สมมุติว่า Ultraman ที่ฉายเมื่อปี 1966 ไม่มีปุ่ม Color Timer ตามฉบับของ อ.นาริตะ โทรุ จะยังคงโด่งดังมาถึงบัดนี้ไหมครับ?



ซีรีย์ Ultraman ในปัจจุบันก็มีอุลตร้าแมนตัวใหม่ออกมาอยู่เรื่อยๆ  แม้จะดีไซน์แปลกใหม่และสีสันสดมากกว่าแต่ก่อน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังทำให้มนุษย์ยักษ์แห่งแสงผู้นี้ยังคงมีเอกลักษณ์ที่คนทั่วไปแค่มองก็รู้แล้วว่านี้คือ Ultraman หนึ่งในนั้นก็คือ Color Timer หรือ ปุ่มสัญญาณไฟนั่นเอง 

 

เมื่ออุลตร้าแมนปรากฏตัวออกมาต่อสู้กับสัตว์ประหลาดหรือมนุษย์ต่างดาวเขาจะมีเวลาต่อสู้ 3 นาที (แต่หลังๆมานี่มากกว่า 3 ชั่วโมง) โดยปกติ Color Timer นั้นจะเป็นสีฟ้า  พอผ่านไปสักพัก Color Timer ก็จะเปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีแดงและกระพริบอย่างต่อเนื่อง   เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าพลังงานใกล้จะหมดแล้ว และเมื่อสัญญาณไฟดับลงเมื่อไหร่ นั่นก็แปลว่าอุลตร้าแมนไม่เหลือพลังที่จะต่อสู้อีกต่อไป




ในคอนเซปต์ดั่งเดิมของอุลตร้าแมนนั้นที่ออกแบบโดย อ.นาริตะ โทรุ นั้นเดิมทีแล้วตัวของอุลตร้าแมนนั้นจะไม่มี Color Timer  แต่ด้วยปัญหาการถ่ายทำเอฟเฟกต์ในสมัยนั้นมีขีดจำกัด เลยทำให้ต้อง Color Timer เป็นการจับเวลาและยังเพิ่มตื่นเต้นในการรับชมอีกด้วย   แต่สำหรับ อ.นาริตะ นั้นไม่พอใจอย่างยิ่งที่เอา Color Timer ไปติดที่หน้าอกและมองว่าไม่ใช่อลุตร้าแมนที่แท้จริง


แม้ อ.นาริตะ แกจะเดินทางไปไปดาวอุลตร้าตั้งแต่ปี 2002  แต่ยี่สิบต่อมาในปี 2022 Shin Ultraman ก็ได้ออกมาโล่นแล่นบนจอเงิน  โดยออกแบบตามฉบับของ อ.นาริตะ ก็คืออุลตร้าแมนจะไม่มี Color Timer 

ถ้าถามว่าก่อนหน้า Shin Ultraman เคยมีอุลตร้าแมนตัวไหนที่ไม่มี Color Timer มาก่อนไหม   




คำตอบก็คือ Ultra Seven หรือที่บ้านเราอาจจะเรียกติดปากว่า อุลตร้าแมน เซเว่น นั่นเอง   


ถึงจะไม่มี Color Timer ตรงหน้าอก แต่ก็มีสัญญาณไฟเตือนอยู่ที่หน้าผากเรียกว่า Beam Lamp ที่สามารถปล่อยท่าไม้ตายอย่าง ลำแสงเอเมเลี่ยม ได้  และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ออกแบบโดย อ.นาริตะ เช่นกันครับ  และปีนี้ก็ครบรอบ 55 ปีของ Ultra Seven 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่