ในทางจิตวิทยา นั่นก็เพราะ เป็นที่ที่ผู้ก่อเหตุรู้สึกได้ถึงการต่อต้านที่ไม่มี ไม่มีการต่อสู้อันตรายย้อนกลับถึงตัวเอง
เป็นเรื่องจิตใต้สำนึกกักเก็บทางนิสัยส่วนตัว ที่ชอบทำอะไรแบบได้เปรียบถึงทำ ขาดความกล้าหาญทางจิตสำนึก
แม้จะขาดสติ แต่พฤติกรรมก็ยังเป็นไปจากการกำหนดของจิตใต้สำนึก
หรืออาจเพราะความคับแค้นสะสม ขาดสติ คิดเพียงว่า สถานที่นั้นมีลูกหลานของคนที่ทำให้คับแค้นอยู่
จึงบุกเข้าไปเข่นฆ่าแบบไม่เลือกหน้า พฤติกรรมคล้ายกับทหารคลั่งที่โคราชฆ่าไม่เลือกเพราะตามหาเป้าหมายไม่เจอ
ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสียทุกท่านครับ
.
นี่คือเรื่องจิตวิทยา ที่โยงมาถึงเหตุการณ์ของบ้านเมืองได้ ในห้วงเวลา 8-9 ปีที่ผ่านมา
ทำไม กปปส. (หรือย้อนกลับไปอีกก็พันธมิตร) กร่าง ไม่กลัวกฎหมาย ไม่เกรงกลัวอำนาจรัฐ
นั่นก็เพราะรู้ดีว่า พวกตัวเองมี "เส้น" ที่รัฐบาลทำอะไรไม่ได้
ดูเรื่องโรงพักเสาโด่เด่ก็ได้ครับ ชัดที่สุด หลุดทั้งยวง ไม่มีใครต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เห็นอยู่ตำตา
จากปี 2557 หากพิจารณาความเป็นไป
จะเห็นว่า พฤติกรรมทางการเมืองเป็นไปในรูปแบบคล้าย ๆ การบุกศูนย์เด็กเล็ก
คือ ได้เปรียบทุกอย่างถึงกระทำ ไม่ได้เปรียบไม่เอา ไม่เล่น ไม่กระทำ หากเผลอกระทำจนต้องรับผิดชอบ ก็จะเกิดสิ่งตามมา
นั่นคือ กรรมการในองค์กรต่าง ๆ ที่สร้างมากับมือ จะตัดสินปกป้องให้รอดพ้นความรับผิดในทุกกรณี ไม่มีอะไรต้องรับผิดหรือรับผิดชอบ
สร้างกฎ กติกา วางตัวบุคคลในองค์กรต่าง ๆ เป็นองคาพยพเพื่อตัวเอง
แล้วทำเก่งโดดลงสนามว่าข้าคือหนึ่งในตองอู
เปรียบเทียบคร่าว ๆ ครับ คงพอมองเห็นภาพ
.
ในทางจิตวิทยา เรียกว่า ความกล้าหาญเทียม
เวลาได้เปรียบ รู้ดีว่ายังไงความรับผิดชอบก็ไม่ถึงตัว ก็จะแสดงความกล้า อาจผ่านทางคำพูด หรือการกระทำ
แต่หากรู้สึกเสียเปรียบ หรือปัดความรับผิดชอบไม่พ้น ก็จะหงอย หลีกเลี่ยงการตอบโต้ทั้งทางคำพูดและการกระทำ
เห็นได้ชัดจากเรื่องเหมือง และช่วงระยะเวลาสามสิบกว่าวันที่หยุดทำหน้าที่ หงอยวังเวงเห็นได้ชัด
พฤติกรรมแบบนี้ ส่งผลถึงการบริหาร การไม่กล้าตัดสินใจเพราะกล้วต้องรับผิดชอบ
และ/หรือ การตัดสินใจผิด เพราะรู้ว่าการตัดสินใจนั้นไม่ต้องรับผิดชอบ ส่งผลถึงประสิทธิผลที่ไร้คุณภาพในทางปฏิบัติ
งาน โครงการ นโยบายต่าง ๆ จึงสูญเปล่า ได้ผลน้อย เสียหายมาก ไม่คุ้มค่า ไม่สร้างมูลค่าในทางใด ๆ ต่อภาพรวมของบ้านเมือง
เช่น เรื่องกัญชาเสรี ฯลฯ
.
ทำให้นึกถึงสลิ่ม
ที่เชียร์ ที่อวย แม้จะรู้ว่าไม่ใช่ นั่นก็เพราะสลิ่มต้องการหลีกเลี่ยงความรู้สึกผิด
สลิ่มหวังและขอเพียงว่า ขอสักเรื่อง ขอสักครั้ง ให้มีอะไรดี ๆ ออกมา เพื่อเยียวยาความรู้สึกผิดให้ตัวเอง
จากยุคพันธมิตร ถึงวันนี้ มีสลิ่มไม่มากนักที่ยอมรับความรู้สึกผิด ออกมาขอโทษสังคม
นอกนั้น ยังตะบันโกหกตัวเองต่อไป
ทำไมจึงเป็นศูนย์เด็กเล็ก ?
ในทางจิตวิทยา นั่นก็เพราะ เป็นที่ที่ผู้ก่อเหตุรู้สึกได้ถึงการต่อต้านที่ไม่มี ไม่มีการต่อสู้อันตรายย้อนกลับถึงตัวเอง
เป็นเรื่องจิตใต้สำนึกกักเก็บทางนิสัยส่วนตัว ที่ชอบทำอะไรแบบได้เปรียบถึงทำ ขาดความกล้าหาญทางจิตสำนึก
แม้จะขาดสติ แต่พฤติกรรมก็ยังเป็นไปจากการกำหนดของจิตใต้สำนึก
หรืออาจเพราะความคับแค้นสะสม ขาดสติ คิดเพียงว่า สถานที่นั้นมีลูกหลานของคนที่ทำให้คับแค้นอยู่
จึงบุกเข้าไปเข่นฆ่าแบบไม่เลือกหน้า พฤติกรรมคล้ายกับทหารคลั่งที่โคราชฆ่าไม่เลือกเพราะตามหาเป้าหมายไม่เจอ
ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสียทุกท่านครับ