แหล่งข่าวจากศปภ. เปิดเผยถึงกรณีการกักตุนสิ่งของบริจาคและถุงยังชีพในศปภ.ดอนเมือง ว่า ที่ผ่านมาเคยมีการท้วงติงให้สกรีนตัวย่อศปภ. บนสิ่งของบริจาคทุกรายการที่บริจาคผ่านสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ข้อเสนอดังกล่าวไม่ถูกหยิบยกไปปฏิบัติ เพื่อเปิดช่องให้ส.ส.ในแต่ละพื้นที่ได้บริหารจัดการสิ่งของบริจาค จึงเป็นสาเหตุให้สิ่งของบริจาคถูกแอบอ้างเป็นความช่วยเหลือของฝ่ายการเมือง ขณะที่การเบิกจ่ายสิ่งของบริจาคของหน่วยราชการต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายให้ออกแจกจ่ายถุงยังชีพจะต้องลงบัญชีเบิกของอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกระทรวงยุติธรรม ที่สำคัญรายการถุงยังชีพที่ตั้งเบิกจากศปภ.จะถูกตัดลดแทบทุกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่จุดจ่ายถุงยังชีพจะอ้างว่าถุงยังชีพมีจำนวนจำกัด ยกตัวอย่าง หากขอเบิก 3,000 ชุด จะอนุมัติให้แค่ 1,000 ชุด ขอเบิก 1,500 ชุด ตัดเหลือ 500 ชุด  ส่วนเรือ แพ และสุขาลอยน้ำ เบิกไม่ได้เลย ตรงกันข้ามกับผู้แทนส.ส. ที่มีลายเซ็นของส.ส.คนดัง จะสามารถรับถึงยังชีพได้โดยไม่ต้องลงรายการเบิกจ่ายถุงยังชีพ และได้รับของบริจาคตรงตามจำนวนที่ร้องขอ 

           แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า กรณีอมของบริจาคนั้นพล.ต.อ.ประชาอาจไม่ทราบเรื่อง เพราะเน้นหนักกับภารกิจวางแผนระบายน้ำ  จึงไม่มีเวลาลงมาตรวจสอบการแจกจ่ายถุงยังชีพและของบริจาคต่างๆ รวมทั้งไม่เคยลงมาตรวจสอบโกดังเก็บสิ่งของบริจาคด้วย 

           แหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่า ภายหลังศปภ.ย้ายจากดอนเมืองไปยังอาคารเอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ ของกระทรวงพลังงานเจ้าหน้าที่ของสำนักนายกฯได้เข้าไปสำรวจอุปกรณ์เครื่องใช้ของปตท.และกระทรวงพลังงาน โดยเน้นตรวจสอบเรือและยานพาหนะที่จะใช้ในการช่วยเหลืออพยพประชาชน แต่เจ้าหน้าที่ของกระทรวงพลังงานและ ปตท. พยายามไม่เปิดเผยรายการสิ่งของทั้งหมด เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาซ้ำรอยศปภ. ดอนเมือง ซึ่งส.ส.จะเข้ามาจับจองเรือไว้สำหรับพื้นที่ของตัวเอง

เต็มตา!! ของบริจาคลอยน้ำเกลื่อน ศปภ.ดอนเมือง

ชัดเจน!! มีของบริจาคช่วยผู้ประสบอุทกภัยค้างอยู่ใน ศปภ.เป็นจำนวนมาก ทั้งถุงยังชีพ เสื้อผ้า สุขาลอยน้ำ และกล่องโฟมอาหารซึ่งกำลังเริ่มเน่าเสีย ขณะที่ “กฤษณา” ยันย้ายไปสนามศุภฯ ทั้งหมดแล้ว

 

จากกรณีที่ น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงของบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ยังตกค้างอยู่ที่ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) สนามบินดอนเมือง เป็นจำนวนมากนั้น ขณะนี้ได้ย้ายไปเก็บไว้ที่สนามศุภชลาศัยเรียบร้อยแล้ว เพื่อรอการนำไปช่วยเหลือต่อไป

 

วันนี้ (30 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เข้าสำรวจพื้นที่ภายใน ศปภ. พบว่า สภาพบริเวณชั้น 1 ของสนามบินดอนเมืองมีน้ำท่วมถึงระดับหัวเข่า ขณะที่สิ่งของบริจาคได้ลอยน้ำเกลื่อนอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคบริโภค เสื้อผ้า สุขาลอยน้ำที่ล้มระเนระนาด และกล่องโฟมอาหารซึ่งเริ่มเน่าเสีย ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งของที่ประชาชนต่างช่วยกันบริจาคเพื่อให้ ศปภ.นำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

 

ขณะที่ อาคาร 2 ที่เป็นศูนย์พักพิงของผู้ประสบภัย ยังมีผู้ประสบภัยอาศัยอยู่ประมาณ 500 คน โดยเจ้าหน้าที่ของ “ศูนย์ประชาบดี” กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เข้ามาเร่งอพยพออกไป แต่ประชาชนกลุ่มดังกล่าวยังไม่ยอมย้ายออก เนื่องจากหลายคนมีบ้านพักอยู่บริเวณดอนเมืองและรังสิต โดย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษก ศปภ.ได้เดินทางมาเจรจากับผู้อพยพ ได้ข้อสรุปว่าจะอนุญาตให้อาศัยอยู่ต่อไป โดยรัฐบาลจะดูแลเรื่องความเป็นอยู่ ส่วนอาหารอาจจะนำมาหย่อนโดยใช้ดอนเมืองโทลล์เวย์ และตนจะนำเรื่องดังกล่าวกลับไปรายงานให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับทราบ

 

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เขตดอนเมือง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้น้ำท่วมเกือบเต็มพื้นที่ทั้งหมดแล้ว โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ได้เร่งแก้ไขปัญหามาโดยตลอด โดยจำเป็นต้องแก้ไขที่มาของน้ำท่วมในเขตดอนเมือง ซึ่งเกิดจากน้ำในคลองรังสิตไหลบ่าเข้ามาตั้งแต่บริเวณถนนพหลโยธิน ตัดคลองรังสิต และพื้นที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งหากไม่สกัดน้ำในบริเวณดังกล่าวจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตดอนเมือง บนถนนวิภาวดีรังสิต และถนนพหลโยธินได้

เห็นแล้วอเน็จอนาถใจ

ปีมหาอุทกภัย รอยน้ำยังไม่จางเลยล่ะค่ะ

คนดอนเมืองทิ้งบ้านช่องอพยบระเหเร่ร่อน

ไปไหนน้ำก็ท่วมตามมาทุกที่

บริหารอย่างนี้แล้วยังจะให้เดินตามปูขาเกอีกหรือคะ

หุบปากเถอะค่ะ ส.ส.เพื่อไทย