ผมสึกเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ครับ จนตอนนี้ผมยังกังวลไม่หายอยู่คือ ในระหว่างที่นอนจนเปลี่ยนไปนอนตะแคงโดยหลับนั้นมันมารู้สึกตัวตอนตี 4 ครึ่งในวันที่ 18 ตุลาคม แล้วจากนั้นอยู่ๆอสุจิก็เคลื่อนจนองค์กำเนิดกระตุกไป 3 ครั้ง บวกกับรู้สึกปวดปัสสาวะแต่ไม่ได้ปวดมาก ในขณะที่องค์กำเนิดกระตุกเพราะอสุจิเคลื่อนจนคำว่า จงใจ ยังก้องในหัวทั้งๆที่ไม่ได้พูดออกมา โดยไม่มีความพยายามตั้งแต่จะนอนตอนสี่ทุ่มของวันที่ 17 ตุลาคม และตื่นมาก็ไม่ได้พยายามเอามือไปจับที่องค์กำเนิด จนสุดท้ายก็ลุกเข้าไปที่ห้องน้ำเพื่อไปทำความสะอาดองค์กำเนิดและสบงที่เลอะอสุจิ จนทำให้ผมรู้สึกเสียใจ แหนงใจและเสียความรู้สึกมากจนทำกิจสำคัญของสงฆ์ได้ไม่ราบรื่นจนวันสึก และหลังสึกก็ยังวนอยู่ในหัวแล้วเข้าไปสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับอาบัติสังฆาทิเสสข้อปล่อยอสุจิเคลื่อนจนมาเจอหน้าที่เกี่ยวกับอสุจิเคลื่อนในพระไตรปิฎกจนได้เจอประโยคว่า จงใจ ไม่พยายาม อสุจิเคลื่อน ไม่ต้องอาบัติ เพราะ อาบัติสังฆาทิเสสสำเร็จนั้นต้องครบทั้ง 3 องค์ประกอบ คือ จงใจ พยายาม อสุจิเคลื่อน แต่กรณีของผมจงใจ ไม่พยายาม อสุจิเคลื่อน ไม่ต้องอาบัติ(อนาบัติ) ผมเลยหายเครียดคลายกังวลไประดับนึง
หมายเหตุ : ตอนที่ผมอสุจิเคลื่อนหลังตื่นรู้สึกตัวแต่ยังนอนบนที่นอนอยู่ยังไม่ได้ลุกไปไหน มันเป็นเรื่องธรรมชาติ จิตใจยังจงใจให้ ไม่รู้จงใจด้วยความฟุ้งซ่านหรือเปล่าครับ แต่น่าจะเข้าข้ออนาปัตติวารที่ว่า ภิกษุผู้มีจิตฟุ้งซ่าน นะครับ เนื่องจากผมเป็นออทิสติก(แอสเปอร์เกอร์)ร่วมกับโรคสมาธิสั้น อาจจะมีอาการจิตฟุ้งซ่าน อาการกระสับกระส่าย อาการหุนหันพลันแล่นระหว่างบวชก็น่าจะเป็นไปได้นะครับ
หมายเหตุ 2 : อย่างน้อยผมไม่ได้มีความพยายามที่จะทำอสุจิเคลื่อนครับ ความพยายามในที่นี้นี่หมายถึงเอามือไปจับหวังให้เคลื่อน เอาองค์กำเนิดไปเสียดสีกับนิ้วมือ ที่นอน สบงที่ใส่อยู่และของแข็งเพื่อหวังให้เคลื่อน หรือวิธีอื่นๆโดยประสงค์ให้อสุจิเคลื่อนใช่ไหมครับ หวังให้เคลื่อนส่วนมากเพื่อช่วยตัวเอง สำเร็จความใคร่ให้อสุจิได้หลั่งเต็มที่อย่างผิดธรรมชาติดังหวังใช่ไหมครับ
หมายเหตุ 3 : ผมคิดตั้งแต่ก่อนนอนว่า ฝันเปียกไปแล้วไม่รู้อสุจิมันจะเคลื่อนในคืนนี้อีกหรือเปล่า แต่นอนนุ่งสบงใส่อังสะ แต่ห่มผ้าห่มโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะกันหนาว ไม่ได้เพื่อให้อสุจิมันเคลื่อนครับ
สรุปว่าผมต้องอาบัติสังฆาทิเสสไหมครับ ขอผู้รู้ช่วยวิเคราะห์ให้กระจ่างหน่อยครับ เพราะตอนนี้ผมสึกมา 4 วันแล้วครับ
คำถามเพิ่มเติม : การนับวันปกปิดสังฆาทิเสสโดยนับตอนที่เป็นพระเท่านั้นหรือนับวันรวมทั้งหลังสึกเป็นคฤหัสถ์ด้วยไหมครับ
อสุจิเคลื่อนหลังตื่นนอน แต่ในความคิดยังยินดีจงใจระหว่างนั้น แต่ไม่ได้พยายามทำ
หมายเหตุ : ตอนที่ผมอสุจิเคลื่อนหลังตื่นรู้สึกตัวแต่ยังนอนบนที่นอนอยู่ยังไม่ได้ลุกไปไหน มันเป็นเรื่องธรรมชาติ จิตใจยังจงใจให้ ไม่รู้จงใจด้วยความฟุ้งซ่านหรือเปล่าครับ แต่น่าจะเข้าข้ออนาปัตติวารที่ว่า ภิกษุผู้มีจิตฟุ้งซ่าน นะครับ เนื่องจากผมเป็นออทิสติก(แอสเปอร์เกอร์)ร่วมกับโรคสมาธิสั้น อาจจะมีอาการจิตฟุ้งซ่าน อาการกระสับกระส่าย อาการหุนหันพลันแล่นระหว่างบวชก็น่าจะเป็นไปได้นะครับ
หมายเหตุ 2 : อย่างน้อยผมไม่ได้มีความพยายามที่จะทำอสุจิเคลื่อนครับ ความพยายามในที่นี้นี่หมายถึงเอามือไปจับหวังให้เคลื่อน เอาองค์กำเนิดไปเสียดสีกับนิ้วมือ ที่นอน สบงที่ใส่อยู่และของแข็งเพื่อหวังให้เคลื่อน หรือวิธีอื่นๆโดยประสงค์ให้อสุจิเคลื่อนใช่ไหมครับ หวังให้เคลื่อนส่วนมากเพื่อช่วยตัวเอง สำเร็จความใคร่ให้อสุจิได้หลั่งเต็มที่อย่างผิดธรรมชาติดังหวังใช่ไหมครับ
หมายเหตุ 3 : ผมคิดตั้งแต่ก่อนนอนว่า ฝันเปียกไปแล้วไม่รู้อสุจิมันจะเคลื่อนในคืนนี้อีกหรือเปล่า แต่นอนนุ่งสบงใส่อังสะ แต่ห่มผ้าห่มโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะกันหนาว ไม่ได้เพื่อให้อสุจิมันเคลื่อนครับ
สรุปว่าผมต้องอาบัติสังฆาทิเสสไหมครับ ขอผู้รู้ช่วยวิเคราะห์ให้กระจ่างหน่อยครับ เพราะตอนนี้ผมสึกมา 4 วันแล้วครับ
คำถามเพิ่มเติม : การนับวันปกปิดสังฆาทิเสสโดยนับตอนที่เป็นพระเท่านั้นหรือนับวันรวมทั้งหลังสึกเป็นคฤหัสถ์ด้วยไหมครับ