Faces of Anne (2022) - หนังไล่เชือดไทยที่ทะเยอทะยาน พร้อมกับพาทุกคนสำรวจตัวตนของตัวเอง

Faces of Anne: แอน

" หนังไล่เชือดที่มีโครงสร้างน่าสนใจ แต่การเล่นยากหลายครั้ง ก็ทำให้คนดูลุ้นเหมือนกันว่า หนังจะหาทางลงและมีจุดจบอย่างไร "


สัปดาห์นี้คงไม่มีหนังไทยเรื่องไหนที่กระแสดีไปกว่าเรื่อง Faces of Anne (2022) หนังไทยที่ดึงดาราหญิงระดับแม่เหล็กมามายมาย หลังจากที่ผมได้รับชม ก็อยากจะมารีวิวแชร์ความเห็นด้วยเช่นกันครับ

เรื่องย่อ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง Faces of Anne แอน (Official Trailer)

Faces of Anne (2022) ได้รับการกำกับโดย คงเดช จาตุรันต์รัศมี ผู้กำกับไทยคุณภาพที่สร้างผลงานไว้มากมาย (Where We Belong, Snap แค่ได้คิดถึง, เฉิ่ม, สยิว) โดยหนังเล่าถึง ผู้หญิงทุกคนที่ชื่อ "แอน" พวกเธอตื่นขึ้นมาพร้อมความทรงจำที่เลือนราง และหน้าตาที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลา หมอและพยาบาลต่างบอกว่า นี่เป็นอาการทางจิตที่เธอคิดไปเอง ทว่าความจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้น

ที่โชคร้ายกว่า ในทุกค่ำคืน พวกเธอจะต้องเผชิญหน้ากับ "เวติโก" ปีศาจหัวกวางในตำนาน เหล่าแอนจึงต้องเอาตัวรอดจากปีศาจ พร้อมกับหาสาเหตุที่ทำหน้าตาเธอจึงเปลี่ยนไปให้ได้

ความรู้สึกหลังชม

ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมว่า นี่เป็นหนังที่ค่อนข้าง "ทะเยอทะยาน" เมื่อเทียบกับเรื่องที่ผ่านมาของคุณคงเดช... นับว่าเป็นหนังไทยคุณภาพในปีนี้อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ


- Faces of Anne เป็นหนังที่เหมือนดำเนินเรื่องใน 3 ระดับ (Layer) ไปพร้อมกัน

ระดับที่ 1 (ระดับรูปธรรม) คือ การเป็นหนังหนีฆาตกรไล่เชือดที่ให้ความบันเทิงกับผู้ชมโดยตรง

ระดับที่ 2 (ระดับกลาง) คือ การเป็นหนังในทางจิตวิทยาที่พยายามสำรวจตัวตนของแอน พร้อมกับขุดลึกถึงประเด็นที่ว่า "ตัวตนที่แท้จริงของเราคืออะไร และประกอบกันอย่างไรจากผลของสังคมและภาวะแวดล้อม"

ระดับที่ 3 (ระดับนามธรรม - ผสมกันกับระดับที่ 2 ในบางส่วน) คือ การเป็นหนังที่สะท้อนนัยยะทางการเมือง สภาพสังคม หรือเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งหนังไม่มีการเฉลยว่าจริง ๆ แล้ว มันคืออะไร แต่เราทุกคนสามารถตีความได้ในฉบับตัวเอง

[ สังเกตว่า หนังมีโครงสร้าง / Layer ที่ซ้อนกันเยอะมาก ถือว่า สร้างสรรค์และเป็นความท้าทายสำหรับภาพยนตร์ไทย ]


- ถ้าเจาะลึกไปในแต่ละระดับ สำหรับระดับที่ 1 ส่วนนี้ผมว่าหนังทำงานในระดับที่สนุกเพลิน แต่ไม่ดีเท่าที่ควร ในมุมของหนังไล่เชือด เราสามารถเพิ่มความระทึกให้มากกว่านี้ เพื่อให้หนังทำงานกับคนดูมากขึ้น เช่น การออกแบบจังหวะ Jump-Scare หรือความกดดันที่ผลักลิมิตให้สูงกว่านี้ได้

ในระดับที่ 2 พาร์ทนี้ค่อนข้างโอเคเลย ส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในเรื่อง หนังมีประเด็นที่สร้างสรรค์ มีบทสรุปที่พอจะเป็นคำตอบแก่ผู้ชม พร้อมกับเปิดกว้างให้ได้ขบคิด อาจจะติดนิดนึงตรงหนังมีความไม่ชัดเจนหรือความสับสนในสารที่นำเสนอบ้าง แต่เป็นข้อเสียที่ละวางได้ (ถ้าขัดเกลาให้ Simple / เล่นง่ายกว่านี้จะเยี่ยมยอด)

ในระดับที่ 3 โดยปกติ พาร์ทนี้จะเป็นส่วน Support ของหนังสไตล์คงเดช แต่ใน Faces of Anne ดูเหมือนจะมีการเร่งส่วนนี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น จริง ๆ แล้ว อาจขึ้นกับความชอบแต่ละคน (ว่าอยากให้มีโทนทางการเมือง / ประเด็นทางสังคมที่เข้มหรือบางมากแค่ไหน) แต่สำหรับผม ผมประทับใจพาร์ทนี้ในผลงานเรื่องก่อน ๆ มากกว่า ในผลงานก่อน ๆ ประเด็นต่าง ๆ ถูกแทรกมาเป็นกิมมิคหนัง แต่ไม่ได้เป็นประเด็นหลักให้เราต้องเก็บไปคิดอย่างหนัก เพราะหัวใจหลักของเรื่องอยู่ที่พาร์ทระดับที่ 1 หรือ 2 ซึ่งเป็นส่วนเดินเรื่องหลัก

ดังนั้นเมื่อ Faces of Anne เพิ่มน้ำหนักส่วนนี้เข้ามา ผสมกับประเด็นที่ซ้อนทับกันเยอะกว่าเดิม ทำให้หนังยิ่งซับซ้อน สับสนง่ายขึ้น แถมเผาพลังงานผู้ชมอย่างหนัก ซึ่งใครที่รอดตรงนี้มาได้ก็จะหลงรัก แต่ถ้าใครไม่รอด รับรองว่าบ่นอุบแน่นอน 😅 (จริง ๆ ผมว่าคนน่าจะเริ่มตายตั้งแต่ระดับที่ 2 แล้วแหละ)

นี่จึงเป็นหนังที่เล่นท่ายากและเสี่ยงที่จะพังได้ง่าย ทว่าถ้าวัดกันโดยรวม ก็ถือว่าทางผู้กำกับจัดการกับทั้งสามส่วนนี้ค่อนข้างดีเมื่อกับสเกลหนังที่ซับซ้อนขนาดนี้ รวมถึงหาทางลงให้กับหนังได้ค่อนข้างปลอดภัย บัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น... น่าชื่นชมครับ !


- จุดที่พอเป็นข้อเสียอีกอย่างคือ ไม่รู้ว่าการเล่นใหญ่ขนาดนี้ ท้ายที่สุดผลลัพธ์ที่ผู้ชมรอคอยจะคุ้มค่าหรือเปล่า ตัวหนังเองก็เผาพลังงานของผู้ชมไปหนักพอสมควร ดังนั้นส่วนนี้ก็มีผลทำให้แฟนหนังแตกออกไปสองฝั่งได้ (ชอบก็ชอบไปเลย ไม่ชอบก็เกลียดไปเลย)

- หนังดำเนินเรื่องค่อนข้าง Slow Burn สไตล์คงเดช ทำให้หนังมีความเนิบผสมเข้ามา แต่ก็ไม่ได้ถือว่าช้าจนดูลำบากยากเย็น

- ดีไซน์ด้านสถานที่ คอสตูม งานภาพ การเล่นเฉดสีในหนัง สร้างสรรค์ดีและแปลกสำหรับภาพยนตร์ไทย

- พาร์ทนักแสดง ส่วนนี้เป็นดาบสองคมเช่นกัน นักแสดงทุกคนต่างทำหน้าที่ตัวเองได้ดี แต่เมื่อนักแสดงมีจำนวนมากเกินไป ทำให้แต่ละคนมี Air-time ค่อนข้างน้อย แม้ว่านักแสดงหลายคนจะแสดงได้เยี่ยม แต่ความสามารถนั้นก็อาจไม่ได้ถูกนำมาใช้อย่างได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเนื่องจากเวลาที่จำกัด ซึ่งจุดนี้ก็ส่งผลก็ให้ความอินของผู้ชมลดลงได้ 

สรุป

Faces of Anne (2022) นับเป็นหนังไทยดี มีประเด็นน่าสนใจ มีแรงทะเยอทะยานสูง ดูจากศักยภาพแล้ว ก็น่าส่งแข่งในเทศกาลภาพยนตร์หลาย ๆ ที่ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสไตล์เนื้อเรื่องหลักจะเป็นหนังไล่เชือด แต่ตัวหนังก็มีความนอกกระแสพอสมควร (สไตล์คงเดช) และไม่ได้เป็นมิตรกับผู้ชมทุกกลุ่ม นอกจากนี้ก็อาจไม่ใช่หนังที่เข้าใจได้ง่าย ๆ เพราะเรื่องราวต่าง ๆ ค่อนข้างซับซ้อน ต้องใช้พลังงานในการติดตาม

ดังนั้นหากใครต้องการหนังไทยที่มีต้องการความท้าทาย ความแปลกใหม่ที่ไม่ซ้ำกับเรื่องอื่น ก็ขอแนะนำเลยครับ และสำหรับคอหนังธรรมดา ก็ยังคงแนะนำให้ชมอยู่ดี เพราะหนังไทยสร้างสรรค์แบบนี้ ก็ไม่ได้มีบ่อย ๆ คงเสียดายน่าดู หากไม่ได้ชม !

_________________________________

(เพิ่มเติม) ขออนุญาตโฆษณากระทู้ที่รวมหนังของผู้กำกับ "คงเดช" เผื่อใครสนใจ 😂 แกถือเป็นผู้กำกับฝีมือเยี่ยมในประเทศไทยเลย 



(เพิ่มเติม 2) สำหรับใครที่ดูแล้วไม่เข้าใจ ขออนุญาตแปะไว้ 2 กระทู้ ลองอ่านสปอยจากที่นี่ได้นะครับ หลาย ๆ ท่านเขียนตีความเอาไว้ดีเลย



_________________________________

ป.ล. รีวิวที่เขียนมาจากความรู้สึกหลังชม ซึ่งผมอาจเก็บไม่ครบหรือมองผิดพลาดได้ ดังนั้นหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะครับ 😅

ป.ล.2 อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากพุดคุยหรือติดต่อกับผม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่