เรื่องจริงในบ้านพักเก่าข้าราชการ

สวัสดีค่ะ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 18 ปีก่อน (ประมาณ พ.ศ. 2547)
ซึ่งเกิดขึ้นกับเราโดยตรง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ
ทุกวันนี้ภาพนี้ยังติดตาเราอยู่ ความรู้สึกเหมือนความรักและผูกพันมากกว่า
ค่อยๆ อ่าน แล้วนึกภาพตามนะคะ เรื่องไม่ยาวเท่าไหร่ แต่เราจำได้แม่นเลย

ย้อนไปประมาณ 18 ปีก่อน ตอนนั้นเราเรียนประมาณ ม.1
พ่อเป็นข้าราชการ ครอบครัวเราพักอยู่บ้านพักข้าราชการ เป็นห้องแถวนะคะ
พ่อ แม่ และน้องสาว นอนด้วยกันห้องหนึ่ง
ส่วนเราและยาย นอนด้วยกันอีกห้องหนึ่ง บ้านไม่กว้างเท่าไหร่
เพราะเป็นบ้านของชั้นผู้น้อย ชั้น 2 ของบ้านเลยต้องแบ่งเป็น 2 ห้อง ตามพื้นที่ที่มีจำกัดเท่านั้น

กิจวัตรประจำวันของครอบครัวเราก็ง่ายๆ ค่ะ
ทุกเช้า 6 โมงครึ่ง พ่อจะมาปลุกเราในห้อง เพื่อให้ลุกไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วไปโรงเรียน
ส่วนแม่ ถ้าวันนั้นมีเข้าเวรดึก ก็ไม่อยู่บ้าน
ส่วนยายตื่นเช้ามาก จะลงมาอยู่ในครัวหรือทำงานบ้านข้างล่างก่อนแล้ว
น้องสาวก็ปล่อยตื่นสาย เพราะตอนนั้นน้องสาวอายุประมาณ 2 ขวบ ยังไม่ได้ไปโรงเรียน

เราอยู่บ้านนี้ตั้งแต่จำความได้ แม่คลอดเราอยู่ รพ. ได้ประมาณ 4 วัน หลังจากนั้นก็เข้ามาอยู่บ้านพักข้าราชการที่นี่เลย
ที่ผ่านมา ไม่เคยมีเหตุการณ์อะไร โดยส่วนตัวเรากลัวผีมาก ด้วยความเป็นเด็กมั้ง
ใครเล่าอะไรให้ฟังก็จะกลัวไปหมด แต่เพราะนอนกับยาย เลยไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่

และมีวันหนึ่ง เช้าวันที่เราต้องไปโรงเรียน
เราไม่รู้นะว่ากี่โมงแล้ว เรานอนหลับๆ ตื่นๆ แบบสะลึมสะลือ
เราเห็นพ่อเราเดินเข้ามาในห้อง แต่งตัวเครื่องแบบเต็มยศ พร้อมจะไปทำงานเหมือนทุกวัน
และเหมือนทุกวันที่พ่อมาปลุกเราทุกเช้า....
พ่อเข้ามาปลุกเรา หอมแก้มลูกสาว ลูบหัวเรา แล้วบอกว่า ยังไม่ตื่นอีก ตื่นสายจัง แล้วก็เดินออกห้องไป
เราคิดว่า วันนี้พ่อเราคงใจดีแน่ๆ ถึงยังไม่ปลุกเรา ให้เราหลับต่อ

ผ่านไปกี่นาทีไม่รู้ เราก็สะดุ้งตื่นแบบตกใจมาก ด้วยเสียงเคาะประตูห้องแบบดังมาก
เราลุกไปเปิดประตู ก็ตกใจ....
พ่อเราในชุดกางเกงขาสั้น เสื้อกล้าม มาเคาะประตูหน้าห้อง วันนี้พ่อตื่นสาย!
ถามเราว่า เรียกตั้งนาน ทำไมไม่ตื่น พ่อไม่ปลุก ทำไมไม่ตื่นเอง จะเป็นสาวแล้วนะ!!!
ชั่วโมงนั้นเราก็ตกใจนะ แล้วก็งงด้วยว่า อ้าว ก็เมื่อกี๊พ่อมาปลุกแล้วไม่ใช่เหรอ
แต่เรายังไม่ได้ถามพ่อนะ ได้แต่เก็บความสงสัยไว้
ไม่มีความรู้สึกกลัวหรืออะไรเลย แค่สงสัยและตกใจ

เราไปโรงเรียนปกติ พอตอนเย็นกลับมาถึงบ้าน
เราเล่าเรื่องตอนเช้าให้ยายฟัง ว่าหนูฝันไป หรือมันเกิดขึ้นจริงๆ
คนแก่เขาเชื่อเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ยายตกใจมาก
บอกว่า หนูคงไม่ได้ฝันหรอก เพื่อนคงมาทัก ยายบอกแบบนี้ เราก็งง
ยายเล่าว่า ตอนหนูเด็กๆ ประมาณ 2 - 3 ขวบ หนูเคยล้มหน้าบ้าน แล้วเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด
ความเชื่อทางเหนือคือ ดูเมื่อ (ดูหมอ ดูร่างทรง)
เขาทักว่า เพื่อนเก่ามาทัก ชาติก่อนเราก็เป็นทหารที่ค่ายแห่งนี้แหละ เพื่อนเก่ามาทักทายเฉยๆ
หลังจากนั้นเราก็ไม่ร้องไห้แบบนั้นอีก เป็นเด็กร่าเริงปกติ

เรื่องแบบนี้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะคะ เราเจอมากับตัว เราเชื่อเต็มร้อย
ทุกวันนี้ เราก็กลับมาทำงานที่นี่ แต่ไม่ได้พักห้องแถวเดิมแล้วนะ
แต่ยังฝันถึงบ่อยมาก เหมือนว่ายังใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น
เราคิดว่า ความรัก ความผูกพัน จากชาติก่อน มีอยู่จริงนะคะ

จบเรื่องเล่าค่ะ ติชมกันได้นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่