12 ต.ค. 2565 - 12:02 น.
เพจสายไหมต้องรอด พาด.ญ.13 ปี แจ้งความ ถูกพ่อแท้ๆ ย่ำยี หลังเสพยาบ้าแล้วหลอน จำหน้าลูกไม่ได้ สลดแม่บอก ห้ามเอาเรื่องพ่อเด็ดขาด จะให้แม่กราบตีนก็ยอม
เมื่อวันที่ 12 ต.ค.65 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน เดินทางไปยัง สภ.ทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ พาด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี พร้อมน้าสาว เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.นพดล ธุวังควัฒน์ ผกก.สภ.ทับสะแก ให้ดำเนินคดีกับ นายบี (นามสมมติ) อายุ 36 ปี พ่อแท้ๆของ ด.ญ.เอ หลังก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.เอ มาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากเสพยาบ้าจนเมาหนักจนจำหน้าลูกไม่ได้
นายโป้ย ลุงของ ด.ญ.เอ ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆของ นายบี กล่าวว่า ตนทราบเรื่องนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจาก ด.ญ.เอ หลานสาวโทรมาขอความช่วยเหลือและบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ตนฟัง แต่เนื่องจากตนอยู่กรุงเทพ ไม่สะดวกที่จะเดินทางไป จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงโทรศัพท์ไปปรึกษามูลนิธิที่ช่วยเหลือเด็กแต่เรื่องเงียบ ไม่ได้รับการติดต่อกลับแต่อย่างใด จึงตัดสินใจร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือไปยัง #เพจสายไหมต้องรอด ดังกล่าว
“ถึงแม้นายบี จะเป็นน้องชายแท้ๆของตน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ น้องชายติดยาหนักมาก ถึงขั้นจำหน้าลูกไม่ได้ หากปล่อยไว้เกรงว่าหลานสาวอีกคนอาจถูกนายบีข่มขืนไปด้วย” นายโป้ย กล่าว
ด.ญ.เอ กล่าวว่า พ่อเสพยาบ้ามานานแล้ว ระยะหลังพ่อเริ่มเสพมากขึ้น เพราะยาบ้ามีราคาถูกพ่อจึงซื้อมาไว้เสพครั้งละ 8 เม็ด เมื่อเสพมากทำให้พ่อมีอารมณ์รุนแรง หลอนยาเมาอาละวาด ต้นปีที่ผ่านมาแม่โดนตำรวจจับติดคุก 3 เดือน เพราะพ่อให้แม่ไปขโมยสายไฟที่โรงเรียนเพื่อนำไปขายนำเงินมาซื้อยาบ้าเสพ ทำให้ตนต้องอยู่บ้านกับพ่อ ทุกครั้งที่พ่อเสพยาบ้า พ่อจะเมาอาละวาดตนกลัวมาก พ่อจะลงมือข่มขืนตน พอสร่างเมาพ่อจะมาบอกว่า เวลาเสพยาพ่อจะจำหน้าตนไม่ได้
จากนั้นช่วงเดือน พ.ค.65 แม่พ้นโทษออกจากเรือนจำกลับมาอยู่บ้าน ตนคิดว่าแม่จะช่วยตนได้ แต่สุดท้ายพ่อชวนแม่ไปร่วมเสพยาบ้าด้วยกันอีก เวลาเสพยาแม่จะหลับเป็นเวลานาน พ่อก็จะอาศัยจังหวะแม่หลับ ลงมือข่มขืนเรื่อยมา และหนักขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อตนเล่าเรื่องที่ตนถูกพ่อข่มขืนให้แม่ฟัง ขอให้แม่พาเข้าแจ้งความ แต่แม่กลับปฏิเสธ โดยสั่งตนว่าห้ามเอาเรื่องพ่อเด็ดขาด ถ้าไม่อยากเห็นแม่และน้องถูกทำร้าย จะให้แม่กราบตีนก็ยอม ตนจึงเล่าเหตุการณ์ให้ครูที่โรงเรียนฟัง และโทรศัพท์ไปเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ลุงฟัง ลุงจึงประสาน เพจสายไหมต้องรอด มาช่วยเหลือ
ด้านนายเอกภพ เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องตนประสานไปยัง พ.ต.อ.นพดล ธุวังควัฒน์ ผกก.สภ.ทับสะแก เพื่อพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีทันที นอกจากนี้ ยังประสานไปยัง น.ส.แรมรุ่ง วรวัธ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อขอให้ส่งนักสังคมสงเคราะห์ – นักจิตวิทยา จาก บ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กรมกิจการเด็กและเยาวชน ร่วมลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือด้วย
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เป็นปัญหายาเสพติดที่แพร่ระบาดไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว เนื่องจากยาเสพติดมีราคาถูก ทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรมตามมามากมาย จึงขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน
เพจสายไหมต้องรอด ได้รับแจ้งเรื่องปัญหายาเสพติดทั่วประเทศในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก ซึ่งหาที่แจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กที่มีอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งเป็นผู้สืบสันดาน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 7 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 140,000 ถึง 400,000 บาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
นอกจากนี้ นายเอกภพ ยังเตรียมประสานไปยัง ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าเยียวยาด.ญ.ผู้เสียหายในฐานะผู้เสียหายในคดีอาญา จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม อีกด้วย
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7312818
พ่อแท้ๆเสพยาจนคลั่ง ย่ำยีลูกวัย 13 อ้างจำหน้าไม่ได้ แม่บอกห้ามเอาเรื่องให้กราบตีนก็ยอม
12 ต.ค. 2565 - 12:02 น.
เพจสายไหมต้องรอด พาด.ญ.13 ปี แจ้งความ ถูกพ่อแท้ๆ ย่ำยี หลังเสพยาบ้าแล้วหลอน จำหน้าลูกไม่ได้ สลดแม่บอก ห้ามเอาเรื่องพ่อเด็ดขาด จะให้แม่กราบตีนก็ยอม
เมื่อวันที่ 12 ต.ค.65 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน เดินทางไปยัง สภ.ทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ พาด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี พร้อมน้าสาว เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.นพดล ธุวังควัฒน์ ผกก.สภ.ทับสะแก ให้ดำเนินคดีกับ นายบี (นามสมมติ) อายุ 36 ปี พ่อแท้ๆของ ด.ญ.เอ หลังก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.เอ มาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากเสพยาบ้าจนเมาหนักจนจำหน้าลูกไม่ได้
นายโป้ย ลุงของ ด.ญ.เอ ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆของ นายบี กล่าวว่า ตนทราบเรื่องนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจาก ด.ญ.เอ หลานสาวโทรมาขอความช่วยเหลือและบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ตนฟัง แต่เนื่องจากตนอยู่กรุงเทพ ไม่สะดวกที่จะเดินทางไป จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงโทรศัพท์ไปปรึกษามูลนิธิที่ช่วยเหลือเด็กแต่เรื่องเงียบ ไม่ได้รับการติดต่อกลับแต่อย่างใด จึงตัดสินใจร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือไปยัง #เพจสายไหมต้องรอด ดังกล่าว
“ถึงแม้นายบี จะเป็นน้องชายแท้ๆของตน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ น้องชายติดยาหนักมาก ถึงขั้นจำหน้าลูกไม่ได้ หากปล่อยไว้เกรงว่าหลานสาวอีกคนอาจถูกนายบีข่มขืนไปด้วย” นายโป้ย กล่าว
ด.ญ.เอ กล่าวว่า พ่อเสพยาบ้ามานานแล้ว ระยะหลังพ่อเริ่มเสพมากขึ้น เพราะยาบ้ามีราคาถูกพ่อจึงซื้อมาไว้เสพครั้งละ 8 เม็ด เมื่อเสพมากทำให้พ่อมีอารมณ์รุนแรง หลอนยาเมาอาละวาด ต้นปีที่ผ่านมาแม่โดนตำรวจจับติดคุก 3 เดือน เพราะพ่อให้แม่ไปขโมยสายไฟที่โรงเรียนเพื่อนำไปขายนำเงินมาซื้อยาบ้าเสพ ทำให้ตนต้องอยู่บ้านกับพ่อ ทุกครั้งที่พ่อเสพยาบ้า พ่อจะเมาอาละวาดตนกลัวมาก พ่อจะลงมือข่มขืนตน พอสร่างเมาพ่อจะมาบอกว่า เวลาเสพยาพ่อจะจำหน้าตนไม่ได้
จากนั้นช่วงเดือน พ.ค.65 แม่พ้นโทษออกจากเรือนจำกลับมาอยู่บ้าน ตนคิดว่าแม่จะช่วยตนได้ แต่สุดท้ายพ่อชวนแม่ไปร่วมเสพยาบ้าด้วยกันอีก เวลาเสพยาแม่จะหลับเป็นเวลานาน พ่อก็จะอาศัยจังหวะแม่หลับ ลงมือข่มขืนเรื่อยมา และหนักขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อตนเล่าเรื่องที่ตนถูกพ่อข่มขืนให้แม่ฟัง ขอให้แม่พาเข้าแจ้งความ แต่แม่กลับปฏิเสธ โดยสั่งตนว่าห้ามเอาเรื่องพ่อเด็ดขาด ถ้าไม่อยากเห็นแม่และน้องถูกทำร้าย จะให้แม่กราบตีนก็ยอม ตนจึงเล่าเหตุการณ์ให้ครูที่โรงเรียนฟัง และโทรศัพท์ไปเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ลุงฟัง ลุงจึงประสาน เพจสายไหมต้องรอด มาช่วยเหลือ
ด้านนายเอกภพ เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องตนประสานไปยัง พ.ต.อ.นพดล ธุวังควัฒน์ ผกก.สภ.ทับสะแก เพื่อพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีทันที นอกจากนี้ ยังประสานไปยัง น.ส.แรมรุ่ง วรวัธ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อขอให้ส่งนักสังคมสงเคราะห์ – นักจิตวิทยา จาก บ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กรมกิจการเด็กและเยาวชน ร่วมลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือด้วย
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เป็นปัญหายาเสพติดที่แพร่ระบาดไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว เนื่องจากยาเสพติดมีราคาถูก ทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรมตามมามากมาย จึงขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน
เพจสายไหมต้องรอด ได้รับแจ้งเรื่องปัญหายาเสพติดทั่วประเทศในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก ซึ่งหาที่แจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กที่มีอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งเป็นผู้สืบสันดาน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 7 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 140,000 ถึง 400,000 บาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
นอกจากนี้ นายเอกภพ ยังเตรียมประสานไปยัง ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าเยียวยาด.ญ.ผู้เสียหายในฐานะผู้เสียหายในคดีอาญา จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม อีกด้วย
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7312818