รีวิว เครื่องอบผ้า Beko DU10133GA0W 10 KG ระบบควบแน่น ซื้อในห้างที่มีร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า
.
ใช้งานมาแล้ว 1 -2 ครั้ง ศึกษาเครื่องอบผ้ามาพักใหญ่ ตั้งแต่ช่วงที่ฝนตกบ่อยๆ จนช่วงนี้ฝนหายไปแล้ว แต่ก็ยังอยากได้อยู่ พบว่ามีความจริง ที่แปลกมากๆ คือ เครื่องอบผ้าในตลาดตอนนี้มี 3 ประเภท คือ
.
1. ระบบต่อท่อลมร้อน (vented)
2. ระบบควบแน่น (condencer)
3. ระบบ Heat Pump
จากการศึกษา ตามงบประมาณที่เรามี น่าจะซื้อได้แค่ 2 แบบแรก และความแตกต่างมันมีประมาณนี้
.
ระบบต่อท่อลมร้อน (vented)
- ค่าไฟแพงที่สุด ตกชั่วโมงละ 12 บาท
- แต่ดูแลง่าย.. แค่คอยทำความสะอาดฟีลเตอร์ทุกครั้ง
ติดตั้งยากนิดหน่อย คือต้องเจาะท่อลมร้อนออกไปข้างนอกบ้าน
ในกรณีที่ติดตั้งในตัวบ้าน
- แห้งไว เพราะร้อนมาก (ซึ่งมันก็คือข้อดีป่าวนะ)
ระบบควบแน่น (condencer)
- ค่าไฟถูกลงกว่าอันบนหน่อย(หรอออ)
- ดูแลยากกว่า มีประมาณ 3 อย่างที่ต้องดูแลตลอดแต่เราต่อท่อเอาน้ำไปลงในพื้นห้องน้ำแล้ว เลยเหลือแค่ 2 อย่าง คือ ทำความสะอาดฟิลเตอร์ทุกครั้ง กับอีกอย่างคือเอาตัวคอนเดนท์ออกมาฉีดน้ำทำความสะอาดทุกๆ 30 ครั้งของการอบ
- ติดตั้งง่าย แต่สุดท้ายต้องเจาะรูระบายน้ำออกอยู่ดี ถ้าไม่เจาะรูก็จะต้องคอยเอาน้ำออกทุกครั้ง เสียเวลาเปล่าๆ เลยให้เขาเจาะไปเลย
- แห้งช้ามาก 3 ชั่วโมง ผ้า 10 โล ถึงจะแห้งหมด แถมมีบางตัวที่หนาๆ มีขอบๆชื้นๆบ้าง
.
ระบบ Heat pump
- ค่าไฟถูกกว่า 2 แบบข้างบน เท่าตัว (เท่าที่ดูตามเว็บนะ)
- ดูแลยากเหมือนตัวบน
- ติดตั้งง่าย เหมือนตัวบน
- แห้งปานกลาง ไม่ช้าเท่าตัวบน แต่ก็ไม่เร็วเท่าตัวแรก
- ราคาสูง ประมาณ 35,000 ขึ้นไป
.
เราเลือกซื้อแบบที่ 2 ก็คือระบบควบแน่น จากการใช้งานมา 2 ครั้งภายในวันเดียว แห้งช้ามากๆ ลองมาแล้ว 2 โหมด ด้วยความที่บ้านเราผ้าเยอะ เครื่องซักเราก็ 14 kg แล้ว แต่ครั้งแรกที่ลองอบ เราก็ลองซักน้อยกว่าเดิมนะ น่าจะประมาณ 10 โลพอดีนี่แหละ แล้วเราคุยกับเซลมา เราบอกเขาว่ากลัวผ้าไม่แห้ง เขาบอกให้ใช้โหมด Extra ผ้าฝ้ายพิเศษ แห้งแน่นอน อะเราก็ลองดู สรุปใช้เวลาทั้งหมด 3 ชั่วโมงกับอีกประมาณ 10 นาที คือโอเคมันแห้งจริงๆ แต่ไม่นานไปหน่อยหรอ บางวันถ้าแดดมันแรงมากๆ เอาไปตาก แค่ 2-3 ชั่วโมง มันก็แห้งแล้วนะ อีกรอบนึงเราเลยลองผ้าน้อยๆ เลย น่าจะไม่เกิน 4 โล แล้วเลือกโหมดที่มันใช้เวลาน้อยลงหน่อย คือโหมดผ้าผสม ใช้เวลา 1.23 ชั่วโมง สรุปแห้งไม่หมดเฉยเลย ทั้งที่ผ้าน้อยด้วยนะ ถ้าผ้าน้อยขนาดนี้ต้องลงทุนใช้โหมดเดิมคือ 3 ชั่วโมงเลยนะ นานไปไหม เอาไปตากไม่เกิน 15 นาที แล้วรอ 3 ชั่วโมง แดดแรงๆก็แห้งเหมือนกันนะเอาจริง เลยค่อนข้างงงกับระบบว่าทำไมแพงกว่า แต่ดันแห้งช้า คือจริงๆตอนแรกรู้เงื่อนไขนี้แล้วนะ แต่ด้วยความไม่อยากเจาะห้องอะ ละกลัวห้องร้อนถ้าไม่เจาะ สรุปร้อนเหมือนกันจ้า อีกอย่างคือระบบลมร้อนมันมีสูงสุดแค่ 8 kg (ของที่มีในร้าน) ถ้าจะเอา 10 โลคือมีรุ่นนี้รุ่นเดียว เลยจำใจเอามา เพราะเห็นแก่ข้อดีของมันตรงไม่ต้องเจาะนี่แหละ สรุปเจาะจ้า เจาะผนังห้องน้ำ เอาท่อระบายน้ำออกอยู่ดี แล้วระหว่าง 3 ชั่วโมงที่อบ เปิดประตูห้องเข้าไป ห้องจะร้อนมาก แบบร้อนจริงจัง อยู่ไม่ได้เลย อบอ้าวเลยแหละ แถมมีกลิ่นความร้อนออกมาหน่อยๆ คือโดยรวมมันแห้งดีนะ รู้สึกดีที่มันแห้ง แต่ 3 ชั่วโมงอ้ะ มันเซ็งตรงนี้ นิถ้าเอาแบบท่อลมร้อนมา จะเป็นไงนะ เพราะเคยอบตู้หยอดเหรียญ 50 นาที แห้งเฉียบเลย ผ้าแทบไหม้เลยนะ อันนี้คือ 3 ชั่วโมง แล้วเท่าที่อ่านในรีวิวคือ ค่าไฟ ชั่วโมงละ 12 บาท ล่อไป 36 บาทแล้วนะ เดือนนึงจะเท่าไหร่หนิ เซ็งนิดหน่อย แต่ก็ตื่นเต้นกับมัน
.
ตอนไปคุยกับเซล ด้วยความที่เขาอยากขายอะเนอะ เขาก็พูดสรรพคุณมาดีทุกอย่างเลย ตอนแรกเราถามว่า อย่างงิแบบควบแน่น ค่าไฟถูกกว่าไหม เขาบอกถูกกว่า พออ่านคู่มือจริงๆ มัน 2600 วัตต์ พอๆกับระบบท่อลมร้อนเลยจ้า ถูกกว่าไรก้อนนน แถมมีการถามว่า เครื่องซักผ้าคุณลูกค้าเป็นแบบไหนครับ ฝาบน หรือฝาหน้า เราตอบไปเราใช้ฝ้าบน เขาก็บอกว่า พอได้ครับ แต่มันอาจจะแห้งไม่หมด เดี๋ยวเครื่องมันจะคำนวณให้เองครับ ถ้าจะให้ดีต้องใช้เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า มันจะมีรอบปั่น 1400 รอบครับ แบบนั้นแห้งไว แห้งแน่นอน ถ้าเป็นฝาบนมันจะ 700 รอบ ก็จะปั่นไม่แห้งเท่า(ขายเก่ง) แล้วเราถามอีกว่า อย่างนี้มันจะแห้งช้ากว่าแบบลมร้อนไหม เขาก็ตอบว่า ไม่ต้องกังวลเลยครับ มันช้ากว่ากันแค่ 10 นาทีเท่านั้น เราก็ถามต่อว่ามันต้องถึงขนาด 2-3 ชั่วโมงเลยไหม เขาก็ตอบว่า 40-50 นาทีก็แห้งแล้ว เราก็เชื่อนะ เชื่อไปได้ไงหว่า ขนาดศึกษามาแล้ว แต่มันไม่มีทางเลือกอะ จะสั่งจากแอพส้มก็ติดตั้งเองไม่เป็น เลยต้องไปซื้อตามห้าง ผลเลยเป็นแบบนี้
.
หรือใครมีคำแนะนำไหมครับ ว่าควรใช้โหมดอะไร จริงๆคือคิดว่าซัก 1.30 ชม, กะลังดีนะ แต่ 3 ชั่วโมงต้องรอนานไปหน่อย หรือเพราะใส่ผ้าไปเต็มแม็กของเครื่องมันเลยก็ไม่น่านะ ทางเซลเขาบอกเองว่า ใส่ได้เลย แค่เหลือช่องว่างข้างบนให้มือสอดเข้าไปได้แบบไม่แน่น ก็โอเคแล้ว... แต่ตอนผ้าน้อยๆ 1.23 ชั่วโมงก็ยังแห้งไม่หมด งงเลย
.
หรือจริงๆแล้ว แน่นอนสุดคือระบบลมร้อน 55555
รีวิว เครื่องอบผ้า Beko DU10133GA0W ระบบควบแน่น
.
ใช้งานมาแล้ว 1 -2 ครั้ง ศึกษาเครื่องอบผ้ามาพักใหญ่ ตั้งแต่ช่วงที่ฝนตกบ่อยๆ จนช่วงนี้ฝนหายไปแล้ว แต่ก็ยังอยากได้อยู่ พบว่ามีความจริง ที่แปลกมากๆ คือ เครื่องอบผ้าในตลาดตอนนี้มี 3 ประเภท คือ
.
1. ระบบต่อท่อลมร้อน (vented)
2. ระบบควบแน่น (condencer)
3. ระบบ Heat Pump
จากการศึกษา ตามงบประมาณที่เรามี น่าจะซื้อได้แค่ 2 แบบแรก และความแตกต่างมันมีประมาณนี้
.
ระบบต่อท่อลมร้อน (vented)
- ค่าไฟแพงที่สุด ตกชั่วโมงละ 12 บาท
- แต่ดูแลง่าย.. แค่คอยทำความสะอาดฟีลเตอร์ทุกครั้ง
ติดตั้งยากนิดหน่อย คือต้องเจาะท่อลมร้อนออกไปข้างนอกบ้าน
ในกรณีที่ติดตั้งในตัวบ้าน
- แห้งไว เพราะร้อนมาก (ซึ่งมันก็คือข้อดีป่าวนะ)
ระบบควบแน่น (condencer)
- ค่าไฟถูกลงกว่าอันบนหน่อย(หรอออ)
- ดูแลยากกว่า มีประมาณ 3 อย่างที่ต้องดูแลตลอดแต่เราต่อท่อเอาน้ำไปลงในพื้นห้องน้ำแล้ว เลยเหลือแค่ 2 อย่าง คือ ทำความสะอาดฟิลเตอร์ทุกครั้ง กับอีกอย่างคือเอาตัวคอนเดนท์ออกมาฉีดน้ำทำความสะอาดทุกๆ 30 ครั้งของการอบ
- ติดตั้งง่าย แต่สุดท้ายต้องเจาะรูระบายน้ำออกอยู่ดี ถ้าไม่เจาะรูก็จะต้องคอยเอาน้ำออกทุกครั้ง เสียเวลาเปล่าๆ เลยให้เขาเจาะไปเลย
- แห้งช้ามาก 3 ชั่วโมง ผ้า 10 โล ถึงจะแห้งหมด แถมมีบางตัวที่หนาๆ มีขอบๆชื้นๆบ้าง
.
ระบบ Heat pump
- ค่าไฟถูกกว่า 2 แบบข้างบน เท่าตัว (เท่าที่ดูตามเว็บนะ)
- ดูแลยากเหมือนตัวบน
- ติดตั้งง่าย เหมือนตัวบน
- แห้งปานกลาง ไม่ช้าเท่าตัวบน แต่ก็ไม่เร็วเท่าตัวแรก
- ราคาสูง ประมาณ 35,000 ขึ้นไป
.
เราเลือกซื้อแบบที่ 2 ก็คือระบบควบแน่น จากการใช้งานมา 2 ครั้งภายในวันเดียว แห้งช้ามากๆ ลองมาแล้ว 2 โหมด ด้วยความที่บ้านเราผ้าเยอะ เครื่องซักเราก็ 14 kg แล้ว แต่ครั้งแรกที่ลองอบ เราก็ลองซักน้อยกว่าเดิมนะ น่าจะประมาณ 10 โลพอดีนี่แหละ แล้วเราคุยกับเซลมา เราบอกเขาว่ากลัวผ้าไม่แห้ง เขาบอกให้ใช้โหมด Extra ผ้าฝ้ายพิเศษ แห้งแน่นอน อะเราก็ลองดู สรุปใช้เวลาทั้งหมด 3 ชั่วโมงกับอีกประมาณ 10 นาที คือโอเคมันแห้งจริงๆ แต่ไม่นานไปหน่อยหรอ บางวันถ้าแดดมันแรงมากๆ เอาไปตาก แค่ 2-3 ชั่วโมง มันก็แห้งแล้วนะ อีกรอบนึงเราเลยลองผ้าน้อยๆ เลย น่าจะไม่เกิน 4 โล แล้วเลือกโหมดที่มันใช้เวลาน้อยลงหน่อย คือโหมดผ้าผสม ใช้เวลา 1.23 ชั่วโมง สรุปแห้งไม่หมดเฉยเลย ทั้งที่ผ้าน้อยด้วยนะ ถ้าผ้าน้อยขนาดนี้ต้องลงทุนใช้โหมดเดิมคือ 3 ชั่วโมงเลยนะ นานไปไหม เอาไปตากไม่เกิน 15 นาที แล้วรอ 3 ชั่วโมง แดดแรงๆก็แห้งเหมือนกันนะเอาจริง เลยค่อนข้างงงกับระบบว่าทำไมแพงกว่า แต่ดันแห้งช้า คือจริงๆตอนแรกรู้เงื่อนไขนี้แล้วนะ แต่ด้วยความไม่อยากเจาะห้องอะ ละกลัวห้องร้อนถ้าไม่เจาะ สรุปร้อนเหมือนกันจ้า อีกอย่างคือระบบลมร้อนมันมีสูงสุดแค่ 8 kg (ของที่มีในร้าน) ถ้าจะเอา 10 โลคือมีรุ่นนี้รุ่นเดียว เลยจำใจเอามา เพราะเห็นแก่ข้อดีของมันตรงไม่ต้องเจาะนี่แหละ สรุปเจาะจ้า เจาะผนังห้องน้ำ เอาท่อระบายน้ำออกอยู่ดี แล้วระหว่าง 3 ชั่วโมงที่อบ เปิดประตูห้องเข้าไป ห้องจะร้อนมาก แบบร้อนจริงจัง อยู่ไม่ได้เลย อบอ้าวเลยแหละ แถมมีกลิ่นความร้อนออกมาหน่อยๆ คือโดยรวมมันแห้งดีนะ รู้สึกดีที่มันแห้ง แต่ 3 ชั่วโมงอ้ะ มันเซ็งตรงนี้ นิถ้าเอาแบบท่อลมร้อนมา จะเป็นไงนะ เพราะเคยอบตู้หยอดเหรียญ 50 นาที แห้งเฉียบเลย ผ้าแทบไหม้เลยนะ อันนี้คือ 3 ชั่วโมง แล้วเท่าที่อ่านในรีวิวคือ ค่าไฟ ชั่วโมงละ 12 บาท ล่อไป 36 บาทแล้วนะ เดือนนึงจะเท่าไหร่หนิ เซ็งนิดหน่อย แต่ก็ตื่นเต้นกับมัน
.
ตอนไปคุยกับเซล ด้วยความที่เขาอยากขายอะเนอะ เขาก็พูดสรรพคุณมาดีทุกอย่างเลย ตอนแรกเราถามว่า อย่างงิแบบควบแน่น ค่าไฟถูกกว่าไหม เขาบอกถูกกว่า พออ่านคู่มือจริงๆ มัน 2600 วัตต์ พอๆกับระบบท่อลมร้อนเลยจ้า ถูกกว่าไรก้อนนน แถมมีการถามว่า เครื่องซักผ้าคุณลูกค้าเป็นแบบไหนครับ ฝาบน หรือฝาหน้า เราตอบไปเราใช้ฝ้าบน เขาก็บอกว่า พอได้ครับ แต่มันอาจจะแห้งไม่หมด เดี๋ยวเครื่องมันจะคำนวณให้เองครับ ถ้าจะให้ดีต้องใช้เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า มันจะมีรอบปั่น 1400 รอบครับ แบบนั้นแห้งไว แห้งแน่นอน ถ้าเป็นฝาบนมันจะ 700 รอบ ก็จะปั่นไม่แห้งเท่า(ขายเก่ง) แล้วเราถามอีกว่า อย่างนี้มันจะแห้งช้ากว่าแบบลมร้อนไหม เขาก็ตอบว่า ไม่ต้องกังวลเลยครับ มันช้ากว่ากันแค่ 10 นาทีเท่านั้น เราก็ถามต่อว่ามันต้องถึงขนาด 2-3 ชั่วโมงเลยไหม เขาก็ตอบว่า 40-50 นาทีก็แห้งแล้ว เราก็เชื่อนะ เชื่อไปได้ไงหว่า ขนาดศึกษามาแล้ว แต่มันไม่มีทางเลือกอะ จะสั่งจากแอพส้มก็ติดตั้งเองไม่เป็น เลยต้องไปซื้อตามห้าง ผลเลยเป็นแบบนี้
.
หรือใครมีคำแนะนำไหมครับ ว่าควรใช้โหมดอะไร จริงๆคือคิดว่าซัก 1.30 ชม, กะลังดีนะ แต่ 3 ชั่วโมงต้องรอนานไปหน่อย หรือเพราะใส่ผ้าไปเต็มแม็กของเครื่องมันเลยก็ไม่น่านะ ทางเซลเขาบอกเองว่า ใส่ได้เลย แค่เหลือช่องว่างข้างบนให้มือสอดเข้าไปได้แบบไม่แน่น ก็โอเคแล้ว... แต่ตอนผ้าน้อยๆ 1.23 ชั่วโมงก็ยังแห้งไม่หมด งงเลย
.
หรือจริงๆแล้ว แน่นอนสุดคือระบบลมร้อน 55555