สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
เขื่อน เปิดให้น้ำตกลงมา ผ่านท่อ ลง เจนเนอร์เรเตอร์ อัตราการผลิต 100% เบาเครื่องไม่ได้
ไฟที่ผลิตได้ 1000จ่ายออก 500 เหลือ 500 เอาไปจ่ายเครื่องสูบน้ำ สูบขึ้นมาใส่เขื่อนได้อีกรอบ
แต่พวกโรงไฟฟ้าพลังก๊าซ กว่าจะต้มน้ำ กว่าไอน้ำจะปั่นกังหัน มันทำๆเลิกๆไม่ได้ เปิดแล้วต้องเดินเครื่องไปยาวๆ
ไฟฟ้าส่วนเกิน คือทิ้ง
ไทยไม่มีโรงแยกก๊าซไฮโดรเจน ไม่งั้นก็ผลิตไฮโดรเจนขาย
และนั่นคือสาเหตไฟแพง เพราะต้องจ่ายค่าผลิตไฟ ให้ พวกไฟฟ้าสำรอง ด้วย
นโยบายผิดพลาด เราต้องจ่ายไฟการผลิตไฟส่วนเกินฟรีๆ มาหลายปี จนมีบริษัทนึง เจ้าของรวยเอาๆ
ไฟที่ผลิตได้ 1000จ่ายออก 500 เหลือ 500 เอาไปจ่ายเครื่องสูบน้ำ สูบขึ้นมาใส่เขื่อนได้อีกรอบ
แต่พวกโรงไฟฟ้าพลังก๊าซ กว่าจะต้มน้ำ กว่าไอน้ำจะปั่นกังหัน มันทำๆเลิกๆไม่ได้ เปิดแล้วต้องเดินเครื่องไปยาวๆ
ไฟฟ้าส่วนเกิน คือทิ้ง
ไทยไม่มีโรงแยกก๊าซไฮโดรเจน ไม่งั้นก็ผลิตไฮโดรเจนขาย
และนั่นคือสาเหตไฟแพง เพราะต้องจ่ายค่าผลิตไฟ ให้ พวกไฟฟ้าสำรอง ด้วย
นโยบายผิดพลาด เราต้องจ่ายไฟการผลิตไฟส่วนเกินฟรีๆ มาหลายปี จนมีบริษัทนึง เจ้าของรวยเอาๆ
ความคิดเห็นที่ 9
ผลิตเกินใช้งานไม่ได้ครับ
คำถามคือ "รู้ได้ไงว่าเกิน"
ในโรงไฟฟ้าจะมอนิเตอร์ "ความถี่" เป็นหลักครับอยู่ระหว่าง 49.xx-50.xx Hz
ใกล้ 49 คือ โหลดเยอะกว่าผลิต ต้องเพิ่มกำลังเครื่องในระบบ หรือ เปิดสตาร์ทโรงไฟฟ้าที่ Reserve Shutdown
ใกล้ 51 คือ ผลิตมากกว่าโหลด ต้องลดกำลังการผลิต หรือสั่ง Shutdown ในบางโรง
ดังนั้น คำว่าผลิตเกิน ต้องทิ้งไป ไม่มีครับ
ปัญหาตอนนี้คือ โครงสร้างของการผลิตไฟฟ้ามากกว่า ให้โรงไฟฟ้าสร้างเพิ่มในขณะเดียวกัน มีโซลาเซลเพิ่มเข้ามาด้วย
ตอนมีแดด โรงไฟฟ้าจะจ่ายไฟน้อยลงเพราะหลายๆที่ไปใช้ไฟจากโซลาร์ แต่ในวันที่ไม่มีแดด โซลาร์ผลิตไม่ได้ ก็ต้องเดินเครื่องโรงไฟฟ้า
ดังนั้น ถ้าบอกว่ามีโซลาร์แล้ว ควรตัดโรงไฟฟ้าออกเลย มันก็ทำไม่ได้ในบางเงื่อนไข
คำถามคือ "รู้ได้ไงว่าเกิน"
ในโรงไฟฟ้าจะมอนิเตอร์ "ความถี่" เป็นหลักครับอยู่ระหว่าง 49.xx-50.xx Hz
ใกล้ 49 คือ โหลดเยอะกว่าผลิต ต้องเพิ่มกำลังเครื่องในระบบ หรือ เปิดสตาร์ทโรงไฟฟ้าที่ Reserve Shutdown
ใกล้ 51 คือ ผลิตมากกว่าโหลด ต้องลดกำลังการผลิต หรือสั่ง Shutdown ในบางโรง
ดังนั้น คำว่าผลิตเกิน ต้องทิ้งไป ไม่มีครับ
ปัญหาตอนนี้คือ โครงสร้างของการผลิตไฟฟ้ามากกว่า ให้โรงไฟฟ้าสร้างเพิ่มในขณะเดียวกัน มีโซลาเซลเพิ่มเข้ามาด้วย
ตอนมีแดด โรงไฟฟ้าจะจ่ายไฟน้อยลงเพราะหลายๆที่ไปใช้ไฟจากโซลาร์ แต่ในวันที่ไม่มีแดด โซลาร์ผลิตไม่ได้ ก็ต้องเดินเครื่องโรงไฟฟ้า
ดังนั้น ถ้าบอกว่ามีโซลาร์แล้ว ควรตัดโรงไฟฟ้าออกเลย มันก็ทำไม่ได้ในบางเงื่อนไข
ความคิดเห็นที่ 7
คำตอบก็คือ จะไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นครับ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ระบบไฟฟ้าจะสูญเสีย Stability ไปเรียบร้อยแล้ว หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ระบบไฟฟ้าล่ม ระบบป้องกันที่โรงไฟฟ้า และสถานีไฟฟ้าแรงสูงจะทำงาน ตัดระบบออกไป เกิดไฟดับไปก่อนแล้วครับ
เมื่อไหร่ก็ตามที่กำลังผลิตไฟฟ้ามากกว่าความต้องการ เขาก็จะลดกำลังการผลิตลงมาให้มัน match กับการใช้ไฟฟ้าครับ เหมือนกับขับรถ แต่ผ่อนคันเร่งลงนั่นแหละครับ
ถ้าไม่ลดกำลังการผลิตลงมา ก็จะทำให้ ความถี่ในระบบไฟฟ้าเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ (ปกติความถี่ไฟฟ้าบ้านเราคือ 50 Hz) และแรงดันไฟฟ้าก็จะสูงขึ้นด้วย ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าหลายชนิดจะได้รับความเสียหาย
ถ้าความถี่เพิ่มขึ้นไปถึงจุดที่เกินลิมิต ในเวลาไม่กี่วินาที แล้วยังไม่สามารถควบคุมความถี่ให้ลดลงมาได้ สุดท้ายระบบป้องกัน (เบรคเกอร์) ของโรงไฟฟ้า ก็จะตัดตัวเองออกจากระบบครับ เพื่อเซฟความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งต่อระบบไฟฟ้า และตัวอุปกรณ์ของโรงไฟฟ้าเองครับ
เมื่อไหร่ก็ตามที่กำลังผลิตไฟฟ้ามากกว่าความต้องการ เขาก็จะลดกำลังการผลิตลงมาให้มัน match กับการใช้ไฟฟ้าครับ เหมือนกับขับรถ แต่ผ่อนคันเร่งลงนั่นแหละครับ
ถ้าไม่ลดกำลังการผลิตลงมา ก็จะทำให้ ความถี่ในระบบไฟฟ้าเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ (ปกติความถี่ไฟฟ้าบ้านเราคือ 50 Hz) และแรงดันไฟฟ้าก็จะสูงขึ้นด้วย ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าหลายชนิดจะได้รับความเสียหาย
ถ้าความถี่เพิ่มขึ้นไปถึงจุดที่เกินลิมิต ในเวลาไม่กี่วินาที แล้วยังไม่สามารถควบคุมความถี่ให้ลดลงมาได้ สุดท้ายระบบป้องกัน (เบรคเกอร์) ของโรงไฟฟ้า ก็จะตัดตัวเองออกจากระบบครับ เพื่อเซฟความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งต่อระบบไฟฟ้า และตัวอุปกรณ์ของโรงไฟฟ้าเองครับ
แสดงความคิดเห็น
ถ้ากำลังการผลิตไฟฟ้า มากกว่าการใช้งานมากๆ ไฟฟ้าส่วนที่เกินจะไปอยู่ที่ไหน
ส่วนเกิน500เมกกะวัตต์จะไปไหนครับ หรือเป็นพลังงานสูญเปล่าไปเลย