผู้หญิงที่ฐานะทางบ้านอยู่ต่ำกว่าปานกลางค่อนข้างไปทางจนด้วยซ้ำ พ่อเป็นเกษตรกร และมีปัญหาครอบครัวที่ไม่สามารถพูดกับใครได้ ตอนนี้หนูอยู่ม.3 และไม่คิดว่าตัวเองจะเก็บเรื่องบ้าๆนี่มาได้อยู่หลายปี ปัญหาครอบครัวเป็นปัญหาหนึ่งที่เกือบทุกบ้านมีอาจจะนานๆทีหรือทุกวัน แต่สำหรับหนูแล้วถ้าทะเลาะกันทีเดียวก็ทำให้หนูเก็บไปตลอดชีวิต ครอบครัวหนูไม่ใช่ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเลย หนูเคยคิดจะมาระบายในพันทิปอยู่หลายครั้งแต่พอเลิกร้องไห้ก็เก็บไว้คนเดียวอยู่ดี แต่สำหรับครั้งนี้หนูแทบจะทนไม่ไหวจนต้องมานั่งร้องไห้ระบายอยู่คนเดียวแบบนี้ หนูรู้สึกหัวจะระเบิดเหมือนมีใครกำลังบีบอยู่ที่ขมับ แต่หนูก็อยากให้ใครรับรู้เรื่องของหนูสักคนก็ยังดี หนูคิดว่าแม่หนูติดเหล้าหนัก แม่จะกินโดยใส่แก้วเก็บความเย็นสีขาวของแม่ที่พกติดตัวอยู่ตลอด แม่จะกินผสมกับน้ำเปล่า แม่จะชอบออกไปนอนเปลอยู่ข้างนอกโดยที่เวลาแม่กินแม่จะเดินเข้าไปในห้องแม่เพื่อไปเทเหล้าใส่แก้วและเดินถือแก้วออกมาเพื่อมาใส่น้ำเปล่าในตู้เย็น แต่หนูไม่รู้ว่าทำไมคนอื่นไม่สงสัยบ้างว่าทำไมแม่ทำแบบนี้ เพราะแม่หนูเป็นคนที่ขี้เกียจมากๆ ไม่ทำงานบ้านสักอย่าง ก็มีแต่หนูที่ทำคนเดียวเป็นส่วนใหญ่ ส่วนพ่อก็ออกไปทำงาน ช่วงปิดเทอมเป็นช่วงที่หนูรู้สึกทรมานที่สุด สำหรับคนอื่นช่วงปิดเทอมอาจจะเป็นช่วงสำหรับการพักผ่อน การเที่ยว หรืออ่านหนังสือ แต่สำหรับหนูแล้วหนูจะต้องมารับรู้การกระทำของแม่ทุกอย่างๆ เวลาได้ยินเสียงแก้วโลหะของแม่กระทบลงบนพื้นห้องแม่หนูรู้สึกแย่ทุกครั้งสำหรับสิ่งที่แม่กำลังทำ ในช่วงวันไปเรียนตื่นเช้ามาแม่ก็เป็นคนปกติดีคนหนึ่งแต่ถ้าบางวันแม่กินหนักมากเช้ามาแม่ก็จะตื่นสายและหนูก็จะไม่ปลุกแม่เพราะสภาพที่หนูเห็นแม่เป็นแบบนี้หนูก็รู้สึกโมโหอยู่ภายในใจอยู่ทุกครั้ง ส่วนในช่วงปิดเทอมหนูจะได้ยินเสียงเปิดประตูและเสียงน้ำที่กำลังรินใส่แก้วอยู่ทุก 2-3 ชม.ทุกวัน ประมาณถึงช่วงสี่ห้าทุ่ม หนูไม่รู้ว่าแม่ทำไปทำไม แม่เครียดหรือแม่ไม่สบายใจอะไรแม่ก็ไม่เคยบอก มีแต่จะโทรไปคุยกับป้าเท่านั้น บางทีป้ ก็จะโทรมาหาหนูบอกว่าดูแลแม่ดีๆด้วย แม่เครียด ทำไมแม่ถึงไม่มาคุยกับหนูไม่คุยกับพ่อบ้าง บ้านหนูอยู่กัย 3 คน พ่อ แม่ ลูก โดยที่พ่อเป็นเกษตรกรแล้วก็ทำงานรับจ้างทั่วไป ส่วนแม่หนูไม่ทำงานอะไรเลย นอนทั้งวัน งานบ้านก็ไม่ทำ ทำกับข้าวให้พ่อก็ไม่ทำ หนูรักพ่อมากกว่าแม่มากๆ แต่ทำไม.. ไม่รู้สิคะ หนูพิมพ์ความรู้สึกออกมาไม่ได้จริงๆค่ะ หนูเก็บเรื่องนี้มาตั้งแต่ประมาณม.1หรือตั้งแต่ช่วงประถมก็ไม่รู้ หนูรุ้สึกว่ามันนานมากๆและอาจจะส่งผลถึงการเรียนและอารมณ์ของหนูในปัจจุบัน หนุเป็นเด็กที่เรียนเก่งๆมาก การเรียนก็อยู๋ในท็อป 20 ของสายชั้นมาตลอด หนูได้เรียนห้องภาษาอังกฤษที่ค่าเทอมค่อนข้างจะสูงกว่าห้องอื่นมากๆ เพราะเป็นครูต่างชาติมาสอนพวกวิชาหลัก ดังนั้นพ่อจึงเป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นคนจ่ายค่าเทอมของหนู เทอมละหมื่นกว่าๆ เวลาครูให้ใบค่าเทอมมาหนูจะบอกจำนวนเงินกับพ่อแล้วพ่อก็จะเอาเงินให้แม่ไปจ่าย แต่แม่กลับไม่ไปจ่ายและเงินนั้นก็อยู่ที่แม่ทั้งหมดโดยที่หนูก็ไม่รู้ว่าแม่เอาไปใช้อะไร แต่ค่าเทอมหนูก็คงยังไม่ได้จ่ายเหมือนเดิม บางทีครูก็โทรมาทวง หนูก็เลยไปบอกกับแม่ว่าครูโทรมาทวงค่าเทอมแต่แม่ก็กลับไปพูดกลับคนอื่นด้วยความตลก ทั้งๆที่มันเป็นความรับผิดชอบของแม่ทั้งนั้น บางครั้งหนูก็ไม่ได้จ่ายค่าเทอมไปเลยทั้งสองเทอม พ่อโมโหแม่มากๆ แต่ก็ใช่ค่ะ มนุษย์เมียและมนุษย์แม่นั้นใครจะเถึยงเขาไม่ได้ พ่อเลยแอบเอาเงินมาให้หนูเกือบๆสามหมื่นที่เป็นค่าเทอมของทั้งปี ตอนนั้นเป็นช่วงที่บ้านยายก็มีปัญหาเหมือนกันยายก็เลยย้ายมาที่บ้านหนูและมานอนกับหนู คืนนั้นพ่อมาเคาะประตูและเอาเงินมาให้ หนูเลยโทรไปหาป้าเพื่อจะให้ป้าพาไปจ่ายค่าเทอม ลุงกับป้าและน้องที่เป็นลูกของลุงกับป้าเป็นสามคนที่หนูรักมากๆเหมือนกันครอบครัวหนู หนูไม่เคยจะชอบใครในครอบครัวหนูเลยสักคนทั้งย่าและยาย ย่าก็เข้าข้างแต่ลูกคนเล็กซึ่งเป็นอาของหนู และยายก็รักแต่หลานผู้ชาย และหนูก็เป็นผู้หญิง ยายจะพูดเสมอว่ารักหลานทุกคนเท่ากันและเลี้ยงกับมือมาทุกคน ซึ่งมันขัดกับความทรงจำหนูก่อนที่จะย้ายมาบ้านหลังปัจจุบัน (อยู่บ้านยายตั้งแต่เกิด-ป.4) ที่หนูโตมากับพ่อและแม่ และจะชอบหาอะไรเล่นอยู่คนเดียวมาตลอด ต่างกับน้องชายที่เป็นหลานของยายเหมือนกัน ยายรักน้องมาก แต่น้องค่อนข้างดื้อ ถึงเวลากินข้าวก็ไม่ออกมากินแต่ยายจะเอาไปประเคนให้ถึงห้อง กลับมาที่เรื่องค่าเทอมของหนูละกันค่ะ ต่อจากตอนที่พ่อยื่นเงินค่าเทอมมาให้หนูและตอนนั้นยายก็อยู่ด้วย ยายจึงเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้แม่ฟัง พอแม่รู้เรื่อง ไม่กี่วันต่อมาแม่ก็มาขอยืมเงินไป ซึ่งคำว่ายืมของแม่มันไม่เคยจะมีการคืนเลยสักครั้ง แม่เอาเงินค่าเทอมของเทอมสองหนูไป หนูเลยเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ป้าฟัง ป้าก็เลยเป็นคนออกค่าเทอมของเทอมสงให้หนู ซึ่งหนูก็ไม่เคยเอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อเลย ปัญหาในบ้านหนูส่วนใหญ่จะมาจากความคิดเห็นไม่ตรงกันและไม่ปรึกษากันเวลามีอะไร และอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นเรื่องใหญ่มากๆ คือ แม่หนูมีชู้... ใช่ค่ะ และทุกเรื่องที่หนูเล่ามานี้หนูเคยบอกแค่ป้าคนเดียว และหนูบอกป้าแค่เรื่องที่แม่หนูกินเหล้า และป้าบอกว่าแม่หนูน่าจะติดเหล้า จากปกติที่หนูแค่คิดว่าแม่แค่แอบกินเหล้าทำให้หนูรู้ว่าแม่ติดเหล้าหนักจริงๆ ส่วนเรื่องที่แม่มีชู้นั้นหนูไม่เคยจะพูดออกไปกับใครเลยจริงๆ หนูไม่รู้ว่ามันนานสักเท่าไหร่แล้ว หนูเครียดเรื่องพวกนี้มาหลายปีจนไม่รู้เวลาที่แน่ชัดเจน ชู้ของแม่หนูรู้ว่าเป็นคนที่โรงงานแห่งหนึ่งแวบ้านห่างกันจากตัวบ้านหนูประมาณ 5 โลกว่าๆ หนูรู้ว่าเขาเป็นลุงที่มีอายุค่อนข้างมากกว่าพ่อหนูมากๆ พ่อหนูอายุ สี่สิบต้นๆค่ะ ส่วนแม่หนูอายุสี่สิบพอดี เมื่อก่อนแม่หนูเคยทำงานอยู่ที่โรงงานนี้หลายปีอยู่เหมือนกัน เป็นคนเก่ง จนมีแต่คนเรียกตัวให้ไปบรรจุเป็นพนักงานประจำแต่แม่หนูเป็นคนที่ใช้ชีวิตไปเรื่อย ไม่จริงจังกับอะไรสักเท่าไหร่ แล้วแม่ก็ลาออกแบบงงๆ คือเดินออกมาจากที่ทำงานเลย แล้วก็ไม่ไปทำอีก มีคนมาตามที่บ้านก็ไม่ไป และเรื่องชู้ของแม่นั้น หนูขอเรียกว่าลุงนะคะ ลุงเขาเหมือนจะมีครอบครัวอยู่แล้วเหมือนกัน และมีลูกสาวอายุมากกว่าหนูนิดนึง และเหมือนจะเรียนอยู่รร.เดียวกับหนู หนูรู้เรื่องทั้งหมดผ่านการที่แม่โทรคุยกับลุงเขาอยู่บ่อยๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่าพ่อไม่สงสัยหรอ พ่อหนูต้องออกไปทำงานตั้งแต่เช้า ประมาณตีห้าและกลับเย็นๆไม่ก็ดึกเลย ชีวิตเกษตรกรล่ะนะคะ ไม่มีเวลาที่แน่นอนหรอกค่ะ จึงทำให้พ่อไม่ได้รับรู้เรื่องนี้เลย แม่คุยกับลุงเขาผ่านทางไลน์ และหนูก็พอจะเห็นหน้าตาลุงเขาบางในบางทีที่แม่กับลุงเขาคุยกัน อีกสิ่งที่ทำให้หนูรู้ว่าลุงเขามีครอบครัวแล้วคือ ตอนม.1 ช่วงเลิกเรียนวันนั้นแม่โทรมาบอกว่าจะมารับ ตอนนั้นยังเป็นช่วงที่แม่ทำงานอยู่ที่โรงงานอยู่ เป็ฯช่วงที่เงินเดือนออก และบัตรเครดิตแม่ใช้ไม่ได้เลยต้องมาถอนเงินที่ธนาคารในห้างทุกๆเดือน หลังถอนเงินเสร็จก็เดินเล่นกับแม่อยู่ในห้างและมีเสียงโทรศัพท์เข้ามา หนูรู้ได้ทันทีว่าเป็นลุงคนนั้นแน่นอน รู้ได้จากน้ำเสียงที่พูดออกมาจะเพราะกว่าปกติและพูดค่อยๆ แต่ปกติแลล้วแม่จะคุยโทรศัพท์เสียงดังไปทั้งบ้านเหมือนอยากจะให้ได้ยินไปทั้งซอย เนื้อความที่เขาคุยกันหนูก็จำได้ไม่มาก แต่จำได้ประโยคนึงเลยล่ะ ประมาณว่า "แล้วเมียพี่ล่ะ" หนูต้องรับรู้เรื่องแบบนี้อยู่ตลอด หนูจะชอบหนีมาอยู่ในห้องคนเดียว แต่ก็ยังรู้สึกทรมานเหมือนเดิม เพราะผนังบ้านบางมากๆ เสียงทุกอย่างจึงเข้าถึงกัน ขนาดเสียงรินน้ำหนูยังได้ยินเลยค่ะ และอีกเรื่องนึงเลยที่หนูรับไม่ได้เลย คือ แม่กับลุงเขามีความสัมพันธ์กัน บางคนอาจจะคิดว่าหนูคิดไปเองหรือเปล่า แต่เรื่องนี้หนูมั่นใจมาก นานๆที จะมีวันที่แม่หายไป้ลยทั้งวัน ในช่วงเช้าแม่จะอาบน้ำตัวหอม สระผม หนีบผม แต่งหน้าจนเรียบร้อย และในช่วงบ่ายแม่จะหายไปทั้งวัน แปลกๆไหมล่ะคะ ทั้งๆที่ปกติแม่จะนอนขี้เกียจอยู่ที่บ้านทั้งวันจู่ๆจะหายไปไหนได้ตั้งครึ่งวัน บางครั้งหนูก็จะถามแม่ว่า ไปไหนมา แม่ก็จะบอกว่า ไปตลาดมา ตลาดคืออยู่หน้าซอยเลยค่ะ ประมาณ 2 กิโลได้ เอาจริงหรอคะที่แม่หนูจะไปซื้อของที่ตลาดได้ 5-6 ชม. โดยที่ไม่มีอะไรติดตัวมาสักอย่าง ผักก็ไม่มี หมูก็ไม่มี เครื่องปรุงอะไรก็ไม่มี กลับบ้านมาแม่ก็จะอ้วก เรื่องที่แม่อ้วกนั้นเป็นสิ่งที่หนูเห็นได้บ่อยเลยค่ะ เวลาแม่กินหนักมากๆ แม่ก็จะไปอ้วกออก หนูเจอแบบนี้อยู่ทุกวัน และอีกสิ่งคือหนูเจอที่ตรวจครรภ์ในห้องน้ำค่ะ และยาคุมฉุกเฉินอีกสองกล่องที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าทีวี!!!! หนูแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองว่าแม่หนูเป็นถึงขนาดนี้ได้ยังไง ทำไมถึงตกใจน่ะหรอคะ เพราะพ่อกับแม่หนูไม่ได้นอนด้วยกันค่ะ บ้านหนูเป็นบ้านแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ แบบเล็กๆ เดินเข้าบ้านมาจะเป็นโถงทางเดินใหญ่และมีทีวีอยู่ดานขวาและเตียงนอนของแม่ ถัดมาก็จะเป็นห้องนอนหนู และห้องสุดท้ายเป็นห้องของแม่ เหตุผลที่พ่อแม่นอนกับแม่เพราะพ่อบอกว่าแม่สกปรก พ่อหนูเป็นคนนึงที่รกสะอาดแบบขั้นสุดของที่สุด ไปทำงานลุยดินลุยน้ำไม่เคยจะบ่นว่าสกปรกเลยสักครั้งก็จะมีบอกแต่ว่า เหนียวตัว คันตัวแค่นั้น เป็นพอพื้นบ้านมีฝุ่นกลับพูดว่า สกปรก!! อย่างกับขี้โคลน อยู่กันไปได้ยังไง บริเวณที่พ่อนอนก็จะเป็นบริเวณที่สะอาดที่สุดในบ้านเลยค่ะ ด้วยสาเหตุนี้จึงทำให้ แม่หนูได้อยู่ในห้องอย่างสะดวกสบาย ในขณะที่หนูพิมพ์อยู่ตอนนี้หนูยังได้ยินเสียงแก้วแม่อยู่เลยค่ะ ถ้าเป็นหนูเมื่อก่อนก็คงจะไม่เป็นไร เมื่อก่อนเวลาหนูเครียดหนูก็แค่คิดง่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป แต่เดี๋ยวนี้มันเริ่มจะเป็นความเก็บกด หนูรู้สึกสงสารพ่อตัวเองที่ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ หนูรู้ว่าพ่อรักหนูมากๆ พ่อทำทุกอย่างก็เพื่อหนู ทำงานหาเงินก็เพื่อส่งหนูเรียนแต่หนูเสียใจกับสิ่งที่แม่ทำลงไปมากๆ หนูเคยคิดอยากจะฆ่าตัวตาย คิดสั้นมากๆแบบเราจะตายด้วยวิธีไหนดี แต่บางทีก็กลับมาคิดว่า ถ้าเราตายไปแล้วพ่อจะมีความสุขหรือเปล่า พ่อจะอยู่ยังไง พ่อกับแม่จะเลิกกันไหม ทำให้หนูคิดดีขึ้นมาได้บ้างว่าหนูต้องอยู่เพื่อพ่อ และต้องขยันเรียนขยันทำงานเพื่อมาเลี้ยงพ่อ พ่อหนุเป็ฯคนขี้เกรงใจและไม่ชอบขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง พ่อเป็นคนที่ชอบลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเองและสอนหนูในหลายๆเรื่อง ว่าเป็นเด็กผู้หญิงต้องเรียบร้อย ต้องรักสะอาด และลูกสาวพ่อต้องทำได้ทุกอย่าง พ่อเป็นคนที่คอยให้กำลังใจหนูในเรื่องเรียน คอยถามหนูว่าเรียนเป็นยังไง เคยมีเพื่อนแกล้งบ้างไหม และคอยชมหนูอยู่บ่อยๆ จึงทำให้หนูรักพ่อมาก ต่างจากแม่ที่ไม่เคยพูดหรือถามอะไรแบบนี้เลยสักครั้ง ใครพูดอะไรมาเขาก็จะขึ้นเสียงใส่ ใครจะเถียงเขาไม่ได้ โดยเฉพาะพ่อ เวลาพ่อกับแม่ทะเลาะกันหนูก็มักจะได้ยินเสียงแม่เถียงอยู่ตลอดแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแม่ผิดไปซะทุกครั้ง หรือเวลาที่เขาทะเลาะกันแล้วหนูนั่งอยู่ด้วยพ่อก็จะหันมายิ้มให้หนูแล้วบอกว่า เข้าห้องไปลูกไป บางครั้งพ่อก็ทนไม่ไหวเหมือนกันก็จะตะคอกกลับไปครั้งนึงแล้วก็เปิดทีวีเมินใส่ไปเลย แต่ถ้แม่ทำให้พ่อโมโหแล้วแม่ไม่ได้อยู่บ้าน หนูบอกเลยว่า บ้านพัง พ่อจะตะโกนคำด่าออกมาดังสุดๆ บางครั้งพ่อก็ทำไม้กวาดอลูมิเนียมด้ามพลาสติกแตกละเอียดเลย พอแม่กลับมาบ้านพ่อก็จะบอกว่า เอาไปตีจิ้งจก บางคนหรือก็รู้สึกเกลียดแม่ตัวเองเวลาแม่กินเหล้าหนักมากๆ หรืออาจจะมีบางช่วงที่ร้องไห้อยู่ทุกคืน หนูเคยอยากจะไปหาจิตแพทย์เพราะหนูกลัวตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าหรือเด็กมีปัญหามากๆ และหนูคิดอยู่หลายครั้งมากๆ ว่าอยากให้พ่อแม่อย่ากัน ให้หนูอยู่กลับพ่อสองคนดีกว่าอยู่กกับคนแบบแม่เสียอีก ตั้งแต่เด็กมาหนูตำได้ว่าตอนอนุบาบก่อนที่หนุจะไปโรงเรียนพ่อกับแม่ทะเลาะกันหนักมากและบอกว่าจะเลิกกัน แต่ยายห้ามไว้ว่าขอให้อยู่ด้วยกันเพื่อลูกเถอะ แล้วตอนนี้พ่อกับแม่หนูได้รักกันจริงหรือเปล่า??? หนูได้เล่าเรื่องราวไปบางส่วนแล้วมันคงจะทำให้หนูสบายใจได้ขึ้นกว่าเดิมนิดนึง ขอบคุณตัวเองที่ยังอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ และเรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่เด็กอายุ 14 คนนี้ต้องเจอมาในชีวิต ไม่รู้ว่าการที่หนูโตมาแบบนี้มันจะทำให้หนูโตเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเด็กในวัยเดียวกันเสียอีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่