โลกทุนนิยม เหตุใดวิชาหาเงินที่ติด Top ของโลกอย่างวิชาเทรดสายเทคนิก ถึงไม่มีเรียนตั้งแต่สมัยชั้นประถม (รีรัน ครั้งที่ 2)

โลกทุนนิยม
คุณเคยสงสัยไหม
เหตุใดวิชาหาเงินที่ติด Top ของโลก
อย่างวิชาเทรด หุ้น : สายเทคนิก 
ถึงไม่มีเรียนตั้งแต่สมัยเรียน ชั้นประถม-มัธยม เลย
(รีรัน ครั้งที่ 2)

เหตุผลมันก็ง่ายๆ เพราะ

1.คนรวยระดับเจ้ามือในตลาดหุ้นไทย (ควรจะเกิน หมื่นล้านบาทขึ้นไป ถึงสามารถคุมราคาหุ้นไทยส่วนใหญ่ในตลาดได้ดี)
เขาไม่อยากให้รายย่อยรู้วิธีเอาตัวรอดจากการเชือดเม่าในแต่ละครั้งของพวกเขา
วิชาสายเทคนิกกราฟ เดิมทีเปรียบเสมือน โล่ ที่ไว้ใช้ป้องกันเอาชีวิตรอดตายจาก การปั่นราคาของเจ้ามือได้
และเป็นเสมือน ดาบ ที่ไว้ใช้ทิมแทงรายย่อยด้วยกันเองที่ไม่มีความรู้และประสบการณ์ใช้งาน วิชาเทคนิก พวกนี้มากพอ

แต่แค่รายย่อย มีวิชาที่เป็นดั่ง โล่ ไว้ป้องกันการปั่นราคา ทุบราคา ของเจ้ามือหุ้นไทย แค่นี้
ก็ทำให้พวกเจ้ามือ  เชือดเม่า ได้ยากขึ้นแล้ว 
ถึงแม้ว่า ต่อให้รายย่อยส่วนใหญ่ในตลาดเรียนรู้ ศึกษา และรู้จัก วิชาเทคนิกต่างๆเป็นอย่างดี
ไม่ว่า จะเป็น  อินดิเคเตอร์ที่จำเป็นต่างๆ / ทฤษฏี Dow / Price Pattern ธรรมดาทั่วๆไป / Elliott Wave(EW) + FIbo / Harmonic Parttern
/  Demand-Supply Zone หรือ SMC / Price Action วิชาแท่งเทียน
แต่แน่นอนถ้ารายย่อยใช้เทคนิกที่คนส่วนใหญ่มักมองใกล้เคียงกันหมด
เจ้ามือก็สามารถเทรดส่วนทาง  แหกเทคนิก นั้นได้อยู่ดี  เพราะเขาก็สามารถใช้อำนาจเงินของเขาศึกษาวิชาเทคนิกพวกนี้
จนเก่งและรู้ดีกว่ารายย่อยพวกนี้ได้อยู่ดี

แต่แน่นอน จะมีเจ้ามือคนไหน  อยากจะต้องมาเหนื่อยเชือดเม่าด้วยการปล่อยให้รายย่อยส่วนใหญ่
รู้วิชาเทคนิกพวกนี้ดีพอตั้งแต่สมัยเรียนชั้น ประถม-มัธยม แล้วตัวเองค่อยมานั่งแทงส่วนละ

สู้ปล่อยให้รายย่อยโง่ๆแทบไม่มีรู้ วิชาเทคนิก แผนการเทรด อะไรเลย
แล้วเชือดไปเรื่อยๆทั้งแบบนี้มันไม่ง่ายกว่าหรอ
เป็นคุณเป็นเจ้ามือ จะอยากเชือดเม่าง่ายๆ หรือ ยากกว่าเดิมละ
คุณน่าจะคิดออกนะ  จริงไหมละ

นั้นจึงทำให้ในสมัยเด็กๆตั้งแต่คุณเริ่มเข้าชั้นประถม ป.1 ยันถึงจบ มัธยม ม.6 หรือ "วัยเรียน"
ที่ควรจะได้เรียนวิชาที่หาเงินได้ติด Top ของโลกอย่าง วิชาเทคนิก 
คุณจึงไม่ได้เรียนเลย
ทั้งๆที่  "วัยเรียน"
เด็กยังอายุยังน้อย และมีครอบครัวที่บ้าน Suppost เรื่อง เงิน อยู่ จนหมดหายห่วงที่จะต้องมานั่งคิดเรื่อง หาเงิน ในวัยนี้ได้มากพอสมควร
และมีเวลาว่างมากพอที่จะมาศึกษา  วิชาเทคนิก  เพื่อเรียนรู้ ฝึกฝน จนเทรดทำกำไรในตลาดหุ้นได้เก่ง 
และจะช่วยให้คุณเทรดเก่งในตลาด Forex และคริปโต ในยุคนี้ด้วย

แต่กลับกันเมื่อ "วัยเรียน" ที่ทั้งสภาแวดล้อม  ภาระเรื่องเงิน+เวลา  เหมาะแก่การศึกษา วิชาเทคนิก แต่กลับไม่มีโอกาสได้ศึกษา
สิ่งที่เกิดขึ้น คือ

คนส่วนใหญ่ (ซึ่งมักจะเป็นรายย่อย) จะได้มีโอกาสและรู้ตัวว่า เราควรศึกษาวิชาเทคนิก พวกนี้ เพื่อหากำไรจากตลาด หุ้น / คริปโต / Forex
ก็ตอนที่คุณได้เข้าทำงาน  ได้รู้จักโลกแห่งการทำงาน 
ที่มีคนรวยส่วนใหญ่ได้เป็นนายจ้างคุณ  และคุณ คนส่วนใหญ่ซึ่งมักจะเป็นรายย่อย ต้องไปเป็นลูกจ้างของเขา
และได้รับรู้ความโหดร้ายของโลกทุนนิยม  โลกที่ แทบทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตคุณ ที่คุณต้องการจะได้มาด้วย เงิน เท่านั้น
และ "เงิน สำคัญกว่า ชีวิตคน" ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เพราะมัน คือ อำนาจที่สามารถทำให้คุณ สมหวัง ในเกือบทุกเรื่องในชีวิตคุณ  ตามแต่ที่คุณต้องการ  หากใช้ เงิน เป็น
และรวมทั้งมีอิสระภาพในชีวิตที่จะไม่ต้องเป็น ลูกจ้าง ให้ใคร
หรือ แม้แต่ไม่ทำงานอีกเลยตลอดทั้งชีวิตและไปใช้ชีวิตตามฝันของคุณ
ล่ามไปจนถึงมีอำนาจทางการเมือง และ คอนเน็ตชั่นมากมาย

แต่เมื่อคุณพึงมารู้ ความโหดร้ายของโลกทุนนิยม และ ความสำคัญของการหาเงินในวิธีที่ช่วยให้รวยได้เร็วมากติด Top ของโลก
คือ วิชาสายเทคนิก
(หากคุณศึกษา ฝึกฝน จนใช้งานในเก่งมากพอ) 
มันก็แทบจะสายไปแล้วสำหรับคนส่วนใหญ่ ที่มักจะเป็น รายย่อยส่วนใหญ่
(เน้นนะว่า รายย่อยส่วนใหญ่ พวกคนที่รวยอยู่แล้วจากครอบครัว Suppost จะมีทางเลือกในชีวิตที่มากกว่า)

เนื่องจากหากคุณ (รายย่อยส่วนใหญ่) มาศึกษา วิชาเทคนิก เอาตอน "วัยทำงาน" หลังเรียนจบเข้าทำงานไปซักพักแล้ว
คุณจะพบว่า  เวลาในชีวิตแต่ละวัน  แต่ละสัปดาห์ แต่ละเดือน ของคุณแทบไม่เหลือเลยสำหรับการศึกษาวิชาเหล่า
เพราะโดยส่วนใหญ่  คนส่วนใหญ่ ที่เรียนจบมาโดย
1.1 ไม่เคยแตะวิชาพวกนี้มาก่อน 
1.2 ไม่ได้มีพรสวรรค์โดดเด่นมากๆในการหาเงินด้านอื่นนอกจากการเทรด
ไม่ว่า พรสวรรค์นั้นจะมีจากความสามารถ ด้านวิชาการ หรือ ด้านอื่นก็ตาม
มักจะเป็นแค่ รายย่อย ที่มีเงินเก็บไม่ได้เยอะเว่อ
และด้วยระบบการศึกษาไทย มักจะผลิตคนส่วนใหญ่ให้เป็นลูกจ้างเขายุแล้ว โดยเฉพาะรายย่อยทั้งหลายตามเงื่อนไขที่บอกไป

เมื่อนั้นคุณ(คนส่วนใหญ่ที่เป็น รายย่อย) จะพบว่าชีวิตของคุณที่เป็นลูกจ้างได้ เท่านั้น
เพราะไม่มีเงินทุนมากพอจะไปทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จไม่เป็นเม่าได้ง่ายๆ
ในแต่ละวัน  คุณต้องทำงานอย่างหนักมาก
แน่นอนหากคุณคิดจะมาศึกษาและฝึกฝน วิชาเทคนิก เอาตอนนี้
ในเวลางาน  หัวหน้างาน+นายทุน ไม่มีทางยอมให้คุณศึกษาและฝึกฝนโดยดูกราฟ หุ้น / คริปโต / Forex ได้แน่ๆ
มีแต่ต้องแอบดูเท่านั้น  หากเขาจับได้  เขาก็จะขู่สารพัด เช่น ลดเงินเดือน / เพิ่มงานให้หนักขึ้น  / พักงานไม่ให้ค่าจ้าง / ไล่ออก ..... 
เพื่อบีบบังคับให้คุณสนใจที่จะตั้งใจทำงานให้เขาตามที่เขาต้องการอยู่ดี

เมื่อคุณพยายามจะทำตัวเป็นลูกจ้างที่ดีด้วยการที่ในเวลางาน ฉันก็ตั้งใจทำงานให้เต็มที่สิ 
จะได้ไม่มี หัวหน้า หรือ นายทุน  คนไหนจับผิดเล่นงานคุณได้  ร่วมทั้งเพื่อนรวมงานคุณด้วย
และคุณอาจได้เป็นลูกจ้างดีเด่นในสายตาพวกเขาและเพื่อร่วมงานที่จะไม่มีทางดูถูกคุณเรื่องงานได้อีก
(คนส่วนใหญ่มักกลัวเพื่อนร่วมงาน+หัวหน้า+นายทุน ดูถูกเรื่อง การทำงาน ของคุณ เลยต้องพูดแบบนี้)

คุณจึงจำเป็นต้องไปศึกษา วิชาเทคนิก พวกนี้ นอกเวลาทำงาน
คือ หลังเลิกงาน  คุณก็จะพบว่า  คนส่วนใหญ่เหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งวันเกินไปที่จะทนศึกษาเรื่องพวกนี้จนเก่งได้ง่ายๆอีกแล้ว
หรือ วันเสาร์-อาทิตย์-วันหยุดราชการ หรือ วันหยุดที่ทำงานคุณยอมให้คุณหยุด
คุณอาจศึกษาได้เต็มที่บ้างในช่วงวันแบบนี้ แต่มันจะมีศักกี่วันเชียวใน ปีๆหนึ่งที่ผ่านมา
คิดเป็น จำนวน ชม. ที่คุณว่างมาศึกษาเรื่องพวกนี้ยุได้นานซักแค่ไหน  เพียงพอให้คุณเก่งในการใช้งานวิชาพวกนี้ไหม
นี้ยังไม่รวมเรื่องที่ วันหยุด คุณยอมอยากไปทำกิจกรรมพักผ่อน ร่างกายและจิตใจ กับเพื่อนคุณ หรือ ตัวคนเดียว ด้วยนะ

พูดง่ายๆ หากคุณจำเป็นต้องศึกษา วิชาเทคนิก พวกนี้ และฝึกฝนจนเทรดทำกำไร เก่ง
คุณต้องทำตัวเสมือนอยู่ "วัยเรียน" และต่อสู้กับสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมแก่การศึกษา-ฝึกฝน วิชาพวกนี้ใน "วัยทำงาน"
ซึ่งเป็นอะไรที่ฝืนธรรมชาติ สภาพแวดล้อมของ "วัยทำงาน"
จึงมีน้อยคนที่เป็นรายย่อย  จะศึกษา-ฝึกฝน วิชาเทคนิก พวกนี้ เทรดเก่ง พอร์ตโตจนประสบความสำเร็จง่ายๆ
(อ่านดีๆนะ บอกว่า รายย่อย ควรมีเงินต้นต่ำกว่าเท่าไหร่นึกเอาเอง  แต่ไม่ใช่พวก  เสี่ยป๋อง / ฮง สถาพร / เสี่ยยักษ์ ... แน่ๆ
เพราะงั้นไม่ต้องยกมา นอกจากจะเสียเวลาแล้ว  คนพวกนี้ไม่ใช่รายย่อยจริงๆซักคนด้วยซ้ำหากคุณไปศึกษาประวัติการเติมพอร์ตเขาดู)

แล้วคุณว่า น้อยคน ที่ว่านั้น หนึ่งในนั้นจะเป็นคุณด้วยไหมละ
นี้ละ คือ เรื่องน่าเศร้าของระบบการศึกษาไทยที่ถูกควบคุมโดยเจ้ามือหุ้นไทย ไม่ยอมให้มีวิชาเทคนิก พวกนี้ ซึ่งมีเอี่ยวหนึ่งในนั้นแน่นอน
และ ตัวคุณ(รายย่อย) ที่รู้ตัวช้าไปไม่ยอมศึกษาตั้งแต่ "วัยเรียน"

และมันเป็นไปตามกฏของโลกทุนนิยมที่โหดร้ายที่ว่า
คนส่วนน้อยที่รวยมากๆ จะพยายามทำทุกทางเพื่อให้ คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะรายย่อย ลืมต้าอ้าปากรวยขึ้นมาไม่ได้ง่ายๆ
ไม่งั้นจะไม่มีใครทำงานให้พวกเขา
ระบบการศึกษาไทยถึงต้องไม่มี วิชาเทคนิก พวกนี้ด้วย
เป็นหนึ่งในหลายเหตุผลที่จะไม่ยอมให้มี
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ทำไมต้องมี

ทำไมต้องเล่น ไม่เกี่ยว

บางประเทศก็ไม่ได้เล่นทุกคน

อาจจะไม่ถึง50%ของประชากรด้วยซ้ำ

สิงค์โปร์ ก็ไม้ได้เล่นทุกคนแถมส่วนใหญ่ในประเทศ

ก็ไม่ได้เล่น ถ้าเขาว่ามันดีทุกคนในโลกก็เล่นกันหมดแล้ว

อเมริการยุโรป เขาคงเล่นกันหมด

เพราะอะไรเขาถึงไม่เล่นมันมีความเสี่ยงไง

ต่อให้เรีบนมาศึกษามา ก็ใช่ว่าจะไม่หมดตัว

คนที่เรียนเศรษฐศาสตร์ก็ไม่ได้เล่นหุ้นทุกคน
คนที่เล่นบัญชัก็ไม่ได้เล่นทุกคน

มันมีความเสี่ยงที่หมดตัว มากกว่าได้

เหมือนคริปโตนะเหรอตอนนี้เป็นไงเงียบเป็นเป่าสาวก

ด่ารัฐบาลอย่างโน้นนี้โบราณไดโนเสาร์ คนรุ่นใหม่หมดตัวกัน

แล้วใครรับผิดชอบ
ความคิดเห็นที่ 4
ตอนเด็กๆเคยคิดว่าสายเทคนิคน่าสนใจ
จนได้ไปเรียนท่ามกลางคนวงการเงินระดับชั้นนำ ก็ยังไม่มีสอน
จบมาทำงานกับนักลงทุนระดับเซียน ถึงพบว่าทุกคนเป็น VI หมดเลย

ถึงเข้าใจว่า สายเทคนิคที่รายย่อยในไทยเล่นกัน มันมีความเป็นศิลป์มากกว่าศาสตร์

จะให้เป็นศาสตร์จริงๆ
สายเทคนิคจริงๆคือเค้าทำงานเป็น Quantitative Researcher
นั่งเขียนโมเดลทางสถิติ มี backtest มีอะไรจริงจัง จนขนาดนั้นก็ยังแทบไม่ชนะตลาด

แต่ของรายย่อยไทยคือฟังเฟสบุ๊ค ฟังยูทูป ตอนสอนก็ยกเคสที่มันเวิค ไม่ได้ backtest ย้อนหลัง
ไม่ได้ทำเทสทางสถิติ ใครจบสถิติมาจะรู้ว่าหา pattern ใน noise มันเจอเรื่อยๆล่ะ

ถ้าวิชาที่ตลาดสอนๆกันมันเวิคตลอดจริง --> Hedge Fund ก็เอาไปทำระบบ automate --> ชิงซื้อขายก่อน
ราคาก็ปรับสู้ระดับที่เหมาะสม ตลาดมัน near-efficient ไม่มีทางที่รายย่อยอย่างคุณจะกำไร consistently
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่