การเป็น"คทากร"นั้นมันเป็นอย่างไรและเราจะได้อะไรจากมันบ้าง
วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์การเป็น"คทากร"ของผมครับ ว่าการเป็นคทากรนั้นมันดีอย่างไร และ ท่านจะได้อะไรจากการเป็น"คทากร"บ้าง
หลายๆคนนะครับ ก็คงอาจจะคิดว่าการเป็น"คทากร"นั้นมันคงมีแต่ Beauty Privilegesเลือกคนหล่อๆสวยๆตัวสูงๆมาเดินควงไม้คทาอยู่หน้าขบวน แต่จริงๆแล้วมันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะครับ และ ถ้าหากผู้อ่านได้เป็น"คทากร"นะครับท่านก็จะได้ประโยชน์อะไรดีๆจากมันมากเช่นเดียวกันครับ
จากประสบการณ์ที่ผมได้เป็น"คทากร"นะครับ ผมอยากจะบอกว่ามันก็ไม่ได้มีแต่BP(ในกระทู้นี้ผมขอใช้คำว่าBPแทนคำว่าBeauty Privilegesนะครับ)ไม่ได้มีBPและก็ไม่ได้คัดเลือกแบบBPครับ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วครับ แต่ก็ต้องยอมรับว่าบางคณะบางมหาวิทยาลัยก็ยังคงมีBPอยู่บ้าง แต่ก็คงน้อยแล้วครับซึ่งในประสบการณ์ตอนที่รุ่นของผมโดนคัดเลือกนะครับก็ต้องบอกว่าไม่ใช่BPเลยครับ เพราะการคัดเลือกของคณะผมนั้นจะใช้วิธีจับสุ่มคำถามตอบครับ ซึ่งจะเป็นการดูทัศนคติต่างๆครับ โดยทัศนคติที่ดูนะครับก็คือหมายถึงเค้าจะดูว่าเราจะไหวกับการซ้อมไหม สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้รึป่าวเพราะว่าต้องทำงานกันเป็นธีมครับ และอีกอย่างที่พี่เค้าดูนะครับ ก็คือความมั่นใจและก็ความตั้งใจครับ เห็นไหมละครับว่าไม่มีBPเลยเพราะฉะนั้นทุกคนที่อยากเป็น"คทากร"นะครับไม่ต้องกลัวเลยครับอยากเป็นก็แค่ไปสมัครเลยครับ แค่มีความมั่นใจ มีสติ และก็มีความตั้งใจ ก็พอครับ
ต่อมานะครับ ในเรื่องของท่าต่างๆที่เห็นว่าพวกที่เป็น"คทากร"เนี่ยเค้าทำท่าสวยควงสวยทำท่ายากกันได้เนี่ย มันไม่ใช่ฝึกแค่วันสองวัน ซ้อมแค่อาทิตย์สองอาทิตย์แล้วจะทำได้นะครับ การที่จะทำได้อย่างนั้นเนี่ยมันต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงใจอย่างมากครับ พวกเค้าเหล่านี้นะครับจะต้องฝึกซ้อมกันอย่างหนักนานหลายเดือน ไม่ใช่แค่ฝึกควงฝึกโยนอย่างเดียวแต่ต้อง ฝึกร่างกายให้เเข็งแรงอีกด้วย ซึ่งสิ่งที่ยากเลยเนี่ย ก็คือ การควงไม้คทาให้พร้อมกันทุกคนมองแล้วเหมือนเป็นไม้เดียวกันหมด ตรงสิ่งนี้แหละครับที่ยากเพราะการเป็น"คทากร"นั้นเราจะต้องทำงานหลายคนร่วมกันเป็นธีมไม่ว่าจะกี่คนก็ตามเราจะต้องควงไม้ให้เท่ากันซึ่งตรงนี้แหละครับที่ยาก เหตุนี้พวกเราจึงจะต้องซ้อมกันอย่างหนักเป็นเวลาหลายเดือนและ ต้องเสียสละเวลาของตัวเองที่จะได้ไปเล่นกับเพื่อนๆไปเที่ยวกับเพื่อนๆเพื่อมาซ้อมตรงนี้ เพราะเราเลือกที่จะก้าวเข้ามาเป็น"คทากร"ในส่วนนี้เราก็จะต้อง รับผิดชอบหน้าที่ในส่วนนี้ของเรา
เพราะอย่างนี้ทุกท่านที่อยากเป็น"คทากร" ก็จะได้ประโยชน์ไปมากมายเช่น "ความรับผิดชอบในตัวเอง"ครับ ประโยชน์ต่อมานะครับ ก็คือ "การมีระเบียบวินัย" เพราะท่านจะต้องแบ่งทั้งเวลาซ้อม และก็เวลาเรียน เวลาในการทำงานทำการบ้านครับ ท่านก็จะได้ประโยชน์จากส่วนนี้ไป และประโยชน์อีกอย่างที่ได้รับก็คือ "สุขภาพร่างกาย"ครับเพราะท่านจะต้องฝึกซ้อมอย่างหนักเลยครับ
ต่อไปผมจะพูดถึงประโยชน์ในส่วนต่างๆที่ยังไม่ได้พูดถึงที่ท่านจะได้รับจากการเป็น"คทากร"นี้นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- "เรื่องของบุคลิกภาพครับ" ท่านจะได้ฝึกยืนให้หลังตรงๆ ฝึกโพสท่าฝึกพูดฝึกยิ้มครับ เพราะขณะที่ทำการโชว์นั้นท่านจะต้องยิ้มอยู่ตลอดเวลาที่โชว์ครับ ต่อมานะครับก็คือ ท่านจะได้ฝึกการแต่งหน้าทำผมครับ เพราะเวลาที่จะโชว์หรือถ่ายรูปนั้นท่านก็จะต้องมีบางทีที่ต้องทำเองบ้างหากไม่มีพี่ๆมาช่วยทำ เพราะฉะนั้นทุกคนก็ต้องฝึกแต่งหน้าทำผมเองด้วยครับ ด้วยเหตุนี้ท่านก็จะได้ประโยชน์ในส่วนของ"บุคลิกภาพ"ไปครับ
-"ความอดทน" ท่านจะได้ฝึกในเรื่องของการมีความอดทนทั้งทางใจและก็ทางกายอย่างมากด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็นความอดทนทางใจจากแรงกดดันต่างๆไม่ว่าจะเป็นแรงกดดันจากรุ่นพี่และก็แรงกดดันจากตนเองด้วยครับ ต่อมานะครับคือ ความอดทนทางกาย ซึ่งก็มาจากการซ้อมอย่างหนักครับ
-"เรื่องของมิตรภาพ" หากท่านเป็น"คทากร"นะครับท่านจะได้รับมิตรภาพมากมายเลยแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพจากเพื่อนๆที่เป็นคทากรด้วยกันเพราะทุกๆคนนั้นล้วนแต่มาจากคนละสาขาคนละคณะ หรือว่าจากรุ่นพี่ที่ซ้อมให้กับพวกเรา หรืออาจจะเป็นมิตรภาพจากรุ่นน้องที่รุ่นหน้าเราจะต้องมาเป็นคนซ้อมให้ เห็นไหมละครับท่านจะได้มิตรภาพเเละก็เพื่อนๆใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกเต็มไปหมดเลยครับ
-"เรื่องการทำงานร่วมกับผู้อื่น" จากข้อก่อนนะครับที่เราได้มิตรภาพมากมายจากหลายคนนี้ เราก็ต้องทำงานร่วมกับคนอื่นมากขึ้นไปด้วยเพราะ ทุกๆคนก็มาจากต่างที่กันร้อยพ่อพันแม่ เพราะฉะนั้นเราก็จะได้ฝึกในเรื่องของ "การทำงานร่วมกับผู้อื่น" ไปด้วยครับ
-"เรื่องของผลงานการไปใช้ในการใส่ทำPortfolioเพื่อใช้ในการฝึกงานหรือสมัครงาน" ซึ่งการเป็น"คทากร"นั้นท่านสามารถเอาตรงส่วนนี้ไปใส่หรือเอาไปใช้ในส่วนของผลงานหรือกิจกรรมได้เหมือนกันครับ เพราะคนรับสมัครเราเข้าทำงานเนี่ยถ้าเค้าเห็นกิจกรรมหรือผลงานในส่วนนี้ของเราเเล้วเนี่ยเค้าสมารถรู้ถึงข้อดีในด้านต่างๆของเราได้มากมายเลยครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ความอดทน ความรับผิดชอบ การมีระเบียบวินัย หรือว่า การทำงานร่วมกับผู้อื่น เป็นต้น
-"โอกาสเข้าทำงานในวงการบันเทิง" ในการเป็น"คทากร"นั้นอาจจะทำให้ท่านนั้นเป็นที่รู้จักมากขึ้นมียอดฟอลโล่เพิ่มขึ้น และการที่ท่านมีคนรู้จักมากขึ้นนี้ก็อาจทำให้พวกแมวมอง หรือ พวกแคสติ่งเนี่ย มาเห็นเรามารู้จักเราได้ด้วย เเละหากเราเข้าตาพวกเค้าเราก็มีโอกาสจะได้เข้าทำงานในวงการบันเทิงครับ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีดาราหลายๆคนนะครับที่ได้เข้าสู่วงการบันเทิงจากการเป็น"คทากร" ซึ่งนี่ก็คือโอกาสที่ดีที่เราจะไคว้คว้ามันไว้นะครับ
ทั้งหมดนี้นะครับ ก็คือตัวอย่างส่วนนึงที่ผมหยิบมาพูดถึงซึ่งผมก็หวังว่าผู้อ่านทุกท่าน จะได้รู้จักการเป็นคทากรมากขึ้น และก็ได้รู้ถึงประโยชน์จากการเป็น"คทากร"นี้มากขึ้นนะครับ และผมก็หวังว่ากระทู้ของผมนี้จะไปจุดประกายหรือเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ใครสักคนนึงนั้นอยากที่จะเป็น"คทากร"เหมือนกับผมนะครับ แล้วเรามาเป็นครอบครัว"คทากร"ด้วยกันครับ หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะได้อะไรจากกระทู้นี้ไม่มากก็น้อยนะครับ
ขอบคุณครับ🙏
[CR] การเป็น “คทากร” นั้นมันเป็นอย่างไรและเราจะได้อะไรจากมันบ้าง
วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์การเป็น"คทากร"ของผมครับ ว่าการเป็นคทากรนั้นมันดีอย่างไร และ ท่านจะได้อะไรจากการเป็น"คทากร"บ้าง
หลายๆคนนะครับ ก็คงอาจจะคิดว่าการเป็น"คทากร"นั้นมันคงมีแต่ Beauty Privilegesเลือกคนหล่อๆสวยๆตัวสูงๆมาเดินควงไม้คทาอยู่หน้าขบวน แต่จริงๆแล้วมันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะครับ และ ถ้าหากผู้อ่านได้เป็น"คทากร"นะครับท่านก็จะได้ประโยชน์อะไรดีๆจากมันมากเช่นเดียวกันครับ
จากประสบการณ์ที่ผมได้เป็น"คทากร"นะครับ ผมอยากจะบอกว่ามันก็ไม่ได้มีแต่BP(ในกระทู้นี้ผมขอใช้คำว่าBPแทนคำว่าBeauty Privilegesนะครับ)ไม่ได้มีBPและก็ไม่ได้คัดเลือกแบบBPครับ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วครับ แต่ก็ต้องยอมรับว่าบางคณะบางมหาวิทยาลัยก็ยังคงมีBPอยู่บ้าง แต่ก็คงน้อยแล้วครับซึ่งในประสบการณ์ตอนที่รุ่นของผมโดนคัดเลือกนะครับก็ต้องบอกว่าไม่ใช่BPเลยครับ เพราะการคัดเลือกของคณะผมนั้นจะใช้วิธีจับสุ่มคำถามตอบครับ ซึ่งจะเป็นการดูทัศนคติต่างๆครับ โดยทัศนคติที่ดูนะครับก็คือหมายถึงเค้าจะดูว่าเราจะไหวกับการซ้อมไหม สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้รึป่าวเพราะว่าต้องทำงานกันเป็นธีมครับ และอีกอย่างที่พี่เค้าดูนะครับ ก็คือความมั่นใจและก็ความตั้งใจครับ เห็นไหมละครับว่าไม่มีBPเลยเพราะฉะนั้นทุกคนที่อยากเป็น"คทากร"นะครับไม่ต้องกลัวเลยครับอยากเป็นก็แค่ไปสมัครเลยครับ แค่มีความมั่นใจ มีสติ และก็มีความตั้งใจ ก็พอครับ
ต่อมานะครับ ในเรื่องของท่าต่างๆที่เห็นว่าพวกที่เป็น"คทากร"เนี่ยเค้าทำท่าสวยควงสวยทำท่ายากกันได้เนี่ย มันไม่ใช่ฝึกแค่วันสองวัน ซ้อมแค่อาทิตย์สองอาทิตย์แล้วจะทำได้นะครับ การที่จะทำได้อย่างนั้นเนี่ยมันต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงใจอย่างมากครับ พวกเค้าเหล่านี้นะครับจะต้องฝึกซ้อมกันอย่างหนักนานหลายเดือน ไม่ใช่แค่ฝึกควงฝึกโยนอย่างเดียวแต่ต้อง ฝึกร่างกายให้เเข็งแรงอีกด้วย ซึ่งสิ่งที่ยากเลยเนี่ย ก็คือ การควงไม้คทาให้พร้อมกันทุกคนมองแล้วเหมือนเป็นไม้เดียวกันหมด ตรงสิ่งนี้แหละครับที่ยากเพราะการเป็น"คทากร"นั้นเราจะต้องทำงานหลายคนร่วมกันเป็นธีมไม่ว่าจะกี่คนก็ตามเราจะต้องควงไม้ให้เท่ากันซึ่งตรงนี้แหละครับที่ยาก เหตุนี้พวกเราจึงจะต้องซ้อมกันอย่างหนักเป็นเวลาหลายเดือนและ ต้องเสียสละเวลาของตัวเองที่จะได้ไปเล่นกับเพื่อนๆไปเที่ยวกับเพื่อนๆเพื่อมาซ้อมตรงนี้ เพราะเราเลือกที่จะก้าวเข้ามาเป็น"คทากร"ในส่วนนี้เราก็จะต้อง รับผิดชอบหน้าที่ในส่วนนี้ของเรา
เพราะอย่างนี้ทุกท่านที่อยากเป็น"คทากร" ก็จะได้ประโยชน์ไปมากมายเช่น "ความรับผิดชอบในตัวเอง"ครับ ประโยชน์ต่อมานะครับ ก็คือ "การมีระเบียบวินัย" เพราะท่านจะต้องแบ่งทั้งเวลาซ้อม และก็เวลาเรียน เวลาในการทำงานทำการบ้านครับ ท่านก็จะได้ประโยชน์จากส่วนนี้ไป และประโยชน์อีกอย่างที่ได้รับก็คือ "สุขภาพร่างกาย"ครับเพราะท่านจะต้องฝึกซ้อมอย่างหนักเลยครับ
ต่อไปผมจะพูดถึงประโยชน์ในส่วนต่างๆที่ยังไม่ได้พูดถึงที่ท่านจะได้รับจากการเป็น"คทากร"นี้นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทั้งหมดนี้นะครับ ก็คือตัวอย่างส่วนนึงที่ผมหยิบมาพูดถึงซึ่งผมก็หวังว่าผู้อ่านทุกท่าน จะได้รู้จักการเป็นคทากรมากขึ้น และก็ได้รู้ถึงประโยชน์จากการเป็น"คทากร"นี้มากขึ้นนะครับ และผมก็หวังว่ากระทู้ของผมนี้จะไปจุดประกายหรือเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ใครสักคนนึงนั้นอยากที่จะเป็น"คทากร"เหมือนกับผมนะครับ แล้วเรามาเป็นครอบครัว"คทากร"ด้วยกันครับ หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะได้อะไรจากกระทู้นี้ไม่มากก็น้อยนะครับ
ขอบคุณครับ🙏
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้