[CR] รักษาสิวแบบ Acne Resolve + สเต็มเซลล์ หลัง สิวเห่อ หน้าพัง เหมือนเป็นคนมีกรรม


          สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะมารีวิวการรักษาสิวแบบฉบับคนเป็นสิวเรื้อรัง หมดไปเป็นหมื่น หลายๆที่ จนตอนนี้ได้เจอการรักษาที่เห็นการเปลี่ยนแปลง เสียตังเอง เจ็บเบาๆ แต่จบจริง จะรีวิวตั้งแต่หลังทำว่าสภาพหน้าออกมาเป็นยังไง ดูแลตัวเองยากไหม และอัพเดทสภาพผิวปัจจุบันกับการรักษาครั้งล่าสุดค่ะ จากที่ที่นึง


          ก่อนอื่นต้องขออนุญาตแนบหลักฐานความพังที่สุดในชีวิต สภาพหน้า เป็นสิวเม็ดใหญ่ ๆ จนถึงสิวหัวช้างขึ้นสองข้างแก้ม จริง ๆ ก็เกือบจะทั่วหน้าอะ ลักษณะคล้ายสิวฮอร์โมน ทั้งอักเสบทั้งมีหนอง แต่งหน้าก็ไม่เนียน ยิ่งถ้าอัดรองพื้นหรือกลบคอนซีลเลอร์ยิ่งทำให้สิวอุดตันบุกหนักกว่าเดิมอีกค่ะ

          ก่อนหน้านี้เรามีอ่าน ๆ เรื่องการรักษาสิวมาพอสมควร ทั้งดูรีวิวเคสต่าง ๆ ดู Live การรักษา และเปรียบเทียบการรักษาแต่ละประเภท เรารักษาสิวขั้นตอนแรกด้วยโปรแกรม Acne Resolve เป็นการยิงตัวต่อมไขมันให้ฝ่อตัวลงอย่างถาวร สิวจากทุกสาเหตุก็รักษาได้และไม่กลับมาขึ้นซ้ำอีก พออาการสิวเราดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิวอักเสบแห้งหมดแล้วเราก็รักษาต่อด้วยโปรแกรมการรักษาด้วยการเติมสเต็มเซลล์ลดรอยสิว ช่วยให้ผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ ตามที่คุณหมอแนะนำควบคู่กัน สรุปคร่าว ๆ เหมือนเป็นการใส่น้ำยาพิเศษของคลินิกเพื่อกระตุ้นสเต็มเซลล์ให้กลับมาพร้อมทำงาน กระปรี่กระเปร่าอีกครั้ง เพื่อจะได้หลั่ง Growth Factor เพื่อไปฟื้นฟูแบบเต็มร้อยอีกครั้ง จากนั้นก็นำไปใส่เครื่องปั่น พอได้สเต็มเซลล์ที่ได้คุณภาพแล้ว ก็จะใช้เครื่องเปิดผิวและผลักสเต็มเซลล์เข้าไปในชั้นผิว เพื่อให้มันซ่อมแซมผิวที่เสียหาย ผิวที่เกิดริ้วรอยจากการเป็นสิวเรื้อรัง ช่วยกระชับรูขุมขน ให้ผิวเรียบและลดการอักเสบของสิว ฟังแล้วเหมือนการทำงานของโปรแกรมการรักษาสิวทั่วไปใช่ไหมล่ะคะ แต่เดี๋ยวเรามาพูดถึงผลลัพธ์กัน


          เล่าถึง ณ วันที่ไปทำก่อนละกัน คุณหมอประเมินผิวหน้าให้เบื้องต้น แนะนำให้เราทำซักสามครั้งต่อเนื่องขึ้นไปเพื่อเสริมสร้างผิวใหม่ แทนที่ผิวเสีย เราเลยลงเป็นคอร์ส 3 ครั้งไปก่อน ถ้าการรักษาเห็นผลเราค่อยตัดสินใจรักษาต่อก็ได้ จะให้ดูภาพก่อนเริ่มรักษาโดยรวมนะคะ ในเข็มฉีดยานั้นคือตัวสเต็มเซลล์ที่เก็บไปปั่นแยก ก่อนทำมีการทายาชา เก็บเลือดออกไปเพื่อนำไปปั่นแยกสเต็มเซลล์ เพื่อรอกลับเข้ามาฉีดเข้าชั้นผิวเราอีกครั้งค่ะ


          เราเริ่มต้นการรักษาครั้งที่หนึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคม เลยทำเป็นรูปเปรียบเทียบเก็บไว้ก่อนทำ และหลังทำแค่ 4 วัน ความว๊าวแรกเลยคือพวกสิวอักเสบมันแห้งขึ้น ว๊าวที่สองคือรอยสิวดำ ๆ ที่ฝังหลายเดือนของเรามันก็ดีขึ้นจนน่าดีใจ ดีขึ้นจนแฟนที่อยู่ด้วยกันทุกวันและเห็นหน้าเราพังมาตลอดหลายปี ยังรู้สึกได้จนต้องทักว่าหน้าดีขึ้นรึเปล่า ทำไมช่วงนี้รู้สึกผิวเนียนและสิวน้อยลง ทั้งที่ทำมาแค่สัปดาห์เดียว


          เนื่องจากครั้งแรกไม่คิดว่าผิวจะดีขึ้นไวขนาดนั้นเลยถ่ายรูปเก็บไว้น้อยมาก แต่จะเริ่มเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ หลังจากการรักษาครั้งที่ 2 นะคะ เราไปทำมาเมื่อต้นเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งห่างจากครั้งแรกประมาณ 2 เดือนได้ อาการหลังทำแต่ละครั้งอาจจะมีบวม ๆ แดง ๆ อยู่บ้างนะคะ แต่ไม่มีอาการแสบร้อนที่ผิวหน้าอะไรเลยค่ะ


          ประมาณ วันที่ 3 เรารู้สึกว่าอาการบวมแดงแทบจะยุบหมดละ ช่วงนี้จะมีอาการผิวหน้าลอกนิดนึง เป็นขุยๆแอบตกใจนะคะ แต่หมอบอกไว้ก่อนหน้านี้แล้วแหละว่า ถ้าเป็นคือมันกำลังทำการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้นและจะหายไปเองค่ะ แค่อย่าลืมทายาและทานยาที่คลินิกให้มาด้วยก็พอ


          หลังทำได้ 1 อาทิตย์ รอยแดง สิวอุดตัน สิวผดเม็ดเล็ก ๆ เริ่มดีขึ้น สิวอักเสบที่เคยขึ้นก็ไม่มีขึ้นใหม่แล้วนะทุกคน ที่เห็นเหลือ ๆ อยู่ เป็นรอยสิวเก่าที่ค่อนไปทางดำมาก เลยต้องใช้เวลาฟื้นฟูมากกว่าจุดอื่นนิดนึง


          หลังจากทำไป 2 ครั้งกับการรักษาในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน เมื่อเทียบกับผลการรักษาที่เราได้กลับมา เรามองว่ามันคุ้มค่ากับเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เราเสียไปจริง ๆ ค่ะ ส่วนหลังทำก็ดูแลตัวเองง่ายมาก แค่ระวังไม่ให้หน้าโดนน้ำ 24 ชั่วโมงแรก พอครบ 24 ชั่วโมงปุ๊บก็สามารถทาครีมกันแดดได้ และล้างหน้าด้วยโฟมได้ปกติเลยค่ะ


          และนี่คือผลลัพธ์หลังการรักษาครั้งล่าสุดของเราค่ะ รีวิวแบบสด ๆ ไม่มีการใช้แอพใด ๆ ทั้งสิ้น นี่คือสภาพผิวจริง หน้าสด แบบพึ่งล้างหน้าเสร็จเลย รอยสิวหายไปเยอะอยู่นะ เหลืออยู่แค่นิดเดียวจริง ๆ ผิวแข็งแรงขึ้น ไม่แพ้ง่ายเหมือนแต่ก่อน ช่วงใกล้มีปจด.สิวอักเสบก็แทบไม่ค่อยขึ้นแล้ว


          จากประสบการณ์การรักษาของเราที่ผ่าน ทั้งเปลี่ยนหมอ เปลี่ยนทั้งคลินิกมานับก็ 4-5 ที่ นี่เป็นครั้งแรกที่ทำเราการบ้านเยอะมาก ๆ ก่อนตัดสินใจทำ เราจึงอยากแนะนำให้ทุกคนศึกษาหาข้อมูลก่อนตัดสินใจทำให้มาก ๆ อยากให้คำนึงเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก เพราะด้วยความที่โปรแกรมที่เราทำมีการใช้เลือด ดังนั้นหลอดเก็บเลือดต้องได้มาตรฐานและผ่านการฆ่าเชื้อ ไม่ใช่หลอดเก็บเลือดตรวจโรคทั่วไปตามโรงพยาบาล แบบนั้นอันตรายและเสี่ยงติดเชื้ออีกด้วย เพราะสุดท้ายเราต้องเอาเกล็ดเลือดกลับเข้าไปในร่างกายของเราเพื่อทำการรักษาค่ะ


          สุดท้ายนี้เราก็หวังว่าประสบการณ์ที่เรามาแชร์ให้กับทุกคน จะเป็นแนวทางในการตัดสินใจ หรืออาจจะเป็นอีกหนึ่งความหวังเล็ก ๆ ให้กับคนที่กำลังหาทางรักษาอยู่ เราเป็นกำลังใจให้นะคะ แล้วเดี๋ยวเราจะมาอัพเดทให้อีกครั้ง หลังจากทำครั้งที่ 3 ถ้ามีอะไรอยากจะถาม ก็ทิ้งคอมเมนต์ไว้ได้เลยนะคะ เดี๋ยวเราว่าง ๆ แล้วจะแวะมาตอบให้ค่ะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ บ๊ายบายค่ะ
ชื่อสินค้า:   Acne Resolve + สเต็มเซลล์
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่