ส่วนตัวแล้วไม่เคยเทรด TFEX
จากบทความนี้ เท่ากับต่างชาติไม่ได้สะสมยอด short หุ้น แต่เป็นการปิด long ที่สะสมไว้
ดังนั้น ตอนนี้ยังถือว่าไม่น่ากลัวเท่าไหร่ จนกว่าเขาจะปิดสัญญาทั้งหมด แล้วเริ่มสะสมยอด short จริงๆ(เป็นแบบนี้หรือเปล่าครับ?)
ผิดหรือถูกอย่างไร เพื่อนๆ แนะนำด้วยครับ
KASIKORN SECURITIES
19 September 2017
Art of Strategy : การเปิด Short ของนักลงทุนต่างประเทศยังไม่ใช่สัญญาณลบที่น่ากังวล โดยตลาดยังมีแรงหนุนจากจิตวิทยาเชิงบวกการปรับเป้าหมาย SET Index ของ Consensus และแรงซื้อ LTF KS Research ยังคงคำแนะนำ ขึ้นถือ ลงซื้อ (คาดว่า SET จะพักตัวไม่ต่ำกว่า 1,640 จุด) เพื่อทำกำไรที่เป้าหมายระยะสั้น 1,700 จุด วันนี้เลือก PTTEP KTB และ MAJOR เป็น Top Picks
ใน ► การเปิด Short ใน SET50 Futures ของนักลงทุนต่างประเทศ ยังไม่ควรกังวลมากนัก : นักลงทุนต่างประเทศเปิด Short ใน SET50 Futures อย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้ยังคง Short สุทธิอีก 1.31 หมื่นสัญญา (เป็นการ Short 11 จาก 15 วัน หลังสุดสะสมกว่า 1.38 แสนสัญญา) สวนทางกับการเข้าซื้อของนักลงทุนต่างประเทศใน SET 13 จาก 15 วันหลังสุด 2.09 หมื่นล้านบาท
การ Short ของนักลงทุนต่างประเทศ แม้จะเป็นพฤติกรรมที่ผิดไปจากเดิม แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะเป็นสัญญาณลบที่รุนแรง เนื่องจากตั้งแต่ต้นปี 2559 – 28 ส.ค.60 นักลงทุนต่างประเทศมีการเปิด Long สะสม และ Rollover ในทุกๆปลายไตรมาสมาโดยตลอด จนทำให้ยอด Long สะสมสูงถึง 2.49 แสนสัญญา ซึ่งการเปิด Short ในช่วงที่ผ่านมาได้ทำให้ยอด Long สะสมลงมาเหลือ 1.11 แสนสัญญา ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ว่าการ Short ของต่างชาติจะมีบางส่วนเป็นการเปิดสถานะใหม่ เมื่อดูที่สถานะคงค้าง (SET50 Futures ปัจจุบันอยู่ที่ 4.32 แสนสัญญา เพิ่มขึ้นจาก 28 ส.ค.60 2.27 หมื่นสัญญา (โดยเกิดจากการปิดสถานะใน S50U17 และมาเปิด Short ใน S50Z17 โดยดูได้จาก OI ของ S50U17 ที่ปรับลดลง 6.59 พันสัญญา ขณะที่ OI ของ S50Z17 เพิ่มขึ้น 2.39 หมื่นสัญญา)
ระดับการเปิดสถานะ Short ใน S50Z17 ของต่างชาติ ยังไม่เป็นระดับที่สูงจนน่ากังวลมากนัก จุดที่ต้องเฝ้าระวังจริงๆคือ สถานะ Long สะสมตั้งแต่ต้นปี 2559 – ปัจจุบัน กว่า 1.11 แสนสัญญา จะมีการ Rollover เกิดขึ้นในปลายไตรมาส 3 ที่จะถึงนี้หรือไม่ หากนักลงทุนต่างประเทศไม่ Rollover หรือเปิด Short สุทธิอย่างหนักในช่วงที่เหลือของเดือน ก.ย. จนทำให้ยอด Long ลดลงต่ำมากๆ จะเป็นสัญญาณลบที่บ่งบอกถึงความเสี่ยงที่นักลงทุนต่างชาติจะพลิกไปขายสุทธิใน SET
► การปรับเป้าหมาย SET Index ของ Consensus รวมไปถึงการรอซื้อ LTF จะทำให้พื้นที่การปรับฐานของ SET Index มีจำกัด : นอกจากที่ KS Research ได้ตั้งเป้าหมายสิ้นปี 2561 ที่ 1,760 จุด (KS Research ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุนไตรมาส 4 ปี 2560 ไปเมื่อวานนี้ 18 ก.ย.60) ยังบอกว่า Consensus เองก็มีการปรับไปใช้เป้าหมาย SET Index ปี 2561 เช่นกัน โดยอยู่ในกรอบ 1,740 – 1,900 จุด
ตามปกติแล้ว Consensus จะมีการเป้าหมาย SET Index เป็นปีถัดไป ในทุกๆปลายงวดไตรมาส 3 โดยจะรวมถึงการปรับมูลค่าพื้นฐานของหุ้นรายตัวไปใช้ในปีถัดไปเช่นกัน ซึ่งจะส่งผลให้ Upside เมื่อเทียบกับมูลค่าพื้นฐานใหม่ของบริษัทส่วนใหญ่สูงขึ้น เป็นจิตวิทยาเชิงบวกให้นักลงทุนเข้าซื้อสะสมเพิ่ม หรือทำให้นักลงทุนที่ขายหุ้นไปก่อนหน้ากลับเข้ามาซื้อใหม่จาก Upside ที่เปิดกว้างจนน่าสนใจ มองพฤติกรรมดังกล่าวจะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เกิดแรงซื้อเมื่อดัชนีมีการปรับฐาน นอกจากนั้น SET กำลังเข้าสู่ช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี จะทำให้เกิดแรงซื้อ LTF เข้ามารับช่วงดัชนีอ่อนตัวลง ทั้งหมดจะทำให้ภาพการปรับฐานของ SET Index มีพื้นที่จำกัด
KS Research ยังคงคาดว่า SET Index จะมีการพักฐานในระดับไม่ต่ำกว่า 1,640 จุด ซึ่งจะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสม เพื่อไปทำกำไรที่เป้าหมายระยะสั้น 1,700 จุด (คาดว่าจะไปทดสอบได้ก่อนสิ้นปี 2560) โดยเน้นในกลุ่มหุ้น Laggard PTTEP KTB JWD MTLS CPALL STEC และ KCE และ กลุ่มหุ้นที่ยังไม่ได้ตอบสนองต่อผลประกอบการที่ดีขึ้น ASK BDMS CENTEL NTV MAJOR UNIQ (KS Research ไม่ได้ออกบทวิเคราะห์) ส่วนนักลงทุนระยะยาวยังคงแนะนำกลยุทธ์ ขึ้นถือ ลงซื้อ KTB JWD BJC HMPRO STEC MTLS SPALI TICON KCE CPALL WHA SYNTEC TMT MCS (SYNTEC TMT MCS WHA KS Research ไม่ได้ออกบทวิเคราะห์) เพื่อ Let Profit Run
กลยุทธ์การลงทุน
วันนี้ SET Index จะพักตัวเล็กน้อยในกรอบ 1,660 – 1,670 จุด เน้นขึ้นถือ ลงซื้อ วันนี้ยังเลือกห้นกลุ่มหุ้นที่ Laggard แต่มี Earning Momentum PTTEP KTB และ MAJOR (MAJOR KS Research ไม่ได้ออกบทวิเคราะห์) อื่นๆยังให้ถือ JWD BJC HMPRO STEC MTLS SPALI TICON KCE CPALL WHA SYNTEC TMT MCS (SYNTEC TMT MCS WHA KS Research ไม่ได้ออกบทวิเคราะห์) Let Profit Run
Prakit Sirivattanaket
Strategist
Kasikorn Securities
TFEX การเปิด Short ใน SET50 Futures ของนักลงทุนต่างประเทศ ยังไม่ควรกังวลมากนัก
จากบทความนี้ เท่ากับต่างชาติไม่ได้สะสมยอด short หุ้น แต่เป็นการปิด long ที่สะสมไว้
ดังนั้น ตอนนี้ยังถือว่าไม่น่ากลัวเท่าไหร่ จนกว่าเขาจะปิดสัญญาทั้งหมด แล้วเริ่มสะสมยอด short จริงๆ(เป็นแบบนี้หรือเปล่าครับ?)
ผิดหรือถูกอย่างไร เพื่อนๆ แนะนำด้วยครับ
KASIKORN SECURITIES
19 September 2017
Art of Strategy : การเปิด Short ของนักลงทุนต่างประเทศยังไม่ใช่สัญญาณลบที่น่ากังวล โดยตลาดยังมีแรงหนุนจากจิตวิทยาเชิงบวกการปรับเป้าหมาย SET Index ของ Consensus และแรงซื้อ LTF KS Research ยังคงคำแนะนำ ขึ้นถือ ลงซื้อ (คาดว่า SET จะพักตัวไม่ต่ำกว่า 1,640 จุด) เพื่อทำกำไรที่เป้าหมายระยะสั้น 1,700 จุด วันนี้เลือก PTTEP KTB และ MAJOR เป็น Top Picks
ใน ► การเปิด Short ใน SET50 Futures ของนักลงทุนต่างประเทศ ยังไม่ควรกังวลมากนัก : นักลงทุนต่างประเทศเปิด Short ใน SET50 Futures อย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้ยังคง Short สุทธิอีก 1.31 หมื่นสัญญา (เป็นการ Short 11 จาก 15 วัน หลังสุดสะสมกว่า 1.38 แสนสัญญา) สวนทางกับการเข้าซื้อของนักลงทุนต่างประเทศใน SET 13 จาก 15 วันหลังสุด 2.09 หมื่นล้านบาท
การ Short ของนักลงทุนต่างประเทศ แม้จะเป็นพฤติกรรมที่ผิดไปจากเดิม แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะเป็นสัญญาณลบที่รุนแรง เนื่องจากตั้งแต่ต้นปี 2559 – 28 ส.ค.60 นักลงทุนต่างประเทศมีการเปิด Long สะสม และ Rollover ในทุกๆปลายไตรมาสมาโดยตลอด จนทำให้ยอด Long สะสมสูงถึง 2.49 แสนสัญญา ซึ่งการเปิด Short ในช่วงที่ผ่านมาได้ทำให้ยอด Long สะสมลงมาเหลือ 1.11 แสนสัญญา ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ว่าการ Short ของต่างชาติจะมีบางส่วนเป็นการเปิดสถานะใหม่ เมื่อดูที่สถานะคงค้าง (SET50 Futures ปัจจุบันอยู่ที่ 4.32 แสนสัญญา เพิ่มขึ้นจาก 28 ส.ค.60 2.27 หมื่นสัญญา (โดยเกิดจากการปิดสถานะใน S50U17 และมาเปิด Short ใน S50Z17 โดยดูได้จาก OI ของ S50U17 ที่ปรับลดลง 6.59 พันสัญญา ขณะที่ OI ของ S50Z17 เพิ่มขึ้น 2.39 หมื่นสัญญา)
ระดับการเปิดสถานะ Short ใน S50Z17 ของต่างชาติ ยังไม่เป็นระดับที่สูงจนน่ากังวลมากนัก จุดที่ต้องเฝ้าระวังจริงๆคือ สถานะ Long สะสมตั้งแต่ต้นปี 2559 – ปัจจุบัน กว่า 1.11 แสนสัญญา จะมีการ Rollover เกิดขึ้นในปลายไตรมาส 3 ที่จะถึงนี้หรือไม่ หากนักลงทุนต่างประเทศไม่ Rollover หรือเปิด Short สุทธิอย่างหนักในช่วงที่เหลือของเดือน ก.ย. จนทำให้ยอด Long ลดลงต่ำมากๆ จะเป็นสัญญาณลบที่บ่งบอกถึงความเสี่ยงที่นักลงทุนต่างชาติจะพลิกไปขายสุทธิใน SET
► การปรับเป้าหมาย SET Index ของ Consensus รวมไปถึงการรอซื้อ LTF จะทำให้พื้นที่การปรับฐานของ SET Index มีจำกัด : นอกจากที่ KS Research ได้ตั้งเป้าหมายสิ้นปี 2561 ที่ 1,760 จุด (KS Research ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุนไตรมาส 4 ปี 2560 ไปเมื่อวานนี้ 18 ก.ย.60) ยังบอกว่า Consensus เองก็มีการปรับไปใช้เป้าหมาย SET Index ปี 2561 เช่นกัน โดยอยู่ในกรอบ 1,740 – 1,900 จุด
ตามปกติแล้ว Consensus จะมีการเป้าหมาย SET Index เป็นปีถัดไป ในทุกๆปลายงวดไตรมาส 3 โดยจะรวมถึงการปรับมูลค่าพื้นฐานของหุ้นรายตัวไปใช้ในปีถัดไปเช่นกัน ซึ่งจะส่งผลให้ Upside เมื่อเทียบกับมูลค่าพื้นฐานใหม่ของบริษัทส่วนใหญ่สูงขึ้น เป็นจิตวิทยาเชิงบวกให้นักลงทุนเข้าซื้อสะสมเพิ่ม หรือทำให้นักลงทุนที่ขายหุ้นไปก่อนหน้ากลับเข้ามาซื้อใหม่จาก Upside ที่เปิดกว้างจนน่าสนใจ มองพฤติกรรมดังกล่าวจะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เกิดแรงซื้อเมื่อดัชนีมีการปรับฐาน นอกจากนั้น SET กำลังเข้าสู่ช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี จะทำให้เกิดแรงซื้อ LTF เข้ามารับช่วงดัชนีอ่อนตัวลง ทั้งหมดจะทำให้ภาพการปรับฐานของ SET Index มีพื้นที่จำกัด
KS Research ยังคงคาดว่า SET Index จะมีการพักฐานในระดับไม่ต่ำกว่า 1,640 จุด ซึ่งจะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสม เพื่อไปทำกำไรที่เป้าหมายระยะสั้น 1,700 จุด (คาดว่าจะไปทดสอบได้ก่อนสิ้นปี 2560) โดยเน้นในกลุ่มหุ้น Laggard PTTEP KTB JWD MTLS CPALL STEC และ KCE และ กลุ่มหุ้นที่ยังไม่ได้ตอบสนองต่อผลประกอบการที่ดีขึ้น ASK BDMS CENTEL NTV MAJOR UNIQ (KS Research ไม่ได้ออกบทวิเคราะห์) ส่วนนักลงทุนระยะยาวยังคงแนะนำกลยุทธ์ ขึ้นถือ ลงซื้อ KTB JWD BJC HMPRO STEC MTLS SPALI TICON KCE CPALL WHA SYNTEC TMT MCS (SYNTEC TMT MCS WHA KS Research ไม่ได้ออกบทวิเคราะห์) เพื่อ Let Profit Run
กลยุทธ์การลงทุน
วันนี้ SET Index จะพักตัวเล็กน้อยในกรอบ 1,660 – 1,670 จุด เน้นขึ้นถือ ลงซื้อ วันนี้ยังเลือกห้นกลุ่มหุ้นที่ Laggard แต่มี Earning Momentum PTTEP KTB และ MAJOR (MAJOR KS Research ไม่ได้ออกบทวิเคราะห์) อื่นๆยังให้ถือ JWD BJC HMPRO STEC MTLS SPALI TICON KCE CPALL WHA SYNTEC TMT MCS (SYNTEC TMT MCS WHA KS Research ไม่ได้ออกบทวิเคราะห์) Let Profit Run
Prakit Sirivattanaket
Strategist
Kasikorn Securities