การคลุมศีรษะในสังคมอรับนั้นมีมาก่อนอัลกุรอานเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแต่งกายตามประเพณีอรับในสมัยค้าทาสมนุษย์ตลอดลงมาจนถึงสมัยเริ่มต้นของอิสลาม (อัลกุรอาน) การคลุมหัวของสตรีในสมัยนั้น เป็นการแบ่งชั้นวรรณะระหว่างหญิงอิสระและทาสหญิง หญิงอิสระจะสวม ผ้าคลุมหัวเรียกว่า "คิมัร" ส่วนหญิงทาสนั้นห้ามไม่ให้คลุมหัวถึงแม้ว่าเวลาทำละหมาดก็เช่นกัน, สตรีอรับในสมัยเริ่มต้นอิสลาม เมื่ออยู่ในบ้านปกปิดร่างกายตั้งแต่สะดือไปถึงหัวเข่า ด้วยเหตุนี้ อัลกุรอานจึงมีบัญญัติเกี่ยวกับการแต่งกาย และการวางตัวสำหรับหญิงและชายมุสลิมไว้อย่างชัดเจน ในบัญญัติที่ 24:30 สำหรับชายมุสลิม และ บัญญัติ 24:31 สำหรับหญิงมุสลิม
คำว่า " خِمار คิมาร" นี้หมายถึงสิ่งปกคลุม หรือผ้าคลุม แต่ในที่นี้หมายถึง ผ้าคลุมหัว ที่ใช้กันทั่วไปโดยชาวอาหรับก่อนและหลังการถือกำเนิดของศาสนาอิสลาม ส่วนใหญ่ เท่าที่ทราบนักโบราณคดีได้ชี้ให้เห็นว่า คิมารหรือผ้าคลุมหัวนี้ สวมใส่ในยุคก่อนอิสลามเปรียบเสมือนเครื่องประดับ เป็นแฟชั่นที่แพร่หลายในสมัยนั้น เป็นผ้าคลุมตั้งแต่หัวลงมา ถึงหัวไหล่ทั้งสองข้างปล่อยชายผ้าไปคลุมแผ่นหลังและเปิดส่วนหน้าอกเปลือยเปล่า เช่นใน ภาพที่ ๑
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้وَقُلْ لِلْمُؤْمِنَاتِ يَغْضُضْنَ مِنْ أَبْصَارِهِنَّ وَيَحْفَظْنَ فُرُوجَهُنَّ وَلَا يُبْدِينَ زِينَتَهُنَّ إِلَّا مَا ظَهَرَ مِنْهَا ۖ وَلْيَضْرِبْنَ بِخُمُرِهِنَّ عَلَىٰ جُيُوبِهِنَّ ۖ وَلَا يُبْدِينَ زِينَتَهُنَّ إِلَّا لِبُعُولَتِهِنَّ أَوْ آبَائِهِنَّ أَوْ آبَاءِ بُعُولَتِهِنَّ أَوْ أَبْنَائِهِنَّ أَوْ أَبْنَاءِ بُعُولَتِهِنَّ أَوْ إِخْوَانِهِنَّ أَوْ بَنِي إِخْوَانِهِنَّ أَوْ بَنِي أَخَوَاتِهِنَّ أَوْ نِسَائِهِنَّ أَوْ مَا مَلَكَتْ أَيْمَانُهُنَّ أَوِ التَّابِعِينَ غَيْرِ أُولِي الْإِرْبَةِ مِنَ الرِّجَالِ أَوِ الطِّفْلِ الَّذِينَ لَمْ يَظْهَرُوا عَلَىٰ عَوْرَاتِ النِّسَاءِ ۖ وَلَا يَضْرِبْنَ بِأَرْجُلِهِنَّ لِيُعْلَمَ مَا يُخْفِينَ مِنْ زِينَتِهِنَّ ۚ وَتُوبُوا إِلَى اللَّهِ جَمِيعًا أَيُّهَ الْمُؤْمِنُونَ لَعَلَّكُمْ تُفْلِحُونَ {31}
{24:31} และจงกล่าวแก่หญิงผู้ศรัทธา (หญิงมุสลิม) เขาทั้งหลายควรที่จะลดสายตาลง (ไม่จ้อง/สบสายตา) และเหล่าสตรีจะต้องรักษาความบริสุทธิ์ของพวกนาง (อย่าหลับนอนกับชายก่อนแต่งงาน) และจะต้องไม่ อวดทรวดทรง (ที่มีเสน่ห์) ของนาง เว้นแต่ สิ่งที่เปิดเผยได้ตามปกติ และจงให้เธอรวบผ้าที่คลุมหัวนางมาปิดทรวงอกของนาง และจงอย่าเปิดเผยส่วนของร่างกายที่มีเสน่ห์ให้ผู้ใดเห็น เว้นแต่สามีและพ่อของพวกนาง หรือพ่อของสามี หรือลูกชายของพวกนาง หรือลูกชายของสามีนาง หรือทาสีของพวกนาง หรือเหล่าทาสชายที่ไม่มีความปรารถนาในเพศหญิง หรือพวกเด็กๆ ที่ยังไร้เดียงสาต่อส่วนของร่างกายหญิงในร่มผ้า และจงอย่าให้พวกนางเดินกระแทกส้นเท้า เพื่อที่จะให้เห็นทรวดทรงของนาง และพวกนางจงหันห้าเข้าสู่องอัลลอฮ์ โอ้ผู้ศรัทธาเอ๋ยเพื่อว่าพวกเจ้าจะได้ประสพความสำเร็จ
ภาพที่ ๑
การแต่งกายเปิดทรวงอกของผู้หญิงอรับก่อนอัลกุรอานบัญญัติ 24:31 จะถูกประทานมา
ดังนั้นคำสั่งในอัลกุรอานบัญญัติที่ 24:31 ที่ว่า และจงบอกแก่บรรดาสตรีผู้มีศรัทธา ให้พวกนางลดสายตาของพวกนางลงต่ำ และให้พวกนางรักษาอวัยวะเพศของพวกนาง และอย่าเปิดเผยเครื่องประดับของพวกนาง เว้นแต่สิ่งที่พึงเปิดเผยได้ และ
พวกนางจงดึงรวบผ้าคลุมศีรษะของนางมาปิดทรวงอกของนางและอย่าให้นางเปิดเผยเครื่องประดับของพวกนาง เว้นแต่แก่สามีของพวกนาง หรือบิดาของพวกนาง หรือบิดาของสามีของพวกนาง หรือบุตรชายของพวกนาง หรือบุตรชายของสามีของพวกนาง หรือพี่ชายน้องชายของพวกนาง หรือบุตรชายของพี่ชายน้องชายของพวกนาง หรือบุตรชายของพี่สาวน้องสาวของพวกนาง หรือพวกผู้หญิงของพวกนาง หรือ(ทาสและทาสี)ที่มือขวาของพวกนางครอบครอง หรือคนรับใช้ผู้ชายที่ไม่มีความรู้สึกทางเพศ หรือเด็กที่ยังไม่รู้เรื่องอวัยะพึงสงวนของผู้หญิง และนางอย่าเคาะเท้าของตน เพื่อให้เป็นที่รู้ว่าเครื่องประดับที่พวกนางปกปิดอยู่ และพวกเธอทั้งหลายจงขอลุแก่โทษต่ออัลลอหฺเถิด ดูกร บรรดาผู้มีศรัทธา! เพื่อว่าพวกเธอจะได้รับชัยชนะ ดังที่เห็นในภาพที่ ๒
ภาพที่ ๒
จะเห็นว่าในบัญญัติที่ 24:31 นี้มีคำสั่งอย่างชัดเจนให้สตรีมุสลิมปิดทรวงอกด้วยผ้าคลุมหัวของนางซึ่งมีสวมอยู่บนหัวนางแล้วตามประเพณีการแต่งกายของหญิงอรับ เพื่อชี้ให้เห็นว่าทรวงอกของหญิงเป็นอวัยวะที่ต้องปกปิด จะปกปิดด้วยอะไรก็ได้ แต่เป็นสิ่งที่จะให้สาธารณชนเห็นไม่ได้ ไม่มีข้อความใดในบัญญัตินี้ว่าให้สตรีคลุมหัว
มีอีกบัญญัติหนึ่งที่เกี่ยวกับการแต่งกาย
يَا أَيُّهَا النَّبِيُّ قُلْ لِأَزْوَاجِكَ وَبَنَاتِكَ وَنِسَاءِ الْمُؤْمِنِينَ يُدْنِينَ عَلَيْهِنَّ مِنْ جَلَابِيبِهِنَّ ۚ ذَٰلِكَ أَدْنَىٰ أَنْ يُعْرَفْنَ فَلَا يُؤْذَيْنَ ۗ وَكَانَ اللَّهُ غَفُورًا رَحِيمًا {59}
{33:59} ดูกร นบี! จงกล่าวแก่บรรดาภริยาของเธอ และบุตรสาวของเธอ และบรรดาสตรีของบรรดาผู้มีศรัทธา ให้พวกนางดึงเสื้อคลุมของตนลงมาปิดร่างของตน นั่นเป็นการเหมาะสมกว่าที่นางจะเป็นที่รู้จัก เพื่อที่พวกนางจะไม่ถูกรบกวน และอัลลอหฺทรงเป็นพระผู้ทรงอภัย พระผู้ทรงปรานีเสมอ
บัญญัตินี้แสดงให้เห็นว่าหญิงที่ดีนั้น จะต้องสวมเสื้อให้ปกปิดร่างกายส่วนที่ไม่สมควรเปิดเผย คือไม่ใส่เสื้อคอกระเช้าตัวเดียว หรือ ใส่เสื้อหรือกระโปรงที่สั้นเต่อ ออกนอกบ้าน หรือเมื่ออยู่กับคนแปลกหน้าที่ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน, จะต้องมีเสื้อคลุมอีกชั้นหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องแต่งตัวเป็นหญิงอรับ คลุมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า แต่งตัวอย่างสุภาพให้เป็นที่นับถือของผู้พบเห็น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บัญญัติที่ 33:59
"บทอัล-อะหซาบ อายะที่ 59 "โอ้ผู้เป็นศาสนทูต จงกล่าวต่อบรรดาคู่ครองของเจ้า บรรดาบุตรสาวของเจ้า และบรรดาสตรีศรัทธาชนทั้งหลาย ให้พวกนางดึงเสื้อคลุมของนางลงมาคลุมร่างของพวกนาง นั่นเป็นสิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดที่พวกนางจะถูกรู้จัก (จากผู้อื่นว่านางเป็นหญิงดี) และพวกนางก็จะไม่ถูกรังแก"
ในบัญญัตินี้ ไม่มีคำสั่งให้ "ปิดใบหน้า" แต่มีคำสั่ง ว่า เมื่อเวลาจะออกจากบ้านหรือเดินทาง "ให้ใช้เสื้อคลุมๆชั้นนอกทับเสื้อผ้าธรรมดาชั้นในอีกชั้นหนึ่ง อย่างเช่นเสื้อกันฝน, หรือเสื้อ กันหนาว ทั้งนี้เพื่อ ไม่ให้เห็น ทรวดทรงของหญิง ซึ่งไม่จำกัดอยู่ว่า จะต้องแต่งกายคลุมอย่างผู้หญิงอรับ (ตามประเพณีการแต่งกายของหญิงอรับ ทั้งมุสลิมและไม่ใช่มุสลิม)
يَا أَيُّهَا النَّبِيُّ قُلْ لِأَزْوَاجِكَ وَبَنَاتِكَ وَنِسَاءِ الْمُؤْمِنِينَ يُدْنِينَ عَلَيْهِنَّ مِنْ جَلَابِيبِهِنَّ ۚ ذَٰلِكَ أَدْنَىٰ أَنْ يُعْرَفْنَ فَلَا يُؤْذَيْنَ ۗ وَكَانَ اللَّهُ غَفُورًا رَحِيمًا
ในบัญญัตินี้มีอยู้ 3 คำ ที่จะต้องพิจารณา
يُدْنِينَ عَلَيْهِنَّ مِنْ جَلَابِيبِهِنَّ = เอาเสื้อมาคลุม(ร่างกาย)
يُدْنِينَ จงดึง (เขาดึงมาใกล้)
عَلَيْهِنَّ คลุมบนตัว
جَلَابِيبِهِنَّ เสื้อคลุมช้นนอก
........
ฮิญาบไม่ใช่ Uniform ที่ อัลลออ์ตะอาลา กำหนดให้มุสลิม พระองค์ให้หลักการสำหรับมุสลิมในเรื่องมารยาทระหว่างเพศและการแต่งตัว ที่สุภาพทั้งหญิงและชาย
การบังคับให้สตรีมุสลิมสวม ฮิญาบและจะต้องสวมอย่างไรนั้น, มันเป็นเรื่องของมนุษย์ที่กำหนดขึ้น ไม่ใช่บัญญัติของพระเจ้า และฮิญาบไม่ใช่หลักการของศาสนาอิสลาม แต่เป็นประเพณีอรับ
ถ้าเมื่อใดก็ตามมุสลิมมะห์ มีความรู้สึกว่า ถ้าตัวเองไม่สวมฮิญาบแล้ว, ตัวเองจะขาดความมั่นใจในความเป็นมุสลิมของเธอ, แสดงว่า เธอได้หันความศรัทธาของเธอไปอยู่ที่ ผ้าคลุมศรีษะ ซึ่งกลายเป็น IDOL ของความศรัทธาในอิสลามไปเสียแล้ว
การสวมฮิญาบนี้ เป็นเหตุผลในความเชื่อตามลัทธิของแต่ละนิกายหนึ่งๆ จากหลายๆนิกาย ในศาสนาอิสลามมากกว่า, เป็น "หลักการของศาสนาอิสลาม" เหตุผลที่นำมาอ้าง ว่าสามารถป้องกันการลวนลาม หรือ การข่มขืน จากเพศตรงข้ามนั้น ไม่เป็นความจริง, ยิ่งการสวมฮิญาบตามแฟชั่น แล้ว เป็นเรื่องของการต่อเติมศาสนาไป
ที้งนี้เนื่องจากว่า ศาสนาอิสลามได้ มี กฏโดยทั่วไปในการแต่งกายของญิงและชาย ,ในสังคมไทยเรา ผู้หญิงไทยทุกๆคนทุกๆสมัยสอนให้สงวนตัวไม่ว่าจะในศาสนาใดก็ตาม ซึ่งเป็นธรรมเนียมไทยอยู่แล้ว ส่วนเรื่องคนเลวนั้นไม่ว่าหญิงและชายย่อมมีการฝ่าฝืนระเบียบแบบแผนจารีตประเพณีเสมอ ในทุกๆสังคม
ที่เห็นในภาพข้างบนนี้เป็นภาพที่แสดงถึงการแต่งตัวของหญิงอรับ ในสมัย ก่อนและในระยะเริ่มต้นของศาสนาอิสลาม สำหรับสตรีมุสลิมที่ไม่ใช่ชาวอรับ เช่น หญิงไทย ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องคลุมหัวเพราะ การคลุมหัวไม่มีในหลักศรัทธาของศาสนาอิสลาม และไม่มีการบังคับตามหลักการของศาสนาอิสลาม ซึ่งใช้อัลกุรอานเป็นหลักการปฏิบัติที่สูงสุดที่ ยกเลิกเอกสารต่างๆที่นำมาอ้างอิงว่าเป็นหลักการของศาสนาอิสลาม
ศาสนาอิสลามกำหนดให้หญิงและชาย แต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย ไม่ประเจิดประเจ้อ ให้ถูกกาละเทศะ ไม่รัดรูป จนเห็นทรวดทรงของร่างกาย หรือแต่งกายในเชิงยั่วยวนอารมณ์ทางเพศ
สิ่งที่ศาสนาอิสลามเน้นมาก ก็คือ การมีจริยาธรรม, คุณธรรม และที่สำคัญที่สุดคือ ความมีศรัทธาที่แน่วแน่และแท้จริง ต่อเอกพลานุภาพของพระเจ้า นั้นสำคัญ ยิ่งกว่าเครื่องแต่งกาย
يَا بَنِي آدَمَ قَدْ أَنْزَلْنَا عَلَيْكُمْ لِبَاسًا يُوَارِي سَوْآتِكُمْ وَرِيشًا ۖ وَلِبَاسُ التَّقْوَىٰ ذَٰلِكَ خَيْرٌ ۚ ذَٰلِكَ مِنْ آيَاتِ اللَّهِ لَعَلَّهُمْ يَذَّكَّرُونَ {26}
{7:26} ดูกร ลูกหลานอาดัม! แท้จริงแก่พวกเธอนั้นเราได้นำเครื่องนุ่งห่มที่ปกปิดอวัยวะน่าละอายของพวกเธอ และอาภรณ์ และเครื่องนุ่งห่มแห่งความยำเกรงนั่นคือสิ่งที่ประเสริฐยิ่ง นั่นคือส่วนหนึ่งจากนานาสัญญาณของอัลลอหฺ บางทีพวกเขาอาจจะรำลึก
การคลุมศีรษะในสังคมอรับนั้นมีมาก่อนอัลกุรอานเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแต่งกายตามประเพณีอรับ ไม่ใช่หลักศรัทธาของอิสลาม
คำว่า " خِمار คิมาร" นี้หมายถึงสิ่งปกคลุม หรือผ้าคลุม แต่ในที่นี้หมายถึง ผ้าคลุมหัว ที่ใช้กันทั่วไปโดยชาวอาหรับก่อนและหลังการถือกำเนิดของศาสนาอิสลาม ส่วนใหญ่ เท่าที่ทราบนักโบราณคดีได้ชี้ให้เห็นว่า คิมารหรือผ้าคลุมหัวนี้ สวมใส่ในยุคก่อนอิสลามเปรียบเสมือนเครื่องประดับ เป็นแฟชั่นที่แพร่หลายในสมัยนั้น เป็นผ้าคลุมตั้งแต่หัวลงมา ถึงหัวไหล่ทั้งสองข้างปล่อยชายผ้าไปคลุมแผ่นหลังและเปิดส่วนหน้าอกเปลือยเปล่า เช่นใน ภาพที่ ๑
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ภาพที่ ๑
การแต่งกายเปิดทรวงอกของผู้หญิงอรับก่อนอัลกุรอานบัญญัติ 24:31 จะถูกประทานมา
ดังนั้นคำสั่งในอัลกุรอานบัญญัติที่ 24:31 ที่ว่า และจงบอกแก่บรรดาสตรีผู้มีศรัทธา ให้พวกนางลดสายตาของพวกนางลงต่ำ และให้พวกนางรักษาอวัยวะเพศของพวกนาง และอย่าเปิดเผยเครื่องประดับของพวกนาง เว้นแต่สิ่งที่พึงเปิดเผยได้ และพวกนางจงดึงรวบผ้าคลุมศีรษะของนางมาปิดทรวงอกของนางและอย่าให้นางเปิดเผยเครื่องประดับของพวกนาง เว้นแต่แก่สามีของพวกนาง หรือบิดาของพวกนาง หรือบิดาของสามีของพวกนาง หรือบุตรชายของพวกนาง หรือบุตรชายของสามีของพวกนาง หรือพี่ชายน้องชายของพวกนาง หรือบุตรชายของพี่ชายน้องชายของพวกนาง หรือบุตรชายของพี่สาวน้องสาวของพวกนาง หรือพวกผู้หญิงของพวกนาง หรือ(ทาสและทาสี)ที่มือขวาของพวกนางครอบครอง หรือคนรับใช้ผู้ชายที่ไม่มีความรู้สึกทางเพศ หรือเด็กที่ยังไม่รู้เรื่องอวัยะพึงสงวนของผู้หญิง และนางอย่าเคาะเท้าของตน เพื่อให้เป็นที่รู้ว่าเครื่องประดับที่พวกนางปกปิดอยู่ และพวกเธอทั้งหลายจงขอลุแก่โทษต่ออัลลอหฺเถิด ดูกร บรรดาผู้มีศรัทธา! เพื่อว่าพวกเธอจะได้รับชัยชนะ ดังที่เห็นในภาพที่ ๒
ภาพที่ ๒
จะเห็นว่าในบัญญัติที่ 24:31 นี้มีคำสั่งอย่างชัดเจนให้สตรีมุสลิมปิดทรวงอกด้วยผ้าคลุมหัวของนางซึ่งมีสวมอยู่บนหัวนางแล้วตามประเพณีการแต่งกายของหญิงอรับ เพื่อชี้ให้เห็นว่าทรวงอกของหญิงเป็นอวัยวะที่ต้องปกปิด จะปกปิดด้วยอะไรก็ได้ แต่เป็นสิ่งที่จะให้สาธารณชนเห็นไม่ได้ ไม่มีข้อความใดในบัญญัตินี้ว่าให้สตรีคลุมหัว
มีอีกบัญญัติหนึ่งที่เกี่ยวกับการแต่งกาย
يَا أَيُّهَا النَّبِيُّ قُلْ لِأَزْوَاجِكَ وَبَنَاتِكَ وَنِسَاءِ الْمُؤْمِنِينَ يُدْنِينَ عَلَيْهِنَّ مِنْ جَلَابِيبِهِنَّ ۚ ذَٰلِكَ أَدْنَىٰ أَنْ يُعْرَفْنَ فَلَا يُؤْذَيْنَ ۗ وَكَانَ اللَّهُ غَفُورًا رَحِيمًا {59}
{33:59} ดูกร นบี! จงกล่าวแก่บรรดาภริยาของเธอ และบุตรสาวของเธอ และบรรดาสตรีของบรรดาผู้มีศรัทธา ให้พวกนางดึงเสื้อคลุมของตนลงมาปิดร่างของตน นั่นเป็นการเหมาะสมกว่าที่นางจะเป็นที่รู้จัก เพื่อที่พวกนางจะไม่ถูกรบกวน และอัลลอหฺทรงเป็นพระผู้ทรงอภัย พระผู้ทรงปรานีเสมอ
บัญญัตินี้แสดงให้เห็นว่าหญิงที่ดีนั้น จะต้องสวมเสื้อให้ปกปิดร่างกายส่วนที่ไม่สมควรเปิดเผย คือไม่ใส่เสื้อคอกระเช้าตัวเดียว หรือ ใส่เสื้อหรือกระโปรงที่สั้นเต่อ ออกนอกบ้าน หรือเมื่ออยู่กับคนแปลกหน้าที่ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน, จะต้องมีเสื้อคลุมอีกชั้นหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องแต่งตัวเป็นหญิงอรับ คลุมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า แต่งตัวอย่างสุภาพให้เป็นที่นับถือของผู้พบเห็น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ที่เห็นในภาพข้างบนนี้เป็นภาพที่แสดงถึงการแต่งตัวของหญิงอรับ ในสมัย ก่อนและในระยะเริ่มต้นของศาสนาอิสลาม สำหรับสตรีมุสลิมที่ไม่ใช่ชาวอรับ เช่น หญิงไทย ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องคลุมหัวเพราะ การคลุมหัวไม่มีในหลักศรัทธาของศาสนาอิสลาม และไม่มีการบังคับตามหลักการของศาสนาอิสลาม ซึ่งใช้อัลกุรอานเป็นหลักการปฏิบัติที่สูงสุดที่ ยกเลิกเอกสารต่างๆที่นำมาอ้างอิงว่าเป็นหลักการของศาสนาอิสลาม
ศาสนาอิสลามกำหนดให้หญิงและชาย แต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย ไม่ประเจิดประเจ้อ ให้ถูกกาละเทศะ ไม่รัดรูป จนเห็นทรวดทรงของร่างกาย หรือแต่งกายในเชิงยั่วยวนอารมณ์ทางเพศ
สิ่งที่ศาสนาอิสลามเน้นมาก ก็คือ การมีจริยาธรรม, คุณธรรม และที่สำคัญที่สุดคือ ความมีศรัทธาที่แน่วแน่และแท้จริง ต่อเอกพลานุภาพของพระเจ้า นั้นสำคัญ ยิ่งกว่าเครื่องแต่งกาย
يَا بَنِي آدَمَ قَدْ أَنْزَلْنَا عَلَيْكُمْ لِبَاسًا يُوَارِي سَوْآتِكُمْ وَرِيشًا ۖ وَلِبَاسُ التَّقْوَىٰ ذَٰلِكَ خَيْرٌ ۚ ذَٰلِكَ مِنْ آيَاتِ اللَّهِ لَعَلَّهُمْ يَذَّكَّرُونَ {26}
{7:26} ดูกร ลูกหลานอาดัม! แท้จริงแก่พวกเธอนั้นเราได้นำเครื่องนุ่งห่มที่ปกปิดอวัยวะน่าละอายของพวกเธอ และอาภรณ์ และเครื่องนุ่งห่มแห่งความยำเกรงนั่นคือสิ่งที่ประเสริฐยิ่ง นั่นคือส่วนหนึ่งจากนานาสัญญาณของอัลลอหฺ บางทีพวกเขาอาจจะรำลึก