5 กฎทองที่จะช่วยให้การเงินของคุณดีขึ้น
1️⃣ เงินจะอยู่กับคนที่ใส่ใจ
เงินจะไหลออกจากคนที่ไม่ใส่ใจครับ ส่วนคนที่ใส่ใจจดบันทึกรายรับรายจ่ายจะมองเห็นการไหลเข้าออกของกระแสเงิน จดบันทึกรายจ่ายแล้วคุณจะเห็นว่ามีค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ ที่เสียไปทุกเดือนโดยไม่จำเป็นทำให้หยุดการไหลออกที่ไม่จำเป็นได้
คำแนะนำ
ทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างจริงจัง
สูตรการจัดสรรรายได้แบบ SAFE 10-30-30-30 เมื่อมีรายได้เข้ามาให้จัดสรรเป็น 4 ส่วนดังนี้
10% เงินเก็บห้ามใช้(Savings) เพื่อความสุขในอนาคต
Pay your future first เงินส่วนนี้ควรเก็บไว้ในบัญชีที่เราไม่ได้เปิดดูบ่อย จะได้ไม่หวั่นไหว
30% ผ่อนหนี้(Arrears)
หนี้ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนบัตรเครดิต ผ่อนโน่นนี่นั่น ส่วนนี้รวมแล้วไม่ควรเกิน 20% ของรายได้
30% ค่าใช้จ่ายคงที่(Fixed charges)
ส่วนนี้คือค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่มาประจำทุกเดือนหรือทุกปีเช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าเดินทาง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ามือถือ ค่าอินเทอร์เนต ส่งทางบ้าน ค่า Netflix ค่าประกัน ภาษี ค่าเรียนลูก ฯลฯ
30% กินช้อปเที่ยว(Expense) เพื่อความสุขในปัจจุบัน
ส่วนนี้สามารถเตือนตัวเองไม่ให้สิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ ด้วยการแบ่งเงินออกเป็น 4 ส่วนเพื่อใช้ทีละส่วนจนถึงสิ้นเดือนครับ
2️⃣ การวางแผนการเงินเหมือนการวิ่งข้ามรั้ว
การจดบันทึกรายรับรายจ่ายเป็นการจดสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว แต่การวางแผนการเงินคือสิ่งที่ต้องมองไปข้างหน้าเหมือนการวิ่งข้ามรั้วคุณต้องมองเห็นข้างจึงจะวิ่งไปถึงเส้นชัยได้ ถ้าปิดตาวิ่งคุณจะบาดเจ็บแน่นอน การวางแผนการเงินก็เช่นกันคุณต้องเขียนรายจ่าย 12 เดือนข้างหน้าว่าแต่ละเดือนจะมีรั้วขวางกั้นสูงต่ำแค่ไหนจึงจะวิ่งผ่านไปได้ด้วยดี
คำแนะนำ
เขียนรายจ่ายที่รออยู่ 12 เดือนข้างหน้า
ในยุคที่ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นและคาดการณ์ว่าจะสูงค้างอยู่นานหลายปี(Higher for longer) จะกู้ผ่อนบ้านต้องคิดดีๆ ถ้าเอาปลอดภัยแนะนำใช้สูตร TCS "กู้ล้านละ 2 หมื่น ผ่อนเดือนละ 8 พัน"
นกน้อยทำรังแต่พอตัว
คนเราต้องการที่อยู่อาศัยเพื่อคุ้มกะลาหัว ถ้ายังไม่พร้อมก็เช่าอยู่ไปก่อน ถ้าพร้อมค่อยซื้อบ้าน/คอนโดแบบไม่เกินตัว โดยใช้สูตร TCS 444 “กู้ 4 เท่า ผ่อน 40% ลอง 4 เดือน”
ตัวอย่างเงินเดือน 20,000 บาท
💁🏻♂️กู้ 4 เท่า ของรายได้ทั้งปี
เงินได้ทั้งปี 20,000 x 12 = 240,000 บาทต่อปี
กู้ 4 เท่าคือ 240,000 x 4 = 960,000 บาท
ตีเป็นตัวเลขกลมๆ ควรกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาทนั่นเอง(ล้านละ 2 หมื่น)
💁🏻♂️ผ่อน 40% ของเงินเดือน
ผ่อน 40% ของเงินเดือน 20,000 บาท
จะได้ว่าควรผ่อนอย่างน้อย 8,000 บาทต่อเดือนนั่นเอง
💁🏻♂️ก่อนกู้จริง
ลองใช้ชีวิต 4-6 เดือนโดยหักเงินเดือนออกไป 8,000 บาท ถ้าอยู่ได้ไม่กระทบการใช้ชีวิตถือว่ารอด ยื่นกู้ได้นะคร้าบบบ
กู้ผ่านแค่ด่านแรก
“กู้บ้านผ่าน ≠ ผ่อนบ้านไหว”
บ้านและที่ดินราคามีแต่จะสูงขึ้น หนี้บ้านเป็นหนี้ที่ดีถ้าเป็นไปได้ควรซื้อบ้านเป็นของตัวเอง แต่ถ้าไม่ไหวให้เช่าอยู่ไปก่อนนะ สำหรับคนที่ซื้อบ้านเกินตัวยอดผ่อนต่อเดือนสูงจนกระทบกับสภาพคล่องในแต่ละเดือนมีศัพท์เรียกว่า "House poor" หนทางแก้คือขายบ้านเดิมแล้วไปซื้อบ้านใหม่ในขนาดที่เหมาะสมครับ
คำเตือน
ส่วนใหญ่ถ้าลังเลว่าจะผ่อนไหวหรือไม่?
แปลว่าผ่อนไม่ไหว!!!
เงินเดือนเท่านี้ซื้อรถยนต์มือหนึ่งราคาเท่าไหร่ไม่เกินตัว?
ซื้อรถยนต์ไม่เกินตัวใช้สูตร TCS 20-30-40 ดังนี้
ราคารถ ไม่เกิน 20 เท่าของเงินเดือน
ดาวน์ 30% ของราคารถ
ผ่อน+ค่าใช้จ่ายแฝง ไม่เกิน 40% ของเงินเดือน
ตัวอย่างเช่น มนุษย์เงินเดือน 30,000 บาทต่อเดือน
ควรซื้อรถราคาไม่เกิน 20 x 30,000 = 600,000 บาท
ดาวน์ 30% ของราคารถ = ดาวน์ 180,000 บาท
ผ่อน+ค่าใช้จ่ายแฝง ไม่เกิน 40% ของเงินเดือน = เดือนละ 12,000 บาท
สูตรนี้จะผ่อนรถหมดภายใน 4-5 ปีครับ^^
ค่าใช้จ่ายแฝงหมายถึง ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา ค่าพ.ร.บ./ประกันภัย/ภาษี ค่าทางด่วน ค่าที่จอดรถ ค่าล้างรถ เป็นต้น
ก่อนกู้จริง
ลองใช้ชีวิต 4-6 เดือนโดยหักเงินเดือนออกไป 12,000 บาท ถ้าอยู่ได้ไม่กระทบการใช้ชีวิตถือว่ารอด ยื่นกู้ได้นะคร้าบบบ
รู้หรือไม่? ถ้าไม่มีเงินดาวน์รถ คุณต้องเก็บเงินเดือนละ 12,000 บาทเป็นเวลา 15 เดือนเพื่อมีเงินดาวน์รถ
หมายเหตุ
เป็นสูตรคร่าวๆ เท่านั้นไม่ตายตัวครับ
3️⃣ ออมก่อนใช้คือวิธีออมเงินที่ทรงพลังที่สุด
คนที่คิดว่าได้เงินมาใช้ไปก่อนสิ้นเดือนเหลือเท่าไหร่ค่อยเก็บ ส่วนใหญ่ไม่มีเงินเก็บครับ วิธีออมเงินที่ได้ผลที่สุดคือได้เงินมาปุ๊บเก็บออมก่อนเสมอเช่นได้มา 100 บาทเก็บทันที 10 บาทที่เหลือ 90 บาทคือเงินที่จะใช้ ส่วนจะออมเท่าไหร่ดี? การออมเหมือนการยกเวทต้องเริ่มจากน้ำหนักน้อยที่ยกไหวก่อนค่อยเพิ่มน้ำหนักขึ้นในตอนหลังครับ
คำแนะนำ
เงินได้ - เงินออม = เงินใช้(Ego)
4️⃣ หาเงินได้เท่าไหร่สำคัญ แต่เก็บเงินได้เท่าไหร่สำคัญกว่า
จริงอยู่ที่รายได้สำคัญแต่ถ้ารายได้เยอะแล้วคุณใช้เยอะเงินก็ไม่มีเหลือเก็บนะ ดังจะเห็นได้จากดารา/นักกีฬาที่รายได้สูงมากแต่ก็ล้มละลายเป็นข่าวอยู่เนืองๆ เพราะการหาเงินกับการเก็บเงินใช้คนละทักษะกัน
คำแนะนำ
แยกให้ได้ว่าค่าใช้จ่ายนั้นเป็น สิ่งจำเป็นในชีวิต(Need) สิ่งที่คุณรัก(Love) หรือแค่เป็นสิ่งที่คุณต้องการเฉยๆ(Want)
เก็บเงินให้ได้ 2 เท่าค่อยซื้อของที่ Love
5️⃣ อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา
อย่าคอยวาสนาด้วยการซื้อลอตเตอรี่แล้วหวังว่าคุณจะถูกรางวัลที่หนึ่ง เอาเงินซื้อลอตเตอรี่มาเก็บออมได้เงินแน่นอนกว่าครับ เงินน้อยสะสมไปเรื่อยๆ ก็เป็นเงินก้อนใหญ่ได้นะ
คำแนะนำ
ลองเก็บเงินน้อยๆ ทุกสัปดาห์เป็นเวลา 1 ปีดูครับ(52 Weeks Saving Challenge) เงินออมที่เพิ่มขึ้นทุกสัปดาห์จะเพิ่มกำลังใจให้คุณอย่างเหลือเชื่อ
10 เทคนิคการลดรายจ่ายที่ทำได้ผลจริง!!!
1 จัดบ้าน
จะเห็นว่ามีของฟุ่มเฟือยหลายอย่างที่ซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้เลย
จะเห็นว่ามีของกินหมดอายุอยู่ในบ้านเสมอ
บางคนเจอของซื้อซ้ำเพราะจำไม่ได้ว่าซื้อแล้วเก็บไว้ไหน
การจัดบ้านเก็บของให้เป็นระเบียบจะช่วยลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นได้
2 ยกเลิกค่าสมาชิกที่ใช้ไม่คุ้ม
3 ลดค่ารายเดือนมือถือให้เหมาะสมการใช้งาน
4 ใช้บัตรเครดิต/เดบิตที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี (ยกเว้นนักใช้บัตรมืออาชีพ)
5 ลดการดื่มเครื่องดื่มราคาสูง กาแฟ ชานมไข่มุก ลดๆ ได้ก็ดี
6 อย่าซื้อของไม่จำเป็นเพียงเพราะเห็นป้าย Sale ใช้กฎ 72 ชั่วโมงกลับไปคิดทบทวนก่อนว่าจำเป็นต้องซื้อหรือไม่
7 ลดตัวกระตุ้นการใช้จ่าย ลดการไปห้าง ลบแอปช้อปออนไลน์
8 อย่าใช้จ่ายเพื่อหน้าตาทางสังคม
9 เลิกเหล้า เบียร์ บุหรี่ เที่ยวกลางคืน
10 เลิกเล่นพนัน (หวยก็เป็นการพนันอย่างหนึ่ง)
ป.ล. ประหยัด กับ ขี้เหนียว ต่างกันนะครับ
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก >>>
https://www.facebook.com/NyhanAndTheGang/posts/pfbid02BpgPZHD67j7UuEcoZMXGAEy4kEyCyLYQX3XM2KebhRgQAQFTxpFKP3JbxPiMxRTJl
5 กฎทองที่จะช่วยให้การเงินของคุณดีขึ้น
5 กฎทองที่จะช่วยให้การเงินของคุณดีขึ้น
1️⃣ เงินจะอยู่กับคนที่ใส่ใจ
เงินจะไหลออกจากคนที่ไม่ใส่ใจครับ ส่วนคนที่ใส่ใจจดบันทึกรายรับรายจ่ายจะมองเห็นการไหลเข้าออกของกระแสเงิน จดบันทึกรายจ่ายแล้วคุณจะเห็นว่ามีค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ ที่เสียไปทุกเดือนโดยไม่จำเป็นทำให้หยุดการไหลออกที่ไม่จำเป็นได้
คำแนะนำ
ทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างจริงจัง
สูตรการจัดสรรรายได้แบบ SAFE 10-30-30-30 เมื่อมีรายได้เข้ามาให้จัดสรรเป็น 4 ส่วนดังนี้
10% เงินเก็บห้ามใช้(Savings) เพื่อความสุขในอนาคต
Pay your future first เงินส่วนนี้ควรเก็บไว้ในบัญชีที่เราไม่ได้เปิดดูบ่อย จะได้ไม่หวั่นไหว
30% ผ่อนหนี้(Arrears)
หนี้ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนบัตรเครดิต ผ่อนโน่นนี่นั่น ส่วนนี้รวมแล้วไม่ควรเกิน 20% ของรายได้
30% ค่าใช้จ่ายคงที่(Fixed charges)
ส่วนนี้คือค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่มาประจำทุกเดือนหรือทุกปีเช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าเดินทาง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ามือถือ ค่าอินเทอร์เนต ส่งทางบ้าน ค่า Netflix ค่าประกัน ภาษี ค่าเรียนลูก ฯลฯ
30% กินช้อปเที่ยว(Expense) เพื่อความสุขในปัจจุบัน
ส่วนนี้สามารถเตือนตัวเองไม่ให้สิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ ด้วยการแบ่งเงินออกเป็น 4 ส่วนเพื่อใช้ทีละส่วนจนถึงสิ้นเดือนครับ
2️⃣ การวางแผนการเงินเหมือนการวิ่งข้ามรั้ว
การจดบันทึกรายรับรายจ่ายเป็นการจดสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว แต่การวางแผนการเงินคือสิ่งที่ต้องมองไปข้างหน้าเหมือนการวิ่งข้ามรั้วคุณต้องมองเห็นข้างจึงจะวิ่งไปถึงเส้นชัยได้ ถ้าปิดตาวิ่งคุณจะบาดเจ็บแน่นอน การวางแผนการเงินก็เช่นกันคุณต้องเขียนรายจ่าย 12 เดือนข้างหน้าว่าแต่ละเดือนจะมีรั้วขวางกั้นสูงต่ำแค่ไหนจึงจะวิ่งผ่านไปได้ด้วยดี
คำแนะนำ
เขียนรายจ่ายที่รออยู่ 12 เดือนข้างหน้า
ในยุคที่ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นและคาดการณ์ว่าจะสูงค้างอยู่นานหลายปี(Higher for longer) จะกู้ผ่อนบ้านต้องคิดดีๆ ถ้าเอาปลอดภัยแนะนำใช้สูตร TCS "กู้ล้านละ 2 หมื่น ผ่อนเดือนละ 8 พัน"
นกน้อยทำรังแต่พอตัว
คนเราต้องการที่อยู่อาศัยเพื่อคุ้มกะลาหัว ถ้ายังไม่พร้อมก็เช่าอยู่ไปก่อน ถ้าพร้อมค่อยซื้อบ้าน/คอนโดแบบไม่เกินตัว โดยใช้สูตร TCS 444 “กู้ 4 เท่า ผ่อน 40% ลอง 4 เดือน”
ตัวอย่างเงินเดือน 20,000 บาท
💁🏻♂️กู้ 4 เท่า ของรายได้ทั้งปี
เงินได้ทั้งปี 20,000 x 12 = 240,000 บาทต่อปี
กู้ 4 เท่าคือ 240,000 x 4 = 960,000 บาท
ตีเป็นตัวเลขกลมๆ ควรกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาทนั่นเอง(ล้านละ 2 หมื่น)
💁🏻♂️ผ่อน 40% ของเงินเดือน
ผ่อน 40% ของเงินเดือน 20,000 บาท
จะได้ว่าควรผ่อนอย่างน้อย 8,000 บาทต่อเดือนนั่นเอง
💁🏻♂️ก่อนกู้จริง
ลองใช้ชีวิต 4-6 เดือนโดยหักเงินเดือนออกไป 8,000 บาท ถ้าอยู่ได้ไม่กระทบการใช้ชีวิตถือว่ารอด ยื่นกู้ได้นะคร้าบบบ
กู้ผ่านแค่ด่านแรก
“กู้บ้านผ่าน ≠ ผ่อนบ้านไหว”
บ้านและที่ดินราคามีแต่จะสูงขึ้น หนี้บ้านเป็นหนี้ที่ดีถ้าเป็นไปได้ควรซื้อบ้านเป็นของตัวเอง แต่ถ้าไม่ไหวให้เช่าอยู่ไปก่อนนะ สำหรับคนที่ซื้อบ้านเกินตัวยอดผ่อนต่อเดือนสูงจนกระทบกับสภาพคล่องในแต่ละเดือนมีศัพท์เรียกว่า "House poor" หนทางแก้คือขายบ้านเดิมแล้วไปซื้อบ้านใหม่ในขนาดที่เหมาะสมครับ
คำเตือน
ส่วนใหญ่ถ้าลังเลว่าจะผ่อนไหวหรือไม่?
แปลว่าผ่อนไม่ไหว!!!
เงินเดือนเท่านี้ซื้อรถยนต์มือหนึ่งราคาเท่าไหร่ไม่เกินตัว?
ซื้อรถยนต์ไม่เกินตัวใช้สูตร TCS 20-30-40 ดังนี้
ราคารถ ไม่เกิน 20 เท่าของเงินเดือน
ดาวน์ 30% ของราคารถ
ผ่อน+ค่าใช้จ่ายแฝง ไม่เกิน 40% ของเงินเดือน
ตัวอย่างเช่น มนุษย์เงินเดือน 30,000 บาทต่อเดือน
ควรซื้อรถราคาไม่เกิน 20 x 30,000 = 600,000 บาท
ดาวน์ 30% ของราคารถ = ดาวน์ 180,000 บาท
ผ่อน+ค่าใช้จ่ายแฝง ไม่เกิน 40% ของเงินเดือน = เดือนละ 12,000 บาท
สูตรนี้จะผ่อนรถหมดภายใน 4-5 ปีครับ^^
ค่าใช้จ่ายแฝงหมายถึง ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา ค่าพ.ร.บ./ประกันภัย/ภาษี ค่าทางด่วน ค่าที่จอดรถ ค่าล้างรถ เป็นต้น
ก่อนกู้จริง
ลองใช้ชีวิต 4-6 เดือนโดยหักเงินเดือนออกไป 12,000 บาท ถ้าอยู่ได้ไม่กระทบการใช้ชีวิตถือว่ารอด ยื่นกู้ได้นะคร้าบบบ
รู้หรือไม่? ถ้าไม่มีเงินดาวน์รถ คุณต้องเก็บเงินเดือนละ 12,000 บาทเป็นเวลา 15 เดือนเพื่อมีเงินดาวน์รถ
หมายเหตุ
เป็นสูตรคร่าวๆ เท่านั้นไม่ตายตัวครับ
3️⃣ ออมก่อนใช้คือวิธีออมเงินที่ทรงพลังที่สุด
คนที่คิดว่าได้เงินมาใช้ไปก่อนสิ้นเดือนเหลือเท่าไหร่ค่อยเก็บ ส่วนใหญ่ไม่มีเงินเก็บครับ วิธีออมเงินที่ได้ผลที่สุดคือได้เงินมาปุ๊บเก็บออมก่อนเสมอเช่นได้มา 100 บาทเก็บทันที 10 บาทที่เหลือ 90 บาทคือเงินที่จะใช้ ส่วนจะออมเท่าไหร่ดี? การออมเหมือนการยกเวทต้องเริ่มจากน้ำหนักน้อยที่ยกไหวก่อนค่อยเพิ่มน้ำหนักขึ้นในตอนหลังครับ
คำแนะนำ
เงินได้ - เงินออม = เงินใช้(Ego)
4️⃣ หาเงินได้เท่าไหร่สำคัญ แต่เก็บเงินได้เท่าไหร่สำคัญกว่า
จริงอยู่ที่รายได้สำคัญแต่ถ้ารายได้เยอะแล้วคุณใช้เยอะเงินก็ไม่มีเหลือเก็บนะ ดังจะเห็นได้จากดารา/นักกีฬาที่รายได้สูงมากแต่ก็ล้มละลายเป็นข่าวอยู่เนืองๆ เพราะการหาเงินกับการเก็บเงินใช้คนละทักษะกัน
คำแนะนำ
แยกให้ได้ว่าค่าใช้จ่ายนั้นเป็น สิ่งจำเป็นในชีวิต(Need) สิ่งที่คุณรัก(Love) หรือแค่เป็นสิ่งที่คุณต้องการเฉยๆ(Want)
เก็บเงินให้ได้ 2 เท่าค่อยซื้อของที่ Love
5️⃣ อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา
อย่าคอยวาสนาด้วยการซื้อลอตเตอรี่แล้วหวังว่าคุณจะถูกรางวัลที่หนึ่ง เอาเงินซื้อลอตเตอรี่มาเก็บออมได้เงินแน่นอนกว่าครับ เงินน้อยสะสมไปเรื่อยๆ ก็เป็นเงินก้อนใหญ่ได้นะ
คำแนะนำ
ลองเก็บเงินน้อยๆ ทุกสัปดาห์เป็นเวลา 1 ปีดูครับ(52 Weeks Saving Challenge) เงินออมที่เพิ่มขึ้นทุกสัปดาห์จะเพิ่มกำลังใจให้คุณอย่างเหลือเชื่อ
10 เทคนิคการลดรายจ่ายที่ทำได้ผลจริง!!!
1 จัดบ้าน
จะเห็นว่ามีของฟุ่มเฟือยหลายอย่างที่ซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้เลย
จะเห็นว่ามีของกินหมดอายุอยู่ในบ้านเสมอ
บางคนเจอของซื้อซ้ำเพราะจำไม่ได้ว่าซื้อแล้วเก็บไว้ไหน
การจัดบ้านเก็บของให้เป็นระเบียบจะช่วยลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นได้
2 ยกเลิกค่าสมาชิกที่ใช้ไม่คุ้ม
3 ลดค่ารายเดือนมือถือให้เหมาะสมการใช้งาน
4 ใช้บัตรเครดิต/เดบิตที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี (ยกเว้นนักใช้บัตรมืออาชีพ)
5 ลดการดื่มเครื่องดื่มราคาสูง กาแฟ ชานมไข่มุก ลดๆ ได้ก็ดี
6 อย่าซื้อของไม่จำเป็นเพียงเพราะเห็นป้าย Sale ใช้กฎ 72 ชั่วโมงกลับไปคิดทบทวนก่อนว่าจำเป็นต้องซื้อหรือไม่
7 ลดตัวกระตุ้นการใช้จ่าย ลดการไปห้าง ลบแอปช้อปออนไลน์
8 อย่าใช้จ่ายเพื่อหน้าตาทางสังคม
9 เลิกเหล้า เบียร์ บุหรี่ เที่ยวกลางคืน
10 เลิกเล่นพนัน (หวยก็เป็นการพนันอย่างหนึ่ง)
ป.ล. ประหยัด กับ ขี้เหนียว ต่างกันนะครับ
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก >>> https://www.facebook.com/NyhanAndTheGang/posts/pfbid02BpgPZHD67j7UuEcoZMXGAEy4kEyCyLYQX3XM2KebhRgQAQFTxpFKP3JbxPiMxRTJl