ทุกข์ชาวบ้าน! พิษ ‘โนรู’ ทำต้นไม้ล้ม-น้ำท่วมอพยพชาวอุบลฯอยู่ศูนย์พักพิง
https://www.dailynews.co.th/news/1523013/
 
ชาวอุบลราชธานีระทมทุกข์หนัก พิษ 'โนรู' ทำฝนถล่มข้ามวันข้ามคืน ทำต้นไม้ล้ม-น้ำท่วม เร่งอพยพผู้ป่วยติดเตียง-ชาวบ้าน อยู่ศูนย์พักพิง
  
 
เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่พายุโนรู เคลื่อนเข้าสู่ จ.อุบลราชธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา(28ก.ย.) ทำให้เกิดฝนตกหนักครอบคลุมทั่วจังหวัด บางพื้นที่มีลมพัดแรงกระแสไฟฟ้าขัดข้องหลายจุด เนื่องจากต้นไม้หักโค่นทับสายไฟฟ้า  ถนนหลายสายมีน้ำท่วมขังเนื่องจากการระบายน้ำไม่ทัน โดยเฉพาะถนนสายวาริน-กันทรลักษ – บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาอำเภอวารินชำราบ ปรากฏมีน้ำไหลท่วมถนนสูง 30-40 เซนติเมตร ทำให้ผู้ขับรถสัญจร ต้องขับรถขึ้นไปชิดเลนใกล้เกาะกลางถนนที่มีความสูงเพื่อวิ่งผ่านตรงจุดดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ไม่แนะนำให้รถเล็กวิ่งผ่าน เพราะจะทำให้รถได้รับความเสียหาย หรือเครื่องยนต์ดับได้  สถานีวัดน้ำทุกอำเภอมีปริมาณน้ำฝนสูงกว่า100 มิลลิเมตร น้ำในแม่น้ำมูลและแม่น้ำชีสูงกว่าตลิ่ง ด้านเจ้าหน้าที่ชลประทานร่วมกับทหารเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมที่สะพานแม่น้ำมูล อ.พิบูลมังสาหาร
 
ขณะเดียวกันพายุฝนพัดต้นไม้ล้มทับ อยู่หลายเส้นทาง เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบูชาธรรมช่วยชาวบ้านที่ป่วยติดเตียงบริเวณบ้านหาดสวนยา ขึ้นมาไว้ศูนย์พักพิง นอกจากนี้ชาวบ้านส่วนหนึ่งเริ่มขนย้ายสิ่งของ ที่ทางจังหวัดตั้งศูนย์พักพิงเพิ่มเติม เนื่องจากจุดพักพิงเดิมมีน้ำเอ่อท่วม
 
ส่วนระดับน้ำแม่น้ำมูลนั้น แนวโน้มสถานการณ์  ที่สถานีวัดน้ำสะพานเสรีประชิปไตย อ.เมืองอุบลราชธานี  ช่วงเช้าวันนี้( 29 ก.ย.65) ระดับน้ำอยู่ที่  114.20 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง  สูงกว่าตลิ่ง ฝั่ง อ.วารินชำราบ 2 เมตร 20 เซนติเมตร และมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง คาดการณ์ว่า วันที่ 4 ต.ค.2565  น้ำจะสูงกว่าตลิ่ง ฝั่ง อ.วารินชำราบ ประมาณ  2 เมตร 72 เซนติเมตร 
 
ล่าสุด ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง รายงานว่า พายุโซนร้อน โนรู อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น แต่ยังคงมีผลทำให้ จ.อุบลราชธานี มีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง คาดการณ์ ว่า ภายใน 4 ถึง 5 วันนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำมูล จะสูงขึ้นอีกประมาณ 1 – 2 เมตร ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนดพื้นที่ในการตั้งศูนย์พักพิงช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขอให้ประชาชนพื้นที่เสี่ยงรีบขนย้ายสิ่งของขึ้นบนที่สูง  โดยจะมีกำลังพลจากทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปช่วยขนย้ายให้ตั้งแต่วันนี้( 29ก.ย.65) เป็นต้นไป
 
สำหรับรายงานสถานการณ์อุทกภัยล่าสุด จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำเอ่อลันตลิ่งบริเวณที่ลุ่มต่ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร ส่งผลให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 15 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานีวารินชำราบ เดชอุดม นาจะหลวย น้ำยืน ทุ่งศรีอุดม น้ำขุ่น ม่วงสามสิบ ตาลสุม เขื่องใน ดอนมดแดง ตระการพืชผล   พิบูลมังสาหาร สว่างวีระวงศ์ และอำเภอเหล่าเสือโก้ก  38 เทศบาล/ตำบล 502 ชุมชน/หมู่บ้าน แยกเป็นด้านการดำรงชีพ ได้รับผลกระทบ อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบอำเภอพิบูลมังสาหาร และอำเภอสว่างวีระวงศ์ จำนวน 12 เทศบาล/ตำบล 51 ชุมชน/หมู่บ้าน 3184 ครัวเรือน 10,477 คน อพยพ จำนวน 46 ชุมชน 1,518 ครัวเรือน  คน แยกเป็น ศูนย์พักพิงชั่วคราว 43 จุดจำนวน 1,199 ครัวเรือน 4,253 คน พักบ้านญาติ จำนวน 165 ครัวเรือน 470 คน และอพยพขึ้นที่สูง 154ครัวเรือน 420 คน (อพยพเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 332 ครัวเรือน 1,082 คน ศูนย์พักพิงชั่วคราวเพิ่ม 3 จุด)ด้านการเกษตร ได้รับผลกระทบ 15 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี วารินชำราบ เดชอุดมนาจะหลวย น้ำยืน ทุ่งศรีอุดม น้ำขุ่น ม่วงสามสิบ ตาลสุม เขื่องใน ดอนมดแดง ตระการพืชผล พิบูลมังสาหารสว่างวีระวงศ์ และอำเภอเหล่าเสือโก้ก จำนวน 69 ตำบล 458ชุมชน/หมู่บ้าน 18,005 ครัวเรือนพื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหาย 109,899 ไร่ พื้นที่ประมง ได้รับผลกระทบ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอน้ำยืน น้ำขุ่น และอำเภอม่วงสามสิบ จำนวน 698 ครัวเรือน คาดว่าจะได้รับความเสียหาย จำนวน 52,125ไร่
 

---

นักเศรษฐศาสตร์คาดวิกฤติเศรษฐกิจโลก 'ลากยาว' 3 ปี
https://www.nationtv.tv/news/economy-business/378887924

นักเศรษฐศาสตร์ ชี้วิกฤตเศรษฐกิจโลกเริ่มแล้ว ตั้งแต่ต้นปีที่ คาดรอบนี้กินเวลา 3 ปี จากสารพัดปัญหา ทั้งเงินเฟ้อ ดอกเบี้ย ค่าเงิน ย้ำชัดการแทรกแซงค่าเงินไม่ใช่คำตอบ ห่วงขึ้นดอกเบี้ยช้าส่งผลกระทบรุนแรงขึ้น”
 
กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กล่าวภายในการเสวนาหัวข้อ "อนาคตเศรษฐกิจไทย…เราจะไปทางไหน?” ระบุว่า จากกรณีเงินบาทอ่อนค่า ตอนนี้ปัญหาอยู่ที่ดอลลาร์ ด้วยความแตกต่างของนโยบายเศรษฐกิจระดับมหภาค ของ 4 ประเทศยักษ์ใหญ่ อย่างสหรัฐฯ ยุโรป จีน และญี่ปุ่น แล้วทำนโยบายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ยิ่งนานวันยิ่งกว้างขึ้น ทุกสกุลเงินทั่วโลกจึงต้องทำใจ การที่เข้าไปแทรกแซงจึงไม่ใช่คำตอบ ซึ่งทิศทางต่อจากนี้ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งต่อไปอีกระยะหนึ่ง
 
ทั้งนี้ วิกฤตการเงินที่ประเทศไทยกำลังเผชิญขณะนี้ถือว่ายาก เนื่องจากเพิ่งคลี่คลายจากวิกฤตโควิด-19 ทุกคนย่อมคาดหวังว่าเมื่อโควิดจากไปทุกอย่างจะดีขึ้นตามวัฎจักรของเศรษฐกิจ แต่กลับมาเจอวิกฤตซ้อนเข้ามา ทำให้เงินเก็บของประชาชน และเงินทุนของธุรกิจหายไป
   
นับตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่เป็นช่วงวิกฤตทั้งค่าเงิน ราคาสินค้า ซึ่งประเมินได้ว่าวิกฤตครั้งนี้จะลากยาวเป็นเวลา 3 ปี จากการที่เฟดขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อ ด้านส่งออกของไทยก็เริ่มแผ่วลง ดังนั้นวิกฤติรอบนี้ไม่ใช่จำกัดแค่วิกฤตการเงิน ที่สำคัญคือ เศรษฐกิจถกถอยทั่วโลก Global Resession กำลังเกิดขึ้น พร้อมกับอีกหนึ่งปรากฎการณ์ คือ Strong Dollar ที่มีนัยสำคัญต่อทั่วโลก เนื่องจากทุกคนกู้เป็นดอลลาร์ ต้องจ่ายคืนเป็นดอลลาร์ ทำให้ผลกระทบยิ่งหนัก ซึ่งหากดำเนินนโยบายทางการเงินผิด จะเกิดเป็นวิกฤตที่รุนแรง
 
ด้านนักเศรษฐศาสตร์และที่ปรึกษาสถาบันวิจัยภัทร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ระบุ ไทยประเมินทิศทางของค่าเงินได้ไม่แม่นยำทำให้เงินบาทอ่อนค่าเร็วกว่าที่คิด เกิดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมาตลอด ซึ่งหลังจากนี้ต้องดูที่ภาคการท่องเที่ยวที่ต้องมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 ล้านคนต่อเดือน หากไม่ได้ตามเป้าจะต้องกลับไปดูที่ส่วนต่างของดอกเบี้ยซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยไม่อยากขึ้นดอกเบี้ยเพราะห่วงว่าจะส่งผลกระทบที่รุนแรง แต่หากขึ้นดอกเบี้ยช้าเกินไป ก็จะเกิดวิกฤติแบบกรณีของเงินปอนด์ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ยากเพราะขึ้นอยู่กับผู้กำหนดนโยบายว่าจะมองภาพอย่างไร

---

สมชัย ยื่น ‘เสรีพิศุทธ์’ สอบป้ายต้อนรับ ‘ป้อม’ ส่อเจตนาหาเสียง ร้องกกต.ต่อ 4 ต.ค.นี้
https://www.matichon.co.th/politics/news_3588871

‘สมชัย’ ยื่น ‘เสรีพิศุทธ์’ สอบ ป้ายต้อนรับ ‘บิ๊กป้อม’ อุ้มพระดำน้ำ ส่อเจตนาหาเสียงชัดเจน พร้อมเตรียมยื่นกกต. 4 ต.ค.นี้ ขู่หาก1 เดือนไม่คืบหน้า แจ้งความเอาผิดแน่
 
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 กันยายน ที่รัฐสภา นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย (สร.) และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง ยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคสร. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง การกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งของผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
 
จากกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ไปร่วมงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำที่จ.เพชรบูรณ์ และมีการขึ้นป้ายต้อนรับ โดยมีรูปของนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร.รวมถึงส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เพชรบูรณ์ ซึ่งอยู่ในช่วง 180 วันก่อนสภาฯ ครบวาระ
 
โดยนายสมชัย กล่าวว่า ป้ายต้อนรับดังกล่าว มีรูปของส.ส.พปชร.ทั้ง 5 คนได้เขียนเขตเลือกตั้งที่ตรงกับเขตเลือกตั้งใหม่ และยังมีรูปว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ด้วย ซึ่งเจตนาชัดเจนว่า สิ่งนี้เป็นไปเพื่อที่จะใช้ในการหาเสียง และป้ายดังกล่าวมีการกล่าวอ้างว่า ติดไว้แต่ถึงเวลาจริงนำออก ซึ่งตนมีหลักฐานทั้งคลิปวิดีโอและภาพนิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า วันที่พล.อ.ประวิตร ได้ลงไปในพื้นที่ดังกล่าวยังปรากฎภาพอยู่ต่อหน้า
 
ตนจึงได้นำมาเสนอต่อกมธ.ฯ อยากให้มีการตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐคือคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ใส่ใจในการดูแลเรื่องนี้และจะดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ เพราะหลังจากที่มีข่าวออกมาไม่นานก็มีข่าวปรากฎในสื่อว่า แหล่งข่าวในกกต.ระบุว่าเรื่องดังกล่าวไม่ผิด แต่ไม่มีการมาชี้แจงจากเจ้าหน้าที่หรือผู้รับผิดชอบโดยตรง เป็นการพูดลอยๆ เพื่อกลบข่าวเท่านั้น
 
นายสมชัย กล่าวต่อว่า การมายื่นเรื่องก็เพื่อให้ กมธ.ฯได้มีโอกาสเชิญตัวแทนของ กกต.และเลขาธิการกกต. มาชี้แจงว่าป้ายต้อนรับดังกล่าวถือว่าผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ ถ้าผิดจะดำเนินการอย่างไร ถ้าไม่ผิดเป็นเหตุผลประการใดเพื่อที่จะถือเป็นบรรทัดฐานในการดำเนินการหาเสียงต่อไป
ส่วนที่ตนจะไปยื่นต่อกกต.นั้น ทราบว่า เลขาธิการกกต.รับทราบเรื่องแล้ว และระบุว่าตนจะมายื่นหรือไม่ยื่นก็ได้ ซึ่งตนตั้งใจจะไปยื่นในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ เพื่อให้โอกาสกกต.ในการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงและ ถ้าครบ 1 เดือนไม่มีความคืบหน้า ตนจะไปแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อ กกต.ที่สน.ทุ่งสองห้อง
 
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า จากข้อร้องเรียน พบว่าในแผ่นป้ายต้อนรับดังกล่าวนอกจากจะใหญ่เกิน ยังมีรายชื่อส.ส.และผู้สมัครส.ส.โดยเฉพาะเขต 3 เป็นเขตผู้สมัครใหม่ ตรงนี้ถือว่ามีเจตนาจงใจกระทำการหาเสียง เพื่อจูงใจให้ประชาชนเลือกตั้งบุคคลของ พปชร.โดยความรู้เห็นของหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคฯ
 
ส่วนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่กกต.ออกมาระบุว่าเรื่องดังกล่าวไม่ผิดนั้นเป็นการปกป้องกัน ซึ่งตนจะต้องตรวจสอบให้ได้ว่าเจ้าหน้าที่กกต.ที่เป็นแหล่งข่าวนี้คือใคร เพราะแทนที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบการกระทำความผิดที่เอารัดเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นๆ แต่กลับมาปกป้องพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล
 
“ดีนะที่ ผมมีนายสมชัย มาเป็นประธานนโยบายของพรรคสร. แต่วันนี้ท่านมายื่นเรื่องในฐานะบุคคลธรรมดา ไม่ได้เกี่ยวกับพรรค ซึ่งผมก็เพิ่งทราบเรื่อง ถือว่า โชคดีที่พี่น้องประชาชนมี กกต. 7 คน และนายสมชัย เป็นกกต.คนที่ 8 มาช่วยตรวจสอบความไม่ถูกต้องทั้งหลายทั้งปวง โดยรัฐไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งตรงนี้กมธ.ฯ จะได้ตรวจสอบความไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสต่างๆต่อไป และถือเป็นเรื่องเร่งด่วนก็จะรีบดำเนินการ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ​กล่าว