ด้วยความที่จขกท.อยู่บนรถคนเดียวด้วยแหละ คุณป้ากระเป๋ารถเมล์เลยมาคุยด้วย จขกท. เลยทราบมาว่าสามารถจ่ายค่าโดยสารด้วยการสแกนQR Code พร้อมเพย์ได้แล้ว (สามารถชำระด้วยบัตรเดบิตก็ได้เช่นกัน) แถมคุณป้ากระเป๋ารถเมล์เนี่ยก็จะได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1,000 -2,000 บาทด้วยจากยอดของคนที่จ่ายค่าโดยสารผ่านทางพร้อมเพย์ จขกท. เองก็คิดว่าดีมากที่มีระบบนี้ เพราะตั้งแต่โควิดมาก็ไม่ค่อยใช้เงินสดเท่าไร แถมเวลาจะเดินทางไปไหนก็ต้องคอยเตรียมเงินสด เตรียมแบงค์ย่อยให้เสียเวลาอีก อ้อจะบอกว่ารถเมล์นี้เป็นของบริษัทเอกชน ไม่สามารถจ่ายค่าโดยสารด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้นะ ใครที่ปกติใช้บัตรนี้จ่ายค่าโดยสารรถเมล์ก็ต้องเตรียมเงินสดไว้ด้วยนะ
                มาพูดถึงบรรยากาศภายในรถกันบ้างนะ ภายในรถออกแบบคล้ายๆรถปรับอากาศ NGV สีฟ้าของขสมก.เลย แต่บางมุมอย่างเช่นเบาะข้างหลังคนขับจะหันหลังให้กับคนขับและมี 2 ที่นั่ง แต่ต้องบอกเลยว่าด้วยความที่เป็นรถพลังงานไฟฟ้าภายในรถจะเงียบและไม่เหม็นกลิ่นน้ำมันเหมือนรถเมล์อื่นๆที่เราเคยนั่งเลย คนขับก็ขับรถดี ไม่ซิ่งไม่แซง ไม่หงายหลังกันแน่นอน และที่สำคัญการบริการก็ค่อนข้างดี กระเป๋ารถเมล์พูดจาสุภาพมากๆ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นการปฏิรูปรถเมล์ไทยที่ดีมากๆ ทั้งในด้านรถที่ให้บริการเป็นรถใหม่ และเป็นรถพลังงานไฟฟ้าที่เป็นพลังงานสะอาด ลดการก่อมลพิษ อีกทั้งการบริการของคนขับที่ขับรถสุภาพขึ้นกว่าเมื่อก่อน และกระเป๋ารถเมล์ที่ให้บริการอย่างสุภาพ แต่ก็ต้องลองดูกันต่อไปว่ารถเมล์ไทยจะพัฒนาต่อไปในรูปแบบไหน