ศูนย์ข่าวศรีราชา – สุดสลดยุคสังคมทราม.. แม่โร่แจ้งตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองให้ช่วยเหลือบุตรสาววัย 14 ที่ถูก พ่อ และตาแท้ๆ รวม 4 คน ผลัดกันข่มขืนกระทำชำเรามานานถึง 5 ปี ซ้ำข่มขู่ไม่ให้บอกแม่ บางครั้งต้องการร่วมหลับนอนเด็กหญิงเคราะห์ร้ายในเวลาเดียวกัน ถึงขั้นเปิดศึกชิงนางใช้อาวุธเข้าทำร้ายกันระหว่างพ่อและตาแท้ๆ
นายภวัต เลิศมุกดา นายอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.สัตหีบ นายชวัฒน์ เทพทัพ ปลัดฝ่ายความมั่นคง ได้สนธิกำลังระหว่าง ชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด และชุดสืบสวน สภ.สัตหีบ บุกเข้าช่วยเหลือ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ภายในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ตรงข้ามโรงเรียนบ้านเขาชีจรรย์ ม.11 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังผู้เป็นแม่ได้เข้าแจ้งต่อนายอำเภอสัตหีบว่า บุตรสาวในไส้ได้ถูกพ่อแท้ๆ และตา เวียนเทียนข่มขืนกระทำชำเรา
จากการสอบถาม ด.ญ. เอ (นามสมมติ) ทราบว่า ได้ถูกผู้เป็นตา ซึ่งก็คือ นายสมศักดิ์ วรรณจันทร์ อายุ 52 ปี เข้าลวนลาม ข่มขืนมาตั้งแต่อายุได้เพียง 9 ปี ซ้ำยังข่มขู่ไม่ให้บอกใคร ด้วยความที่ยังเด็กจึงกลัวจะถูกตี หลังจากนั้น น้องชายของตาแท้ๆ ซึ่งก็คือ นายสุรชัย วรรณจันทร์ อายุ 44 ปี ได้อาศัยจังหวะช่วงที่พ่อและแม่ไม่อยู่บ้าน เข้าข่มขืนซ้ำ
เมื่อเรื่องดังกล่าวรู้ถึงหูน้องชายคนสุดท้องของตา ซึ่งก็คือ นายโกดอย วรรณจันทร์ อายุ 38 ปี ก็ได้เข้ามาข่มขู่ว่าจะนำเรื่องดังกล่าวไปบอกให้พ่อกับแม่ของตนทราบหากไม่ยอมให้ข่มขืน
กระทั่งมีอายุได้ 10 ปีก็ถูกผู้เป็นพ่อบังเกิดเกล้า ซึ่งก็คือ นายเด็จ หรือยักษ์ ผิวอ่อน อายุ 38 ปี ข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ และได้ข่มขืนเรื่อยมา ไม่เว้นแม้ขณะแม่นอนหลับอยู่ข้างกาย
นายภควัต กล่าวว่า สิ่งอัปยศนี้ได้ถูกเก็บเป็นความลับอยู่ในใจของผู้เป็นพ่อ และตาทั้ง 3 คนมานานหลายปี และเมื่อทุกคนต้องการที่จะหลับนอนกับลูก และหลานในสายเลือด ก็จะเปิดศึกชิงนางขึ้นในครอบครัวหลายครั้ง
โดยล่าสุด ตัวผู้เป็นพ่อ และตา ได้เปิดศึกชิงนางถึงขั้นใช้มีดไล่ฟันกัน ทำให้เด็กหญิงเคราะห์ร้ายเกิดความหวาดกลัว จนนำเรื่องมาเปิดเผยให้ผู้เป็นแม่ได้รับทราบ ทำให้ผู้เป็นแม่สุดทนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงนำบุตรสาว เข้าแจ้งต่อเจ้าหน้าที่เพื่อให้การช่วยเหลือ
ผู้เป็นแม่ยอมรับว่า ที่ผ่านมาใส่ใจแต่เรื่องของการทำงานหาเงินเลี้ยงปากท้อง และลูกอีก 5 คน โดยทิ้งให้ลูกสาวคนโตเลี้ยงน้องเพียงลำพัง จนต้องพบกับชะตากรรมอันเลวร้าย และรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นกับครอบครัวตนเอง
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และชุดสืบสวน ได้กระจายกำลังออกติดตามบุคคลทั้ง 4 จนสามารถจับกุมตัวได้ทั้งหมดแล้ว แต่จากการสอบปากคำ ทุกคนยังให้การปฏิเสธ เบื้องต้นจึงมอบหมายให้ ร.ต.อ.เอกชัย มูลลี ร้อยเวรเจ้าของคดี ทำสำนวนไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำตัวส่งตรวจร่างกายยัง โรงพยาบาลสัตหีบกิโลเมตรที่ 10 เพื่อเป็นหลักฐานในการประกอบสำนวนคดีเอาผิดผู้ต้องหาทั้ง 4 ต่อไป
แม่สุดทนแจ้งความจับพ่อและตาแท้ๆ ผลัดกันข่มขืนลูกสาวนาน 5 ปี
นายภวัต เลิศมุกดา นายอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.สัตหีบ นายชวัฒน์ เทพทัพ ปลัดฝ่ายความมั่นคง ได้สนธิกำลังระหว่าง ชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด และชุดสืบสวน สภ.สัตหีบ บุกเข้าช่วยเหลือ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ภายในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ตรงข้ามโรงเรียนบ้านเขาชีจรรย์ ม.11 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังผู้เป็นแม่ได้เข้าแจ้งต่อนายอำเภอสัตหีบว่า บุตรสาวในไส้ได้ถูกพ่อแท้ๆ และตา เวียนเทียนข่มขืนกระทำชำเรา
จากการสอบถาม ด.ญ. เอ (นามสมมติ) ทราบว่า ได้ถูกผู้เป็นตา ซึ่งก็คือ นายสมศักดิ์ วรรณจันทร์ อายุ 52 ปี เข้าลวนลาม ข่มขืนมาตั้งแต่อายุได้เพียง 9 ปี ซ้ำยังข่มขู่ไม่ให้บอกใคร ด้วยความที่ยังเด็กจึงกลัวจะถูกตี หลังจากนั้น น้องชายของตาแท้ๆ ซึ่งก็คือ นายสุรชัย วรรณจันทร์ อายุ 44 ปี ได้อาศัยจังหวะช่วงที่พ่อและแม่ไม่อยู่บ้าน เข้าข่มขืนซ้ำ
เมื่อเรื่องดังกล่าวรู้ถึงหูน้องชายคนสุดท้องของตา ซึ่งก็คือ นายโกดอย วรรณจันทร์ อายุ 38 ปี ก็ได้เข้ามาข่มขู่ว่าจะนำเรื่องดังกล่าวไปบอกให้พ่อกับแม่ของตนทราบหากไม่ยอมให้ข่มขืน
กระทั่งมีอายุได้ 10 ปีก็ถูกผู้เป็นพ่อบังเกิดเกล้า ซึ่งก็คือ นายเด็จ หรือยักษ์ ผิวอ่อน อายุ 38 ปี ข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ และได้ข่มขืนเรื่อยมา ไม่เว้นแม้ขณะแม่นอนหลับอยู่ข้างกาย
นายภควัต กล่าวว่า สิ่งอัปยศนี้ได้ถูกเก็บเป็นความลับอยู่ในใจของผู้เป็นพ่อ และตาทั้ง 3 คนมานานหลายปี และเมื่อทุกคนต้องการที่จะหลับนอนกับลูก และหลานในสายเลือด ก็จะเปิดศึกชิงนางขึ้นในครอบครัวหลายครั้ง
โดยล่าสุด ตัวผู้เป็นพ่อ และตา ได้เปิดศึกชิงนางถึงขั้นใช้มีดไล่ฟันกัน ทำให้เด็กหญิงเคราะห์ร้ายเกิดความหวาดกลัว จนนำเรื่องมาเปิดเผยให้ผู้เป็นแม่ได้รับทราบ ทำให้ผู้เป็นแม่สุดทนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงนำบุตรสาว เข้าแจ้งต่อเจ้าหน้าที่เพื่อให้การช่วยเหลือ
ผู้เป็นแม่ยอมรับว่า ที่ผ่านมาใส่ใจแต่เรื่องของการทำงานหาเงินเลี้ยงปากท้อง และลูกอีก 5 คน โดยทิ้งให้ลูกสาวคนโตเลี้ยงน้องเพียงลำพัง จนต้องพบกับชะตากรรมอันเลวร้าย และรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นกับครอบครัวตนเอง
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และชุดสืบสวน ได้กระจายกำลังออกติดตามบุคคลทั้ง 4 จนสามารถจับกุมตัวได้ทั้งหมดแล้ว แต่จากการสอบปากคำ ทุกคนยังให้การปฏิเสธ เบื้องต้นจึงมอบหมายให้ ร.ต.อ.เอกชัย มูลลี ร้อยเวรเจ้าของคดี ทำสำนวนไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำตัวส่งตรวจร่างกายยัง โรงพยาบาลสัตหีบกิโลเมตรที่ 10 เพื่อเป็นหลักฐานในการประกอบสำนวนคดีเอาผิดผู้ต้องหาทั้ง 4 ต่อไป