🔥ศึกครั้งใหญ่ในตลาด TFEX ที่กำลังส่งผลสำคัญต่อตลาดหุ้น



          แม้ในปีนี้ตลาด TFEX จะไม่มีเหตุการณ์โดดเด่นให้จดจำมากนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะเรียบเฉยเช่นนี้ไปตลอด และในฐานะที่เราเป็นนักลงทุนที่ติดตามข้อมูล TFEX อย่างใกล้ชิด ทำให้พบถึงความผิดปกติบางอย่างที่คาดว่าจะส่งผลต่อทิศทางตลาดในเร็ว ๆ นี้ จึงอยากนำมาบอกเล่าให้กับทุกท่านได้รับรู้และใช้เฝ้าระวังการเคลื่อนไหวการตลาดหุ้นในไตรมาสสุดท้าย ตลอดจนถึงปีหน้าผ่านทางบทความนี้

รูปแสดงปริมาณการซื้อขายรายวันของ SET50 Futures ในปี 2022


ปริมาณการซื้อขาย TFEX โตขึ้นอย่างฉับพลันในไตรมาส 3 

          จากการที่ตลาดหุ้นบ้านเราอยู่ในช่วง Sideway และค่อนข้างซบเซา ทำให้บรรดากูรูและนักวิเคราะห์ต่างแนะนำให้นักลงทุนเล่น TFEX กันมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ทำกำไรขาลง แต่ความหวังดีเหล่านั้นอาจกลายเป็นดาบสองคมที่กำลังจะส่งผลสำคัญต่อตลาดหุ้น เพราะมันทำให้ Volume SET50 Futures ในไตรมาส 3/65 โตขึ้นมาแตะระดับ 255,540 สัญญา/วัน มากกว่าช่วงต้นปีที่มีการซื้อขายเพียง 200,000 สัญญา/วัน โดยสัดส่วนการลงทุนของนักลงทุนยังเดิม คือ ต่างชาติ 38% สถาบัน 17% และรายย่อยมากที่สุด 45% แสดงให้เห็นว่าทุกกลุ่มพร้อมใจกันเทรด SET50 Futures เพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลตัวนึง คือ ...

รูปแสดง Open Interest ของ SET50 Futures รายเดือนปี 2022


ค่า OI ของ SET50 Futures กำลังสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ เม่าแพนิค

          641,645 สัญญา หรือคิดเป็น 122,040 ล้านบาท คือมูลค่าของ OI ใน SET50 Futures ที่สูงสุดและถูกบันทึกไว้ในวันที่ 29 ก.ย. 65 ซึ่งก็คือสัปดาห์ที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่าตอนนี้มีนักลงทุนกำลังเดิมพันทิศทางขึ้น-ลงกันอยู่มากที่สุดนับตั้งแต่ตลาด TFEX เปิดทำการ และแน่นอนว่าเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของราคา กฎ Zero sum game ย่อมทำให้มีฝั่งหนึ่งเป็นผู้ชนะและบีบบังคับให้อีกฝั่งเป็นผู้แพ้ โดยศึกในตลาด TFEX นี้จะถูกตัดสินผลลัพธ์เร็วกว่าที่ทุกคนคาดไว้ เนื่องจากกฎของการใช้ Leverage ทวีคูณผลตอบแทน โดยหากตลาดปรับตัวขึ้นหรือลงแค่ 5%-10% ก็เพียงพอที่ทำให้เรารับรู้ผลแพ้ชนะได้แล้ว แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นได้ยังไง ? มาดูกันครับ

สำหรับท่านใดที่ไม่รู้ว่า OI คืออะไร สามารถทบทวนได้ใน Spoil

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ผู้แพ้จะมีภาระผูกผัน ให้กลับฝั่งในทันที

          ในสมรภูมิทั่วไปฝ่ายพ่ายแพ้อาจจบลงที่การสูญเสียของตัวเองเท่านั้น แต่สำหรับ TFEX คนที่แพ้ยังสร้างภาระให้กับคนอื่นได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อเขาขาดทุนจนยื้อสถานะไว้ไม่ไหว กฎการ Call Margin/Force Close จะบังคับให้เขาต้องปิดสถานะ “โดยการทำตรงข้ามกับตอนเปิด” (Long ไว้ต้อง Short กลับ หรือ Short ไว้ต้อง Long กลับ) มันจึงเป็นการซ้ำเติมฝั่งเดิมที่กำลังทนอยู่ และแตกพ่ายกันไปเป็นทอด ๆ ซึ่งนี่จึงเป็นเหตผลที่ทำให้ตลาดหุ้นมัก Panic ต่อทุกครั้งเมื่อเห็นการปรับตัวลงแรงหรือขึ้นแรง โดยยิ่งมี OI ที่เกิดจากนักลงทุนหน้าใหม่ที่ไม่ค่อยวางเงินเผื่อ ก็จะยิ่งทำให้ปฏิกิริยาลูกโซ่ที่เกิดขึ้นง่ายและเร็วขึ้น ซึ่งจากประวัติที่ผ่านมา OI กับการเคลื่อนไหวของตลาดล้วนแล้วแต่สอดคล้องกันมาโดยตลอด ทุกท่านสามารถดูได้จากหลักฐานตามตัวอย่างดังนี้

รูปแสดงการเคลื่อนไหวของดัชนี SET และ OI SET50 Futures ปี 2020


ค่า OI ลดลงทุกครั้งที่ตลาดมีเทรน(ทั้งขึ้นและลง) และจะเพิ่มขึ้นเมื่อตลาด Sideway เม่าเนิร์ด

          จากรูปจะเห็นว่าช่วงต้นปี 2020 (ก.พ.-มี.ค.) ที่ตลาดหุ้นไทย Panic ลงหนักจาก 1600 มาแตะระดับ 1000 จุด สอดคล้องกับค่า OI ที่ลดลงจาก 400,000 สัญญามาแตะเหลือเพียง 200,000 สัญญา ซึ่งถือเป็นชัยชนะของคนถือสถานะ Short ที่ได้กำไรและบีบบังคับให้คนที่ Long ไว้ต้อง Close Position ออกจากตลาดเสริมแรงขายในตลาดช่วงนั้นจนเกิด Circuit Breaker ไปถึง 3 หน จากนั้นพอทุกอย่างสงบลง นักลงทุนก็เริ่มสะสมสถานะเดิมพันกันอีกครั้งจน OI ขึ้นไปยืนเหนือระดับ 400,000 สัญญา และในช่วงปลายปีก็ได้เกิดเหตุการณ์แบบเดิม แต่คราวนี้กลับเป็นชัยชนะของฝั่ง Long Position เนื่องจากตลาดปรับตัวเป็นขาขึ้น ส่งผลให้พวกคนที่ Short ไว้ต้อง Close Position ทำให้ OI ลดลงเหลือ 300,000 สัญญา ผลักดันให้เดือน พ.ย.ดัชนี SET บวกไปถึง 200 จุด สร้างความงุนงงให้กับนักลงทุนทั้งประเทศในขณะนั้นตามกระทู้ที่เราเลยตั้งไว้ 

ผมขาดทุนหมดตัวจากตลาด TFEX ครับ => https://ppantip.com/topic/40324826

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ถ้าเกิดขึ้นเหตุการณ์นี้ขึ้นอีกจะต้องทำอย่างไร ?

          สิ่งแรกคือต้องไม่ฝืนตลาดและปล่อยให้ฝั่งที่แพ้ถูกล้างสถานะจนจบ โดยสังเกตได้จากการที่ราคาจะต้องไม่ทำจุดสูงสุด/ต่ำสุดใหม่ ณ ตอนปิดตลาด 2-3 วันติดกัน เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีคนโดนบังคับปิดสถานะเพิ่ม จากนั้นให้หาจังหวะในการซื้อ/ขายเพื่อเล่นรอบใหม่กันอีกครั้ง แม้ว่าในตอนนั้นมันจะข่าวต่างๆ ตามหลังมาให้เรา Panic ทางความคิด แต่ทุกท่านต้องพึงระลึกเสมอว่า การขึ้น/ลงแรงในแต่ละรอบจะมีส่วนผสมของเกมการเงินเรื่องนี้เสมอ และนี้คือเหตผลที่เรามักเห็นตลาดหุ้นพอลงไปได้สักพักก็มีการดีดกลับสวนข่าวร้าย และดีดขึ้นมาก็สักพักก็ถูกทุบลงต่อสลับกันอยู่ตลอดเวลา  

          สรุปแล้วเรื่องของ OI ในตลาด TFEX เป็นทั้งวัฏจักรและเป็นทั้งเครื่องมือที่กระตุ้นให้ตลาดและเจ้ามือใช้สร้างจังหวะการขึ้น-ลงของตลาดหุ้นไทย โดยในช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ค่า OI พีคขึ้นมาถึงจุดสูงสุด และเข้าใกล้สิ้นปีที่มักจะมีรอบของการทำกำไร(ขาดทุน)ใหญ่ๆ แต่ก็คงไม่มีใครสามารถชี้ชัดได้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ และถ้าเกิดจะเกิดฝั่งไหน,วันใด เพราะต้องขึ้นอยู่กับทั้งจังหวะตลาดรวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น สถานการณ์รอบบ้าน แต่ถ้ามันเกิดขึ้นเราหวังว่าบทความนี้จะช่วยลดความเสียหายและช่วยให้นักลงทุนใช้จังหวะนั้นสร้างกลยุทธ์ทำประโยชน์ให้กับตัวเองได้มากที่สุด        

          สุดท้ายนี้พวกเรายังมีข้อมูลความรู้อีกมากที่อยากนำมาบอกเล่าให้กับทุกท่านได้ฟัง ทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับตลาด TFEX และส่วนที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น โดยเน้นการวิเคราะห์ Data Analytics อ้างอิงจากข้อมูลและสถิติมากกว่าเพียงคาดการณ์ตามประสบการณ์ หากใครมีมุมมองแนวคิดเช่นเดียวกันสามารถมาร่วมพูดคุยกันได้นะครับ โดยจะนำทั้งหมดมาแชร์ให้ฟังตลอดไตรมาสนี้ ฝากเป็นกำลังใจให้เราด้วยการติดตามและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลที่เรามอบให้จะเป็นมีประโยชน์กับนักลงทุนทุกท่าน ขอบคุณครับ

Credit : https://www.facebook.com/tfexforfuture

ร่วมพูดคุยทิศทางราคาหุ้น&TFEX ได้ที่

Line OpenChat : TFEX For Future  
 

  
https://line.me/ti/g2/btLW138AZRRYIUeuCe-5GQ

พาพันขอบคุณ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่