เล่าประสบการณ์ทำงานร้านอาหาร 7 วัน ลาออก

ก่อนอื่นตอนนั้น เราหางานทำระหว่างรอเรียนต่อ
เราได้สมัครร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในอำเภอ เมืองราชบุรี
(อยู่แถวเจดีย์หัก) ร้านดังเลยแหละ ขึ้นต้นด้วย บ
ตอนไปสมัครวันแรก  เป็นวันหยุดร้าน
การสัมภาษณ์เป็นไปด้วยดี แต่มีคำพูดนึง เขาบอกว่า
‘’ อยู่กันเป็นครอบครัว’’
ไปวันแรก เรายืนจนเมื่อย กลับมาปวดขา อันนี้ไม่ติดใจนะคะ พอไป 3-4 วัน แม่บ้านแม่ครัว ชอบถามเรา มาจากที่ไหน บ้านอยู่ตรงไหน อยู่กับใคร ถามตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายที่ลาออก คือบางทีก็ไม่เข้าใจ ความจำสั้น หรือสมองไม่ดี
เราทำไปเรื่อยๆ จนเริ่มกดดันตัวเอง มีวันนึง เผลอไปร้องไห้ในห้องน้ำคนเดียว เราว่า เราไม่เหมาะกับการทำงานแบบนี้  บางทีก็เอาเปรียบกัน
1) มันจะมีพี่ที่เป็นเด็กเสริฟ ทำมาก่อนเรา 7-8เดือน มีหน้าที่ รับออเดอร์ เดินดูของในครัว ช่วยเรานิดหน่อยแต่ประเด็นหลัก เขาไม่ต้องยืนเหมือนเด็กเสริฟคนอื่นๆ เรางงมาก ติ๊บจากลูกค้า เขาบอกไม่ว่าลูกค้าจะให้ติ๊บส่วนตัวหรือส่วนตัวกลาง ยังไงต้องเอาให้ ส่วนร่วม เลิกงานค่อยแบ่ง เด็กเสริฟ มีจริงๆ5 คน คนเก็บจาน อีก 2 คน แล้วก็ญาติเจ้าของร้าน1 เราว่า มันไม่เมกเซ้นตรงที่
ติ๊บควรจะให้คนที่ยืนตลอด หารติ๊บ8-9คน คือเราไม่โอ พวกคนเก็บจาน ไม่สมควรจะได้ เก็บเสร็จก็นั่งเล่นได้ ญาติที่มาช่วยเสริฟ ก็ช่วยไรไม่เยอะ เอาเปรียบสุดๆ
* อยู่กันแบบครอบครัว เอาเปรียบมากๆ*
2) ให้เข้างานตั้งแต่ 09:00-21:30 หรือ 22:00 เราว่าเอาเปรียบเกินไปหรือป่าวอ่ะ ทำงานวันละ 12-14ชั่วโมง รวมเวลาขับรถมา-กลับ แบบนี้ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ตามกฎหมายแรงงาน ให้ทำงาน แค่ 9โมง 1ใน 9 ชั่วโมง ควรมีเวลาพักให้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง
3) ได้กินข้าวเที่ยง ตอน บ่าย2 บ่าย 3 เราแทบจะเป็นลม เขาบอกว่า ถ้าลูกค้าไม่ลุก ห้ามไปกินข้าว  พนักงานก็มีเยอะ แต่ไม่เปลี่ยนเลย บางทีลูกค้าไม่เยอะ เปลี่ยนกันไปกินข้าวได้น่ะ
4) เรื่องทำงานเกินหน้าที่ เข้าไปวันแรก พวกแม่ครัว ให้ไปล้างแก้ว เจ้าของร้านเดินมา ไม่ใช่หน้าที่เธอ สุดๆไปเลย แล้วมีเรื่องนึง มี่ทำให้เราจะออก มีแม่ครัวคนนึง พูดกับเราแรงมาก ตอนนั้น เป็นช่วงก่อน 10 โมงของร้าน เราก็นั่งกินข้าวเสร็จ ก็เล่นโทรศัพท์ไปเรื่อย เพราะรอเวลาร้านเปิด 10:00  พี่ที่เขาเด็กเสริฟคนนึง เขาช่วยแม่ครัวเช็ดช้อน ซึ่งเราไม่ได้ช่วยทำ เพราะไม่ใช่หน้าที่เรานั่งเฉยๆ มาว่าเราอย่างแรง มีไรก็ช่วยกันทำสิ จะมานั่งเฉยๆ ไม่ช่วยคนอื่นไม่ได้ นี่อยากจะส่วนกลับไป ลองให้ไปยืนเป็นเด็กเสริฟ์ดูมั้ย คือแบบ จะให้ทำทุกอย่างไม่ไหวน่ะ อีกอย่าง ถ้าลูกค้าจะห่อกลับ ต้องมาห่อให้ลูกค้า พวกแม่ครัว นั่งเล่นโทรศัพท์ ว่างแล้ว ก็ไม่ช่วย ทั้งที่มันไม่ใช่หน้าเด็กเสริฟ ตอนแรกจะลาออกแล้ว แต่มีคนห้าม เลยทนต่อไป
5) อันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ลาออก ครบ7วันพอดี สุดจะทนกับร้านนี้แล้วจริงๆ บ่นทุกวันว่าจะทำร้านนี้ให้ถึงเดือน
วันสุดท้าย เป็นวันพฤหัสบดี จำได้เลย  ตอนนั้นเราหิวข้าวมาก ข้าวเที่ยงเรายังไม่กิน ก็บ่าย 2 แล้ว เหลือลูกค้าแค่ 1 โต๊ะ ซึ่งลูกค้ากินใกล้จะหมด ใกล้เช็คบิน เราก็บอกกับเด็กเสริฟคนนึงว่า  * เหลือโต๊ะเดียวเนี่ย เด็กเสริฟ ยืนคุยเล่นกัน 4-5คน งั้นขอไปกินข้าวก่อนน่ะ เดี่ยวรีบกินรีบมาเปลี่ยน * จากนั้น เราก็ไปแถวในครัว รีบตักข้าว ตักแกง ข้าวคำแรก เข้าปาก ไป เจ้าของร้านเดินมา พูดเสียงดังมาก ทำไมถึงมากินข้าวก่อนเพื่อน
เราก็บอกไป บอกเขาแล้ว เดี่ยวเปลี่ยนกันกิน
เขาบอกว่า ลูกค้ายังนั่งอยู่เลย จะมากินก่อนไม่ได้
เราก็แบบ กินไปจุกไปเลยดิทำไมถึงพูดกับเราขนาดนี้อ่ะ เด็กเสริฟ์คนอื่นๆ ก็ยืนคุยกัน คือมันว่างแล้วไง ไม่ได้มีลูกค้าเยอะเลย แค่โต๊ะเดียว แล้วลูกค้ากำลังจะกลับแล้ว เราตัดสินใจแล้ว วันสุดท้ายนี่แหละ ไม่ไหวแล้ว หลังจากนั้น เราตักข้าวคาไว้  ลุกไปทั้งข้าวคาปาก  ผ่านไปสักแปปนึง ลูกค้าก็กลับ ตอนนี้ไม่มีลูกค้าเหลือ เขาก็ยกข้าวมากิน เขาก็ยังพูดอีกรอบ ต้องรอกินพร้อมเพื่อนสิ เราก็แบบ ถ้าวันไหน ลูกค้าเยอะกว่านี้ คงไม่มีสิทธิได้กินสินะ วันนั้น นอยด์ทั้งวัน ไม่อยากทำงาน อยากจะกลับตั้งแต่ ได้ยินแบบนั้น

วีรกรรมร้านนี้เยอะมาก  เห็นร้านนี้เปิดรับสมัครคนตลอด อย่าหาไปทำเด็ดขาด พวกเซเว่น ร้านอาหาร
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่